Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
2 กรกฏาคม 2550
 
All Blogs
 
ประสบการณ์ที่สูญเปล่า โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์

ประสบการณ์ที่สูญเปล่า
เขียนโดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
ตีพิมพ์ครั้งแรกที่ เซคชั่นกระแสทัศน์ วันที่ ๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๐ ปีที่ ๓๐ ฉบับที่ ๑๐๖๗๗

"ประสบการณ์จริงของสังคมไทยในรอบทศวรรษที่ผ่านมาสูญเปล่าหมด เพราะเหล่าเทวดาพากันย่นย่อประสบการณ์ทั้งหมดให้เหลือเพียงปัญหาทางการเมืองของทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น"



ส่วนใหญ่ของผู้ใช้มือถือคือ ผู้ใช้ในระบบบัตรเติมเงิน ฉะนั้นเขาจึงประสบความเดือดร้อนอย่างเดียวกับผมและพรรคพวกบางคนได้ประสบ นั่นคือเมื่อใช้จนหมดเวลาที่กำหนดไว้ในบัตรก็ตาม หรือใช้จนหมดเงินตามบัตรที่เติมลงไปก็ตาม จากนั้นเราทุกคนก็กลายเป็นลูกหนี้ที่ถูกบริษัทรบกวนทุก 5 นาที บ้าง, 10 นาที บ้าง แล้วแต่บริษัท โดยส่งสัญญาณข้อความเข้ามาบอกให้เราเร่งไปซื้อบัตรมาเติมเงินลงไปเสียโดยดี

อันที่จริง หากมีเงินเหลืออยู่แม้จะหมดเวลาโทร.ออกแล้ว เราก็ยังสามารถรับสายจากผู้อื่นได้อยู่ และการที่เราไม่ปิดเครื่องรับเสีย ก็เพราะเราอยากใช้บริการเรียกเข้านี่แหละ แต่เพื่อจะได้ใช้บริการซึ่งบริษัทโทรศัพท์สัญญาว่าจะให้นี้ เราต้องทนกับเสียงเรียกให้ดูข้อความเตือนของบริษัทอยู่ตลอดเวลา

ระบบบัตรเติมเงินนั้นภาษาฝรั่งเรียกว่า pre-paid คือ จ่ายให้ก่อน พูดอีกอย่างหนึ่งคือ อนุญาตให้บริษัทเอาเงินของเราไปหมุนอย่างไรก็ได้ โดยเรายังไม่ได้ใช้บริการ แต่ลูกค้าหน้าโง่เหล่านี้ กลับต้องเสียค่าบริการต่อการโทร.แพงกว่าผู้ที่เป็นสมาชิก ซึ่งใช้บริการก่อนแล้วจ่ายเงินทีหลัง (post-paid) อย่างเทียบกันไม่ได้ และร้ายไปกว่านั้นก็คือ บัตรแต่ละใบกำหนดเวลาเอาไว้ไม่มากนัก ยังใช้บริการไม่เท่าไร ก็หมดเวลาที่จะใช้บริการโทร.ออกได้เสียแล้ว และกลายเป็นเหยื่อของการรบกวนทุก 5 นาที จนกว่าเราจะยอมปราชัยไปเอง

เงินที่ค้างอยู่กับบริษัทและยังไม่ได้ใช้บริการ กลายเป็นตัวเลขที่ไร้ความหมายจนกว่าเราจะยอมไปซื้อบัตรใบใหม่มาเติมเงินลงไป ยิ่งเติมมากเงินที่สะสมไว้กับบริษัทก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้น ยิ่งทำให้ใช้ไม่ทันหมดเวลาลงอีก ก็อดใช้บริการเต็มที่และถูกรบกวนอีก จนกว่าจะต้องไปซื้อบัตรมาเติมเงิน ที่รู้แน่ว่าไม่ได้ใช้ลงไป

อย่างนี้เป็นธรรมแก่ผู้บริโภคละหรือ เงินผมก็ยังอยู่กับคุณแท้ๆ ใช้สิทธิอะไรที่จะงดบริการไปหน้าตาเฉยอย่างนี้

ร้ายไปกว่านั้น เดี๋ยวนี้บริษัทโทรศัพท์ยังลดเวลาของบัตรเติมเงินซึ่งมีน้อยอยู่แล้วให้น้อยลงไปอีก เช่นจาก 30 วัน กลายเป็น 20 วัน เพื่อเรียกเงินของลูกค้าไปหมุนเล่นได้มากขึ้น ในขณะที่หน่วยงานซึ่งเกี่ยวข้องพากันเล่นดนตรีโบราณคือ เป่าสากกันต่อไปอย่างทองไม่รู้ร้อน

ผมเคยได้ข่าวมานานแล้วว่า กรรมการ กทช. ดำริจะไม่อนุญาตให้บริษัทมือถือทำเช่นนี้ แต่อนุญาตให้บริษัทเก็บค่ารักษาหมายเลขได้เป็นรายเดือน แต่แล้วความดำริอันชอบธรรมนี้ก็ไม่มีใครสานต่อ พวกเราจึงต้อง pre-paid กันต่อไปจนเงินโป่งกับบริษัทไม่รู้จะกี่ร้อยกี่พันล้านบาท

ครั้นเหลียวกลับไปดูคณะกรรมการ กทช. ก็ไม่พบใครสักคนที่จะอ้างได้ว่าเป็นตัวแทนผู้บริโภค ต่างล้วนเป็นนักเทคนิคอันยิ่งยงทั้งสิ้น เพราะกฎหมายเขียนให้หาคนประเภทนี้มานั่งเป็นกรรมการเท่านั้น ประหนึ่งว่ามือถือสามารถลอยอยู่บนเทคโนโลยี โดยไม่เกี่ยวอะไรกับผู้ใช้บริการหรือผู้บริโภคเอาเลย

ไม่กี่วันมานี้ ทีวีนำเรื่องของครอบครัวหนึ่งที่ถูกการประปาทวงเงินที่ยังไม่จ่ายพันกว่าบาททุกเดือน คุณลุงหัวหน้าครอบครัวจึงมีหน้าที่เดินทางไปสำนักงานประปา เพื่อแสดงหลักฐานว่าไม่มีหนี้ค้างจ่าย และก็จะได้รับคำขอโทษด้วยวาจาบ้าง ด้วยลายลักษณ์อักษรบ้าง พร้อมทั้งสัญญาว่าจะไม่ให้เกิดความผิดพลาดเช่นนี้อีก ครั้นสิ้นเดือน ก็จะมีบิลเรียกเก็บหนี้ค้างจ่ายจำนวนเก่ามาทุกครั้ง เป็นเช่นนี้มาเป็นปี

คณะกรรมการการประปา ก็เหมือน กทช. คือไม่มีใครที่จะอ้างได้ว่าเป็นตัวแทนของผู้บริโภคนั่งอยู่ในนั้น

นมสดล่ะครับ มีที่ไหนในโลกที่เขายอมให้เอาหางนมผสมลงไปแล้วยังปล่อยให้เรียกว่านมสดได้อยู่ นมสดต้องเป็นนมที่ได้จากโคโดยไม่ปนเปื้อนด้วยอะไรเท่านั้น หากต้องการลดต้นทุนด้วยการผสมปนเปื้อนกับสารอื่น ก็ต้องเรียกว่านมผสมหรือนมปรุงแต่ง จะเรียกว่านมสดไม่ได้

เครื่องเสียงอีกล่ะครับ สเปคที่ไร้ความหมายระบุไว้ทำไม นอกจากเพื่อหลอกลวงผู้ซื้อ แต่ประเทศไทยไม่เคยกำหนดลงไปให้แน่นอนว่า สเปคเครื่องเสียงจะต้องใช้หน่วยการวัดแบบไหนเท่านั้น

พัดลมที่ทนทานนั้น ดูได้จากอะไรครับ นอกจากถอดออกมาดูคอยล์ข้างใน ซึ่งร้านค้าคงไม่ยอม แต่พัดลมที่ขายในเมืองไทยจำนวนมากนั้น นอกจากช่วยให้เกิดลมแล้วยังช่วยให้เกิดไฟไหม้บ้าน เพราะเปิดนานจนไหม้อยู่เสมอๆ

หันไปดูสินค้าและบริการรอบตัวเราเถิดครับ นับตั้งแต่บ้าน, รถยนต์, ไปจนถึงไม้จิ้มฟัน ล้วนไม่มีมาตรฐานที่ผู้บริโภคสามารถวางใจได้ แล้วแต่จะใช้เทคนิคการตลาดชาติชั่วมั่วนิ่มนานาชนิดหลอกลวงผู้บริโภคกันตามใจชอบทั้งนั้น

พลังของผู้บริโภคที่มีการจัดองค์กรอย่างดี ไม่ได้คุ้มครองผู้บริโภคเพียงอย่างเดียว แต่ช่วยคุ้มครองการผลิตทางเศรษฐกิจของสังคมทั้งหมดด้วย คุณภาพของสินค้าไม่ได้เกิดจากเทคโนโลยี-โลยุ่ยอย่างเดียว แต่เกิดขึ้นและเป็นไปได้เพราะความต้องการของตลาดภายในมีมาตรฐานที่สูงด้วย เพราะคนญี่ปุ่นพิถีพิถันกับสินค้าที่ตัวซื้อ จึงทำให้ญี่ปุ่นผลิตสินค้าคุณภาพไปตีตลาดโลกได้ และแม้ในยามที่มีการย้ายฐานการผลิตไปหาแหล่งผลิตที่ต้นทุนต่ำอย่างในปัจจุบัน ตลาดญี่ปุ่นก็ยังเปิดรับสินค้าที่ผลิตอย่างประณีตภายในประเทศของตัวอยู่นั่นเอง

เราไม่อาจพูดถึงการแข่งขันกับจีนหรือเวียดนามท่ามกลางตลาดภายในที่ไร้มาตรฐานได้ จะยกการผลิตไปสู่ฐานความรู้สูงขึ้น มีแต่สภาวิจัยและ สกว.เพียงเท่านี้ย่อมไม่บังเกิดผล เพราะขาดฐานทางสังคมที่เป็นแรงจูงใจให้ผู้ผลิตพร้อมจะลงทุนกับการวิจัยมากขึ้น (รวมทั้งลงทุนกับผลของงานวิจัยด้วย)

ทั้งนี้ ยังไม่พูดถึงพลังของผู้บริโภคในการรักษาคุณภาพของสิ่งแวดล้อม, ความเป็นธรรมทางสังคม, และอำนาจต่อรองทางเศรษฐกิจในโลกาภิวัตน์, ธรรมาภิบาล ฯลฯ

มาตรา 57 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 กำหนดให้บัญญัติกฎหมายขึ้นรองรับการคุ้มครองผู้บริโภค และกำหนดว่ากฎหมายนั้นต้องทำให้เกิดองค์การอิสระขึ้นมาเพื่อมีส่วนร่วมในการตรากฎหมาย และให้ความเห็นในเรื่องการคุ้มครองผู้บริโภค เช่นเดียวกับมาตรา 60 ของร่างรัฐธรรมนูญ 2550

แต่เกือบ 10 ปี ภายใต้รัฐธรรมนูญ 2550 และรัฐบาล 4 รัฐบาล ก็ไม่มีการบัญญัติกฎหมายขึ้นรองรับ อีกทั้งทัศนคติของผู้ร่างรัฐธรรมนูญปี 2540 ที่มีต่อบทบาทขององค์การอิสระเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคก็อาจจำกัดเกินไป จนทำให้เสียงของผู้บริโภคในการจัดสาธารณูปโภคและสาธารณูปการต่างๆ ไม่มีเลย จะคิดค่าเอฟทีในค่าไฟฟ้าอย่างไร ผู้บริโภคก็ไม่เกี่ยว โฆษณาเครื่องบินโลว์คอสท์กันอย่างตลบแตลงอย่างไร ผู้บริโภคก็ไม่เกี่ยว โฆษณาบ้าเลือดในทีวี ผู้บริโภคก็ไม่เกี่ยวฯลฯ

ฉะนั้น ถ้าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2540 หรือร่างขึ้นใหม่ก็ตาม จำเป็นต้องทบทวนเรื่องสิทธิของผู้บริโภคกันทั้งระบบ ไม่ใช่เพียงแต่เอามาตรา 57 มาขยายความเท่านั้น

ทบทวนจากอะไรหรือครับ? ก็ทบทวนจากประสบการณ์เกือบ 10 ปี ของการใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 ล่ะสิครับ

เทวดาการรัฐประหารชอบพูดว่า รัฐธรรมนูญไทยดีแต่ลอกฝรั่ง ไม่เหมาะกับสังคมวัฒนธรรมไทย ต้องเขียนรัฐธรรมนูญให้เหมาะกับสังคมไทย ขอประทานโทษเถิดครับ ผมอยากถามว่าแล้วคุณรู้ได้อย่างไรว่าสังคมและวัฒนธรรมไทยเป็นอย่างไร ถ้าคุณไม่ศึกษาเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของสังคม

ร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 นั่นแหละครับที่เขียนขึ้นจากตำราและการนึกเอาเองโดยแท้ เพราะไม่สนใจจะศึกษาเรียนรู้ประสบการณ์จริงของสังคมไทยที่ผ่านมาในรอบทศวรรษภายใต้รัฐธรรมนูญ 2540 เลย กรณีสิทธิของผู้บริโภคดังที่กล่าวข้างต้นเป็นตัวอย่างชัดเจน พวกเทวดาเหล่านี้ไม่เคยถามว่า สิทธิของผู้บริโภคที่บัญญัติไว้เดิมนั้นทำงานได้ผลหรือไม่? ไม่ได้ผลอย่างไร และจะทำให้เกิดผลที่เป็นจริงขึ้นได้อย่างไร

ไม่เฉพาะแต่เรื่องของสิทธิผู้บริโภคอย่างเดียวนะครับ ประสบการณ์จริงของสังคมไทยในรอบทศวรรษที่ผ่านมาสูญเปล่าหมด เพราะเหล่าเทวดาพากันย่นย่อประสบการณ์ทั้งหมดให้เหลือเพียงปัญหาทางการเมืองของทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น แม้แต่ย่นย่ออย่างนั้น ก็ไม่ได้ศึกษาเรียนรู้ปัญหาทางการเมืองของทักษิณจริงจังมากไปกว่ากีดกันมิให้ทักษิณหรือสมุนกลับมามีอำนาจอีกเท่านั้น ฉะนั้น จึงไม่ได้เชื่อมโยงปัญหาที่เกิดขึ้นกับส่วนอื่นของรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะเรื่องของสิทธิเสรีภาพของประชาชน

ผมไม่ทราบว่าเทวดาเหล่านี้เคยสำเหนียกบ้างไหมว่า ภายใต้บัญญัติที่ประกันสิทธิเสรีภาพไว้อย่างมั่นคงพอสมควรในรัฐธรรมนูญ 2540 นั้น มีคนสองพันกว่าคนถูก "ฆ่าตัดตอน" โดยไม่มีใครสักคนต้องรับผิดหรือแสดงหลักฐานความชอบธรรมที่ไปวิสามัญฆาตกรรมเขา (accountability) มีคนอีกเป็นร้อยที่ถูกสังหารในเหตุการณ์ 28 เมษายน รวมทั้งการสังหารหมู่ที่กรือเซะ มีคนอีกเป็นร้อยถูกฆาตกรรมในเหตุการณ์ตากใบ มีคนอีกเป็นร้อยในภาคใต้และกรุงเทพฯ ที่ถูกอุ้มหายไป ฯลฯ ยังไม่นับการละเมิดสิทธิเสรีภาพอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งหมดนี้เกิดภายใต้ "ระบอบทักษิณ" และไม่มีใครต้องรับผิดเหมือนกัน

อะไรทำให้เกิดขึ้นได้ และจะร่างรัฐธรรมนูญอย่างไร เพื่อป้องกันมิให้เกิดขึ้นได้อีก จะตอบปัญหานี้ได้ก็คือ นำเอาประสบการณ์ของสังคมไทยภายใต้รัฐธรรมนูญ 2540 มาศึกษาเรียนรู้จากผู้คนที่เดินดินกินข้าวแกง อันเป็นสิ่งที่เทพชุมนุมในสภาร่างไม่สามารถบรรลุญาณขึ้นได้เอง

เมื่อไรก็ตาม ที่รัฐธรรมนูญถูกฉีกทิ้งด้วยอำนาจดิบ เมื่อนั้นประสบการณ์อันทรงคุณค่าของสังคมก็มักถูกฉีกทิ้งไปพร้อมกัน






Create Date : 02 กรกฎาคม 2550
Last Update : 2 กรกฎาคม 2550 19:19:08 น. 0 comments
Counter : 495 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Darksingha
Location :
สมุทรสงคราม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]





Click for use Graphics comment


Darksingha ที่แสดงถึงอำนาจและความมืดมัว ผมให้แทนคำว่า Age of Doubt หรือยุคแห่งความสงสัยก็แล้วกัน ดังนั้นBlogนี้จึงเป็นแดนสนธยาที่เต็มไปด้วยหมอกควันแห่งคำถาม และการละเล่น เพื่อแสวงหา ?


TV3 Live CH5 Live CH7 Live Modernine TV Live NBT LIVE - CH11 TPBS - Public Channel ASTV1 New11 - Online News 24 hours Nation Channel DMC.TV - Buddhistic Television ASTV5 - Suvarnbhumi ASTV7 - Buddhistic Television  True New 24 Channel  skynew  cnnibn Channel  cnn Channel  bbcnews_island Channel  cctv  Channel  bfmtv  Channel  ntv  Channel  fox8 Channel  foxnews5 Channel  cspan  Channel  france24 Channel  world_explorer Channel  discovery_channel Channel  nasa  Channel kimeng-channel dmc-channel ebr-channel research-channel utv-channel michigan-channel at-florida-channel islam-channel peace-usa-channel bbc-panorama-channel CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live

music is life

ชุมทางเพลงเพื่อชีวิต

Friends' blogs
[Add Darksingha's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.