Group Blog All Blog
|
อร่อยโดยความบังเอิญ หลายวันก่อนนี้นายกระจอกซื้อกระดูกหมูอ่อนมานับสิบกิโล เล่นเอามึนตื้บเลยว่าจะทำอะไรกินบ้างละเนี่ย? มันถึงจะหมด ของเก่ายังนอนแช่อยู่ในตู้แช่อยู่ ของใหม่มาทับถมไปอีก ทำให้ช่วงนี้เมนูกระดูกหมูนี่ออกจะทำบ่อยมากๆเลย ไม่ว่าจะแกงจืด อบ ย่าง หรือแม้กระทั่งเมนูกระดูกหมูอบน้ำผึ้ง ที่แสนอร่อยของแม่บ้านในต่างแดน ..... จนกระทั่งล่าสุดนี้นายกระจอกบ่นว่าฉันอยากกินกระดูกหมูอบ อยากได้แบบชนิดที่อบออกมาแล้วเนิ้้อมันนิ่มเลยไปถึงส่วนกระดูกอ่อนด้วย เอาละสิค่ะ นึกอยู่นานจะทำไงดี นึกขึ้นมาได้ว่า.....เคยทำกระดูกหมูอบน้ำฝึงของ Food Travel สูตรการทำเค้าก็อร่อยดี แต่เค้าไม่ได้อบเราก็เลยคิดว่า อาวฟระ ลองนำไปอบดูมันคงจะได้รสชาติอร่อยเหมือนกันแหละนะ ......ว่าแล้วก็จัดการทำตามใจเราเอง ผลออกมาอร่อยเกินคาด นายกระจอกนี่กินแบบแทบจะไม่เหลือกระดูกอ่อนให้แมวเอาเสียเลยแหละ เค้าบอกว่าที่อยากได้กระดูกอ่อนนุ่นๆ นี่คือเผื่อให้เจ้าบุญรอดมันแทะกระดูกอ่อนกิน อ้าว.....เมียอุตส่าห์คิดวิธีทำอยู่นาน แหม...สุดท้ายแอบเผื่อเก็บไว้ให้แมวกินด้วยนี่เอง ประมาณว่ากลัวกระดูกติดคอแมวน้อย เลยให้ทำเผื่อแมวด้วย
เราอาจจะถือว่าเป็นคนโชคดีอย่างหนึ่งที่มีพรแสวง มากกว่าพรสวรรค์ ฮ่า ๆ ๆ พรแสวงที่ว่านี้ก็คือ แสวงหาร้านอร่อยๆๆ กินกันอยู่เนืองๆ พอไปกินอาหารร้านไหน ก็จะพยายามจำรสชาติที่อร่อยถูกปาก ส่วนมากจะไปกินร้านอาหารเอเซียกัน กลับมาบ้านนี่ก็จะพยายามจดลงสมุดว่า อาหารที่เค้าทำนั้นมีรสชาติไหนนำ แต่ส่วนมากก็จะหนีไม่พ้น เต็มนิด หวานหน่อย ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่ว่าอาหารที่เราสั่งมาเป็นประเภทไหน ยำ หรือ นึ่ง หรือผัด ย่าง ปิ้ง อะไรก็ว่ากันไป กระดูกหมูที่เราทำในครั้งนี้ บังเอิญทำออกมาแล้วรสชาติอร่อยมาก อบออกมานุ่มทั้งเนื้อและกระดูกอ่อน ใครไม่ชอบกระดูกหมูอ่อนอาจจะเลือกเป็นซี่โครงหมู ที่เป็นซี่ยาวๆมาใช้แทนก็ได้นะถ้าชอบแทะกระดูก ส่วนตัวเราว่าซี่โครงหมู....สู้กระดูกหมูอ่อนไม่ได้เนื้อเยอะดี ขั้นตอนการทำ เสียดายว่าไม่มีภาพการต้มกระดูกเพราะไม่คิดว่ามันจะอร่อย ขั้นแรกนี่เราเอากระดูกหมูอ่อนทั้งเส้น 3 เส้น นำไปต้มกับ 3 เกลอที่ตำไว้อันได้แก่ กระเทียม พริกไทย รากผักชี แล้วปรุงรสชาติด้วย เกลือ น้ำตาลกรวด ต้มไปประมาณ 1-1/12 ชม. พอต้มเสร็จก็พักกระดูกไว้ให้เย็น ส่วนผสมซอส หอยซินซอส 2 ชต น้ำผึ้ง 2 ชต น้ำมันงา 1 ชช ซีอิ๊วขาว 1 ชต คนให้เข้ากัน แล้วก็เอาไปทาบนกระดูกหมูให้ทั่วอีก
ตักเอาแต่กระดูกหมูออกมาใส่ชามเพื่อทำการอบต่อ ก่อนอบโรยด้วยพริกไทย และเกลือ ลงบนกระดูกหมูไม่ต้องเยอะ อบไปเรื่อยๆด้วยไฟ 170 องศา จนกระดูกหมูเริ่มหอมเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาล ลดไฟลงเป็น 120 องศาแล้วก็เอาซอสที่เราผสมกันรอไว้ มาทาไปบนกระดูกหมู....แล้วอบต่อไปอีกสักพัก เราก็กลับด้าน กลับด้านเสร็จก็เอาซอสที่ผสมไว้ทาลงไปให้ทั่ว อบต่อไปอีกด้วยไฟ 100 องศา อบไปเรื่อยๆ ระหว่างนี้หมั่นทาซอสที่เหลือลงไปเพื่อให้ซอสซึมทั่วๆกัน อบเรื่อยๆจนกระทั่งกลิ่นหอมและสีของกระดูกหมูเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ในรูปนี้มีระดูกส่วนซี่โครงติดมาด้วย 1 ชิ้นโตเราไม่ได้สับออกจากกันมันเลยดูชิ้นใหญ่ ใช้เวลาอบประมาณ 45นาที ถึง 1 ชม.
|
ประนม
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() เริ่มต้นชีวิตคู่ครั้งนี้ ด้วยวัย40กะรัต ไม่รู้เหมือนกันว่าสงสาร...หรือว่ากามเทพตั้งใจ .....ที่ท่าน....ทำให้เราได้พบรักครั้งใหม่กับฝรั่งตาน้ำข้าว (แม่ชอบเรียก) ถามว่าแม่ปลื้มมั้ย? ไม่ปลื้มค่ะ....แม่ไม่ชอบลูกเขยฝรั่ง เพราะว่าลูกสาวแม่ต้องย้ายไปอยู่กับลูกเขย ไปเป็นแม่บ้านต่างแดน ชื่อเหมือนบล๊อคยังไงยังงั้นเลยเนอะ ... แม่เหงา... แม่มีลูกสาวเพียงคนเดียว แทนที่จะได้อยู่ด้วยกันจนตายจากกัน ก็...ต้องอยู่ห่างไกลกันเสียเหลือเกิน แต่...แม่ก็ไม่ขวางความรักครั้งใหม่ของเรา 2 คน อยากจะบันทึกเรื่องราวชีวิตในต่างแดน เพื่อเก็บเอาไว้อ่านย้อนหลัง เมื่อเราแก่ตัวไป จะได้รู้ว่า ช่วงชีวิตหนึ่งที่ห่างหายจากครอบครัวอันเป็นที่รัก มีเรื่องราวอะไรน่าจดจำบ้าง แม่เป็นยังไง ลูกๆเป็นยังไง ใครเศร้า สุข ทุกข์ใจ เรื่องราวที่เข้ามาดี ร้าย อย่างไร? บันทึกไว้เพื่อจดจำกับเรื่องราว พื้นที่ห้องน้อยๆแห่งนี้... เป็นเสมือนสมุดบันทึก เพื่อเก็บบันทึกถึงอาหารของแม่ที่พร่ำ(บ่น)สอนให้เราทำซึ่งพอจะทำเป็นอยู่บ้าง อาหารไทยได้จากแม่ อาหารจีนได้มาจากแม่สามีเก่า แต่ด้วยความที่เราไม่ค่อยเอาใจใส่รักการทำอาหารเหมือนแม่ ทำให้ต้องมาหัดเรียนรู้เอาใหม่จากเพื่อนบ้านชาวบล๊อคแก๊งค์ด้วยกันก็หลายท่าน ขอบคุณทุกท่านที่พากันทำฮาวทู ทีละขั้นตอน สอนอย่างจริงใจ และให้อย่างจริงใจ ขอบคุณชาวบล๊อคแก๊งค์ ที่แบ่งปันสูตรอาหารต่างๆ ไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ และสุดท้ายขอบคุณสำหรับทุกๆท่านที่คอมเม้นท์ไว้ให้ค่ะ และขออภัยด้วยหากไม่ได้ไปเม้นกลับ เนื่องด้วยไม่ค่อยได้เข้ามาบ่อยๆเหมือนเก่า ![]() Friends Blog
Link |