|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ไปดูยักษ์ตีกัน
05.00 น. ตี 5 นาฬิกาปลุกดังขึ้น โอ้เอ้ๆๆ ไม่อยากไปกรุงเทพฯ เล๊ย ออนเอ็มแป๊บนึงดีกว่า
ฮะแฮ่ม เจอตัวพอดี " ไม่ไปได้มั้ยพี่โจ้..ขี้เกียจไปแระ" "เฮ๊ย ได้งัยๆๆ นัดน้องไว้ "
โอ๊ย จะบ้า นัดตรูไปเป็นไม้กันหมาเปล่าหว่า ไปเจอกัน 2 คน ไม่ล่ายงัยฟ่ะ เอาตรูไปทำม้ายยยยย
8.00 น. ระหว่างนั่งรถ ฉันนั่งสมาธิไปด้วย ถึงท่าวุ้ง มีคนขึ้นมานั่งใกล้ๆ เข้าใจว่า เป็นผู้หญิง และก็เป็นผู้หญิงจริงๆ เพราะ พอรถจอดปั๊มแห่งหนึ่งแถวสิงห์บุรี น้องคนที่นั่งข้างๆ ยื่นกล่องโอวัลตินให้เรา "พี่ทานมั้ยคะ"
เฮ๊ย...มีคนยังงี้อยู่อีกเหรอ ตกใจน่ะ เลยต้องมองน้องเขาให้ชัดๆ เด็กรุ่นๆ อายุประมาณ 17-18 ซักถามด้วยความสนใจ ปนความอยากรู้ ก็รู้ว่า น้องเขาจะไปโลตัส อยุธยา
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ ไม่อยากถามให้น้อง เขาเสียน้ำใจ คือ ทำไมน้องยื่นของให้คนแปลกหน้า ทั้งที่ไม่รู้จัก ทั้งที่คุณยังไม่รู้เลยว่า เขาเป็นใคร เขาดีหรือร้าย ก็ไม่รู้ ทำไมไว้ใจคนง่ายนัก คนสมัยนี้ ไว้ใจกันได้ง่ายๆ หรือ?
น้องเขามองฉันใสๆ ฉันเลยยิ้มให้ แล้วปล่อยความคิดฟุ้งไป เขายังเป็นผ้าขาว ยังมองโลกงดงาม งดงามเหมือนสิ่งที่เขาหยิบยื่นให้ฉัน 9.30 น. ลงรถจากรังสิต นั่งรถตู้ไป พหลโยธิน 40 กว่าๆ เจอหน้าคุณชายที่บ้าน หน้ายังไม่ล้าง น้ำยังไม่อาบ โสฯ มั่กๆ มีบ่นกันบ้างเล็กๆ น้อยๆ คุณชายใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จึงแต่งตัวเสร็จพร้อมออกจากบ้าน วันนี้ รถเจ๊ง เราต้องนั่งรถตู้ไปลงหมอชิต ต่อรถไฟฟ้าไปลงอนุสาวรีย์ แล้วรอรถเมล์ เพื่อไป สนามหลวง แต่ให้ตายเถอะ รอรถประมาณ 1/2 ชั่วโมง ก็ไม่มีรถแวะเวียนผ่านมา เอาฟ่ะ นั่งแท๊กซี่ดีกว่า
แท๊กซี่ คันว่าง วิ่งผ่านมา คนข้างหน้า โบก แท๊กซี่ ไม่ว่าง อีกหลายคัน ผ่านหน้าเราไป แท็กซี่คันว่าง ผ่านหน้าเราไป โบกๆๆๆ เอ๊ะ มันไม่จอด
" เอ๊ะ มากับพี่โจ้ นี่ยังงัย รถเมล์ก็ไม่มี รถแท๊กซี่ก็ไม่จอด พวกคนบาปนี่นะ จะไปวัดก็เจอแต่อุปสรรค"
13.00 น. เราถึงท่าพระจันทร์ รอน้องอีกคนจะเข้ามาสบทบ เพื่อที่จะเดินทางไปเที่ยววัดโพธิ์ วัดพระแก้ว และ วัดอรุณ
13.30 น. น้องมาแระ คราวนี้เราเดินๆๆๆๆ ไปวัดโพธิ์ เสียงถามเป็นระยะๆ หิวมั้ย กินข้าวก่อนมั้ย
"ไม่"
เดินจนถึงท่าเตียน เอ๊ะ ไกลใช่เล่น
มาถึงท่าเตียน ก็เลยเล่าให้น้องเขาฟังว่า ยักษ์วัดแจ้ง กับยักษ์วัดโพธิ์ ตีกันจน ราบเป็นท่าเตียน ยักษ์ที่มาห้ามศึก ก็คือ ยักษ์วัดพระแก้ว วันนี้เราเลยมาเที่ยว วัด 3 วัดนี้งัย
14.00 น. เราเข้าไปไหว้พระนอน วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์นั่นเอง วัดโพธิ์ เรียกได้ว่า เป็นโรงเรียนวัดแห่งแรกถ้าจำไม่ผิด อิอิ ตำรับตำรา ศาสตร์การเรียนรู้ต่างๆ ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ถูกจดบันทึกที่วัดโพธิ์นี่ล่ะ แต่ที่มีชื่อเสียง ก็คงจะเป็น การนวดแผนโบราณ กลับจากไหว้พระนอน ก็ ตามหา ยักษ์วัดแจ้ง ซึ่งหลายคนเข้าใจผิดคิดว่า ตัวลันทัม ซึ่งเป็นรูปปั้นหินอับเฉาแบบจีน หน้าหอไตร เป็นยักษ์วัดโพธิ์ แต่จริงๆ แล้ว ยักษ์วัดโพธิ์ ถูกเก็บในตู้เล็กๆ ก่อนเข้าหอไตร ต่างหาก
14.45 น. นั่งรถตุ๊กๆ 30 บาท ไปลงหน้าวัดพระแก้ว คือ ใจสู้นะ แต่สังขาร ชักเริ่มไม่ไหว คุณชายเขาจะไปดู ภาพจิตรกรรมฝาผนัง วัดพระแก้วที่คนโบราณซ่อนลูกเล่นอะไรไว้ ส่วนฉันอ่ะ ยังงัยก็ได้ ไหว้พระแก้ว มงคลสำหรับชีวิต รถตุ๊กๆ ผ่าน ม.ศิลปากร ก็เง้อ เหมือนกัน คนข้างในจะรู้มั้ยเนี่ย ว่าตรูมาอีกแล้ว ส่งใจไปละกัน ทักทาย แระน๊า
15.00 น. เดินขาลาก ดูจิตรกรรมฝาผนัง เห็นนครวัดอยู่ลิบๆ ไปชมยครวัดจำลองดีกว่า ช่วงนี้ วัดพระแก้ว กำลังบูรณะบางส่วน เลย ก็รกๆ ชอบกล
พอเห็นยักษ์วัดพระแก้ว ซึ่งก้คือ ทวารบาล ฉันก็ชี้ ให้น้องดู โน่นงัย ทศกัณฑ์ แล้วนั่น สหัสเดชะ
ระหว่างที่น้องเขาแหวนมองยักษ์ กับคุณชาย
ฉันมองน้องเขาแว๊บนึง แล้วบอกว่า
"อย่าเชื่อพี่มาก พี่อ่ะ มั่ว "
16.00 น ออกจากวัดพระแก้ว จะไปท่าเตียน เจอรถตุ๊กๆ หนอย จะเอา 30 บาท คุณชายก็ทำท่าจะขึ้น ฉันเลยบอก ตอนมาจากท่าเตียนอ่ะ 30 เอง แล้วหน้าตาฉันคงเอาเรื่องอ่ะ โมโหหิว เขาก็เลย โอ เคๆ 30 บาท ครับ
16.30 น. กินข้าวท่าเตียนเสร็จ เริ่มง่วงอ่ะ โหยยยย หิวข้าวมาก ลืมไปว่า ไม่ได้ทานข้าวเช้ามา ข้าวกลางวันก็ดันหยิ่งไม่ทานอีก เกือบเป็นลมตายคาท่าเตียนไปซะแระ เมื่ออิ่มแล้วก็ลงเรือข้ามฝากจากท่าเตียนไปวัดแจ้ง หรือวัดอรุณราชวราราม นั่นเอง
วัดอรุณฯ มาช่วงเย็นนี่ สวยงามจริงๆ แสงแดดไม่ร้อน ลมจากแม่น้ำพัดเอื่อยๆ พอมาถึงหน้าวัด โห...ทึ่งมากๆ มันใหญ่โต และวิจิตร เกินกว่าที่เห็นจากภาพ หรือฝั่งแม่น้ำเลย ฉันมองตะลึงจนก้าวขาแทบไม่ออก อดใจไม่ไหวที่จะขึ้นไปชมด้านบนของพระปรางค์
บนพระปรางค์ ลวดลายประดับด้วยกระเบื้องเคลือบ งดงามจริงๆ
นี่ เมืองไทยมียังงี้ด้วยเหรอ
แบบว่า เคยไปมาหลายวัด แต่ละวัด ก็เฉยๆ มาดูที่วัดอรุณ เนี่ย มันอบอุ่น ยังงัยบอกไม่ถูก
แล้วความคึกก็เข้ามาสิง ถ่ายรูปกันยกใหญ่ ส่วนยักษ์วัดแจ้ง ที่บอกว่าเคยแขนหักจากการข้ามฝากไปตีกันที่ท่าเตียน ก็ลืมมันไปเลย
17.30 น. เจ้าหน้าที่วัด 3 คน รอ เรา 3 คน เพราะเป็นนักท่องเที่ยวชุดสุดท้าย (ไม่กลับสักที)
ฉันมองรอบๆ ตัวอย่างทึ่งๆ นี่แผ่นดินนี้ เราเหยียบเป็นแผ่นดินกรุงธนฯ แล้วเด๋วเราไปส่งน้อง น้องอยู่วังหลัง
โอ๊ยยยย ไม่น่าเชื่อ .... มันเหมือนมีร่องรอย มีความทรงจำของอดีตแทรกอยู่ทุกอณู
18.00 น. เราข้ามฝากจากศิริราช กลับมาที่ท่าช้าง ตะวันตกดินเร็วจัง น้ำเจ้าพระยาพริ้วระลอก มองเห็น พระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นสง่า อยู่ริมแม่น้ำฝั่งธนฯ เป็นภาพที่คุ้นตา มานาน วันนี้ ได้ไปเที่ยวแล้ว
20.00 น. นั่งร่ำสุรา เป็นปกติ แล้วแยกย้ายกลับที่พัก
เฮ่อ..... พักผ่อนเสียที
Create Date : 10 ตุลาคม 2548 |
|
7 comments |
Last Update : 14 ตุลาคม 2548 14:29:26 น. |
Counter : 792 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ju (กระจ้อน ) 10 ตุลาคม 2548 15:54:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: ju (กระจ้อน ) 10 ตุลาคม 2548 15:58:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: ju (กระจ้อน ) 10 ตุลาคม 2548 21:51:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: ju (กระจ้อน ) 11 ตุลาคม 2548 0:03:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: มิส IP: 61.91.219.104 16 ตุลาคม 2548 19:30:30 น. |
|
|
|
|
|
|
|