ประชาชน หลั่งไหล เข้ากราบถวายบังคม พระบรมศพ ต่อเนื่อง ก่อนงด 2 วัน เนื่องในพระราชพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวาร 100 วัน ขณะที่ จนท.เข้มจุดคัดกรอง ด้าน ร่วมด้วยช่วยกันฯ จัดอาสาเดินตรวจความปลอดภัย

 

ประชาชนจำนวนมากยังคงแต่งกายไว้ทุกข์สีดำ เดินทางมากันเป็นครอบครัวบ้างเป็นกลุ่มคณะ นั่งรอต่อแถวเพื่อเข้ากราบถวายบังคม พระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ประกอบกับวันนี้เป็นวันสุดท้าย ตามที่ สำนักพระราชวังจะงดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ เนื่องในพระราชพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวาร (100วัน) ในวันที่ 20-21 ม.ค.2560 รวมเวลา 2 วัน ทำให้ประชาชนเดินทางกันจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่ได้เปิดให้ประชาชนชุดแรกเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ ทางประตูวิเศษไชยศรี ตั้งแต่เวลาประมาณ 05.00 น.ที่ผ่านมาแล้ว และจะเปิดให้ประชาชนที่มารอต่อแถวได้เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ ไปตลอดทั้งวันจนกว่าจะหมด และจะเปิดให้เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ อีกครั้งตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม เป็นต้นไป

ขณะที่ จุดบริการประชาชนร่วมด้วยช่วยกัน ยังคงคอยดูแลช่วยเหลือบริการประชาชนที่มากราบถวายบังคมพระบรมศพ อย่างเต็มที่ พร้อมนำกำลังอาสาร่วมด้วยช่วยกัน คอยตรวจตรา เฝ้าระวัง สอดส่องดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินและ บริการน้ำดื่ม /บริการสายรัดข้อมือให้เด็ก /ปฐมพยาบาลเบื้องต้น และประสานงานให้ความช่วยเหลืออื่นๆท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด 

ด้าน เจ้าหน้าที่ยังคงตรวจเข้มจุดคัดกรองทั้ง 8 จุด ซึ่งจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่พบการนำอาวุธหรือสิ่งผิดกฎหมายร้ายแรงเข้ามาในพื้นที่แต่อย่างใด โดยภาพรวมยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

อาสาสมัครช่วยเข็นวีลแชร์คนชรา-ผู้พิการกราบพระบรมศพ

เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ อาสาสมัครประชาชน ได้ช่วยกันเข็นรถวีลแชร์อำนวยความสะดวกให้ผู้สูงอายุและผู้พิการ ได้เข้ากราบถวายบังคม พระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมามีประชาชนทุกเพศทุกวัย ทยอยเดินทางกันมาอย่างไม่ขาดสาย ขณะที่ภายในเต็นท์พักคอยฝั่งสนามหลวงทิศเหนือ มีประชาชนนั่งรอจนเต็มพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เปิดพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ให้ประชาชนได้รับชมตลอดทั้งวัน พร้อมกับเปิดพัดลมเพื่อคลายความร้อน โดยมีอาสายุวกาชาดตลอดจนมูลนิธิต่าง ๆ ได้นำอาหารเช้า น้ำดื่มเย็น ๆ ตลอดจน ยาดม ยาหอม มาคอยให้บริการประชาชนภายในเต็นท์ที่พักคอย และช่วยกันเก็บขยะ ขณะที่ประชาชนที่จะเข้าห้องน้ำทาง กทม. ได้จัดรถสุขาเคลื่อนที่มาให้บริการอยู่ใกล้ ๆ โดยประชาชนที่จะลุกออกจากที่นั่งไปเข้าห้องน้ำหรือทำธุระส่วนตัวจะมีบัตรให้บริเวณหน้าแถว เมื่อกลับเข้ามาต้องคืนบัตร ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันการลัดหรือแทรกคิว แต่จากการสอบถามยังไม่พบปัญหาดังกล่าวมากนัก เนื่องจากประชาชนที่นั่งข้างกันช่วยดูให้

ขณะที่การดูแลรักษาความปลอดภัย ยังเป็นไปอย่างเข้มงวด ตำรวจ ทหาร ยังคอยตรวจตราดูแลความเรียบร้อยและสิ่งผิดปกติบริเวณโดยรอบ ทั้งนี้ ตำรวจนครบาล ยังได้ประกาศผ่านเครื่องกระจายเสียงบริเวณด้านหน้าประตูวิเศษไชยศรี เป็นภาษาไทย อังกฤษ และจีน ขอให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวระมัดระวัง และดูแลทรัพย์สินของมีค่าที่นำติดตัวมาเพื่อป้องกันมิจฉาชีพฉวยโอกาสด้วย

สำนักงานทรัพย์สินฯแจกข้าวเหนียวไก่ทอดปชช.กราบพระศพ

ประชาชนจำนวนมากยังคงทยอยเดินทางเข้ากราบถวายบังคม พระบรมศพ ต่อเนื่องตลอดทั้งวัน โดยวันนี้ ตัวแทนเครือข่ายความร่วมมือพัฒนา ระหว่างชุมชนบนพื้นที่ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ร่วมกับ และอาสามูลนิธิร่วมด้วยช่วยกัน สำนึกรักบ้านเกิด ได้นำข้าวเหนียวไก่ทอด กว่า 300 ชุด ข้าวต้มมัด มามอบให้ประชาชนที่นั่งรอเข้ากราบถวายบังคม พระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ภายในเต็นท์พักคอยฝั่งสนามทิศเหนือ เพื่อได้รับประทานเป็นอาหารกลางวันด้วย นอกจากนี้ ยังได้เดินแจกยาดม ยาหม่อง พิมเสนน้ำ และเสื้อ ให้ประชาชนที่บริเวณจุดบริการประชาชนร่วมด้วยช่วยกันอีกด้วย โดยมีประชาชนจำนวนมากเข้ามาติดต่อสอบถามขั้นตอนและจุดรอเข้ากราบถวายยังคมพระบรมศพ ตลอดจนขอสายรัดข้อมือให้กับเด็กจำนวนมาก โดยจุดบริการประชาชนร่วมด้วยช่วยกัน จะหยุดให้บริการ 2 วัน และเข้าร่วมทำกิจกรรมบิ๊ก คลีนนิ่ง บริเวณโดยรอบท้องสนามหลวงและพระบรมมหาราชวัง ในวันที่ 20 - 21 มกราคม นี้ ด้วย 

 

ครูสุรินทร์ตื้นตันใจได้กราบพระบรมศพในหลวงร.9

นางเกษร เจริญรัตน์ ครูโรงเรียนหนองเหล็กเบญจวิทยา ต.กระออม อ.สำโรงทาน จ.สุรินทร์ พร้อมคณะครูอาจารย์ โรงเรียนหนองเหล็กเบญจวิทยา เปิดเผยขณะนั่งรอเข้ากราบถวายบังคม พระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อยู่บริเวณเต็นท์พักคอย ว่า รู้สึกตื้นตันใจที่ได้มีโอกาสมากราบถวายบังคม พระบรมศพ ในหลวง รัชกาลที่ 9 เพราะมีความตั้งใจที่จะมานานแล้ว โดยคณะได้เดินทางออกจากจังหวัดสุรินทร์ตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้ และมาถึง อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยาตอนประมาณ 02.00 น. เพื่ออาบน้ำเปลี่ยนชุด สำหรับเข้ากราบถวายบังพระบรมศพ และมาถึงที่ท้องสนามหลวงตอนเช้ามืด แต่แม้จะรออีกนานหลายชั่วโมง ก็ไม่ได้รู้สึกท้อ กลับรู้สึกปลื้มปีติและรอเวลาที่จะได้เข้ากราบพระบรมศพ พร้อมกล่าวว่าส่วนตัวตั้งใจจะทำหน้าที่อบรมสั่งสอนเด็กนักเรียนให้เป็นคนดี โตขึ้นประกอบอาชีพสุจริต โดยทางโรงเรียนได้ปลูกฝังให้เด็ก ๆ รู้จักกตัญญู ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง และรู้จักน้อมนำกระแสพระราชดำรัสของพระองค์ท่านมาใช้ในการดำเนินชีวิต ผ่านการจัดกิจกรรมและจัดนิทรรศการต่าง ๆ ให้เด็ก ๆ ในโรงเรียนได้เรียรรู้และทราบถึงพระราชกรณียกิจต่าง ๆ ของพระองค์ท่านตลอดการครองราชย์ 70 ปี