Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
25 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 
✿ ✿ Puff Pastry คืออะไร ....อะไร คือ Puff Pastry ✿ ✿









พายชั้น หรือ Puff Pastry






Puff Pastry เป็นพายชั้นอย่างกรอบ อาจมีไส้หรือไม่มีก็ได้ หรือโรยเฉพาะน้ำตาลก็ได้เช่นกัน มีส่วนผสมหลัก คือ แป้งสาลี ไขมันและน้ำ ส่วนผสมรองได้แก่ ไข่ไก่ เกลือ กรดอ่อน เช่น ครีมออฟทาร์ทา น้ำมะนาว หรือ น้ำส้ม


ชั้นของพัฟเพสตรี้ เกิดจากชั้นของแป้งและไขมันบางๆ ที่วางเรียงสลับกันหลาย ๆ ชั้น เมื่อนำไปอบความร้อนจะทำให้ไขมันละลาย เกิดเป็นไอน้ำดันให้ชั้นของแป้งพองตัวเมื่ออบสุกออกมาขนมที่ได้จะเบากรอบ และมีลักษณะขึ้นชั้น



พัฟเพสตรี้มีสูตรและวิธีการพับแป้งรวามทั้งเทคนิคการวางไขมันบนแป้งต่างกัน ระหว่างยุโรปและอเมริกา ในยุโรปจะใช้เนยสด เพราะละลายง่าย.....ส่วนในแถบเอเชียซึ่งมีอากาศร้อนนิยมใช้เพสตรี้มาการีน เนื่องจากเป็นไขมันที่แข็งและอยู่ตัวที่อุณหภูมิห้อง ง่ายต่อการพับ และการพองตัวที่ดี แม้กลิ่นรสและการละลายในปากจะสู้เนยสดไม่ได้ก็ตาม








พัฟเพสตรี้ แบ่งเป็น 2 ชนิดคือ


1. พัฟเพสตรี้แบบชนิดไม่มีไส้ ทำจากแป้งโดที่รีดเป็นแผ่นแล้ว โรยด้วยน้ำตาลทราย เพื่อให้ขนมมีรสชาดหวานขึ้น และอาจจะตกแต่งเพิ่มให้สวยงามโดยการเคลือบช็อกโกแลต หรือโรยด้วยน้ำตาลไอซิ่ง ตัวอย่างพัฟเพสตรี้แบบนี้ เช่น แบบปาล์มลีฟ แบบโรแซคส์ และแบบโลตัสเป็นต้น




2. พัฟเพสตรี้แบบมีไส้ ตัวอย่างเช่น วูเลอวองท์ (Vol-au-vent)หรือแบบเชลส์ นิยมใส่ไส้ครีมและผลไม้เชื่อม โดยทำเป็นเปลือกฟที่มีความสูงประมาณ 3.5 เซนติเมตร จะกรอบและเบา




พายชั้นมักจะประกอบไปด้วย ส่วน 2 ส่วนคือ


ส่วนเปลือก และส่วนไส้ วิธีการทำเปลือกพายชั้นนั้นใช้ส่วนผสมเพียงไม่กี่ชนิด มีแป้งเอนกประสงค์ แป้งขนมปัง น้ำ น้ำตาลทราย เกลือ มาการีน หรือเนยสดจากนั้นผสมให้เข้ากันโดยนวดด้วยมือ หรือเครื่องหัวตีตะขอ พักคลุมพลาสติกให้แป้งคลายตัว เพื่อป้องกันผิวของแป้งแตกแห้ง
จึงนำเพสตรี้มาการีนซึ่งใช้ สำหรับพับทบชั้น มาวางบนแผ่นแป้งที่ได้ที่แล้ว จากนั้นจึงทำการพับทบชั้นหลาย ๆ ทบ แล้วนำเข้าอบ









วัตถุดิบที่ใช้ในการทำเพสตรี้


1. แป้งสาลี ควรเป็นแป้งชนิดที่มีกลูเต็นที่มีคุณภาพ มีการขยายตัวที่ดี จึงจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะมีผลต่อการรีดพับแป้งโดหลาย ๆ ครั้ง


แป้งสาลีที่ใช้ในการทำพาย ไม่ควรเป็นแป้งขนมปังทั้งหมด เพราะมีกลูเต็นสูง แป้งที่เหมาะ ในการทำควรมีโปรตีน 9.5 เปอร์เซนต์ ถ้าไม่มีแป้งชนิดนี้ สามารถใช้แป้งเค้ก กับแป้งขนมปังในสัดส่วน 60:40 แทนได้



2. ไขมัน ที่ใช้ในการทำพัฟเพสตรี้ ควรเป็นเนยสด เพราะให้กิล่นและรสดีกว่า หรืออาจใช้มาการีนแทนได้สำหรับไขมันที่นำมาวางในแผ่นโด เพื่อให้เกิดชั้น ควรเป็นไขมันที่มีจุดหลอมเหลวสูง ทนต่อการรีดพับแผ่นแป้งโดหลาย ๆ ครั้งโดยไม่ไหลเยิ้ม ไขมันชนิดนี้เรียกว่า เพรสตรี้มาการีน


3. น้ำ น้ำที่ควรใช้ควรเป็นน้ำเย็น โดยเฉพาะในฤดูร้อนควรใช้น้ำแข็งที่ละลายแล้ว เพราะน้ำเย็นจัด จะช่วยให้เม็ดไขมันอยู่ในสภาพแข็ง ป้องกันการเปียกแฉะของแป้งโด ทำให้เกิดโครงสร้าง


4. เกลือ ใช้ในระดับประมาณ 1.5-2% ของน้ำหนักแป้งควรละลายเกลือกับน้ำก่อนเพื่อกระจายทั่วแป้งโดเวลานวด ถ้าใส่เกลือโดยไม่ละลายก่อนอาจจะกระจายไม่ดีทั่วแป้ง



เทคนิคในการเตรียมและ ผสมพัฟเพสตรี้


1. ไขมันที่ใช้ควรเป็นพวกเพสตรี้มาการีน ซึ่งเป็นมาการีนที่มีจุดหลอมละลายสูง ประมาณ 115 องศาฟาเรนไฮร์


2. การห่อมาการีนด้วยแผ่นโด ควรวางไขมันห่างจากขอบแป้งประมาณด้านละครึ่งนิ้ว เพื่อเวลาคลึงไขมันจะไม่ทะลักออกมา และมีเนื้อที่กดของแป้งให้มิดติดกัน



3. การคลึงแป้งให้เกิดชั้น ไม่ควรให้บางหรือหนาเกินไป ถ้าบางเกินไปชั้นแป้งจะขาด ถ้าหนาเกินไปจะได้ลักษณะพัฟที่ไม่ดี


4. ควรพักแป้งโด ไว้ทุกครั้งที่มีการคลึงและพับทบแล้วในแต่ละครั้ง เพื่อให้แป้งคลายตัวและคลึงออกไปง่าย ๆ ในครั้งต่อไป


5. ก่อนพับทบแป้งทุกครั้งจะต้องปัดแป้งที่ใช้โรยเป็นแป้งนวลในระหว่างการพับทบ เพื่อกันแป้งโดติดกับพื้นโต๊ะออกให้หมด เพราะการมีแป้งอยู่มากจะทำให้ชั้น ๆ ในแต่ละชั้น ไม่ติดกันทำให้แป้งพัฟไม่ขึ้นฟูเท่าที่ควร


6. เพื่อป้องกันผิวแป้งโดไม่ให้แป้ง ในการพักแป้งแต่ละครั้ง ควรคลุมด้วยผ้าชื้น ๆ ในระหว่างการพักแป้ง


7. การรีดแผ่นแป้งโด ควรรีดคลึงให้สม่ำเสมอ รักษาริมขอบของแผ่นแป้งให้เป็นเส้นตรง มีมุมที่เป็นเหลี่ยมชัดเจน เพื่อพับแผ่นแป้งให้ได้จำนวนชั้นเท่ากันทุกส่วน


8. สำหรับการอบ อุณหภูมิควรอยู่ที่ประมาณ 400-450 องศาF ถ้าเตาอบอุณหภูมิต่ำเกิน กลูเต็นจะแห้งไม่ขยายตัวทำให้พัฟมีปริมาตรเล็ก หนัก ไม่โปร่งเบา ถ้าร้อนมากเกินไป จะทำให้ผิวนอกของพัฟแข็งตัวเร็วเกินไป ทำให้แป้งพัฟไม่ขยายตัวฟูเป็นชั้น ปริมาตรของขนมที่ได้จะเล็กเช่นกัน



ลักษณะที่ดีของเพสตรี้


แป้งพัฟเพสตรี้ จะแห้ง กรอบ เบา มึความเงามันและจะอยู่ตัว โดยเห็นโครงสร้างเป็นชั้น ๆ เมื่อกดหรือบิ ออกจะเห็นแผ่นแป้งเป็นเกล็ดบางๆหลุดออกเป้นชั้น ๆ ซึ่งเป็นลักษณะของขนมประเภทนี้โดยเฉพาะ


ส่วนแป้งพายหลังจากอบแล้ว ควรจะอ่อนและกรอบร่วนแตกง่าย สามารถหักเป้นเส้นตรงเหมือนคุ้กกี้





การทำพายชั้น เราสามารถเลือกใช้เนยที่จะนำมารีดได้หลายประเภทคือ


1.เนยสด มีคุณสมบัติคือมีจุดหลอมเหลวต่ำ ไม่ทนต่อการรีดหลายครั้ง การพักแป้งทุกครั้งจะต้องพักในตู้เย็น และจะต้องทำในห้องแอร์ เพื่อป้องกันไม่ให้เนยเหลวและทะลักออกมานอกแป้ง เวลาเข้าอบ เนยจะอ่อนตัวละลายออกมาก่อนที่แป้งจะดันตัว ทำให้การขึ้นชั้นของแป้งไม่ดีเท่าที่ควร แต่ขนมที่ได้จะมีรสชาติดี นอกจากการใช้เนยสดอีกชนิดหนึ่งที่ผลิตขึ้นเพื่อใช้ในการทำเพสตรี้โดยเฉพาะ จะมีจุดหลอมเหลวสูงขึ้น เพื่อให้เหมาะต่อการรีดพับแป้ง และมีรสชาติดี



2. เนยมาการีน มีจุดหลอมเหลวสูงกว่าเพสตรี้มาการีน เวลารีดคลึงมาการีนจะทะลักออกมาเลอะเทอะ รีดคลึงยาก เวลานำเข้าอบ มาการีนจะไหลออกจากแผ่นแป้งเสียก่อนที่น้ำในแป้งจะเดือดและดันตัวขึ้น




3. เพสตรี้ มาการีน มีจุดหลอมเหลวสูง เหนียว รีดคลึงง่าย ไม่ทะลักออกมาขณะรีดแป้ง ถ้าทำพายชั้นจากเนยชนิดนี้จะต้องรับประทานในขณะที่ร้อนเพื่อให้ความร้อนช่วยลดความเป็นไข เพื่อให้ไขมันละลายในปากได้ดีขึ้น





4. เนยผสม คือเนยที่ได้จากการนำเนยสด และเพสตรี้มาการีนมาผสมกันในอัตราส่วนที่เท่ากัน เพื่อให้ก้อนแป้งรีดคลึงง่ายขึ้น และมีรสชาติดีขึ้นกว่าการใช้เพสตรี้มาการีนอย่างเดียว







การทำพายชั้น เราอาจแบ่งกรรมวิธีในการวางเนยบนแผ่นแป้ง หรือวิธีการห่อแป้งได้ 3 ประเภท คือ


1. การวางเนยแบบอังกฤษ

การวางเนยวิธีนี้จะเริ่มจากการรีดแป้งให้เป็นแผ่นสี่เหลี่ยมผืนผ้า แล้วรีดเนย หรือมาการีนให้มีขนาดเท่ากับ 2/3 ของแผ่นแป้ง


วางเนยบนแผ่นแป้งโดยเหลือขอบไว้ด้านละ 1 ซม. แล้วบีบส่วนส่วนที่ไม่มีเนยวางอยู่เข้ามาครึ่งหนึ่งของเนย จากนั้นพับส่วนที่มีเนยทางด้านซ้ายมือเข้ามาอีกครั้ง ปิดตะเข็บโดยรอบแผ่นแป้งเพื่อไม่ให้เนยทะลักออกมา


คลึงก้อนแป้งให้มีขนาดเท่าเดิม พับ 3 ประมาณ 5 ครั้ง หรือวิธีการพับแป้งก็จะแบ่งเป็น พับ 4-3-4 ....ในการรีดพับแป้งแต่ละครั้งจะต้องมีการพักแป้งประมาณ 10-15 นาที เพื่อให้แป้งคลายตัว ถ้าไม่มีการพักแป้งเลย จะทำให้แป้งฉีกขาดในระหว่างการรีด



2. การวางเนยแบบฝรั่งเศส


เป็นการรีดแป้งออกมาในรูปซองจดหมายมี 4 ด้าน แล้ววางเนยตรงกลาง ดึงมุมทั้ง 4 ของแป้งที่รีดออกไปให้มาปิดก้อนเนยทุกด้านให้มิดชิด แล้วจึงนำมารีดคลึงออกมาเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า แล้วพับทบ 3 เช่นเดียวกับวิธีแรก




3. แบบสก๊อตหรือแบบผสมรวมกัน โดยการผสมเนยทั้งหมดลงในแป้ง ผสมให้เข้ากัน ให้ไขมันจับเป็นเม็ดและทำหลุมตรงกลาง ใส่น้ำและส่วนผสมอื่น ๆ ลงไป ผสมแป้งให้เข้ากัน แล้วจึงนำแป้งมารีดให้เป็นแผ่นสี่เหลี่ยมผืนผ้า แล้วจึงรีดพับแป้งแบบวิธีแรก









การรีดและพับแป้งหลายครั้งก็เพื่อ


ต้องการจะสร้างโครงสร้างที่เป็นชั้นของแป้งและไขมัน การรีดพับแป้งหลายครั้งจะได้แป้งที่มีลัษณะเป็นชิ้นบาง ๆ มากมาย หลังจากที่เราได้แป้งที่รีดพับเรียบร้อยแล้ว เราจะนำแป้งที่ได้มาทำรูปร่างต่าง ๆ หลังจากนั้นจะต้องมีการพับแป้งอีกครั้ง เพื่อจะให้แป้งคลายตัว จะทำให้แป้งขยายตัวได้ดี ไม่เสียรูป




หลังจากที่เราได้แป้งพายชั้นเรียบร้อยแล้วจะต้องมีการพักแป้งอีกครั้ง เพื่อให้แป้งคลายตัวยิ่งขึ้น ซึ่งจะขึ้นอยู่กับอุณหภูมิห้อง และสามารถทำแป้งพายในตู้เย็นก็ได้ ถ้าเป็นการพักในอุณหภูมิห้องจะใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที แต่ถ้าเป็นการพักในตู้เย็นจะต้องนำแป้งออกมาพักข้างนอกประมาณ 12 - 24 ชั่วโมง










หลังจากที่ได้พักแป้งเรียบร้อยแล้ว จะนำแป้งที่ได้มารีดให้บาง มีความหนาตามต้องการ อาจประมาณ 3-4 มิล ..... จึงนำมาใส่ไส้ต่าง ๆ หลังจากการใส่ไส้แล้วจะต้องมีการพักแป้งอีกครั้งประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนที่จะนำไปอบ ควรทดสอบแป้งอีกครั้งว่าพร้อมที่จะอบหรือยัง โดยการใช้นิ้วมือแตะเบา ๆ บนแป้ง ถ้ามีรอยนิ้วติดอยู่ แสดงว่าพร้อมที่จะอบได้แล้ว แต่ถ้ารอยนิ้วมือถูกดันกลับหรือไม่มีรอยนิ้วมือติดอยู่ หรือแป้งหดตัวเมื่อแตะนิ้วลงไป แสดงว่าต้องพักแป้งต่อไปอีกจนกว่าจะใช้ได้ ถ้าไม่มีการพักแป้งก่อนอบ แป้งจะหดตัวในตู้อบ ทำให้รูปร่างผิดปกติได้ การพักแป้งในขั้นตอนนี้ ถ้าในสถานที่พักมีอุณหภูมิสูง หรือพักแป้งใกล้เตาอบจะทำให้เนยที่มีอยู่ในก้อนแป้งละลายออกมา



โดยที่เราสามารถสังเกตว่ามีเนยละลายออกมาหรือไม่ เพราะจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แป้งพายไม่ขึ้นหลังจากนำเข้าอบแล้ว ก่อนที่จะนำขนมเข้าอบควรจะทาหน้าขนมด้วยไข่แดง หรือไข่ทั้งฟอง เพื่อให้ขนมเมื่ออบออกมามีสีเหลืองสวยน่าทาน กว่าไม่ทาหน้าด้วยไข่ เพราะขนมจะออกมาสีน้ำตาลด้าน ไข่จะไปทำให้เกิดสีเหลืองสวยและให้ความมันเงาที่ผิวหน้าของขนม







การอบแป้งพายชั้น


ควรใช้ไฟในการอบ ประมาณ 400-445 องศาฟาเรนไฮต์ ( 200-225 องศาเซลเซียส) ในระยะแรกความร้อนที่สูงมากพอนี้ จะทำให้ความชื้นที่มีอยู่ในตัวแป้งและเนยเดือดจนกลายเป็นไอน้ำ ชั้นของแป้งและเนยนับร้อยๆ ชั้นจะดันตัวขึ้นมาเกิดเป็นชั้นบาง ๆ กรอบ.............. กลูเต็นที่มีอยู่ในแป้งจะขยายตัวด้วยแรงดันของไอน้ำ และจะเก็บไอน้ำไว้ เมื่อยังคงได้รับความร้อนจากเตาอบอยู่ การกรอบเป็นแผ่นบางของขนมจะเกิดขึ้นจนกระทั่งกลูเต็นแข็งตัวก็จะได้โครงสร้างของขนมที่แข็งแรง มีคุณสมบัติเป็นแผ่นบางกรอบ ซึ่งจะเกิดจากการอบในช่วงสุดท้าย



เมื่อเห็นว่าแป้งพองตัวเต็มที่แล้ว เราจะลดอุณหภูมิลงให้อยู่ประมาณ 300- องศาฟาเรนไฮต์ เพื่อให้แป้งพายอยู่ตัว และได้สีเหลืองทองที่กรอบภายนอกแต่นุ่มภายใน หากสีได้ที่ตามความต้องการแล้ว แต่ตัวขนมยังไม่กรอบอยู่ทรง เราสามารถใช้ฟรอยซ์ปิดด้านหน้าเพื่อไม่ให้เกิดสีเข้มขึ้น และอบต่อจนกระทั่งสุกได้ค่ะ



ข้อควรปฏิบัติโดยทั่ว ๆ ไปสำหรับการทำพัฟ เพสตรี้


1. แป้งที่ใช้ทำพัฟจะต้องเป็นแป้งที่มีปริมาณกลูเต็นที่เหมาะสมเพื่อการทนต่อการรีดพับได้หลายครั้ง


2. ก้อนโดที่เตรียมได้ควรมีลักษณะที่เหมาะสมสำหรับ.....การทำพัฟ เพสตรี้


3. การรีดและพับทบแป้งจะต้องทำด้วยความระมัดระวัง เพื่อที่จะให้เกิดโครงสร้างที่เป็นชั้น ๆ บาง และมีการพองตัวที่ดี


4. ไขมันที่ใช้จะต้องเหนียว เพื่อทนต่อการรีดพับแป้งหลายครั้ง


5. ก่อนพับทบแป้งทุกครั้งจะต้องปัดแป้งที่ใช้โรยในระหว่างการรีดเพื่อกันติดกับพื้นโต๊ะให้หมด เพราะถ้ามีแป้งฝุ่นติดอยู่มากจะทำให้ชั้นต่าง ๆ ไม่ติดกัน ทำให้แป้งพัฟไม่ฟูเท่าที่ควร


6. ควรพักก้อนโดให้เพียงพอในระหว่างการรีดพับแต่ละครั้ง


7. ควรคลุมด้วยผ้าชื้นทุกครั้งในระหว่างการพักก้อนโด เพื่อป้องกันผิวโดไม่ให้แห้ง


8. ใช้อุณหภูมิที่เหมาะสมในการอบ





หมายเหตุ

การทำพายชั้นอาจดูยุ่งยากวุ่นวาย หลายขั้นตอนแต่ก็มีความท้าทายให้เราได้ทีเดียว เราสามารถฝึกการคลึงการทบชั้นต่าง ๆ จากการทำพาย


หากหลาย ๆ คนได้ลงมือ ......เจ๊หลีเชื่อว่าจะต้องติดใจเหมือนกับที่เจ๊หลีได้ทำเช่นกันค่ะ (หลังจากที่กลัวมานานมากแล้ว)






สองรูปข้างล่างเป็นผลงานพายชั้น จากที่เจ๊หลีทำเอาไว้ค่ะ








ตามไปดู สูตรและขั้นตอนการทำ Puff Pastry



ตามไปดู เจ๊หลีทำพายกรอบรูปโบว์





สุดท้ายนี้เจ๊หลี ขอขอบคุณ


ที่มาของข้อมูลบางส่วนจาก

-เอกสารการนิเทศการศึกษา ฉบับที่ 276 หน่วยศึกษานิเทศ กรมการฝึกหัดครู


-นิตยสาร food paper เล่มที่ 62 หน้า22 และ//naichef.50megs.com/ และรูปสวย ๆ บางส่วนจาก



จนกว่าจะพบกันใหม่บล็อกหน้านะคะ
















Create Date : 25 กรกฎาคม 2552
Last Update : 13 พฤษภาคม 2554 8:37:13 น. 15 comments
Counter : 19405 Pageviews.

 
ได้ความรู้เยอะเลยค่ะเจ้หลีขอบคุณมากนะค่ะยังไม่เคยลองทำซะทีซื้อแป้งพายสำเร็จรูปมาใช้ตลอดเลยค่ะ


โดย: june (supinnapa ) วันที่: 25 กรกฎาคม 2552 เวลา:20:36:42 น.  

 
ข้อมูลแน่นปึ๊กเลยนะคะเจ๊หลี ดีจังเลยค่ะ อย่างน้อยคนทำไม่เป็นอย่างส้มจะได้มีความรู้บ้างค่ะ


โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 25 กรกฎาคม 2552 เวลา:20:38:26 น.  

 


โดย: บี๋ (Yushi ) วันที่: 25 กรกฎาคม 2552 เวลา:21:46:31 น.  

 
หนูต้องทำส่งการบ้านเจ๊หลีแน่เลยค่ะ
คนที่บ้านอยากให้ทำอยู่ด้วย แต่หาสูตรถูกใจไม่ได้
ซักที คราวนี้หล่ะ เสร็จเรา


โดย: TP.pop วันที่: 25 กรกฎาคม 2552 เวลา:23:42:08 น.  

 
น่าทานมากเลยค่ะ

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: Macys วันที่: 26 กรกฎาคม 2552 เวลา:1:02:34 น.  

 
ขอบคุณครับ ได้ประโยชน์มากๆเลยครับ ขนมนี้แหละครับ ของโปรดน้องกระชายเลยคร๊าบ.........


โดย: น้องกระชาย (กระชายน้อย ) วันที่: 26 กรกฎาคม 2552 เวลา:1:14:34 น.  

 
ผมรู้ ผมรู้ พับเพสตรี้ ก็คือเพสตรี้ที่พับแล้ว (ชื่อก็บอกแล้วนี่ครับเจ๊หลี) ส่วนพายชั้นก็คือ พายของชั้น ไม่ใช่ของแก พายที่มีการแสดงความเป็นเจ้าของของผู้ที่ถือพาย

555 มาป่วนกระทู้ซะ


โดย: หลั่มหมั่นเหม่ง วันที่: 26 กรกฎาคม 2552 เวลา:8:18:30 น.  

 
กำ


คือ กำไม่แบ หรือ กรรม


ที่ชั้น (ไม่ใช่พายชั้น ) ที่มีน้องแบบแก เหอ เหอ


โดย: กิน ๆ เที่ยว ๆ วันที่: 26 กรกฎาคม 2552 เวลา:8:33:29 น.  

 
เข้ามาบ้านเจ๊หลีไม่เคยผิดหวัง ขนมสวยน่าทาน แถมได้ความรู้อีกด้วย ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ พัฟเพรสตี้เป็นอะไรที่ท้าทายน่ะค่ะ ครั้งแรกลงมือทำคิดว่าไม่น่าเลยตรูจะสำเร็จไหมนี่ แต่พยายามทำจนเสร็จกินได้แต่ไม่ค่อยดี แต่ทำไมไม่รู้ติดใจอยากทำอีก ทำบ่อยครั้งเริ่มดีขึ้น แต่คิดว่าต้องเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ ค่ะ


โดย: Baked by PonG วันที่: 26 กรกฎาคม 2552 เวลา:10:25:47 น.  

 
น่ากินจังเลย ได้ความรู้ด้วยค่า


โดย: มิคุริ วันที่: 26 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:06:30 น.  

 
สวัสดีคะ เจ๊หลี เอาความรู้มาฝากกันอีกแล้ว ขอบคุณมากเลยค่ะ


โดย: Honey J. วันที่: 26 กรกฎาคม 2552 เวลา:19:06:39 น.  

 
ขอบคุณสำหรับความรู้มากเลยค่ะ เจ๊หลี
ได้ความรู้กลับไปเพียบเลย

ครั้้งแรกกับการทำแป้งพายชั้น
เล่นเอาเหงื่อตก และคิดว่าต่อไปไม่ทำอีกแล้วตรู


โดย: ซามอ วันที่: 26 กรกฎาคม 2552 เวลา:20:50:13 น.  

 
เข้ามาเก็บฟามรู้ค่ะเจ๊หลี ได้ข้อมูลเพียบ

ขำเฮียหลั่มจังเรย อารมณ์ดีเสมอเรยนะคะ


โดย: นู๋เต้าหู้ วันที่: 26 กรกฎาคม 2552 เวลา:21:22:00 น.  

 
เห็นด้วยกับทุกคอมเม้นส์ค่ะ อ่านแล้วได้ความรู้มากเลบเรื่องพาย เคยเรียนทำขนมอบสมัยอยู่เมืองไทย แล้วอาจารย์ก็สอนทำพายชั้นแบบมีน้ำตาลอร่อยมาก ๆ เลยค่ะ กลับมาบ้านทำทานบ่อยมาก ๆ พอมาอยู่อเมริกาไม่ได้ทำทานเลย

แวะมาเยี่ยมเจ๊หลีทุกครั้ง นอกจากจะทำอาหารอร่อย ๆ หรือขนมน่าทานแล้ว ทุกครั้งยังมีการสอดแทรกประวัติความเป็นมาของอาหารและขนมไปด้วย ได้ความรู้มาก ๆค่ะ

ขอบคุณมาก ๆ น่ะค่ะสำหรับคอมเม้นส์หวาน ๆ ของเจ๊หลีที่ไปเม้นที่บล๊อกของไก่ ทุกครั้งที่เห็นเจ๊หลีมาเม้นส์จะอ่านและทำให้รู้สึกดีมาก ๆเลย ขอบคุณมาก ๆค่ะ คิดว่าถ้ากลับไทยกับสามี คงจะได้มีโอกาสได้ไปหาเจ๊หลีน่ะค่ะ

ช่วงวันหยุดสองวันนี้ไม่ได้ไปทำงาน สามีอยู่บ้านเชื่อไหมค่ะ ทำอาหาร ขนมทานทุกวัน เมื่อวานก็ทำค๊อฟฟีเค็ก ช๊อคโกแล็คและลูกเกตมัพฟิ่น ตอนเย็นทำข้าวเหนียว หมูทอดทาน พอวันนี้ก็ทำขนมปังลูกเกต ใส่ข้าวโอ๊ดและราดด้วยซินามอน ตอนเย็นก็จะทำไก่ทอดพร้อมข้าวเหนียวอีกค่ะ ที่ทำอาหารเพราะสามีอยู่ค่ะ ถ้าสามีไม่อยู่ก็ไม่มีคนช่วยทาน เวลาทำอาหารแล้ว สามีชมและชอบรู้สึกดีใจมาก ๆค่ะ ยิ่งตัวเองเป็นคนบ้ายอด้วยค่ะ เวลาใครชมทำอาหารเก่งและอร่อย จะขยันทำและเอาไปแจกคนชมค่ะ

เจ๊หลีสบายดีน่ะค่ะ ที่บ้านร้อนมากค่ะ ต้องเปิดแอร์ทุกวันเลยค่ะ


โดย: สวยตลอดกาล วันที่: 27 กรกฎาคม 2552 เวลา:5:56:30 น.  

 
เริ่ดค่ะเริ่ด

คุณแม่ชนะเลิศศศศศศศศศศศ!!!


โดย: ว่าที่ลูกสาวคนที่ 2 (แมงโม้) IP: 125.25.86.238 วันที่: 27 กรกฎาคม 2552 เวลา:13:33:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กิน ๆ เที่ยว ๆ
Location :
นครปฐม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 387 คน [?]







C o m i n g S o o n




P i c t u r e...L i n k s

M y ...B a k e r y


Rilakkuma Roll Cake

เค้กคัสตาร์ดชิฟฟ่อน

เค้กกล้วยหอมสุตรปรับปรุงของบีบี๋

คุ้ ก กี้ แ ฟ น ซี

คุ้ ก กี้ เ น ย

พ า ย ผี เ สื้ อ

พ า ยไ ส้ ก ร อ ก

พายกรอบรูปโบว์

<br>แต่งหน้าเค้กกระเช้า

หัดบีบกุหลาบ

ไอซิ่งกุหลาบ


M y...T h a i ... D e s s e r t


ล อ ด ช่ อ ง

ถั่ ว ท อ ด แ ผ่ น

ถ้ ว ย ฟู Fatt Koh

ข้ า ว ต้ ม มั ด

ข้ า ว ต้ ม น้ำ วุ้ น

ปุ ย ฝ้ า ย

<br>สังขยาไม่หวานจากฟักทองแกะสลัก


ไ ข่ น ก ก ร ะ ท า

<br>ข้ า ว เ  ห นี ย ว มู ล อั ญ ชั น

ก ล้ ว ย เ ชื่ อ ม<br>

ม ะ ม่ ว ง ก ว น



M y..A p p e t i z e r


ข น ม ช่อม่วงช่อชมพู

ข น ม จี บ ไ ท ย ตั ว น ก



M y... F r u i t... C a r v i n g



<br>แกะสลักฟักทองเป็นกุหลาบจัดจาน


<br>แกะสลักฟักทอง

แกะสลักมะม่วง



M y... C h i n e s e ...F o o d



กี จ่ า ง

<br>บ๊ะจ่าง

<br>บะหมี่หยก




F o o d P r e s e r v a t i o n


ไ ข่ เ ป็ ด ด อ ง เ  ค็ ม


M y ...G a r d e n


<br>พริกกระเหรี่ยงในบ้านเจ๊หลี


<br>ดอกอัญชันในบ้านเจ๊หลี


S h o r t ... N o t e

เจ๊หลี "美 麗"กิน ๆ เที่ยว ๆ เหตุที่ใช้ชื่อนี้เพราะเป็นความใฝ่ฝันว่า สักวันจะใช้ชีวิตแบบ กิน ๆ เที่ยว ๆ ไงคะ ^.< แต่คงไม่ถึงกับเดินไม่ไหวแล้วค่อยเที่ยวหรอกนะคะ 555++

หลาย ๆ คนถามว่าทำไมเจ๊หลีไม่เขียน Blog บ่อย ๆ เหตุผลคือเจ๊หลีติดงานประจำที่ทำอยู่ค่ะ ทำงานจันทร์-เสาร์ กว่าจะได้บล็อก ๆ หนึ่งเจ๊หลีก็ต้องทำขนมไปด้วย ถ่ายรูปไปด้วย มือก็เปื้อนกลัวกล้องพังก็กลัว กลัวขนมไม่ได้ที่ก็กลัวลำบากมากนะคะ เพื่อน ๆ ลองหลับตานึกภาพดูก็ได้... แต่เจ๊หลีก็เลือกที่จะทำค่ะ เก็บไว้ให้ตัวเองได้ดูว่าผ่านมาเราทำอะไรไว้บ้าง

เรื่องการอัพ Blog เจ๊หลีทำเพราะชอบถ่ายรูป โดยเฉพาะชอบลองสูตร ไม่ได้หมายความว่า ทำขนมหรืออาหารเก่งหรอกนะคะเพื่อน ๆ ลองทำลองดู แล้วนำมาแชร์กันใน Blog ถูกผิดยังไงช่วยแนะนำได้ค่ะ

พักเหนื่อยก็เข้า Blog.... Blog เป็นพื้นที่เล็ก ๆ ที่แสดงความเป็นตัวตนของเจ๊หลี ..ทุกรายละเอียดเจ๊หลีทำด้วยความตั้งใจ และใส่ใจ หาก Blog นี้ทำประโยชน์ให้ใครได้แม้เพียงคนเดียว...เจ๊หลีก็ยินดียิ่งแล้วนะคะ


อยากให้ทุกคนทราบว่า เจ๊หลี.ปลื้มมากมาย ^0^ สำหรับทุก comment ที่น่ารักและอีกหลาย ๆ กำลังใจค่ะ

Strawberry Chocolate Donut
Friends' blogs
[Add กิน ๆ เที่ยว ๆ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.