วิชา จาก ป่าเขา(1) [แม่กำปอง]
วิชา จาก ป่าเขา(1)

(แม่กำปอง)

  ผมเองไม่ค่อยมีเวลาว่างไปเที่ยวพักผ่อนในสถานที่ท่องเที่ยวไกลๆมากนัก เนื่องด้วยเวลาอันจำกัด

เวลาทำงานจึงเป็นเวลาส่วนใหญ่ในชีวิต ส่วนเวลาที่เหลือก็ชื่นชอบที่จะท่องเที่ยวผ่านตัวอักษรใน

หนังสือเสียมากกว่า แม้จะไม่ค่อยได้ท่องเที่ยวเท่าไหร่นัก แต่เมื่อมีโอกาสผมกับคนรู้ใจก็มักจะเลือก

การท่องเที่ยวที่เอื้อให้เราได้ใกล้ชิดและสัมผัสกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ ด้วยความเชื่อที่ว่าธรรมชาติ

สามารถช่วยขัดเกลาและสอนให้เรามองโลกที่เป็นอยู่ในสายตาที่อ่อนโยนมากขึ้น ทั้งนี้ท่ามกลาง

ป่าเขาแมกไม้ ทะเลและโขดหินมักจะมีคำตอบที่มีคุณค่าของชีวิตซ่อนเร้นและรอให้เราค้นพบอยู่เสมอ

สิ่งนี้หาไม่ได้ในห้างสรรพสินค้าหรือโรงหนัง

                                             

  บ้านแม่กำปอง อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาและมีอากาศ

หนาวเย็นตลอดทั้งปี ชาวบ้านมีอาชีพปลูกเมี่ยง ทำไร่ และทำส่วนกาแฟ ผมเองมีโอกาสไปที่นี่เนื่อง

จากมีเพื่อนสนิทแนะนำแล้วเห็นว่าเข้าที การเดินทางนับว่าค่อนข้างสะดวกสำหรับผู้ที่เคยผ่านการขึ้น

เขาลงห้วยมาแล้วบ้าง ส่วนเรื่องสถานที่พักและสภาพอากาศก็เย็นฉ่ำ สวยงามและสงบไม่แพ้สถานที่

ตากอากาศชื่อดังที่อื่นๆ เรื่องมิตรภาพของผู้คนในหมู่บ้านก็นับได้ว่าอยู่กันเหมือนทุกคนเป็นญาติมิตร

พี่น้อง ผมชอบที่นี่มาก เป็นห่วงก็แต่ในอนาคตบ้านแม่กำปองจะสามารถต้านทานการบุกรุกของลัทธิ

วัตถุและบริโภคนิยมอยู่ได้หรือไม่ คำถามนี้เกิดขึ้นหลังจากผมเดินเที่ยวในหมู่บ้านแล้วพบว่าหลายบ้าน

มีจานรับสัญญาณดาวเทียมสีแดงและดำเป็นอุปกรณ์ตกแต่งหลังคาบ้านมากกว่าหลายชุมชนในตัวเมือง

เสียอีก ทั้งนี้ไม่นับรถยนต์ที่วิ่งผ่านกลางหมู่บ้านแทบจะเรียกได้ว่าชั่วโมงต่อชั่วโมง

                                    

  แต่กระนั้น แม่กำปองก็ยังมีป่าและน้ำตกที่สมบูรณ์ให้ผมเดินทางกับคนรู้ใจ แม้มันจะไม่ใช่ป่าดงดิบ

ที่กระตุ้นความอยากผจญภัยมากมายนักแต่ก็เป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับผม ก่อนหน้านี้ผมใช้ชีวิตทั้งหมดอยู่

ในเมือง ทำงานอยู่ในล้อมรั้วและตึกสีขาวของโรงพยาบาล ผมรู้สึกปลอดภัยและมั่นคงในสถานที่นั้น

ความต้องการทุกอย่างได้รับการตอบสนอง บ่อยครั้งผมถูกตามใจและได้อย่างที่ต้องการอยู่เสมอด้วย

ความที่ทำหน้าที่ในการตรวจรักษาซึ่งเป็นงานหลักของโรงพยาบาล สิ่งเหล่านี้ล้วนก่อร่างสร้างตัวตน

ของผมให้ใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆจนหลายครั้งแทบไม่รู้สึกตัว เพราะเผลอคิดไปว่าเป็นเรื่องปกติที่ควรได้รับ

   ผมเองไม่ได้รู้สึกชื่นชมและยอมรับความรู้สึกและตัวตนที่ถูกมอบให้เช่นนี้มากนัก ทั้งยังลองพยายาม

ขัดใจกิเลสและตัวตนอันนำมาซึ่งความอยากและความเห็นแก่ตัวเหล่านี้อยู่บ่อยๆ หลายครั้งพยายาม

ทำงานเพิ่มเติมจากหน้าที่หลักโดยไม่รับสิ่งตอบแทน ด้วยหวังว่าการกระทำเช่นนี้จะทำลายความคิด

แบ่งแยกตัวเองออกจากสังคม ลดทอนความเป็น “ตัวกู ของกู”ให้น้อยลง การรับใช้ผู้อื่นโดยไม่มีข้อแม้

อาจจะกัดกร่อนกำแพงแห่งตัวตนลงได้บ้าง แต่กระนั้นผมก็กลับเปลี่ยนมันไปเป็นตัวตนในมุมมองอื่น

ที่ใหญ่โตขึ้นแทนโดยไม่รู้ตัว เช่นเมื่อผมเริ่มรู้สึกว่าผมคือตัวแทนของสังคมนี้และเมื่อสังคมนี้กำลังถูก

เอาเปรียบ ผมจะต้องปกป้องโดยการเข้าชนกับผู้คนในสังคมอื่นที่ผมและเพื่อนได้มอบคำตัดสินไป

แล้วว่า “คุณคือคนผิด เพราะคุณเห็นต่าง” ผมมองเหลียวหลังกลับมาทบทวนอีกที ก็รู้สึกตัวว่า

   นี่แหละ!! ผมถูกตัวตนเล่นงานเข้าให้เสียแล้ว ผมเสียรู้มันแล้ว เพราะได้ยกระดับตัวตนเดิม

ของผมไปเป็นตัวตนแห่งสังคมแทน นั่นยิ่งสร้างความบอบช้ำมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก เมื่ออะไรหลายๆ

อย่างไม่ได้อย่างใจ ผมก็เกิดทุกข์เพราะตัวตนหรืออัตตามากขึ้นกว่าเก่าก่อน

                                           

  ป่าเขาในแม่กำปอง สอนวิชาผมได้ดี วิชาแรกคือการละวางตัวตน ผมไม่อาจแบกอัตตา คำชื่นชม

ยกย่อง แม้กระทั่งคำตำหนิวิจารณ์เข้าป่าไปด้วยได้ ทั้งนี้แบกเข้าไปก็ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร ไม่ได้เกี่ยว

อะไรกับชีวิตในป่า ความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยที่เคยมีก็สูญหายไปเสียหมด เนื่องด้วยผมไม่อาจคาดเดา

ได้หรอกว่าจะมีอะไรซ่อนอยู่หลังเงาไม้หรือใต้พื้นดินชื้นแฉะที่ผมเหยียบย่าง สิ่งนั้นอาจนำมาซึ่ง

อันตราย ผมต้องคอยระวัง ผมต้องมีสติ เมื่อเกิดสติผมจึงละวางตัวตนลงได้ไม่ยากในป่าใหญ่

  ทุกอย่างดูใหญ่โตในป่านี้ ต้นไม้สูงกว่าผมประมาณสักสิบเท่า รายล้อมหน้าและหลัง ผมต้องคอย

หลบหลีกพวกเขาไปมาเพราะพวกเขาคงไม่สนใจอะไรถ้าผมจะซุ่มซ่ามเดินมาชน จริงๆแทบจะไม่รู้

สึกต่างอะไรจากนกที่เกาะบนกิ่งของพวกเขาเพื่อทำรัง แถมผมยังร้องเพลงไม่เพราะเท่านกด้วยซ้ำไป

ยิ่งเดินลึกยิ่งรู้สึกว่าตัวเองช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่จำเป็นเสียเลยในป่าแห่งนี้ น้ำตกไหลรินหลายชั้น มันช่าง

ดูยิ่งใหญ่ สงบและสดชื่นเหลือเกินเมื่อผมได้อยู่ใกล้ อดคิดไม่ได้ว่าน้ำตกคงความสง่าและ

สวยงามก็เพราะการไหลรินลงสู่ที่ต่ำนี่เอง เปรียบดั่งคนที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริงในสังคม ก็เป็นเพราะ

พวกเขาอ่อนน้อมถ่อมตนแก่ผู้อื่น พวกเขาไม่มีอัตตา

                                 

   มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดเล็กมากไม่ต่างอะไรจากนกหรือกระรอก เมื่อเทียบกันในสเกลของป่า

ทั้งยังมีประโยชน์น้อยกว่าด้วยซ้ำหากจะว่ากันตามจริง เราคอยปรุงแต่ง เพิ่มเติมปัจจัยต่างๆใส่ตัวตน

ของเราให้รู้สึกว่าฉันสำคัญ ฉันยิ่งใหญ่ สังคมและโลกใบนี้คงอยู่ไม่ได้หากไม่มีฉัน ทั้งที่แท้จริงแล้ว

หากคุณหายไป โลกก็ยังคงหมุนต่อไป โลกใบนี้คงไม่เดือดร้อนอะไรหากคุณไม่มีอยู่ คุณกำลังกอด

รัดภาพลวงตาที่สร้างขึ้นและเป็นทุกข์กับมันอย่างแสนสาหัสเพราะคำว่าตัวตนของคุณเองแท้ๆ

ป่าสอนแสดงวิชานี้แก่ผมได้เป็นอย่างนี้   

    ผมเดินกลับออกมาจากป่า จุดหมายยังอยู่ไกลออกไป ทว่าผมรู้สึกได้ว่าผมได้เดินอยู่บน

เส้นทางที่ถูกต้องแล้ว แม้ว่าจุดหมายจะยังไกล แต่หวังว่าผมคงไม่หลงทาง

                                                

  



Create Date : 09 เมษายน 2557
Last Update : 9 เมษายน 2557 0:57:23 น.
Counter : 3715 Pageviews.

26 comments
  
สวัสดียามเช้าครับ

คุณหมอไปเที่ยว
แต่ไม่ได้เที่ยวเฉยๆ
ได้ธรรมะกลับมาด้วย

โหวตบล็อกธรรมะให้เลยนะครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 เมษายน 2557 เวลา:6:33:47 น.
  
สวัสดีค่ะคุณหมอ พี่กิ่งตามไปเที่ยวกับธรรมชาติของป่าด้วยค่ะ งานเขียนของคุณหมอแฝงข้อคิดธรรมมะไว้อย่างที่น้องก๋าบอกจริงๆ พี่กิ่งโหวตธรรมมะให้เช่นกันค่ะ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
หมอหว่อง Dharma Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

มีความสุขในการทำงานนะคะ

โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 9 เมษายน 2557 เวลา:9:10:57 น.
  
สวัสดีครับ
มาอ่านข้อคิดดีๆ
ที่แตกต่างหรือเปล่าไม่แน่ใจครับ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
หมอหว่อง Dharma Blog ดู Blog
โดย: moresaw วันที่: 9 เมษายน 2557 เวลา:9:21:59 น.
  
ไปเที่ยวแล้วยังได้ธรรมะ ข้อคิดดีๆกลับมาด้วย
เยี่ยมเลยค่ะ

ขอบคุณที่แวะไปชมขนมปังนะคะคุณหมอ



โดย: mambymam วันที่: 9 เมษายน 2557 เวลา:14:04:42 น.
  

น่าไปเที่ยวบ้างเคยได้ยินรุ่นน้องเขาเล่าให้ฟังถึงโฮมสเตย์แม่กำปอง

หน้าร้อนๆอย่างนี้น่าปลีกวิเวกไปอยู่ป่าที่อากาศเย็นสบายได้สัมผัส

ธรรมชาติจิตใจก็สงบเย็นไปด้วย คุณหมอก็ได้ไปธุดงค์ได้ขัดเกลาตัว

ตนและกิเลส เขียนได้ดีมากอ่านแล้วได้ข้อคิดและธรรมะดีค่ะ แต่ป้ายังมี

ความกลัวสัตว์ร้ายในป่าเช่นงู และอื่นๆอยู่ ให้ไปเดินคนเดียวคงยังไม่

กล้า เคยมีคอร์สของเสมสิกขาลัยเขาพาไปเดินป่าทีเชียงใหม่จำไม่ได้

ค่ะว่าที่ไหนแล้วมีปล่อยให้เดินคนเดียวอยู่วันหรือสองวันอยากไปแต่ยัง

ไม่กล้าเดินป่าคนเดียว โหวตธรรมะค่ะ


หมอหว่อง Dharma Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: พรไม้หอม วันที่: 9 เมษายน 2557 เวลา:18:19:27 น.
  
เห็นภาพแล้วชวนให้สดชื่นดีนะคะคคุณหมอ
การได้อยู่กับธรรมชาติแบบนี้ทำให้จิตใจเราสงบไปด้วยเนาะ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
mambymam Food Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Photo Blog ดู Blog
ปีศาจความฝัน Book Blog ดู Blog
หมอหว่อง Dharma Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


ฝันดีค่าคุณหมอ
โดย: พริ้วไหวไปตามลม วันที่: 9 เมษายน 2557 เวลา:20:20:58 น.
  
สวัสดีค่า คุณหมอ ^^

ชอบดูค่ะ เวลามีบล็อคเดินป่า อย่างของคุณไวน์ก็สนุก
บล็อคคุณหมอได้ประสบการณ์+ข้ัอคิดดีๆอีกด้วย

แม่กำปองไม่เคยไปค่ะ
แต่เคยได้ยิน ทางเหนือป่าเขาจะเย็นสบายดีนะคะ
ดูจากภาพแล้วชุ่มชื่นมาก น่าไปมากค่ะ

ขอบคุณสำหรับภาพและเรื่องราวดีๆค่ะ โดยเฉพาะสองย่อหน้าสุดท้าย
ได้ข้อคิดธรรมะอีกด้วย

ขอบคุณที่แอดค่ะ นุ่นแอดคุณหมอตั้งนานแล้ว ลืมขอค่ะ T T

โดย: lovereason วันที่: 10 เมษายน 2557 เวลา:1:19:34 น.
  
อรุณสวัสดิ์ครับคุณหมอ


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 เมษายน 2557 เวลา:5:49:19 น.
  
เห็นภาพ น้ำตก ป่า แล้วรู้สึก สบาย ๆ คงจะเป็นเพราะสัญชาติญาน
ดั้งเดิมก็ได้มังครับ 555

คือเคยไปเที่ยวป่า กับ ชายป่าบ่อยครั้งเลยชอบที่จะอยู่ มากกว่า
ในเมืองซะอีก

เคยพาเพื่อนหลายกลุ่มเข้าเดินป่า ไปค้างแรม บางคนนำเครื่องดื่ม
เป็นขวด ๆ สีดำไปเยอะ แบกหิ้วกันเมื่อยแย่ พอปีนเขามาก ๆ เข้า
ไม่ไหว เลยต้องนำไปซุกในป่า เอาไว้ตอนขากลับ

แต่ไม่ได้ว่าอะไรเขานะครับ ธรรมชาติกำหนดให้ คนมีเหนื่อย สอน
ให้รู้จัก ตัวเอง หรือประมาณตัวเอง อยู่แล้ว

จริงแล้ว หาน้ำสะอาดต้มดื่มเวลานอนค้างแรมหลายคืน ก็เพียงพอ
แล้วครับ

ที่ป่าข้างบน ทราบว่ากำนัน หรือผู้นำชุมชน พยายามจะรักษาสภาพ
ป่า ลำห้วยไว้ น่าชื่นชม แต่ก็มีการปลูกกาแฟตามไหล่เขา
เคยมีเพื่อนสอบถามว่า มีการซื้อขายที่ดินกันหรือไม่ มันก็มีอยู่แล้ว
ครับ

ไว้ถ้าอัพบล๊อกอีก จะแวะมาอ่านอีกครับ ชอบอ่านและเขียนแนว
นี้เหมือนกัน ยังไงกระซิบบอกบ้างนะครับ
โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 10 เมษายน 2557 เวลา:10:36:42 น.
  
สวัสดีค่ะคุณหมอ

วิวสวยมากค่ะ เชียงใหม่คงมีอีกหลายมุมที่ยังไปไม่ถึง...

ขอบคุณเรื่องและข้อคิดดีๆ

ขอบคุณที่แวะทักทายกันค่ะ
โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 10 เมษายน 2557 เวลา:21:49:38 น.
  
สวัสดีค่ะคุณหมอ
อ่านแล้วได้ข้อคิดดีๆเลยค่ะ อย่างน้อยก็เรื่องน้ำตกนี่ละ
ธรรมชาตืให้ความสงบสุขแก่เรา ถ้าเราเรียนรู้ธรรมชาตินะคะ

โดย: ที่เห็นและเป็นมา วันที่: 10 เมษายน 2557 เวลา:22:53:32 น.
  
สวัสดียามดึกค่ะคุณหมอ

เห็นภาพแล้วรู้สึกเย็น หายใจโล่งปอดตามไปด้วยเลยค่ะ
(ทั้งที่จริงๆแล้วร้อนมาก ฮ่าๆ)

อิชั้นคล้ายๆคุณหมออย่างนึงค่ะ ชอบท่องเที่ยวผ่านตัวอักษร แล้วก็คุยกับคนอื่นผ่านตัวอักษรด้วยค่ะ
โดย: คนสวยที่ไม่เคยสวย วันที่: 10 เมษายน 2557 เวลา:23:36:45 น.
  
สวัสดีค่ะคุณหมอ

ความเขียวสดของป่าไม้และความเย็นจากน้ำและเสียงน้ำในลำธาร
เป็นธรรมชาติที่ให้ความสดชื่นทุกครั้งที่ีได้เยือนนะคะ
คุณหมอเปรียบหลายๆมุมของธรรมชาติที่ให้ข้อคิดกับชีวิต ขอบคุณมากค่ะ

ตอนต๋าไปวัดอุโมงค์ที่เชียงใหม่
ได้ซื้อแผ่นพิมพ์ข้อคิดของท่านพุทธทาสขนาด A4 1แผ่น
พอกลับกรุงเทพฯก็นำมาใส่กรอบค่ะ
ข้อคิดนี้มีหัวข้อว่า "เป็นอยู่ ด้วยจิตว่าง"
บรรทัดแรกขึ้นต้นว่า จงทำงาน ทุกชนิด ด้วยจิตว่าง
จริงๆแล้วต๋าไม่เข้าใจลึกซึ้งถึงความหมายของคำว่า "จิตว่าง" นัก
กระทั่งได้ไปสวนโมกข์กรุงเทพฯครั้งที่ 3
ถึงได้คำตอบจากสื่อเสียงสอนธรรมะจากท่านพุทธทาสที่เรากดเลือกฟังค่ะ
คำว่า "จิตว่าง" คือว่างจากการมีตัวตน
หรือที่ท่านมักใช้คำว่า “ตัวกู ของกู”
เป็นสิ่งสำคัญมากเหมือนข้อคิดหลักที่คุณหมอกล่าวในเอนทรี่นี้ค่ะ

ขอบคุณคุณหมออีกครั้งนะคะ
ที่เปรียบเทียบธรรมชาติกับข้อคิดนี้ได้อย่างแยบยล


บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

หมอหว่อง Dharma Blog ดู Blog
..................

สุขสันต์วันศุกร์ค่ะคุณหมอ

โดย: Sweet_pills วันที่: 11 เมษายน 2557 เวลา:8:45:06 น.
  
สวยมากค่ะ
โดย: cyberlifenlearn วันที่: 11 เมษายน 2557 เวลา:10:26:10 น.
  
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตเล็กๆ
ที่อวดเบ่งและสำคัญตนเกินจริงไปมากครับ

เห็นแล้วคิดถึงป่าทางเหนือขนาด
โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 11 เมษายน 2557 เวลา:14:21:14 น.
  
คนเรานี่ถ้าคืนสู่ธรรมชาติแล้ว
ตัวนิ๊ดเดียวจริงๆ
และธรรมชาตินัน
ช่างบริสุทธิ สวยงามนัก
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 11 เมษายน 2557 เวลา:18:25:04 น.
  
ตอนนี้เวลาซื้อดีวีดี
ผมซื้อทางเน็ตครับคุณหมอ
เร็ว และถูกกว่าแม่สายอีกครับ 555

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 เมษายน 2557 เวลา:23:02:13 น.
  
สวัสดียามเช้าครับคุณหมอ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 เมษายน 2557 เวลา:6:38:49 น.
  
ขอบพระคุณลุงหมอมากค่ะที่ไปอธิบายเรื่องพระวินัย
โดย: cyberlifenlearn วันที่: 12 เมษายน 2557 เวลา:10:15:30 น.
  
คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ

สวัสดีปีใหม่ไทยไทยนะค่ะ..คุณหมอหว่อง
ขอให้มีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรง
ร่ำรวยเงินทองตลอดไปนะค่ะ
โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 12 เมษายน 2557 เวลา:12:51:21 น.
  

สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ

ขอให้คุณหมอและครอบครัวมีความสุขเย็นกายเย็นใจค่ะ


โดย: พรไม้หอม วันที่: 13 เมษายน 2557 เวลา:17:26:39 น.
  
สวัสดีวันสงกรานต์ค่ะพี่หมอ
อยากไปเที่ยวมั่งจังค่ะ ธรรมชาติสวยงามมาก

ไว้วันนึงจะตามไปพักผ่อนที่บ้านแม่กำปองบ้างนะคะ

ปกติอ้อมชอบไปแต่ทะเลค่ะ อิอิ ^___^

โดย: aom_charming วันที่: 13 เมษายน 2557 เวลา:19:17:49 น.
  
สุขสันต์วันสงกรานต์ครับ
โดย: **mp5** วันที่: 13 เมษายน 2557 เวลา:20:30:37 น.
  


สวัสดีปีใหม่ไทย 2514 ค่ะคุณหมอ
ขอให้คุณหมอมีความสุขมากๆนะคะ
โดย: Sweet_pills วันที่: 14 เมษายน 2557 เวลา:0:04:39 น.
  
พยายามหลายที่กะที่นี่ไปไม่ถึงสักที ทางชัน
โดย: mariabamboo วันที่: 15 เมษายน 2557 เวลา:18:57:19 น.
  

บรรยากาศดีจังเลย
พี่อุ้มมั่นใจว่าน้องหมอเดินไม่หลงทาง
เชื่อมั่นว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องแน่นอนจี
สู้ต่อไป

โดย: อุ้มสี วันที่: 16 เมษายน 2557 เวลา:21:48:51 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

หมอหว่อง
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]



เมษายน 2557

 
 
1
2
3
4
6
7
8
10
11
12
13
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30