ตุลาคม 2555

 
1
2
3
5
6
7
8
9
11
12
13
14
15
16
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
เรื่องเล่าในต่างแดน ตอนฝึกงาน

จากบล๊อกที่แล้วเราได้กล่าวถึงการเตรียมความพร้อม เรื่องไปฝึกงานโรงเรียนอนุบาล ซึ่งต้องปั่นจักรยานไปทำงานเนื่องจากว่ามันอยู่ไม่ไกลจากบ้านมากประมาณ 5-6 กิโลเมตรเอง จะปลอบใจตัวเองทุกวัน...ว่า...มันไม่ไกลนักหรอกค่อยๆปั่นไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พักกลางทางบ้าง แก่แล้วจะปั่นไปทีเดียวรวดอย่วงสมัยสาวๆได้อย่างไรกัน??? ฮ่า ๆ เข้าใจปลอบใจตัวเองนะเนี่ย

หน้าที่ของเรา

เรามีหน้าที่หลักคือคอยช่วยเทคแคร์เด็ก ซึ่งวันไปสัมภาษณ์งานเค้าให้เลือกว่าอยากดูแลเด็กระดับไหน เราเลือก(อายุ 3-5ขวบ)  เมื่อรับเด็กมาจากผู้ปกครอง เราจะต้องเล่นเป็นเพื่อนเเค้ายากเหมือนกันนะที่จะต้องหัดให้เข้ากับเด็กให้ได้โดยเร็วเนี่ย เด็กบางคนเค้าไม่คุ้นกะเราเค้าก็จะไม่เข้าหาเรา เราจะต้องเรียนรู้นิสัยใจคอเด็กแต่ละคนโดยการงัดเกมส์ต่อสารพัด  นำออกมาหลอกล่อจูงใจเด็กSmiley เกมส์นี่แหละจะเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ได้เร็วมาก...ถ้ายากเกินความสามารถเค้า เค้าก็จะไปเลือกหาเอาอันที่เค้าคิดว่าต่อได้มาเล่น  ที่นี่เค้าจะหัดให้เด็กช่วยตัวเองเสียก่อนทำไม่ได้จริงๆเด็กจะเรียกบอกให้เราช่วยเอง เราก็ต้องแนะนำว่าเอาชิ้นนี้ลงไป เด็กบางคนก็ไม่ฟังหรอกเถียงอีกตะหากว่าใช่ ๆ ๆ พอเค้าหยิบมาต่อกันมันก็ไม่ลงล๊อคเป๊ะๆสิคะ มันไม่ใช่ชิ้นที่ถูกต้องเด็กถึงเชื่อว่าเค้าหยิบผิด ฮ่า ๆ เห็นแล้วก็เพลินดี ยอมรับอย่างหนึ่งว่าการปล่อยให้เด็กมีความคิดเป็นอิสระมันก็ดีอย่างนึง เพราะนี่คือพิ้นฐานของการหัดให้เค้ารู้จักช่วยเหลือตัวเองเสียก่อน

มีอีกหน้าที่คือจะต้องคอยเตรียม...จัดอาหารให้เด็กกิน 3 มื้อ เก็บกวาดเอาจานชามเข้าเครื่องล้างจาน ดูแลความสะอาดในครัวเพราะเชื้อโรคจะทำอันตรายกับเด็กได้ถ้าครัวสกปรก เลอะเทอะ ฉะนั้นแล้วครัวต้องสะอาดตลอดเวลา ที่นี่เน้นเรื่องสุขภาพอนามัยเป้นหลักมากเลย

ถ้าวันไหนอากาศดีๆก็จะปล่อยเด็กออกไปเล่นที่สนามหญ้า ซึ่งกว้างมากกกกกกก  ให้เด็กใส่ชุดลุยภาคสนามมันจะเป็นชุดเหมือนชุดกันฝนอะนะแต่จะปกปิดอย่างมิดชิดกันได้ทั้งลม ฝน และหิมะ แล้วก็มีรองเท้าบูทใส่ลุย คราวนี้แหละเด็กๆก็จะลุยกันแหลกลาญ เล่นโคลนดิน ป้ายไปทั่วอย่างอิสระเสรี มีวันนึงเด็กน้อย2คน เอาดินโคลนไปป้ายหน้าประตูเข้าออกโรงเรียน เห็นแล้วแทบกรี๊ดเลอะเทอะไปหมด เราก็ไม่ได้มาสอดสอ่งเพราะไม่คิดว่าเค้าจะพากันเอาดินมาละเลงเล่นที่ประตู เรากะครูต้องเอาน้ำมาล้าง เช็ดประตูกันยกใหญ่  เด็กน้อย2คนที่ทำผิดก็เข้ามาช่วยเราโกยเอาดินโคลนออกจากประตูทางเข้า ปากก็บ่นไปว่าชั้นไม่ได้ตั้งใจ ๆ ๆ ฮ่า ๆ ซนดีไม่น้อยเลยนะเด็กๆ 

เพิมเติมเรื่องเกมส์ต่อกันอีกสักหน่อย

....เด็กที่นี่อายุแค่2ขวบเค้าก็ปล่อยให้เล่นเกมส์ต่อภาพกันแล้ว มิน่าแหละเดนมาร์กถึงมีชื่อเสียงเรื่องของเล่นชื่อเลโก Lego เพราะเค้าสอนเด็กๆให้หัดเล่นตัวต่อกันตั้งแต่ตั้งไข่กันเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นสื่อการพัดทะนาสมองได้ดีที่สุดอย่างหนึ่งทีเดียว...เรามาฝึกงานวันแรกก็ยังมีอาการมึนบ้างเล็กน้อย...ถึงปานกลาง...เนื่องจากยังมือใหม่กะเกมส์ที่มีถึง40ชิ้นหง่ะ เกมส์ตัวต่อเค้าจะมีตั้งแต่ระดับง่าย ปานกลาง   4 ชิ้น 6 8 20ชิ้น และยาก 30-40ชิ้นก็มี เด็กอายุแค่ 5 ขวบก็ต่อกันได้อ่า อย่างว่าแหละนะเค้าเล่นทุกวัน วันนึงไม่ต่ำกว่า10 รอบ อยู่มาเป็นปีเด็กๆก็พากันต่อได้สิ เราอะมือใหม่พอมาเจอเกมส์จำนวน30-40ชิ้นเข้าแอบ(โง่)เลยเรา อิอิ เห็นปุ๊บจับส่งให้เด็กปั๋บย่อมเป็นไปไม่ได้ เราไม่ได้แม่นเป๊ะๆเหมือนครูประจำ

 เน้นเล่นเป็นหลัก

โรงเรียนอนุบาลในเดนมาร์กนี่เค้าจะเน้นเรื่องFreedomมาก  จะปล่อยให้เล่นมากกว่าเรียน พวกอุปกรณ์พัฒนาความคิดหรือพวกของเล่นเด็กนี้ถ้าได้เห็นแล้วจะอึ้งค่ะ มันช่างแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับเมืองไทยเลยทีเดียว 

หรือใครอยากเล่นเกมในคอมพิวเตอร์เค้าก็มีให้ประจำห้อง 1 เครื่อง ของเล่นทุกชนิดที่เกี่ยวกับการพัดทะนาสมองมีครบ  เครื่องครัวสำหรับเด็ก...ของเล่นสุดหรู มีเพียบ เห็นแล้วอยากให้เมืองไทยเรามีงบประมาณทุ่มเท สื่อพัดทะนาสมองแบบนี้บ้าง

เที่ยวนอกสถานที่ หัดให้เด็กเรียนรู้เรื่องธรรมชาติ

บางวันก็จะมีกิจกรรมพาเด็กน้อยไปเดินเที่ยวป่ากัน จูงกันไปเหอะครู1/นักเรียน4คน  เดินตามกันเป็นขบวนรถไฟน้อยๆเลย เค้าก็จะสอนเด็กว่าก่อนข้ามถนนทุกครั้งเธอต้องมอง ซ้าย ขวา ให้ดีว่ามีรถมามั้ย เดินเข้าป่าไปก็จะสอนเด็กๆไปให้เห็นถึงธรรมชาติ เช่นตอนนี้เข้าฤดูใบไม้ร่วง เค้าก็จะสอนว่า ใบไม้จะเปลี่ยนสีเป็นสีเหลือง แล้วก็ร่วงลงสู่พื้นดิน ต่อไปก็จะเป็นหน้าหนาว  หรือไม่ก็พาเข้าป่าไปเก็บลูกไม้ชนิดหนึ่งหน้าตาเหมือนลูกเกาลัคเมืองไทยเราเลย แต่กินไม่ได้จ้า เค้าจะพาเด็กๆไปเดินเก็บเอามาเจาะรูแล้วก็ให้เด็กๆเอาลวดมาร้อยใส่กันแล้วก็มัดลวดเข้าหากันเพื่อตกแต่งแล้วก็เอาไปแขวนหน้าประตูบ้านในช่วงฮาโลวีน อือดีแฮะเข้าท่าดี 

กิจกรรมให้เด็กๆหัดเรียนรู้ถึงการทำอะไรได้ด้วยตัวเอง

หรือบางวันก็จะมีกิจกรรมหัดให้เด็กทำอาหารง่ายๆ เช่นต้มชุปมันฝรั่ง เด็กๆจะช่วยกันปลอกมันฝรั่ง บางคนยังไม่ปลอกเปลือกเสร็จเลยกัดกินสดๆซะงั้น  หั่นผักเอง โดยจะมีครูดูแลอย่างใกล้ชิด สอนถึงการใช้มีดอย่างไร หั่นผักยังไงครูจะคอยดูแลใครหั่นผักไม่ได้ครูก็จะเข้าไปช่วย  เด็กๆก็จะภูมิใจกันวาพวกเค้ามีส่วนร่วมทำอาหารกินกัน นี่ขนาดอายุแค่3-5 ขวบเองนะ ซึ่งบ้านเราโรงเรียนอนุบาลจะเน้นเรื่องเรียนมากกว่าเรื่องเล่น เรื่องการหัดให้เด็กมีส่่วนร่วมในด้านการครัวนี่จะไม่มีสอนในระบบการศึกษาในระดับอนุบาลกันเลย 

เสียดายที่เราไม่ได้เอากล้องติดตัวไปทำงาน ไม่ง้้นจะถ่ายรูปกิจกรรมเด็กๆมาแปะไว้ให้ดู 

1 อาทิตย์ผานไปอย่างแฮปปี้ๆๆ




Create Date : 17 ตุลาคม 2555
Last Update : 21 ตุลาคม 2555 5:44:25 น.
Counter : 1974 Pageviews.

2 comments
  


ดีใจกับป้าพรรณด้วยนะคะที่ 1 อาิทิตย์ผ่านไปอย่างแฮปปี้
เด็กๆได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง การเรียนน่าสนุก มีอิสระ
ไม่เครียด ถือกระเป๋าหนักเหมือนบ้านเรานะคะ

มีความสุขในวันหยุดนะคะป้าพรรณ
โดย: Sweet_pills วันที่: 27 ตุลาคม 2555 เวลา:12:02:06 น.
  
สวัสดีค่ะ ป้าพรรณ

ทำงานกับเด็กเป็นอะไรที่สนุกนะคะ(ถ้าทำใจได้) เอเคยทำงานแบบนี้ที่สวีเดนเหมือนกัน เด็กฝรั่งนี่เก่งนะคะ ไม่ค่อยจะเห็นร้องตามพ่อแม่ ชอบเหลือเกินเวลาที่พาไปเดินเล่นในเมือง จูงกันเป็นรถไฟเลย
ขอให้มีความสุขในการทำงานนะคะ
โดย: Maganda วันที่: 1 พฤศจิกายน 2555 เวลา:12:18:12 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ยืนงงในดงครัว
Location :
กรุงเทพฯ  Denmark

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]



ชื่อ (ป้า)พรรณ หรือ เหน่ง นะค่ะ เริ่มต้นชีวิตคู่ใหม่ในครั้งนี้ ด้วยวัย 40 กะรัต
กามเทพตั้งใจทำงานมากเลยอะ ป้าพรรณ แค่มาเที่ยวเดนมาร์กครั้งแรก โดยมาในฐานะแขกเชิญของน้า ให้มาเที่ยว เดนมาร์ก แต่....เอาเข้าจริงต้องกลาย เป็นเด็กเสริฟอาหารในร้านของน้าเราเอง มากว่าเที่ยว ฮ่าๆ นั่นแหละกามเทพทำงาน ตอนได้เป็นเด็กเสริฟ(จำเป็น)ที่โต๊ะสามี ปิ๊งๆๆ กัน สุดท้าย 2 ปีผ่านไป ได้แต่งงานกัน


มาอยู่เดนมาร์ก ก็เลยอยากจะบันทึกเรื่องราวชีวิตในต่างแดน เพื่อเก็บเอาไว้อ่านย้อนหลัง เมื่อเราแก่ตัวไป จะได้รู้ว่า ช่วงชีวิตหนึ่งที่ห่างหายจากครอบครัวอันเป็นที่รัก มีเรื่องราวอะไรน่าจดจำบ้าง แม่เป็นยังไง ลูกๆเป็นยังไง ใครเศร้า สุข ทุกข์ใจ เรื่องราวที่เข้ามาดี ร้าย อย่างไร? บันทึกไว้เพื่อจดจำกับเรื่องราว

พื้นที่ห้องน้อยๆแห่งนี้... เป็นเสมือนสมุดบันทึก เรื่องราว เหตุการณ์ต่างๆที่พบเจอ หรือแม้กระทั่งเพื่อเก็บบันทึก ถึงอาหารของแม่ที่พร่ำ(บ่น)สอนให้เราทำ ซึ่งก็พอจะทำเป็นอยู่บ้าง อาหารไทยได้จากแม่ อาหารจีนได้มาจากแม่สามีเก่า
แต่ด้วยความที่เราไม่ค่อยเอาใจใส่ หรือในรักการทำอาหารเหมือนแม่ ทำให้ต้องมาหัดเรียนรู้ อาหารบางอย่างจากเพื่อนบ้านชาวบล๊อคแก๊งค์ด้วยกัน ก็หลายท่าน ขอบคุณทุกท่านที่พากันทำฮาวทู ทีละขั้นตอน สอนอย่างจริงใจ และให้อย่างจริงใจ
ขอบคุณชาวบล๊อคแก๊งค์ ที่แบ่งปันสูตรอาหารต่างๆ ไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

และสุดท้ายขอบคุณสำหรับทุกๆท่านที่คอมเม้นท์ไว้ให้ค่ะ และขออภัยด้วยหากไม่ได้ไปเม้นกลับ เนื่องด้วยไม่ค่อยได้เข้ามาบ่อยๆเหมือนเก่า
images by free.in.th