Happiness is always here and now
|
||||
"ก่อนไม้จะผลัดใบ" จดหมายถึงลูกชาย สวัสดีลูกรัก ตอนนี้ชีวิตของลูกเป็นอย่างไรบ้าง พ่อคิดว่างานของลูกก็ยังคงยุ่งอยู่เหมือนเดิม ลูกเป็นคนขยันและทุ่มเท พ่อชื่นชมลูกมาโดยตลอด ในใจพ่อคิดหวังแต่เพียงว่าในช่วงเวลางาน ที่วุ่นวายของลูกนั้น ลูกจะได้หาเวลาว่างพักผ่อนบ้าง พ่อกังวลก็แต่สุขภาพของลูก เท่าที่พ่อยังจำได้ เมื่อสมัยเด็กๆอาการหอบหืดของลูกมักกำเริบขึ้นตอนที่ลูกพักผ่อนไม่เพียงพอ เครียดหรือวิตกกังวล อยู่เสมอ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ลูกอาการหนักมากจนหมอต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ตอนนั้นพ่อกับแม่ใจแทบ ขาดกันเลยทีเดียว พ่อพักอยู่ทางนี้สบายดี ที่นี่อากาศดี อาหารและที่พักก็พร้อมเพียง อยู่ได้สบายไม่ลำบากอะไร นี่ลูกคงต้องเสียเงินไปมากเลยสินะพ่อว่า จริงๆพ่อช่วยลูกจ่ายค่ารายเดือนได้นะ พ่อยังพอมีเงินเก็บ อยู่บ้าง ตั้งแต่สมัยพ่อทำงาน ก็ตั้งใจว่าจะเก็บเงินไว้ไปเที่ยวกับแม่ของลูกนั่นล่ะ เสียดายที่แม่ของ ลูกดันมาด่วนจากไปเสียก่อน พ่อเลยไม่ได้ใช้เงินก้อนนั้น ตอนนี้พ่อมีเพื่อนใหม่ๆหลายคน แต่ละคน ดูอายุจะมากกว่าพ่อเสียอีก ไม่รู้ว่าพ่อเข้าข้างตัวเองไปหรือเปล่า แต่ละคนมีโรคประจำตัว ต้องกินยา กันหมด พ่อเองว่างๆก็ไปช่วยเขาจัดยาอยู่บ้าง อาศัยว่าสายตายังดีอยู่ แต่หลังๆก็เลิกไปเพราะความจำ ของพ่อไม่ดีเสียเหลือเกิน เคยจัดยาผิดแผง จนเพื่อนเขามาว่าเอา คนดูแลบ้านพักคนชราแห่งนี้ พาพ่อไปหาหมอตลอด ลูกไม่ต้องเป็นห่วงและพ่อเองก็กินยาทุกวันด้วย มีบางครั้งที่กินบ่อยเกินไปจนยาหมดก่อนนัดก็มี แต่จะว่าไปพ่อไม่เห็นรู้สึกว่ายาบำรุงเหล่านี้จะทำให้ โรคสมองเสื่อมของพ่อดีขึ้นสักเท่าไหร่เลย พ่อจำอะไรได้น้อยลงๆทุกที จนบางครั้งก็อดเกรงใจคน ดูแลไม่ได้ที่ต้องคอยตอบคำถามซ้ำๆของพ่ออยู่ตลอดทั้งวัน แต่พ่อก็ยังจำลูกกับแม่ของลูกได้เสมอนะ ความทรงจำส่วนนั้นของพ่อช่างชัดเจนจนไม่อาจมีอะไรมาลบเลือนมันออกไปได้และพ่อเองก็จะสู้จน สุดหัวใจเพื่อจะปกป้องมันไว้ให้นานที่สุดเท่าที่พ่อจะทำได้ เพราะจะว่าไปแล้วความทรงจำนั้นก็คือ สิ่งมีค่าสิ่งเดียวที่พ่อเหลืออยู่ พ่อรู้สึกหวาดกลัวในบางครั้งเมื่อพ่อตกลงไปในหลุมแห่งจินตนาการว่า จะเป็นอย่างไรหนอ หากต้องกลายเป็นคนที่จำอะไรหรือใครไม่ได้อีก แต่จะว่าไปแล้วหากเป็นเช่นนั้น จริงก็อาจจะดีไปอย่างที่พ่อจะไม่จำเป็นต้องเก็บความทรงจำอันเลวร้ายใดๆไว้อีก มีชีวิตอยู่แบบวันต่อวัน หรือชั่วโมงต่อชั่วโมง ทุกวันจะเป็นดั่งวันที่สดใหม่ รอรับประสบการณ์ใหม่หรือเสมือนใหม่ในทุกวัน ไม่มีพรุ่งนี้ ไม่มีอดีตที่ตามมาหลอกหลอนอีกต่อไป ทุกครั้งที่พ่อทุกข์ใจก็ทำเพียงปลอบตัวเองว่าแล้ว พรุ่งนี้เราก็จะได้เริ่มใหม่
พ่อเองก็อยากให้ลูกลองฝึกคิดแบบนี้เช่นกัน ใช่ พ่อไม่ได้ล้อลูกเล่นนะ ในแต่ละวันที่ลูกต้องพบกับ งานหนักและปัญหารายล้อมมากมายจนเป็นทุกข์ ลูกคิดกังวลถึงมันอย่างไม่จบสิ้น แบกมันไปทุกที่ แม้กระทั่งที่บ้าน และทุกเวลาแม้เป็นเวลาพักผ่อน สิ่งอันเป็นทุกข์เหล่านี้จะกลายเป็นดั่งเมล็ดพันธุ์และ ฝังรากลึกอยู่ในความทรงจำของลูก และเมื่อไหร่ก็ตามที่ลูกหวนคิดถึงมันอีก มันก็จะงอกงามเติบโต จนบดบังความสุขในปัจจุบันของลูกจนหมดสิ้น ช่างน่าเสียดายเวลาแท้ๆหากมันเป็นแบบนั้น พ่อไม่ อยากให้ลูกใช้ชีวิตแบบครึ่งหลับครึ่งตื่นอยู่ตลอดทั้งวันเหมือนคนทั่วไป พวกเขาพยายามตามหาความสุข จากอนาคตบ้าง ย้อนกลับไปโอบกอดอดีตที่เคยสุขบ้าง หารู้ไม่ว่าปัจจุบันนี้แหละเป็นที่อยู่ความสุข แม้ความทรงจำของพ่อจะเหลือน้อยเต็มที แต่พ่อก็ยังจดจำได้แม่นยำเมื่อสมัยลูกเป็นเด็ก ลูกช่างดู บอบบางและน่าเอ็นดู ลูกเหมือนรูปปั้นตุ๊กตาตัวน้อยๆที่เอาแต่หลับไหล ไม่พูดจาอยู่ทั้งวัน แม้กระนั้น พ่อก็เอาแต่จ้องมองลูกได้ทั้งวันเช่นกัน เมื่อเติบโตขึ้นและเดินได้ ลูกก็จะมีความสุขมากเมื่อพ่อซื้อ ของเล่นชิ้นใหม่มาให้ และลูกก็จะโมโหโวยวายเช่นกันหากพ่อไม่อนุญาตให้เล่นของเล่นเมื่อถึงเวลา ที่ลูกต้องทำการบ้านส่งครู แต่ถึงอย่างนั้นลูกก็ไม่เคยจะเก็บความทุกข์นั้นไว้ได้ข้ามคืนหรือแม้แต่เพียง ครึ่งวันเลย ไม่นานนักลูกก็จะลืมมันไปอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้รวมไปถึงความสุขด้วย ลูกก็เก็บมันไว้ไม่ได้ ตลอดเช่นกัน พ่ออยากให้ลูกคิดถึงสมัยเด็กๆเช่นเดียวอย่างที่พ่อบอก เมื่อใดก็ตามที่ลูกมีความทุกข์ หรือความสุขมากๆก็ตาม หากลูกคิดแบบนั้นลูกก็จะไม่ต้องแบกอะไรไว้ให้หนักใจอีก ไม่ต้องทุกข์ เพราะอยากจะเก็บความสุขไว้นานๆ แม้ว่าความจำของพ่อจะเลือนลางไปเรื่อยๆ แต่พ่อกลับไม่รู้สึกเศร้าใจเลย พ่อกลับมีความรู้สึกแบบ ใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนเกิดขึ้น ความรู้สึกนี้พ่อไม่เคยได้พบเจอเลยเมื่อวัยหนุ่ม นั่นก็คือการรู้สึกว่ายอม รับได้ตามที่เป็น พ่อไม่รู้สึกว่าจะต้องคอยผลักไสและวิ่งหนีความตายอีกต่อไป ทั้งยังไม่รู้สึกเบื่อหน่าย ท้อแท้จนใฝ่หาซึ่งความตาย พ่อไม่รู้อะไรเลยนอกเสียจากความว่างเปล่า ทุกอย่างย่อมเป็นอย่างที่มัน ควรจะเป็นและมีเหตุให้เป็น เห็นทีความรู้สึกแบบนี้จะเป็นดั่งรางวัลที่ยิ่งใหญ่ของวัยชราโดยแน่แท้ คนวัยหนุ่มอย่างลูกอาจจะยังไม่เข้าใจนักว่าการมุ่งมั่นทุ่มเท ปีนป่ายจนไปถึงยอดเขาสูงชันนั้น รางวัล ความสำเร็จไม่ได้อยู่ที่การได้พิชิตยอดเขาแต่เพียงอย่างใด หากอยู่ที่การได้มีชีวิตอยู่รอดหลังจากนั้น และค่อยๆเดินกลับลงมาจากยอดเขานั้นอย่างแช่มช้า เฝ้ามองและชื่นชมธรรมชาติที่สวยงามรอบตัว ปล่อยให้ตัวเองได้เริงระบำให้ตัวเปียกแฉะกลางสายฝนที่ตกลงมาโดยไม่ต้องคอยวิ่งหาที่หลบฝน เหมือนแต่ก่อน ได้เดินยิ้มเริงร่าแม้ว่าจะอยู่ท่ามกลางไอแดดอันร้อนระอุและต้องหกล้มจนเป็นแผลตามตัว สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่มีคุณค่ายิ่ง อีกไม่นานนักลูกคงได้สัมผัสมัน เมื่อจดหมายนี้ได้เดินทางไปถึงลูก พ่อเองอาจจดจำสิ่งใดไม่ได้หรือไม่ได้อยู่ที่นี่อีกแล้ว พ่อคิดว่า คงถึงเวลาที่พ่อจะต้องออกเดินทางต่อ ลูกไม่ต้องเป็นห่วง พ่อคงมีเพื่อนร่วมเดินทางไปมากมาย เส้น ทางของพ่อจะปลอดภัยเพราะโลกและจักรวาลจะโอบอุ้มพ่อไว้และพ่อจะหลอมรวมเป็นส่วนหนึ่ง ของสิ่งนั้น ขอให้ลูกคิดว่าย่อมเป็นธรรมดาที่สักวันหนึ่งต้นไม้จะต้องผลัดใบ แต่ก่อนจะถึงเวลา ผลัดใบของพ่อนั้น พ่อได้มอบความทรงจำอันมีค่าสูงสุดในชีวิตของพ่อมาในจดหมายฉบับนี้แล้ว ขอให้ลูกเก็บรักษามันต่อไปให้ดีแทนพ่อด้วย
ด้วยรักและห่วงใย พ่อ สวัสดียามเช้าครับคุณหมอ
เชียร์ให้คุณหมอเขียนงานออกมาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นแนวไหนครับ จะรออ่านเสมอครับ โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 เมษายน 2557 เวลา:6:26:40 น.
ซึ้งมากค่ะ คุณหมอ ^^
เชียร์เหมือนพี่ก๋า เขียนบ่อยๆนะคะ ไม่ว่างนานๆมาทีก็ได้ อิิอิ ได้ข้อคิดทุกเรื่องเลยค่ะ ขอบคุณมากๆค่า โดย: lovereason วันที่: 2 เมษายน 2557 เวลา:0:18:59 น.
เป็นรูปแบบงานเขียนที่น่าประทับใจและมีประโยชน์ค่ะคุณหมอ
นอกจากอ่านงานเขียนคุณหมอจากบล๊อกแล้ว คอลัมน์ในนิตยสารที่คุณหมอเขียนก็เป็นประโยชน์ในวงกว้าง ยกมือสนับสนุนให้คุณหมอเขียนไปนานๆนะคะ บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้ ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต หมอหว่อง Literature Blog ดู Blog ................... ขอบคุณคุณหมอที่อ่านบล๊อกย้อนหลังของต๋าด้วยนะคะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มีให้เสมอค่ะ นอนหลับฝันดีคืนนี้ค่ะคุณหมอ โดย: Sweet_pills วันที่: 2 เมษายน 2557 เวลา:0:51:13 น.
ตอบก่อนว่า อ่านคอมเมนท์แล้วขำ จ้ะๆ ไม่มีลูกก็เขียนได้จ้ะ แหม่ๆๆๆๆ
อ่านแล้วรับรู้เลยว่าคุณพ่อท่านนี้อยู่ที่บ้านพักคนชรา "พ่อพักอยู่ทางนี้สบายดี" รู้เลยว่า อยู่ที่นั่น ดินแดนแห่งเสียงหัวเราะของชาววัยรุ่น(น้อยๆ) คุณหมอเขียนได้น่ารักค่ะ หนูแดงมองว่า มุมของพ่อนะ หนูแดงไม่ใช่พ่อคน (แต่เป็นแม่คน) อ่านแล้วรู้สึกได้ แต่ถ้าเอาตรงๆคือ 10% ที่ยังไม่เป็นพ่อ ที่เหลือเหมือนพ่อที่พ้อกับตัวเอง (หมอโกรธได้นะ ให้เวลาโกรธ 3 นาที) เดี๋ยวส่งความรักไปให้ที่หลังไมค์เด้อ ตอนนี้พิมพ์กับแพด ปวดตายิ่งนักค่าคุณหมอ สวัสดีวันพุธสีเขียวสบายตาค่ะ โดย: ชัชชษา วันที่: 2 เมษายน 2557 เวลา:12:44:10 น.
มาอ่านเรื่องแล้วรู้สึกถึงความห่วงใยที่พ่อแม่มีให้กับเรา ไม่ลดลงแม้เราจะโตแค่ไหนแล่วก็ตามนะครับ ^^
โหวตงานเขียนให้คุณหมอเป็นกำลังใจในการเขียนงานดีๆชิ้นต่อไปด้วยนะครีบ ^^ โดย: วนารักษ์ วันที่: 2 เมษายน 2557 เวลา:16:08:35 น.
อ่านแล้วคิดถึงพ่อจังค่ะ ^^
รออ่านของพี่หมดค่ะ แนวไหนก็อ่านหมด อากาศร้อนมากๆ รักษาสุขภาพด้วยค่ะ โดย: aom_charming วันที่: 3 เมษายน 2557 เวลา:14:54:06 น.
ไปเดินครั้งแรกๆ
ผมก็กลัวครับคุณหมอ แถมว่ายน้ำไม่เป็นด้วย เช้าๆก็เปลี่ยนมากด้วย 555 ตอนนี้ไปหลายครั้ง ไม่กลัวแล้วครับ โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 เมษายน 2557 เวลา:22:37:11 น.
จริงที่ว่าคนเราพยายามตามหาความสุขจากอนาคต
พอคิดถึงอนาคตแล้วสุขใจ ถึงมันจะยังไม่จริง แล้วไม่รู้จะจริงหรือเปล่า แต่พอคิดแล้วรู้สึกดี แล้วบางทีก็คิดถึงอดีตที่มันไม่ดี ทั้งที่รู้ว่านั่งเศร้าเสียใจกับ อดีตที่ผ่านไปแล้วมันไม่ได้อะไร.. - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - ขอบคุณสำหรับคำแนะนำและกำลังใจค่ะ คุณหมอหว่อง พอดีเพิ่งจะลองเขียนบล็อกเลยไม่รู้เรื่องรู้ราว รู้จักใครมากนัก ก็พยายามไม่เครียด ไม่กดดันตัวเองมากค่ะ แต่เหมือนมีอารมณ์หนึ่งที่มันเข้ามาแล้วหยุดไม่ได้ คือ โมโหตัวเอง แต่พอเวลาผ่านไปก็แล้วไปล่ะค่ะ ความรู้สึกนั้นมันจางไป กลับมาเฮฮา บ้าบอได้เหมือนเดิม แต่เมื่อไหร่กลับไปอยู่ในช่วงเวลาที่่คิดไม่ออก ก็จะเซ็งตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง.. โดย: สมาชิกหมายเลข 743948 วันที่: 3 เมษายน 2557 เวลา:23:01:48 น.
สวัสดีค่ะ คุณหมอ
สิ่งที่พ่อแม่ห่วงลูกนั่นคือ เวลาในการพักผ่อนนะคะ ไม่มีใครหรอกที่จะไ่อยากพักผ่อนนอนหลับตั้งแต่หัวค่ำ แต่มันมีอะไรที่ต้องทำ ด้วยวัยและหน้าที่ ที่ต้องทำ ทำให้เสร็จสิ้น หรือเป็นเพราะว่า คนนั้น เอามาเพิ่มในตัวเองก็อาจเป็นได้ รินคนหนึ่งที่ปัจจุบันมีเวลาพักผ่อนน้อยมาก รินอยากนอนตั้งแต่หัวค่ำนะ อยากตื่นเช้าๆ แต่ด้วยงานหน้าที่ อะไรที่รินรับมาต้องทำให้เสร็จ ไม่เสร็จก็ขอให้ได้ทำก่อน ทำให้กระทบกันไปหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตได้เหมือนกันนะคะคุณหมอ ส่งกำลังใจให้จ้าาาาา มีเวลากลับมาเขียนบ่อย ๆนะคะ บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้ ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต หมอหว่อง Literature Blog ดู Blog โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 4 เมษายน 2557 เวลา:13:09:39 น.
สวัสดียามดึกๆค่าคุณหมอ
งานเขียนแนวนี้ ก็ยังเป้นแนวที่ให้มุมมองแง่คิดดีดีอีกเช่นเคยค่าคุณหมอ บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้ ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต mambymam Home & Garden Blog ดู Blog กะว่าก๋า Photo Blog ดู Blog เนินน้ำ Food Blog ดู Blog หมอหว่อง Literature Blog ดู Blog ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น ฝันดีนะคะ โดย: พริ้วไหวไปตามลม วันที่: 4 เมษายน 2557 เวลา:21:58:04 น.
สวัสดีค่ะคุณหมอหว่อง..
เป็นกำลังใจในการเขียนงานนะค่ะ ว่างเมื่อไหร่ ก็เขียนก็ได้ค่ะ มิตรรักแฟนเพลง ยังรออยู่เสมอค่ะ..อิอิ โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 4 เมษายน 2557 เวลา:22:19:23 น.
อย่าทิ้งงานเขียนนะจีน้องหมอ เขียนให้อ่านเรื่อยๆ นะจ๊ะ พี่อุ้มชอบทุกเรื่องที่น้องหมอเขียนจ๊ะ โดย: อุ้มสี วันที่: 6 เมษายน 2557 เวลา:22:04:01 น.
|
หมอหว่อง
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?] Group Blog All Blog Friends Blog
Link |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
Blogนี้ ค่อนข้างแปลกไปจากเดิม ผมอยากทดลองเขียนเรื่องแนวนี้ดูบ้าง บางคนอาจจะชอบ บางคนอาจจะงง แต่อย่างไรก็ตาม ผมก็หวังว่าจะมีประโยชน์หรือสะกิดใจบ้างไม่มากก็น้อยครับ
อนึ่ง เรื่องนี้หากได้ใช้เวลาอ่านช้าๆลงสักหน่อย อาจจะทำให้สิ่งที่ผมต้องการสื่อปรากฏออกมาได้ชัดเจนขึ้นนะครับ
ปล.1.ผมยังไม่มีลูก หากบรรดาคุณพ่อท่านใดแวะมาอ่าน สามารถให้คำแนะนำได้นะครับ^_^
2.ขอบคุณเพื่อนBlogบางคนท่าน ที่ส่งข้อความมากระตุ้นให้เขียนblogต่อ คุณกระตุ้นได้สำเร็จแล้วล่ะครับ