Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
11 กรกฏาคม 2550
 
All Blogs
 

ตลาดหุ้น ‘โต’ ในขณะที่คนไทย ‘หัวโต’

เขียนแผ่นดิน
เปลว สีเงิน



“การเมือง” เป็นเรื่องรอง “การหุ้น” เป็นเรื่องหลักไปแล้วครับ เจอต่างชาติโยนเงินเข้ามาแสนกว่าล้านเท่านั้น “ปั่นป่วน” กันไปหมด ในขณะที่ “ขาหุ้น” ยิ้มไม่หุบ แต่ภาครัฐปวดหัวหนึบ

เพราะรู้อยู่เต็มอกว่า ตลาดหุ้นคือ “ตลาดทุน” ก็จริง

แต่เงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามาตอนนี้ เขาวางตำแหน่งตลาดหุ้นไทย และตลาดหุ้นในภูมิภาคเป็น “บ่อนวิ่ง” สำหรับพวกเขา

โดยเฉพาะตลาดหุ้นบ้านเรา “หน้าตัก” คือมูลค่าตลาดรวมถือว่าจิ๊บจ๊อย แค่เขาโยนอ่อยเหยื่อเข้ามาวันละหมื่น-สองหมื่นล้านติดต่อกันซักสัปดาห์เดียว

นายบ่อนไทย “งง” เป็นไก่ตาแตก!

“ทุนนอก” มีอำนาจครอบงำตลาดเบ็ดเสร็จไปแล้วครับ พูดง่ายๆ คือ “แทงยกเค้า” เจ้ามือวันไหนก็ได้ แต่ตอนนี้ยังหรอกครับ ยังขุนตลาดไทยไม่อ้วนพอ คือยังไม่ได้กิโลนั่นแหละ

วานนี้ ๔ หมื่นกว่าล้าน เรียกว่า “บ้า” กันไปเลยทั้งตลาด ตอนนี้มองดัชนีข้ามช็อตกันไปที่ ๑,๐๐๐ จุดโน่นแล้ว

จำได้มัย ตอนเปิดตลาดเงินเสรีหลายสิบปีก่อน ตลาดหุ้นไทยขึ้นไปที่ ๑,๔๐๐ กว่าจุด และจากนั้นก็ “ตายสนิท” ยังไม่ได้ผุด-ได้เกิดกันจนถึงเดี๋ยวนี้

แต่ผมว่านักเล่นหุ้นบ้านเรา “เนียน” ขึ้นแยะ เพราะดูจากภาพรวม ต่างชาติซื้อแสนกว่าล้าน แต่กองทุนไทย และขาย่อยทยอยขาย รวมแล้วก็ถ่ายแสนกว่าล้านจากกระเป๋าต่างชาติมาเข้ากระเป๋าพวกเราได้เป็นกอบ-เป็นกำดีอยู่

อย่างนี้แสดงว่า ต่างชาติยังต้องเพิ่มเหยื่อ “ตกเบ็ด” อีกพักใหญ่ ถ้าจะถามว่า “ใหญ่แค่ไหน?” ผมก็ว่า จนกว่าพวกปลาเล็ก-ปลาน้อยในตลาดจะเรอ แล้วสำรอกออกมาบ้าง และถึงขั้น “ตายใจ”

เห็นต่างชาติทุ่มซื้อไม่หยุด เกิดโลภ-น้ำลายไหล ไล่ซื้อตามไปมากๆ ด้วยนั่นแหละ คราวนี้แหละได้ “ปากฉีก” จากปลาฉลาด หงายท้องกลายเป็น “ปลาตาเหลือก” กันละตานี้

ยืนระยะถึงกันยา. ก็ถือว่าเป็นวาสนาของ “เจ้าลอย” แล้วครับ ผมกลัวจะไม่ถึงน่ะซี ใกล้ๆ จะถึง ๑๐ สิงหา.เกรงว่าฝรั่งต่างชาติมันจะ “หัวหด” กันซะก่อน!?

แต่พูดกันจริงๆ แล้ว ในปี-สองปีนี้ ถ้าใครไม่โลภ และมีเงินเหลือใช้ เก็บไว้ก็บูดคาบ้าน เอาไปเลือกลงทุนซื้อหุ้นที่มีพื้นฐานดี คือที่เห็นชัดๆ ว่า บริษัทประเภทนี้ ปิดประตูเจ๊ง

ลุ้นแค่เพียงว่า “ปีนี้จะได้ปันผลเท่าไหร่?” ตามเหตุปัจจัยทางธุรกิจในแต่ละปีเท่านั้นละก็ มีแต่ “รวยมาก-รวยน้อย” ถึงตลาดพัง เราก็ไม่พังตามตลาด

ก็ “มวยหลัก” ซะอย่าง!

เรียกว่าลงทุนแบบ “รวยน้อย แต่รวยตลอด” ถ้าลองรวยตลอดแล้ว มันก็อภิมหาโคตรรวย โดยไม่ต้องห้อยจตุคามฯ นั่นแหละ..โยมเอ๊ย!

ผม “เล่นหุ้น” มาตลอด เปล่า..เปล่า..อย่าเพิ่งตาค้าง ผมเล่น “ในใจ” น่ะครับ คือเห็นตลาดปักหัวทีไหน ผมก็ไปเล็งๆ ดูตามกระดานหน้าจอทีนั้น อาศัยว่าติดตามข่าวสารของแต่ละภาคธุรกิจมาบ้าง

แล้วก็ “ซื้อในใจ” ตัวนั้นไว้ อย่าง ๒ เดือนก่อน ตอนหุ้น ปตท.และ ปตท.สผ.รูดลงมา ปตท. ๒๐๐ ต้นๆ ปตท.สผ. ๘๘-๘๙ บาท ผมก็ช้อนซื้อ ปตท.สผ.ไว้ในใจ ส่วน ปตท.ไม่ซื้อ

เหตุที่ไม่ซื้อ เพราะคำนวณด้วยเงินสมมุติตามเหตุปัจจัยของตัวเองแล้ว เงินน้อยๆ ซื้อได้ไม่กี่สิบหุ้น มันก็จะ “รวยไม่พอโลภ” ไปซื้อ ปตท.สผ.ดีกว่า ถูกหน่อย ขึ้นง่าย ขึ้นไว ได้เป็นกอบเป็นกำ..ว่างั้นเถอะ

แล้วนี่แค่เดือนกว่าๆ มั้ง ปตท.ราคาไป ๓๐๐ ปตท.สผ.ไป ๑๒๐ กว่าบาท กำไรลมในใจอื้อเลย!

สมมุติถ้าซื้อตอนแรกแล้วมันตกลงไปอีก ก็ไม่มีอะไรน่ากลัว สำหรับหุ้นประเภท “พื้นฐานประเทศ” อย่างพลังงาน อย่างแบงก์หลายๆ แบงก์ อย่างพวกอุปกรณ์ก่อสร้าง อิฐ หิน ดิน ปูน อะไรประเภทนี้ เพราะยังไงๆ ซักวัน ตลาดมันก็ต้องฟื้น

แล้วคนที่จะเอาเงินมาฟื้นตลาด กลุ่มแรกที่เขาจะซื้อ ก็ต้องซื้อพวกหุ้น “พื้นฐานประเทศ” ก่อน ไอ้พวก ๓ ตัว ๑๐ บาทน่ะ ขาใหญ่เขาไม่สนหรอก นอกจากพวก “เซียนข้างบ่อน” จะเล่นแคะหัวตะปูกันเอง

แต่ดูราคาตอนนี้แล้ว ผมว่าใครอดใจไม่ไหว โดดเข้าไปตอนนี้ ผมว่านอกจาก “ซื้อของแพง” แล้ว อนาคตจะเป็นญาติกับวัดโพธิ์-วัดแจ้ง ยืนถ่างขา แยกเขี้ยวตากแดด ตากฝน น่าหัวเราะ ฮิ..ฮิ

หุ้นขึ้น-เกินกรอบและเหตุปัจจัยอันควรจะเป็น ก็รีบเผ่นเถอะครับ “น้ำขึ้นให้รีบตัก” ถือหุ้นไว้และเห็นตัวไหนพอจะได้ตุ๊กๆ ซักล้อ-ครึ่งล้อ ก็ขายเถอะ ไม่ใช่อกสั่นขวัญหายไปแย่งเขาขายตอนตลาดขาลง

มันเคยลงมาแล้ว และก็มาขึ้นตอนนี้ ท่านก็เชื่อเถอะ ขึ้นแล้ว เดี๋ยวมันก็ต้องลง เอาไว้ซื้อเก็บตอนลงดีกว่า เพราะทุนต่างชาติเขาไม่ได้มีจิตศรัทธาจะมาทำบุญกับคนไทยผ่านตลาดหุ้นตลอดไปโดยไม่ขายหรอก

เขาเอา “เงินมาต่อเงิน” และเงินที่เขามาทุ่มตลาดก็มี “ต้นทุน” ตอนนี้เอามาลงทุนเพื่อหากำไรไปจัดสรรปันแบ่งกับคนที่ลงทุนไว้กับเขา เรื่องมันง่ายๆ ในภาวะที่สหรัฐอเมริกาเล่นเกม “ทุบโลก” ผ่านดอลลาร์อ่อนค่าเท่านั้นเอง!

เขาก็ทำให้อ่อนไปอย่างนั้นแหละ อ่อนตาม “แผนร่วม” กับยุโรปที่จะจัดระเบียบ “อำนาจโลก” ใหม่ เพราะขณะนี้โลกเข้าสู่ศตวรรษใหม่ เป็นโลกใน ศตวรรษของ “วิถีบูรพา”

ฉะนั้น สหรัฐ-ยุโรป เขาจำเป็นต้องผนึกกัน “ต้านรับ”!

“อำนาจเศรษฐกิจโลก” จะถ่ายน้ำหนักและบทบาทไปไว้ที่ยุโรป ส่วนบทบาท “อำนาจการเมืองโลก” สหรัฐจะเล่นเอง!

จีน-อินเดีย-รัสเซีย-ญี่ปุ่น-อิหร่าน จะว่าอย่างไร จะเห็นทิศทางได้ในทศวรรษต่อไปนี้

ผมว่า..สนุกจะตายไป!?

ไทยเรานี่..ว่าไปแล้ว “จิ๊บจ๊อย” ถ้ายังขืนบูชาดอลลาร์สหรัฐเป็นประมุข “ศาสนาเงินตรา” โลก และก้มหน้า-ก้มตาท่องแต่สูตรคูณ ๑ x ๓๗ หรือ ๔๐ ตะพึดตะพือละก็

คงได้หนีไป “บวชชีพราหมณ์” กันบ้างละครับ!

เวลานี้ ในบ้านเรา บาท/ดอลลาร์ยังอยู่ที่ ๓๓.๘๙-๙๐ บาท แต่ตลาดนอก อย่างภาษาที่เขาเรียกกันว่า offshore บาทเราแข็งโป๊กอยู่ที่ ๓๑.๗๕-๘๐ บาทต่อ ๑ เหรียญสหรัฐ

ก็เอาหัวนิ้วโป้งตรองดูแล้วกัน ห่างกันตั้ง ๒ บาทอย่างนี้ แล้วเงินดอลลาร์ในต่างประเทศมันจะไม่ทะลักพรวดๆ เข้ามาในบ้านเราเป็นรายวัน-รายชั่วโมงได้อย่างไร

เพราะไม่ต้องทำอะไรเลย ด้วยระบบการเงินเสรี แค่ขนดอลลาร์เข้าไทย ก็ฟันส่วนต่างค่าแลกเปลี่ยนกำไรเหนาะๆ ไปแล้ว ๒ บาทกว่า อย่างนี้ ต่อให้เจ๊ที่แบงก์ชาติหักสำรอง ๓๐% ก็คุ้มยิ่งกว่าซื้อแฟลตปลาทอง

กำไรตั้งแต่ยังไม่ทันเข้าตลาดหุ้น เห็นง่ายๆ อย่างนี้ แล้วอัตราแลกเปลี่ยนในตลาดภายในของเราอนาคตมันจะหนี ๓๑ บาทกว่าต่อ ๑ ดอลลาร์ไปได้หรือ?

ถ้า onshore ๓๑ บาทกว่า แล้ว offshore บาทจะไม่แข็งถึงระดับ ๓๐ ต้นๆ ต่อ ๑ เหรียญสหรัฐเข้าไปรึนั่น โอ..มายก็อด!

เพราะ “ตลาดหุ้น” กลายเป็นตลาดเร่สำหรับ “ช็อปกำไร” อย่างถูกต้องตามกลไกตลาดโลก-ตลาดเงินเสรีอย่างนี้ ไม่เพียงตลาดหุ้นที่ “ปรัชญาทุนแปรผัน” เท่านั้น ตอนนี้ตลาดตราสารหนี้ ก็หาหลัก-หาทฤษฎีจับได้ยากแล้ว

ทั้งคลัง-ทั้งแบงก์ชาติ วันๆ ก็ได้แต่ควักยาหม่องตราลิงถือลูกท้อมาทาขมับเท่านั้น!

“สินค่าส่งออก” ที่คุยว่ากำไร ขายได้มากกว่าก่อนๆ เมื่อเทียบแต่ละไตรมาสของปี จริงๆ แล้ว เป็นตัวเลข “แสดงความตกใจ” มากกว่าตัวเลขดีใจ เพราะนั่นแสดงว่า “สินค้าทุน” เพื่อการผลิต การขยายธุรกิจอุตสาหกรรมในประเทศหดหาย

คือบ้านเรา “หยุด” หยุดการเติบโตนั่นเอง!

และเมื่อดูแต่ละหมวดที่ส่งออกได้ ก็เป็นสินค้า “รับจ้างประกอบ” อย่างชิ้นส่วนอิเล็กโทรนิก รถยนต์ ของเขาทั้งนั้น ร้อยบาท เราได้แค่ค่าแรง ๘ บาท ๑๐ บาท ส่วนอีก ๙๐ บาท เป็นของ “ทุนนอกชาติ” ถึงปีเขาก็ขนกลับบ้านเขา สินค้าส่งออกที่ใช้วัตถุดิบภายในประเทศ อย่างสินค้าเกษตร สินค้าเกษตรแปรรูป นับวันจะแห้งลง..แห้งลง!

และที่สำคัญ ส่งออกปีนี้ มาจาก “คำสั่งซื้อ” ที่ตกค้างจากปีก่อนโน้น และในเมื่อสินค้าทุนนำเข้าปีนี้มันหดลง ซึ่งเห็นจากตัวเลขที่เอามาคุยว่าได้ดุลส่งออกมากกว่านำเข้านั่นแหละ

นั่นแสดงว่า “คำสั่งซื้อ” จากตลาดนอกในปีนี้มันลดลง และมันก็จะส่งผลให้สินค้าส่งออกปีหน้า ทำท่าจะหอบหืด!

ประเทศไทยกำลังเกิดโรคประหลาดครับ จะว่าเงินฝืด-ก็ไม่ฝืด จะว่าเงินเฟ้อ-ก็ไม่เฟ้อ

แต่เหมือน “แม่นาคพระโขนง” หมดลมเบ่งครับ!

ที่คุยมาทั้งหมดนี้ ไม่มีสูตร ไม่มีทฤษฎี และผมก็ไม่มีความรู้ทางเศรษฐศาสตร์อะไรเขาหรอก ฉะนั้น อ่านเล่นสนุกๆ อย่างทึกทักจริงจังอะไร แค่ผมสังเกต และจับแพะชนแกะจาก “ความเป็นไป” ตามภาวะเศรษฐกิจโลกและการเมืองเท่านั้น หัดกินโรตี และซาลาเปากันไว้ อนาคตอาจฮิตกว่าเฟรนช์ ฟราย และแฮมเบอร์เกอร์ก็เป็นได้ ใครจะไปรู้?.




ตีพิมพ์ครั้งแรก: หนังสือพิมพืไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 10 กรกฎาคม 2550 เผยแพร่ใน//www.onopen.com/2007/01/1963




 

Create Date : 11 กรกฎาคม 2550
0 comments
Last Update : 11 กรกฎาคม 2550 17:52:00 น.
Counter : 712 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Darksingha
Location :
สมุทรสงคราม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]





Click for use Graphics comment


Darksingha ที่แสดงถึงอำนาจและความมืดมัว ผมให้แทนคำว่า Age of Doubt หรือยุคแห่งความสงสัยก็แล้วกัน ดังนั้นBlogนี้จึงเป็นแดนสนธยาที่เต็มไปด้วยหมอกควันแห่งคำถาม และการละเล่น เพื่อแสวงหา ?


TV3 Live CH5 Live CH7 Live Modernine TV Live NBT LIVE - CH11 TPBS - Public Channel ASTV1 New11 - Online News 24 hours Nation Channel DMC.TV - Buddhistic Television ASTV5 - Suvarnbhumi ASTV7 - Buddhistic Television  True New 24 Channel  skynew  cnnibn Channel  cnn Channel  bbcnews_island Channel  cctv  Channel  bfmtv  Channel  ntv  Channel  fox8 Channel  foxnews5 Channel  cspan  Channel  france24 Channel  world_explorer Channel  discovery_channel Channel  nasa  Channel kimeng-channel dmc-channel ebr-channel research-channel utv-channel michigan-channel at-florida-channel islam-channel peace-usa-channel bbc-panorama-channel CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live

music is life

ชุมทางเพลงเพื่อชีวิต

Friends' blogs
[Add Darksingha's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.