Group Blog
 
<<
เมษายน 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
8 เมษายน 2550
 
All Blogs
 
Post FTA สหรัฐ-เกาหลีใต้ การดิ้นรนออกจากไส้ "แซนด์วิช"

Post FTA สหรัฐ-เกาหลีใต้ การดิ้นรนออกจากไส้ "แซนด์วิช"

ประชาชาติธุรกิจ 5 เม.ย. 50
แล้วการเจรจาการค้าเสรีระหว่างสหรัฐและเกาหลีใต้ก็จบลงในวินาทีสุดท้ายของการทดเวลา 48 ชั่วโมง หลังจากที่ตามกรอบระยะเวลาเดิมแล้ว คณะเจรจาของทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องสรุปผลการเจรจาให้ได้ในคืนวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา

นับว่าการขอขยายเวลาการเจรจาเพิ่มขึ้นและล่วงเลยมาถึงบ่ายวันจันทร์ที่ 2 เม.ย. (ตามเวลาในกรุงโซล) กลับไม่ใช่การเสียเวลาเปล่า ของคณะเจรจาการค้าทั้ง 2 ฝ่าย เมื่อต่างฝ่าย ต่างมีข้อสรุปในการเจรจา และทำให้ตัวแทนการค้าฝ่ายสหรัฐมีโอกาสหอบสาระเนื้อหาของการเจรจากลับไปให้ ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช นำไปรายงานต่อสภาคองเกรสได้ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

ตามกรอบการทำงานที่ระบุว่า ประธานาธิบดีสหรัฐจะต้องรายงานผลการเจรจาการค้าตามอำนาจพิเศษ หรือฟาสต์แทร็ก ในการเจรจาการค้าแก่สภาคองเกรสก่อนวันสิ้นสุดของอำนาจพิเศษ (30 มิ.ย.) 90 วัน

ไฟแนนเชียล ไทม์ส รายงานข่าวหลังการประกาศผลการเจรจาว่า การเปิดเสรีทางการค้าระหว่างสหรัฐและเกาหลีใต้ในครั้งนี้ นับเป็นข้อตกลงที่ใหญ่ที่สุดของรัฐบาลวอชิงตันในรอบหลาย 10 ปี หลังการเปิดเสรีทางการค้าอเมริกาเหนือ หรือนาฟต้า

นอกจากนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายยังคาดหวังว่าเมื่อการลงนามประสบความสำเร็จ ย่อมจะส่งผลช่วยกระตุ้นให้ยอดรายได้ทางการค้าทวิภาคีของทั้ง 2 ประเทศเพิ่มขึ้น 7-9 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี หรือเพิ่มขึ้นจากเดิม 20% ขณะที่เมื่อปี 2549 การค้าระหว่างประเทศทั้ง 2 มีมูลค่า 74 พันล้านดอลลาร์

และสำหรับเกาหลีใต้แล้ว การบรรลุผลการเจรจาครั้งนี้จะส่งผลให้เกาหลีใต้ได้เข้าถึงตลาดสหรัฐ ซึ่งเป็นคู่ค้าที่มีขนาดตลาดใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากจีนของเกาหลีใต้ อีกทั้งยังเป็นการแสดง ออกถึงความพยายามอย่างยิ่งยวดของเกาหลีใต้ในการปฏิรูปเศรษฐกิจ เพื่อให้ประเทศแห่งนี้หลุดพ้นไปจากการถูกมองว่าเป็นประเทศกึ่งกลางระหว่างประเทศยักษ์และมีความเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วเช่นจีน กับประเทศที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและอุตสาหกรรม เช่นญี่ปุ่น

โดยที่ผ่านมา มีนักวิเคราะห์และนักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากมองว่า สถานะทางเศรษฐกิจในเวทีการค้าโลกของ 3 ประเทศในเอเชียตะวันออกนั้น เปรียบได้กับ "แซนด์วิช" และเกาหลีใต้เป็นประเทศกึ่งกลางหรือไส้ในกั้นกลางระหว่างประเทศที่มีต้นทุนการผลิตต่ำอย่างจีนกับญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศที่มีเทคโนโลยีสูง

ดังนั้น ความสำเร็จจากการเจรจาเปิดตลาดเสรีและการลดภาษีในสินค้าและบริการระหว่างสหรัฐและเกาหลีใต้ครั้งนี้ จึงเป็นอีกขั้นหนึ่งของการพัฒนารูปแบบการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจแบบใหม่ของทั้ง 2 ประเทศ

ทั้งนี้ เว็บไซต์ //www.thesoultimes.com ได้ระบุว่า ความจริงแล้ว การทำข้อตกลงเปิดเสรีทางการค้ากับสหรัฐของเกาหลีใต้ เริ่มต้นจากความรู้สึกหวาดหวั่นถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของจีนในฐานะมหาอำนาจทางเศรษฐกิจรายใหม่

ขณะเดียวกันจีนยังเป็นปลายทางการส่งออกรายใหญ่อันดับ 1 ของเกาหลีใต้ ดังนั้นการเติบโตของจีนซึ่งเป็นแหล่งผลิตที่มีต้นทุนต่ำ จึงเป็นความท้าทายในตลาดอุตสาหกรรมโลกซึ่งเกาหลีใต้เคยครอบครองอยู่

ส่วนนักเศรษฐศาสตร์จำนวนหนึ่ง ได้ให้ความเห็นว่า การค้าเสรีจะทำให้เกิดความสมบูรณ์และเป็นประโยชน์กับระบบเศรษฐกิจของทั้ง 2 ฝ่ายมากยิ่งขึ้น เนื่องจากทรัพยากรจากทั้ง 2 แห่งจะถูกโอนถ่ายไปมาระหว่างกัน และถูกนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ฝ่ายรัฐบาลเกาหลีใต้ยังคาดหวังว่า หลังการบังคับใช้ข้อตกลงเป็นผล มูลค่าการส่งออกสินค้าของเกาหลีใต้จะเพิ่มขึ้นมากกว่า 70% และทำให้ประเทศแห่งนี้มีมูลค่าทางเศรษฐกิจภายในประเทศมากถึง 788 พันล้านดอลลาร์

ยกตัวอย่างเช่น บริษัท ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ จำกัด ผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์รายใหญ่ที่สุดของโลกในเวลานี้ ก็จะได้รับประโยชน์มหาศาลจากการลดภาษีนำเข้าสินค้าประเภทนี้ในสหรัฐ จากเดิมมีการเก็บภาษีนำเข้าสหรัฐสูงถึง 35%

หรือในกรณีของบริษัทฮุนได ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 6 ของโลกและเป็นผู้ขายรถยนต์เบอร์ 3 ในตลาดสหรัฐ ก็จะได้รับประโยชน์จากการลดภาษีจากเดิมที่เก็บอยู่ 2.5% ภายใน 3 ปีหลังการประกาศใช้ข้อตกลง

แต่อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์จากนัก วิเคราะห์จำนวนหนึ่งระบุด้วยว่า ส่วนเกินที่สหรัฐเคยได้รับจากการค้ากับสหรัฐที่เคยเกิดขึ้นมาในอดีต อาจลดน้อยลง เนื่องจากสหรัฐจะส่งออกสินค้าเกษตรเข้ามาตีตลาดเกาหลีใต้มากขึ้น

แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ด้านการค้าของเกาหลีใต้ก็มองว่า ในอีกด้านหนึ่งเกาหลีใต้จะได้รับประโยชน์และพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรมการบริการ ไม่ว่าจะเป็นการเงินหรือการธนาคารได้มากขึ้น

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ภาษีสินค้านำเข้าในฝั่งเกาหลีใต้มีอัตราเฉลี่ย 11.2% ส่วนสหรัฐมีอัตราภาษีนำเข้าโดยเฉลี่ย 3.7% ส่วนสินค้าเกษตร เกาหลีใต้เก็บภาษีนำเข้า 52% และสหรัฐเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเกษตรอยู่ที่อัตราเฉลี่ย 12%

แล้วจากผลของข้อตกลงในครั้งนี้ ในฝ่ายของ ผู้คัดค้านการทำข้อตกลงได้ให้ข้อมูลว่า ข้อตกลงนี้จะทำลายความเป็นอยู่ของเกษตรชาวนาเกาหลีใต้และคนยากจน อีกทั้งยังทำให้เกิดช่องว่างคนรวยคนจนที่กว้างขึ้น นอกจากนี้การไหลบ่าของสินค้าเกษตรราคาถูกจากสหรัฐจะมีผลกระทบต่อชาวนาเกาหลีใต้กว่า 4 ล้านคน โดยในจำนวนนี้จะทำให้มีชาวนาตกงานกว่า 1.3 แสนคน หรือคิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 2 พันล้านดอลลาร์

โดย : ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 6/04/2007




Create Date : 08 เมษายน 2550
Last Update : 11 เมษายน 2550 10:47:34 น. 0 comments
Counter : 498 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Darksingha
Location :
สมุทรสงคราม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]





Click for use Graphics comment


Darksingha ที่แสดงถึงอำนาจและความมืดมัว ผมให้แทนคำว่า Age of Doubt หรือยุคแห่งความสงสัยก็แล้วกัน ดังนั้นBlogนี้จึงเป็นแดนสนธยาที่เต็มไปด้วยหมอกควันแห่งคำถาม และการละเล่น เพื่อแสวงหา ?


TV3 Live CH5 Live CH7 Live Modernine TV Live NBT LIVE - CH11 TPBS - Public Channel ASTV1 New11 - Online News 24 hours Nation Channel DMC.TV - Buddhistic Television ASTV5 - Suvarnbhumi ASTV7 - Buddhistic Television  True New 24 Channel  skynew  cnnibn Channel  cnn Channel  bbcnews_island Channel  cctv  Channel  bfmtv  Channel  ntv  Channel  fox8 Channel  foxnews5 Channel  cspan  Channel  france24 Channel  world_explorer Channel  discovery_channel Channel  nasa  Channel kimeng-channel dmc-channel ebr-channel research-channel utv-channel michigan-channel at-florida-channel islam-channel peace-usa-channel bbc-panorama-channel CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live

music is life

ชุมทางเพลงเพื่อชีวิต

Friends' blogs
[Add Darksingha's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.