ทั้ง 5 ส ที่ว่าคือ เสียเวลา, เสียสุขภาพ, เสียความรู้สึก, เสียความสัมพันธ์ และ เสียความตั้งใจ ถ้าจะเล่นก็ต้องไม่เสียเวลาชีวิต เล่นอยู่ในอัตราที่พอดี, ต้องไม่เสียสุขภาพ ไม่ใช่วันๆ นั่งอยู่แต่หน้าคอมพ์, ต้องไม่เสียความรู้สึก อันนี้ตอนที่เล่นอยู่ คนป่วยจะไม่รู้สึกหรอกครับ แต่พอเลิกเล่นแล้ว ถึงจะคิดได้ว่า ไม่น่าเลย เสียเวลาจัง ทำให้ตัวเองเสียความรู้สึก แล้วก็คิดว่าจะไม่ทำอีก แต่พอไปเล่นอีก ก็เป็นอีกอยู่ดี,
ต้องไม่เสียความสัมพันธ์ คือหัดอยู่กับครอบครัวบ้าง พูดคุยหากิจกรรมทำ ไม่ใช่อยู่แต่ร้านเกมไม่กลับบ้าน บางคนนอนมันที่นั่นเลยก็มี สุดท้ายคือ อย่าให้เสียความตั้งใจ ถ้าตั้งใจว่าอยากเป็นหมอ เป็นตำรวจ ฝันเรื่องอะไรเอาไว้ก็ต้องทำให้ได้ ต้องรู้จักคิดว่า ถ้าเล่นเกมอยู่แบบนี้ต่อไป มันไม่มีวันจะทำได้อย่างที่ฝันเอาไว้แน่นอน
สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองที่คิดไม่ออกว่าจะเริ่มต้นช่วยเหลือลูกหลานของตัวเองยังไงดี ดร.แนะนำว่าให้ใช้วิธีตีเนียน ห้ามใช้ไม้แข็งอย่างเด็ดขาด
อย่าไปพูดว่าห้ามเล่นครับเพราะมีแต่จะทะเลาะกัน เดี๋ยวอาจจะบันดาลโทสะตามที่เป็นข่าวอีก ถ้าเป็นเด็กผู้ชาย ให้คุณพ่อเข้าไปถามตอนลูกเล่น ลองเข้าไปเล่นกับเขา ให้เขาสอน แล้วก็ทำเป็นเพลินไปกับการเล่นเกม บอกว่ามันสนุกดีเหมือนกันนะเนี่ย พอเล่นไปสักพัก เด็กเขาก็จะรำคาญเพราะว่าเขาติดเกม เขาจะอยากเล่น มันก็จะทำให้เขาได้นั่งรอคุณพ่อเล่นแล้วเขาก็จะค่อยๆ รู้สึกว่าเวลาคนเล่นเกมมันดูหมกมุ่นขนาดไหน ขนาดพ่อเขายังหมกมุ่นจนลืมลูกตัวเองเลย ถ้าเป็นลูกผู้หญิงก็ให้คุณแม่เข้าหาครับ ก็น่าจะช่วยได้
ระหว่างนั้นก็ต้องออกกฎอย่างเคร่งครัด ไม่ให้เด็กไปเล่นเกมตามร้าน ให้เล่นอยู่ในบ้านดีกว่า เพราะควบคุมดูแลง่ายกว่า หรือถ้าบ้านไหนไม่มีคอมพิวเตอร์เป็นของตัวเอง ก็ต้องระบุเวลากลับบ้านให้ชัดเจน ผู้ปกครองต้องใจแข็ง ถ้ากลับบ้านไม่ตรงเวลาก็ต้องไม่ให้เข้าบ้าน ให้เขารู้ว่าแหกกฎแล้วมีแต่จะลำบาก
เหนือสิ่งอื่นใด ถ้าต้องการให้ปัญหา เด็กติดเกม ได้รับการแก้ไขอย่างยั่งยืน ภาครัฐต้องเอาจริงเอาจังกับการควบคุมร้านเกม จัดโซนในการตั้งร้านที่แน่ชัดเพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบ ไม่ใช่ปล่อยให้ผุดขึ้นตามตรอกซอกซอยโดยไม่สนอกสนใจ ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องพฤติกรรมของเด็กและเยาวชนมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะเท่าที่ผ่านมา ดูเหมือนจะยอมทุ่มทุนไปกับนโยบายด้านเศรษฐกิจและการเมืองมาตลอด หรือไม่ก็มุ่งปราบปรามการเสพติดยา จนอาจลืมไปแล้วว่า เสพติดเกมก็น่ากลัวไม่แพ้กัน...
น่ากลัวว่าถ้าปล่อยไว้ให้รอยแผลแห่งปัญหานี้ยิ่งเรื้อรัง อนาคตของชาติอาจค่อยๆ ล้มหายตายจากไปและถูกฝังกลบใน สุสานความบันเทิง ชนิดนี้โดยไม่ทันได้รู้ตัว
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ LIVE
ข้อมูลโดย ASTVผู้จัดการรายวัน