ไปดู "เร่ขายฝัน" เฉลียง เดอะ มิวสิคัล รอบสุดท้าย (ของ re-stage) มา
แบบว่า ดึกแล้ว
ตอนนี้เที่ยงคืนครึ่งแล้ว ดึกมากแล้ว เจ้าของบล็อกป่วย ควรจะนอนได้แล้ว
(แต่ยังไม่ได้อาบน้ำเลย)
จริงๆ ไม่ควรจะมาอัพอะไรพวกนี้แล้ว
แต่แค่อยากบอกว่า วันนี้เค้าได้กอดนัทด้วย วะ ฮะ ฮะ ฮะ ฮ่าาาาา
(เสียงหัวเราะยังก๊ะยักษ์ในตะเกียง - -")
ข้อความนี่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับหัวข้อบล็อกเล้ย ฮะ ฮะ
เอาแบบเต็มๆ ก็
วันนี้ไปดูละคร
กินข้าวที่ร้านอาหารญี่ปุ่นใต้ถุนตึก M Theatre และขอแนะนำทุกคนว่า สุดยอดแห่งความไม่ถูกปากจริงๆ ร้านนี้ - -" ใครอยากลอง เชิญ แต่สำหรับเรา จะไม่มีวันแตะมันอีกแล้วเด็ดขาด
ถึงอยู่ในร้านจะได้เจอพี่ป๊อด โมเดิร์นด็อก พี่จุ้ย ศุ บุญเีลี้ยง และคุณแม่พี่แอม เสาวลักษณ์ (เค้าชื่อฉันทนาอะไรซักอย่างใช่ป้ะ?)
อ้อ ไปถึงเจอคุณน้าญาณี ตราโมทลงมาจากแท็กซี่ แล้วระหว่างเดินไปเดินมา ก็เจอบอย เอเอฟสอง เดินออกมาทักทายแฟนๆ ด้วยก็เหอะ
ช่างเป็นวันรวมศิลปินจริงๆ ฮ่า ฮ่า
ร่ำๆ อยากจะไปขอพี่ป๊อดถ่ายรูปเหลือเกิน แต่ก็เกรงว่าพี่แกจะเอาตะเีกียบจิ้มตา (เพราะพี่ป๊อดกินอยู่) จริงๆ อยากจะกระซิบบอกตั้งแต่พี่ป๊อดเข้าร้านแล้วว่า อย่าเข้าเลยค่ะพี่ ไปกินร้านอื่นเห๊อออ
แต่นั่นแหละ เราเก๊าะเลยได้แต่ยืนโบกมืออำลาพี่ป๊อด(แบบที่พี่แกไม่รู้ตัว)จากด้านหลัง
แล้วก็เดินสายพบเพื่อน (ฮา) ซื้อซีดี Original Soundtrack ของเรื่อง (แบบที่มีทุกเพลงน่ะ) ราคา 250 บาท เพลงเป็นตับ 2CD เอ คุ้ม คุ้ม
เสร็จแล้วต่อด้วยการนั่งฆ่าเวลา เพราะดันไปเช้าเกิน - -" ไม่มีไรทำแล้วเฟ้ย
ระหว่างนั่งฆ่าเวลา ก็เดินแร่ดไปมา จนได้ไปยลโฉมหนังสือ Behind the Scene เร่ขายฝัน เนื่องจากมีอีกคนเค้าก็จะดูเหมือนกัน (คาดว่าเค้ามาก่อนด้วย แหะ แหะ เราหน้าด้านแย่งเค้าเปล่าหว่า?) เลยชวน "มาดูด้วยกันเลยดีมั้ยคะ?"
แล้วก็เริ่มไล่กันตั้งแต่หน้าแรก
มันมาตั้งแต่เอ็มวีเร่ขายฝันของเฉลียงสมัยโน้นนนนเลยอ้ะ เปิดได้เพลิดเพลินยิ่งนัก สำหรับคนที่ชอบเฉลียงอ้ะนะ
ลักษณะหนังสือก็เล่มเหมือนเรื่องราวบนแผ่นไม้ สมัยที่เป็นเล่มสี่เหลี่ยมจัตุรัสใหญ่ๆ ปกแข็ง อะ
มีชนะลมข้างในด้วยนะ แต่ที่สำคัญกว่านั้น... มีเบื้องหลังเยอะแยะเลย ฮะ ฮะ
ดูไป ดูมา ก็ใจง่าย ลงชื่อสั่งจองไปเรียบร้อย ฮะ ฮะ แต่ก็คิดหนักอยู่นะ เล่มมันใหญ่ยักษ์ จะเอาไปวางไว้ไหน - -"???
ที่นั่งคราวนี้ไฮโซมากกกกกกกกกกก
แบบว่า ด้วยความอุตสาหะ (?) บากบั่นไปจองที่หน้าโรงละครอัปสราตั้งกี่ชาติที่แล้วไม่รู้ เลยทำให้ได้ที่นั่งหน้าสุด (แถว A) ชนิดที่มีคนเปรียบเปรยว่า คงโดนน้ำลายนักแสดงกระเซ็นใส่ด้วย ฮะ ฮะ
ก็แปลกดี ไม่เคยดูละครเวทีแถวหน้าสุดมาก่อนอะนะ ส่วนมากต้องแถวกลางๆ จะได้เห็นคลุมๆ ทั้งเวที
แต่เรื่องนี้ ตรงกลางดูแล้ว ด้านหลังสุดดูแล้ว ไม่แตกต่างกันเลย ก็เหลือด้านหน้าสุดนี่แหละ ประชดชีวิตดี ฮ่า ฮ่า
แต่ที่นั่งคราวนี้ก็ทำให้เห็นอะไรหลายๆ อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในสองรอบก่อนหน้านี้นะ
เรื่องราวนี่ ใครๆ ก็คงรู้กันหมดแล้วมั้งว่ามันเป็นยังไงบ้าง
เรื่องบททั้งหลาย คราวนี้ก็ไม่ได้แตกต่างจากของเดิมเท่าไหร่นะ แค่เปลี่ยนมุขจาก "วรนุช" มาเป็น "หลินปิง" (พร้อมท่าทางประกอบ ฮะ ฮะ)
(เออ แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ว่าทำไมต้อง "วรนุช" ด้วย???)
ปุยปุย ก็ยังน่ารักเหมือนเดิม เป็นหนึ่งในผู้หญิงจำนวนน้อยที่ต้องใช้คำว่า "เกลียดไม่ลง" กร๊าก แบบว่า อิจฉาอะ... ได้กอด แทะโลม ลูบไล้ ชนะลม ตั้งหลายที แต่ก็ยังคิดว่าน่ารัก ฮะ ฮะ
(น้องมิ้นแสดงได้น่ารักจริงๆ อ้ะแหละ)
ยิ่งหลังชนะลมตาย ปุยปุยที่เปลี่ยนบุคลิกไปอย่างสิ้นเชิงก็ทำให้เราได้เห็นคาแร็คเตอร์ของผู้หญิงธรรมดาๆ คนนึงที่น่ารักเหลือเกิน มีอารมณ์เหงา มีอารมณ์เศร้า กับเค้าด้วย..... ปุยปุยเอ๊ย ชนะลมมันตาถั่ว อย่าไปเสียใจเลยหนู มามะ เดี๋ยวพี่พาไปหาผู้ชายในฮาเร็ม ฮะ ฮะ ฮะ...
แม่เฒ่ายับยับ นี่ คราวนี้ตอนสไลเดอร์ลงมาประชุมมีการสะดุดเล็กน้อย ขำกันทั้งโรงเลยเชียว ตอนพูดไปพูดมา แม่เฒ่าทำหัวไม้เท้าหลุด เลยเพิ่งรู้ว่ามัน "แขวนแก้ว" เอาไว้ - -" ปุยปุยก็เดินมาเก็บแก้วเอาไปใส่คืนไม้เท้าให้ด้วย ฮะ ฮะ (ต้องดูรอบที่ 3 เนี่ย ถึงเพิ่งจะรู้!!)
ยังไงก็ยังชอบอารมณ์ของพี่เหมี่ยวปวันรัตน์ ตอนแม่เฒ่ายับยับแกพูดว่า "พวกเราทำผิดอะไร?" มากจริงๆ ...เสียดาย บทไม่ได้เขียนให้ช่วงนี้มันส่งเท่าไหร่ ไม่งั้นคงปล่อยโฮไปแล้ว
ชอบจริงๆ นะเออ... เป็นบทพูดที่ "จดจำ" มากที่สุดหนึ่งในสามบทเลยล่ะ... คงเพราะมันคล้ายๆ กับชีวิตจริงในสังคม... ที่คนที่ถูกกระทำคงจะเคยถามตัวเองว่า "เราทำผิดอะไร?" ล่ะมั้งนะ?
พี่หัวเต่ง พี่ไข่เจียว และน้องแก้มน้อย ทั้งสามคนนี้ก็ยังคงเป็นดาราที่เด่นกว่านักแสดงเด่นอยู่ดี ฮะ ฮะ คาแร็คเตอร์โดดเด่น น่ารัก น่าหยิก และสร้างความฮาได้แบบไม่ผิดหวังไม่ว่าจะออกมากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
ถึงจะดูรอบที่สามแล้ว ก็ยังฮากับมุขพี่หัวเต่งอยู่นะ ฮะ ฮะ
พระจันทร์ ยังคงเป็นนางเอกที่สำหรับเราแล้ว... ท่าทางการเดินนี่มัน XXX ไงไม่รู้ ฮะ ฮะ... แบบว่า ดูรู้เลยว่าละคร อะไรทำนองนั้นอะนะ (คนปกติไม่เดินแบบนี้หรอก นอกจากยัยพระจันทร์คนเดียว ฮะ ฮะ) น้องโบว์ร้องเพลงเสียงใสนิ๊ง แต่ก็ยังคงคิดว่าเป็นโบว์ ไม่ได้เป็นพระจันทร์เท่าไหร่อยู่ดี ...คงเพราะท่าทางด้วยมั้ง?
พอดีว่าชอบผู้หญิงแข็งแรงบึกบึนโจ่งแจ้งอย่างปุยปุย แต่อย่างพระจันทร์นี่ ให้ชนะลมกะพันหนึ่งหลงไปก็พอละ ฮะ ฮะ
คราวนี้เพราะนั่งหน้า เลยได้เห็นอารมณ์ตัวละคร "ชัด" กว่าเดิมเยอะมาก (ถ้าจะให้ชัดกว่านี้ คงต้องขึ้นไปนั่งบนเวทีแล้วแหละ ฮะ ฮะ) เลยกลายเป็นคอยจ้องปฏิกิริยาของคนอื่นๆ รวมทั้งอองซอมเบิลทั้งหลาย พลเมืองทั้งสองนคร
เออ มันแปลกดีนะ ไม่เคยสังเกตเลย ปกติสายตาไปติดอยู่ที่ตัวเด่นเท่านั้น ฮะ ฮะ
พอดูแบบนี้แล้วชอบจัง เห็นชัดเจน สามารถเลือกรับรู้ได้ แบบที่ละครทีวี หรือภาพยนตร์ทั้งหลายทำไม่ได้ เพราะอันนั้นมีคนอื่น "เลือก" สิ่งสำคัญมาใ้ห้ดูแล้ว (แต่บางทีเราก็อยากดูองค์ประกอบอื่นๆ บ้าง อะไรบ้าง อะนะ)
โดยเฉพาะทางเมือง "ตรรกะ"
เมื่อก่อนไม่ค่อยได้สนใจ "เด็กล้างจาน" เลย ก็เค้าหันหลังให้คนดูเกือบตลอดเวลา - -" จะไปเสล่อเห็นท่าทางอารมณ์เค้าได้ยังไงฤา?
แต่พอมาได้นั่งแถวหน้าสุดฝั่งชนะลมตาย (ฮา) แบบนี้ เด็กล้างจานก็จะอยู่แทบจะตรงข้ามเราพอดี เลยได้เห็นหน้าตา ท่าทาง สีหน้าแสดงอารมณ์ต่างๆ นานาของน้องเด็กล้างจานนี่
เออ เปิดหูเปิดตามากๆ เลยอะ
ชอบ ชอบ ชอบ
ใครว่าพันหนึ่งเป็นคนแรกที่เอนเอียงไปทางเอกเขนก? เราว่าไม่นะ ตาเด็กล้างจานนี่แหละ เป็นคนเดียวที่ดูไม่เหมือน "หุ่นยนต์" ในฉากนั้น!
ตัวละครอื่นๆ ในเมืองตรรกะก็ดูมีชีวิตมากขึ้นสำหรับเรา แต่ว่าแต่ละตัวก็ยังคงการแสดงไว้คล้ายๆ ของเดิมแหละ
ที่ทำให้ประทับใจที่สุด คงเป็นพ่ออี๊ด ชายตาบอด ล่ะมั้งนะ
เมื่อก่อนนั่งไกลๆ ก็ยังรู้สึกว่าพ่ออี๊ดส่งถึง อยากบอกอะไรพ่ออี๊ดบอกได้หมดด้วยท่าทางที่ชัดเจน และการใช้น้ำเสียงที่ลงตัวไปหมด ..แต่พอแสล๋นมานั่งหน้าสุดนี่ .... โหย อยากให้ใจชายตาบอดเหลื๊ออออเกิน
ชอบสีหน้า อารมณ์ ต่างๆ ที่ปกตินั่งด้านหลังไม่เคยเห็นมาก่อนเลย (แหงสิ นอกจากจะสายตายาวน่ะ - -") มันทำให้อินกับบทมากขึ้น มากขึ้น ทุกที ...ได้เห็นชายชราที่ถึงจะแก่ แต่ก็ "เก๋า" ...คนที่คงจะมีอิทธิพลกับใครบางคนไปจนตลอดชีวิต
ไม่แปลกใจเลย ที่วันนี้รู้สึกว่า "แสนเก้า" เ่ล่นได้ดีมากกว่าทุกครั้งที่เคยดู
ครั้งแรกที่ดูนั่น ชอบแสนเก้านะ ส่วนครั้งที่สอง (รอบสุดท้าย) รู้สึกแสนเก้าพลังตกลงไปแยะ - -" ไม่ดูดุดันอย่างตัวโกงที่เคยเห็นก่อนหน้านี้ ที่เหลือก็ไม่เห็นอะไร
พอมารอบนี้ สงสัยแรงน้องต้อลยังเหลือเฟือมั้ง เล่นน้อยรอบอะ ฮะ ฮะ เลยมีพลังกันเต็มที่เลย แต่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน คือ "อารมณ์" ของแสนเก้า
คราวนี้ แค่เห็นตาวิบๆ วับๆ ล้อแสงไฟ ...สายตาที่เหมือนจะตัดพ้อต่อว่าโชคชะตาที่ชื่อว่า "ดุลยพินิจ" แล้วก็เก็บซ่อนความนัยน์เอาไว้เพียบ
เออ คราวก่อนๆ หน้านี้ไม่เคยสังเกตเห็นเลยจริงๆ นะ!!
คราวนี้แสนเก้าเลยโดน "จังๆ" ได้ใจเราไป "เต็มๆ" เลยเชียวแหละ ฮะ ฮะ (ทำไมเห็นหน้าปุยปุยลอยมาแต่ไกลเลยฟะ?? เฮ้ย ผิดคู่)
เพราะงั้น "อยู่ที่ใคร ใครเป็นคนตัดสิน" นั่น มันก็เลยติดหูมาเป็นอีกหนึ่งประโยคที่ชอบประจำละครวันนี้ ฮะ ฮะ
แต่ฉากที่ชอบสุดๆ คงเป็นฉากตอนที่แสนเก้าจะฆ่าชายตาบอดล่ะมั้งนะ มันอินอะ.. อิน...
มีอีกอันเข้าชิงจากแสนเก้า แต่อันนี้ส่วนตัวเล็กน้อย ตรงประโยคที่ว่า "จับถูกงวง ช้างกลวงเป็นรู" อันนี้ติดตรึงมาก เพราะว่า................
แสนเก้ามาทำมือเป็นงวงอยู่ตรงหน้า...เป๊ะ มองลงมา...ตรงเป๊ะ!! กรี๊ดดดดดดดดดดด ตกใจ ฮ่า ฮ่า
อยากบอกว่าอยู่แถวหน้าสุดนี่ ได้ประสานตากับแสนเก้ามากกว่าคนอื่นๆ เลยแหล๊ะ โอ๊ย แค่นี้ก็คุ้มค่าบัตรละ ฮะ ฮะ
พันหนึ่ง ก็เป็นอีกคนที่เรามีประโยคประทับใจด้วย.. ประโยคที่ว่า "การทำร้ายผู้อื่น เพียงเพราะเขาต่างจากเราต่างหาก คือสิ่งที่ไม่มีเหตุผลที่สุด" ... ยังเป็นประโยคท็อปฮิตอยู่ในใจมาตลอดสามรอบอยู่ดี ฮะ ฮะ
คราวนี้พันหนึ่งสนุกขึ้นเยอะเลย สนุกขึ้นกว่าครั้งแรกๆ ที่ดูเยอะ มีมิติ มีชีวิตชีวา สรุปว่า ชอบ ฮะ ฮะ
ไอ้ตอน "เงาะโรงเรียน" ที่โผล่มาเยอะๆ นั่น ก็เล่นได้เนียนดี (เข้าใจว่าซ้อมมาแล้ว ฮะ ฮะ ส่วนชนะลมไม่ต้องทำไร ทำหน้าเอ๋อๆ ไว้ก็พอ)
ชายนิรนาม นี่... ตกใจ.. ฮะ ฮะ แบบว่า ตอนที่เจอพี่จุ้ยตรงร้านราเม็งข้างล่างนั่น พี่จุ้ยยังดูไม่อ้วนเท่าไหร่อยู่เลย ทำไมใส่ชุดนี้แล้วดูอ๊วนนนนอ้วนหว่า?? - -" สรุปว่า ชุดผิด ทำให้ใส่แล้วดูอ้วน ฮะ ฮะ
ชุดแบบนี้นี่ ชนะลม ใส่ไม่ได้เชียว ใส่แล้วจะทั้งตันทั้งอ้วนไปด้วย - -" เปล่าหว่า?
เสียงเพลงพี่จุ้ยก็ทำให้เราเคลิ้มไปได้ไม่เบื่อเลยจริงๆ ให้ตายเหอะ คราวหน้าเอาเฉลียงมาเล่นครบวงเลยไม่ได้เหรอคะ? แบบว่า อยากดูอ้ะ >___<~!!
ยังขาดใครอีกเนี่ย?
อ๋อ ชนะลม
อยากบอกว่า ชนะลมเป็นคนเดียวที่น่าจะดูไกลๆ มากกว่าใกล้ๆ ล่ะ!!
แบบว่า ตอนที่ดูไกลๆ รู้สึกว่า โถ พ่อคุ๊ณ ทำไมช่างน่าเอ็นดู น่าทะนุถนอม น่าแกล้ง ซะขนาดนี้ แต่พอมาดูใกล้ๆ แล้ว
เอ่อ ความน่าเอ็นดูก็ยังคงอยู่อะนะ...
แต่ว่า ชนะลมคะ หนูฟิตกล้ามมากไปหน่อยป้ะคะ??
บทมันอ่อนแอขี้โรค ยกขวานใหญ่ไม่ไหว
โห๊ย แต่ใ้ต้ร่มผ้า (เอ๊ะ หรือเค้าเรียกแขนเสื้อที่เกือบจะกุด?) นี่ นับไม่ถูกเลยว่า "กี่มัดต่อกี่มัด"
พี่แบบ... ทำตัวไม่ถูกเลยอะชนะลมเอ๊ย ตกลงหนูจะอ่อนแอ หรือหนูจะล่ำ? เอาให้มันแน่ๆ ซักอันได้มั้ย???
แล้วคงไม่ต้องถามนะ ว่าปกติพี่ดูชนะลมที่ตรงไหน??
(ก็หน้าไง หน้า ฮ่า ฮ่า)
คราวนี้ชนะลมร้องเพลงดีเลยนะ แต่อย่าโกรธเค้านะ ถ้าเค้าจะบอกว่าพี่ชอบเสียงร้องมากกว่าชอบการแสดงอ้ะน้องเอ๊ย (ไม่เกี่ยวกะกล้าม ฮะ ฮะ) ....แต่ว่ารู้สึกว่าเสียงชนะลมแปลกไป บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าแปลกตรงไหน แต่รู้สึกว่ามันไม่เหมือนเดิมแฮะ?? ไม่สบายเปล่าเนี่ย??
ตรงที่นั่งนี่ ชนะลมมาตายตรงหน้า เป๊ะ
คราวนี้ไม่ขำตอนน้องแกสิ้นลมแล้ว ฮะ ฮะ รอบก่อนหน้านี้ขำ เพราะมันแบบ ตายแบบไม่เป็นธรรมชาติที่สุด (จริงๆ แล้วยัยพระจันทร์แอบเอาเข็มพิษมาทิ่มใช่มั้ยยะ?) รอบนี้ไม่รู้สึกเท่าไหร่แล้ว รู้แต่ชะเง้อคอแทบแย่ ....เป็นห่วง.... เห็นทิ่มหน้าลงไปขนาดนั้น กลัวจมูกบี้ ฮะ ฮะ
เศร้านะฉากนั้นอะ
แต่ฉากที่ชอบกว่า คือสายตาของปุยปุยที่มองชนะลมอย่างมีความสุข กับชนะลม ที่ออกมาสั่งลา ฝากฝังโลกใบน้อยไว้ในอ้อมแขนเล็กๆ (แต่โคตรแข็งแรง) ของปุยปุย
นี่แหละ คู่นี้ควรจะเป็นแบบนี้... ไม่ควรจะมีความ "เศร้า" ระหว่างสองคนนี้เลย
สายตาของปุยปุยนี่ ชอบมากกกกกกกกกกกกก ส่วนชนะลม ก็ทำให้ไพล่ไปคิดถึงเพลง "เรื่องจริง" ในเดอะมาสเตอร์วีคนั้น....
ความ "ไม่โลภ" ที่ชนะลมแสดงออกมา บางคนอาจจะคิดว่ามันแพ็คคู่มากับคำว่า "ขี้ขลาด"
แต่เราว่าไม่นะ... ต่างกันเยอะ.... และมันก็เป็นสิ่งที่คนทั่วๆ ไปควรจะมีไม่ใช่เหรอ?
ตอนนี้โลกมันก็วุ่นวายมากพอแล้ว เพราะ "ความโลภ" ของคนนี่แหละ
แสนเก้าเองก็โลภ อยากได้ตำแหน่งท่านประธาน ได้ไปแล้วแล้วเป็นไงล่ะ....... หึ หึ
เค้าว่า
"จะมองเห็นความงามที่จริง อย่าขังความจริงไม่เห็น อย่าขังความงาม"
แต่ก็ยังยืนยัน... ชอบเสียงชนะลม มากกว่าการแสดงจ้ะ (บทมันก็ไม่ค่อยมีอะไรด้วยแหละนะ)
แต่ถึงงั้นก็เหอะ เรากลับอยากให้โลกนี้มีแต่คนแบบชนะลมเต็มเมืองแฮะ ถ้ามีคนแบบนี้ในโลกซัก 10% (มากไปมั้ย?) โลกมนุษย์เราคงน่าอยู่และสงบสุขมากขึ้นอีกเยอะ
ปล. แต่ไม่ใ่ช่อีก 90% ที่เหลือเป็นแบบแสนเก้าหมดนะยะ!!! นรกเลยนั่น
ที่นั่งหน้าสุดมันก็ไฮโซดีอะนะ แต่ว่ามันก็บดบังทัศนวิสัยบางฉาก อย่างเช่นไอ้ฉากตอนท้ายๆ ที่แสนเก้าไปยืนบนสแตนด์สูงโด่ มีเอกเขนกอยู่ข้างหน้า ทุกฉากที่อยู่ตรงนั้น แทบไม่เห็นหน้าแสนเก้าเลย
เออ แต่ก็เป็นช่วงที่ไม่ชอบที่สุดช่วงนึงในเืรื่องเลยเหมือนกัน
รู้สึกเหมือนดู trailer หนังฝรั่งที่ทำออกมาช้าๆ แทนที่จะรวบรัดได้ใจความ ไรเงี้ย เลยออกง่วงๆ เล็กนอ้ย
หลายๆ ฉากในเรื่องก็ยังคิดว่าตัดได้นะ อย่างฉากจับไก่นั่น ก็เข้าใจว่าอยากเรียกอารมณ์ แต่มันแบบ... หาอะไรที่เข้ากับเรื่องนิดนึงดีกว่ามั้ยคะ? ฮะ ฮะ
ตอนท้ายๆ เรื่องนี่จะหลับทุกที ยืดไป ถ้าใช้ดนตรีให้ตื่นเต้น เร้าใจ ก็ยังดีอะ นี่แบบ ช้าๆ เอื่อยๆ สลับไปสลับมา... . คร่อก
แต่ยังไงก็ชอบเรื่องนี้มากๆ นะ ^^
เล่นจบ มีการให้ดอกไม้กับนักแสดง
พันหนึ่ง - พระจันทร์ - ชนะลม - ปุยปุย - แสนเ้ก้า- พายอาร์ บลา บลา บลา อะไรก็ว่าไป ตอนแรกเค้าลืมให้ตี๋ด้วยแหละ ฮ่า ฮ่า แล้วค่อยเอามาให้ีทีหลัง
พี่จุ้ยควงเด็กหญิงสารภีและเด็กชายอะไรไ่ม่รู้ออกมารับดอกไม้ด้วยแหละ
เสียงกรี๊ดของอองซอมเบิลดังมาก คาดว่ามีความสุขที่ละครจบด้วยดี คนดูก็เต็มโรงเลยทีเดียว (ใช่เปล่าหว่า?)
เสร็จแล้วก็มีถ่ายรูปหมู่
แล้วก็รับดอกม้งดอกไม้ ฯลฯ จากแฟนๆ เล็กน้อย เราอยู่แถวหน้าสุดก็ถ่ายๆ มาบ้างนิดหน่อย
เจอใครไม่เท่าไหร่ เห็นพี่จุ้ยมายืนใกล้ๆ ก็เผลอตัวไป กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดพี่จุ้ย แล้ววิ่งเข้าใส่เลยทีเดียว ฮ่า ฮ่า (นี่แค่พี่จุ้ยนะ ถ้าเป็นพี่ดี้ พี่เจี๊ยบ พี่แต๋ง พี่เกี๊ยง สงสัยช็อคตายตรงนั้น ฮะ ฮะ)
ชนะลมก็มา
อย่าลืมอาบน้ำให้สะอาดนะจ๊ะ!!
สำหรับคนนี้ คนที่ชอบที่สุดของวัน....
จบแล้ว ถ่ายรูปดาราจนหนำใจแล้ว ก็แวะเ้้ข้าห้องน้ำ แล้วจะเดินไปที่จอดรถ
โอ๊ะ นัทลงมาแล้ว??? ??
ทำไมลงมาเร็วจังอ้ะ? แปลก แปลก
เนื่องจากขบวนติด ไม่มีใครยอมกลับ เลยต้องยืนรออยู่ด้วยอะนะ ระหว่างนั้นก็ยืนห่างมาก เพราะเ้ข้าไปใกล้ไม่ได้ - -" คนแออัดสุดๆ
แล้วเราก็นึกได้ว่า ยังไม่ได้ขอกอดเลยนี่หว่า....
แต่คนเยอะขนาดนี้ - -" ไม่ไหว ไม่ไหว อายเค้า
(ไม่น่าเชื่อว่ามัน "สะกด" คำนี้เป็น ฮะ ฮะ)
แล้วที่บ้านนัทเค้าจะถ่ายรูปรวมๆ กัน ไม่อยากโผล่หน้าอ้ะ ฮ่า ฮ่า เลยอาสาเป็นตากล้องให้แทนละกันน้า
ถ่ายเสร็จก็รีบส่งคืน ระหว่างนั้นเลยได้อยู่ใกล้ศิลปินขึ้นมาอีกนิด
นัททำท่าจะกลับ ก่อนกลับก็มีการพูด "ลืมอะไรอีกรึเปล่า?" พร้อมกวาดมองรอบวง ตอนนั้นก็มีคนถามอยู่เหมือนกัน ว่าไม่ไปขอกอดเหรอ?
ไม่ล่ะ เกรงใจ
อุ๊ย แต่ศิลปินดันชี้หน้ามา พร้อมบอกว่า "วันเกิดนี่"
อร๊ายยยยยย เสร็จโจรรรรรรรร (ปล้น...?)
เอ๊ย เสร็จเรา ฮ่า ฮ่า
เลยแล่นเข้าไปกอดหนึ่งที ขอรับเป็นกอดวันเกิดจากนัท (เห็นมั้ย เป็นของขวัญวันเกิดที่ถูกมาก แต่ได้ใจไปเต็มๆ อีกเช่นกัน ฮะ ฮะ)
พอคุณน้องเธอผละไป ก็นึกได้
ตามไปขอกอดอีกที ฮ่า ฮ่า (อันนี้ต้องใช้ความหน้าด้านส่วนตัว คนทั่วไปโปรดใช้วิจารณญาณ) บอกว่า "กอดล่วงหน้า เอาไว้เป็นของขวัญวันเกิดให้นัท" (พี่ก็เล่นของถูกเหมือนกัน แต่จะได้ใจนัทเปล่าไม่รู้นะ ฮ่า ฮ่า )
น้องแกคงอยากชี้หน้า แล้วพูดมาว่า "อ๋อ นี่แปลว่าวันนั้นจะไม่ไปใช่มั้ย?"
แหะ แหะ
เปล่า พี่เปล่าโดด
พี่แค่ยังไม่ได้จองตั๋วเท่านั้นแล
จริงๆ พี่ก็ไม่ได้ติดอะไรหรอกนะ... แต่สุขภาพพี่อ่อนแอน้องเอ๊ย.. แค่ก แค่ก... โอย ปวดไปทั้งตัวเลย ชนะลมมานวดให้เค้าที (เด็กอาไร๊ น่าแกล้งพิลึก)
เพราัะงั้นก็กอดเผื่อไปซะแต่แรก
...............จะได้ไม่ค้างคา ฮ่า ฮ่า ฮ่า
หลังจากนั้น ก็ช่วยทางดงทำงานอะไรนิดหน่อย กว่าจะได้กลับบ้านก็โน่น เที่ยงคืน - -"
แค่ก แค่ก เมื่อวานว่าไม่สบายแล้ว วันนี้ไม่สบายยิ่งกว่า เสียงแหบจนไม่เหลือเสียง - -" ไม่เคยแหบขนาดนี้มานานแล้วนะเนี่ย
เมื่อคืนดันกรี๊ดนักแสดงมากไปหน่อย ลืมตัว (ต้องเรียก "ไม่เจียมตัว" มั้ง?)
อุ๊ย สองกอดเมื่อคืนนั่น คงไม่ทำให้พี่แพร่เชื้อใส่นัทหรอกนะ???? ?? (แต่นัทมาแพร่เชื้อใส่พี่ใช่ม้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย????)
Create Date : 18 มกราคม 2553 |
|
42 comments |
Last Update : 18 มกราคม 2553 12:10:19 น. |
Counter : 980 Pageviews. |
|
|
|
โห สงสัยได้พลังงานจากการกอด 2 รอบ
เลยแรงดี อัพตอนดึก ฮี่ๆ