2 3 4 6 7 9 10 12 13 14 16 18 19 20 21 22 24 26 27 28 29 30
|
49>>>พุดสามสี...นายา
พุดสามสี...นายา...ย้ายมาแนวสืบสวนสลับๆแนวกุ๊กกิ๊กดูบ้าง
"ลูกสังเกตมั้ยล่ะจ๊ะ ว่าเวลาแรกบานมันจะเป็นสีม่วงแก่ แล้วพอรุ่งขึ้นก็จะกลายเป็นม่วงอ่อน พอวันที่สามก็จะเปลี่ยนเป็นสีขาวไปเลย แล้วอยู่ได้อีกวันถึงจะโรย ความที่ดอกของมันดกมาก มันก็เลยสะพรั่งเป็นสามสีไปทั้งต้น"..."และคงเพราะมันเปลี่ยนสีเป็นวันละสี ชื่ออังกฤษของดอกไม้นี้เลยแสนจะโรแมนติก ผรั่งเค้าเรียกดอกนี่ว่าดอกอะไรรู้มั้ยลูก...เค้าเรียกว่า yesterday, today, and tomorrow จ๊ะ" "yesterday, today, and tomorrow เมื่อวานนี้ วันนี้ วันพรุ่งนี้"...."อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ต๊าย ตาย ชื่อดี๊ดีค่ะแม่ น่าสนใจเท่ากับชื่อไทย" "คนเราบางคนก็เหมือนพุดสามสี"..."คืออดีต ปัจจุบัน และอนาคตแตกต่างกันร้อยโยชน์พันโยชน์ เหมือนมีสามสีอยู่ในตัวคนเีีดียวกัน..."
สวรรยา นักศึกษาปริญญาโทเคยคิดว่าชีวิตเธอในอนาคตก็คงจะไม่แตกต่างจากสวรรยาในอดีตสักเท่าไหร่ แต่ใครจะไปคาิดคิด เมื่ออดีตกับปัจจุบันของเธอช่างแตกต่างกันเหมือนพุดสามสี หลังจากแม่ที่เลี้ยงดูเธอมาเสียชีวิตลง สวรรยาก็ได้ค้นพบว่าแท้จริงแล้วเธอเป็นลูกของนางจิรดาภรรยาคนที่สามของเศรษฐีอเมริกัน ซึ่งมีลูกชายอยู่แล้วสองคน ลูกชายบุญธรรมกับภรรยาคนที่สองหนึ่งคน และรับสวรรยาหรือเจสสิกาเป็นลูกบุญธรรมอีกคนหลังจากแต่งงานกับแม่ของเธอ แต่ไม่นานพ่อเลี้ยงของเธอก็ตายลงโดยที่สุดท้ายแล้วแม่ของเธอถูกจับเข้าคุกและเสียชีวิตต่อมาในเวลาไม่นาน ทิ้งให้สวรรยาอยู่กับแม่อีกคนที่เลี้ยงดูเธอมาด้วยเงินของพี่ชายบุญธรรม---เอ่อ ค่อนข้างซับซ้อนนิดนึงนะคะ
ภูษิต เจ้าของรีสอร์ทหรู พ่อม่ายลูกติดวัยแปดขวบที่กำลังป่วยเป็นโรคทางประสาท หลังจากที่ภรรยาของเขาเสียชีวิตได้ไม่นานด้วยอุบัติเหตุเครื่องบินส่วนตัวระเบิด เขากำลังต้องการพี่เลี้ยงมาดูแลลูกสาวอย่างเร่ิงด่วน และก็ประจวบเหมาะกับที่สวรรยาได้รับการติดต่อกับพิพัฒน์นายตำรวจหนุ่มที่สงสัยพฤติกรรมของภูษิตพี่ชายคนละแม่กับเพื่อนสนิทของเขาที่เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายเมื่อสี่ปีที่แล้ว จึงส่งสวรรยาเข้าไปเป็นพี่เลี้ยงของหนูแนท พอดีกับที่สวรรยาต้องการไปสืบเรื่องคดีของแม่แท้ๆ เพราะทั้งสองอยู่ในเมืองเดียวกัน---นี่ก็ซับซ้อนพอกัน
สวรรยาต้องสืบทั้งสองคดีไปพร้อมๆกัน ในขณะเดียวกันก็ไม่เชื่อว่าภูษิตชายผู้เปี่ยมไปด้วยคุณงามความดีจะทำร้ายใครได้ลงคอ และหนูแนทก็มีอาการดีขึ้นมาก ในขณะที่ทางบริษัทประกันรื้อคดีมรณกรรมของภรรยาภูษิตขึ้นมาใหม่ เพราะตรวจพบหลักฐานบางอย่างที่อาจจะเป็นการฆาตกรรม และใครบางคนก็เริ่มจะรู้ตัวแล้วว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งเข้ามาสืบคดีของนางจิรดาเมื่อสิบเจ็ดปีก่อน อันตรายเข้าคุกคามสวรรยา พร้อมๆกับที่ผู้เกี่ยวข้องกับการตายของภรรยาภูษิตค่อยๆตายไปทีละคน
อ่านจบ...ไม่ผิดหวังกับงานของนายาเลยค่ะ แนวสืบสวนที่มีฉากหลังเป็นอเมริกา แถมยังสืบสองคดีพร้อมกัน ใครจะไปคิดว่าคดีที่เคยเกิดขึ้นเมื่อสิบเจ็ดปีก่อนจะเชื่อมโยงมาถึงปัจจุบันได้ ทำได้ดีเลยค่ะ ชอบตั้งแต่การเปิดเรื่องมาด้วยการเปรียบดอกพุดสามสี คืออดีต ปัจจุบัน และอนาคต ซึ่งก็ทำให้เห็นภาพได้ชัดเจนผ่านตัวละครอย่างสวรรยา ที่ชีวิตพลิกผัน ต่างจากอดีตไปอย่างลิบลับ---
ขัดใจนิดนึงตอนท้ายๆของเรื่องค่ะ พระนางเค้ารักกัน ไม่มีฉากหวานๆให้เห็นเล้ยยยยยย ส่วนตอนที่พูดถึงบทสรุปของตัวร้ายก็ห้วนสั้น อยากให้ยาวกว่านี้ไปอีกสักสองสามหน้าก็ยังดี ฮาาาาาาา
ส่วนที่ทำให้เงิบมากที่สุดของเรื่อง ไม่ใช่การเฉลยว่าใครคือคนร้ายตัวจริง (ซึ่งก็พอจะเดาได้) แต่ที่เงิบคือพ่อตัวจริงของสวรรยาต่างหาก เค้าคิดว่าคนเขียนจะปล่อยประเด็นนี้ทิ้งไปแล้วซะอีก ไม่คิดว่าจะตามเก็บจนครบ---
ตัวอย่างประโยคเด็ดๆในเรื่อง ประทับใจค่ะ ...เวลาที่เรามีทุกข์ จงนึกถึงเวลาแห่งความสุข ความสุขที่เหมือนสายลมเย็นชื่นฉ่ำพลิ้วมาและผ่านไป...
...ความสวย...ความดี...เป็นสมบัติ...
...ความจริงอาจทำให้เราเจ็บปวด อาจจะสาหัสสากรรจ์ แต่ก็เป็นเพียงชั่วคราว เพราะในท้ายที่สุดผลที่เราได้รับจะมีค่าคุ้มแสนคุ้มกับความเจ็บปวดที่เราต้องเผชิญ คืออิสรภาพที่ท่านว่า อิสรภาพที่จะไม่หลงมัวเมากับความไม่สัตย์จริงของผู้อื่น...
|
Aneem
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [ ?]
ปีนี้+++ตั้งเป้าไว้ว่าจะพยายามซื้อหนังสือให้น้อยลง...แต่จะอ่านของเก่าที่ดองอยู่ให้มากขึ้น...จำทำได้มั้ยนะ!!!
|