Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2548
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
7 พฤษภาคม 2548
 
All Blogs
 
ควรหรือที่จะร้องไห้



เสียงร้องไห้ ของกลุ่มบางกลุ่ม ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง เป็นเรื่องธรรมดามาก
สำหรับการจากลา การโอบกอด ที่ล่ำลาก่อนที่จะจากกัน

ฉันไม่ชอบการลา ฉันเกลียดการที่ต้องมองเห็นคนที่รักต้องมาจากลา
ฉันไม่ชอบการโบกมือ แล้วกล่าว่า

" ขอให้โชคดี แล้วเจอกันนะ"

ฉันจึงไม่ค่อยที่จะมาที่นี่บ่อยนัก แต่วันนี้ฉันจำเป็นต้องมายืน ณ จุดที่ฉันเกลียดมาที่สุด
เพื่อให้คนที่ฉันรู้จักและคุ้นเคยทำในสิ่งที่ฉันไม่ชอบ

" แนน ทำไมเธอต้องไปด้วยล่ะ ไม่ไปก็ได้นี่ ฉันจะอยู่กับเธอเอง" พิม เพื่อนรัก ที่สุดของฉัน โอบกอดฉันไว้ พร้อมกับการร้องไห้

" อย่าร้องสิพิม เชื่อเราเถอะ ให้เราไปเถอะนะ "

" ทำไม ฉันไม่เข้าใจ ว่าทำไมเธอต้องไป รึว่าเธอทนไม่ได้ที่จะอยู่ในสภาพสิ่งแวดล้อมที่เคยมีเขาอยู่ใช่ไหม" พิมยังคงไม่เลิกรา

" ไม่ใช่ทั้งหมดหรอกจ้า " ฉันตอบด้วยเสียงที่แหบพร่า พยายามที่จะไม่ให้สะอื้น

" ฉันรู้ว่า เขารักเธอมาก เธอคงเสียใจที่จะต้องอยู่คนเดียว แต่ฉันสัญญานะว่าฉันจะอยู่ใกล้เธอตลอดเวลา"

" ฉันเชื่อจ้า พิม ว่าเธอจะอยู่ใกล้ฉันตลอดเวลา แต่สุดท้าย ทุกคนก็ต้องอยู่กับตัวเอง
และเธอเองก็มีพี่เจี๊ยบอยู่ด้วย เขาคงไม่ยอมหรอกนะ ที่จะให้เธอทำอย่างนั้น ฉันยังไม่อยากตายเพราะทอม มาฆ่าฉัน" ฉันพยายามที่จะพูดตลก
" ฉันเลือกเธอเสมอแนน ฉันยอมเลิกกับพี่เจี๊ยบเพื่อเธอ " พิม ตอบด้วยสายตาจริงจัง

" อย่าดีกว่า เอาเป็นว่าถ้าฉันอยู่ไม่ไหวฉันจะรีบกลับมาหาเธอนะ "
" สัญญานะ "

" สัญญาสิ ฉันไม่เคยผิดสัญญา นะพิมพ์ เครื่องจะออกแล้วล่ะ ส่งเท่านี้ก็พอ ฉันยังไม่อยากร้องไห้ให้ มาสคาร่า เปื้อน วันนี้ไม่ได้ใช้แบบกันน้ำ " ฉันยังคงพูดติดตลก

" บ้า จริงๆเลยเธอนี่ ฉันเศร้าจะตายแต่เธอกลับมาพูดตลก " พิม หัวเราะทั้งน้ำตา

" พ่อ แม่ แนนไปแล้วนะ แล้วแนนจะเขียนจดหมายมาหาค่ะ " ฉันหันไปกราบลาท่านทั้งสองที่อกฉันพยายามกลั้นน้ำตา ไม่อยากให้ท่านเห็น ฉันอยากให้ท่านมองเห็นภาพที่สดใส พร้อมรอยยิ้มและสิ่งต่างๆที่ท่านทั้งสองต่างเฝ้าทะนุถนอมเลี้ยงดูฉันจนวันนี้ ฉันเสียใจเหลือเกินที่ไม่อาจ ดูแลท่านได้อย่างที่ตั้งใจไว้ ความฝัน ทุกอย่างของฉันสูญไปตั้งแต่ เขามาตายไป

" พิม แนน ฝากดูแลพ่อกับแม่ด้วยนะ "
" ไม่ต้องห่วง พ่อ แม่เธอก็เหมือนพ่อแม่ พิม อยู่แล้วล่ะ "
" ขอบใจมากนะพิม แล้วแนนจะเขียนจดหมายมาหานะ "

ฉันหันกลับมามองภาพสุดท้ายของทุกๆคน ฉันพยายามจดจำทุกภาพ ด้วยความทรงจำแทนภาพถ่าย นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะได้เห็นพวกเขาคนที่ฉันรัก และรักฉันมากที่สุด
ฉันกลั้นน้ำตา แทบไม่อยู่ ฉันรีบหันหลังกลับแล้วรีบไปยังช่องรายงานตัวผู้โดยสาร



เพียงเสี้ยววินาทีที่ฉัน จากพวกเขามา ความรู้สึก โดดเดี่ยว เคว้งคว้าง มัน เล่นแปร๊บขึ้นมาในใจฉันทันที ฉันต้องไม่ร้องไห้ ฉันต้องอยู่ได้ ฉันต้องยอมรับผลทุกอย่าง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมัน

ความเจ็บปวดจากการพลัดพรากมัน เป็นอย่างนี้เองเหรอ ความหนาวของอากาศที่ ศูนย์องค์ศา ที่ฉันเคยสัมผัส ฉันว่ามันก็ทรมานมากแล้ว แต่ ความหนาวในจิตใจมันทั้งจวบปวดและทรมานยิ่งกว่า

ต่อจากนี้ ฉันต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวจนลมหายใจสุดท้าย


สวัสดี จ้า พิมพ์

ตอนนี้ ฉันมาถึง ลอนดอนแล้วนะ ถึงอย่างเรียบร้อยดี ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ฉันคงอยู่ที่อังกฤษสักระยะ ไม่รู้ว่า จะ ถึงเมื่อไหร่ ที่อากาศดีเหมือนกัน แต่บางวันก็ฝนตก ทั้งหนาว ทั้งชื้น ถึงใจดีเหมือนกันนะ

แนนได้ ส่งผ้าคลุมไหล่ ให้ พิม แล้วก็ เสื้อ หนาวให้พ่อ แม่ แนน แล้วก็ พี่เจี๊ยบด้วยล่ะ อย่าคิดมาหึงกันนะยะ

ฝากดูแล พ่อกับแม่ด้วย แล้วเราจะติดต่อมาอีก

รักและคิดถึง

แนน


จดหมายฉบับแรก ที่ฉันเขียนหาพิมพ์ หลังจากที่ฉันต้องจาก มาไกลแสนไกล

ฉันใช้เวลาในการท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆของประเทศอังกฤษ ฉันใช้เงินที่เขานั่นแหละ เป็นคนหามา ชีวิต ช่วงสุดท้ายของฉัน ความฝัน ในการที่จะได้ท่องเที่ยวไปทั่วโลก ฉันกำลังทำให้มันเป็นจริง ด้วยเงินของเขา

“ พิม เราต้องไปเที่ยวรอบโลกกันให้ได้เลยนะ ฉันจะเก็บเงินเยอะๆ แล้วเราไปด้วยกันนะ”
“ แน่นอน แนน เราสัญญาเลยว่าเราจะไปด้วยกัน ที่ไหนมีแนนที่นั่นมีเรา”

ฉันนึกถึงเมื่อครั้งเรียนจบใหม่ๆ ความฝันที่จะท่องโลกกว้าง ใช้ชีวิตอย่างอิสระ กับ พิม เพื่อรัก ที่เป็นเหมือนเงาของกันและกัน พิมรักฉันมาก ขนาดมีแฟนก็ยังไม่เคยทิ้ง ฉันเลยสักครั้ง แต่ฉันต่างหากที่ทอดทิ้งพิม

ตั้งแต่เขาได้ก้าวเข้ามาในชีวิต

ฉันจำไม่ได้หรอกว่า ฉันเจอกับ พี่ปาน วันไหน เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกที ตอนที่ เขาเริ่มเข้ามาข้องเกี่ยว กับฉันและพิมพ์ เขาพยายามทำทุกอย่างที่ให้ฉันรักเขา ด้วยความสุภาพและ อ่อนโยน

พี่ปาน เริ่มมาเป็นแขกประจำที่บ้าน พ่อ กับแม่ฉัน รักและเอ็นดู พี่ปานมาก เพราะพี่ปานมักจะ พาพ่อกับแม่ไปวัด พาไปเที่ยวตามที่ต่างๆ

กับเพื่อนฉัน โดยเฉพาะ พิม ถึงกับเชียร์ เขาอย่างออกนอกหน้า ทำให้ความรู้สึกของฉันหวั่นไหวไปบ้าง แต่ฉันไม่ยอมเผลอใจง่ายๆ ฉันไม่คุ้น กับการที่จะต้องมีผู้ชายเข้ามาในชีวิต เพราะนอกจากพ่อแล้ว ฉันไม่เคยไว้ใจผู้ชายคนไหนเลย ฉันมีแต่พิม

ฉัน เริ่ม รับรู้ถึงน้ำใจของเขา ตอนที่ ฉันต้องเข้าโรงพยาบาล เพราะเป็นไข้หวัดใหญ่ เขามาดูแลฉันเป็นอย่างดี จนพ่อ กับแม่ไว้ใจ ปล่อยให้เขาดูแล เขารู้ว่าฉันห่วงพ่อกับแม่ มาก เขามักจะไปรับท่านมาหาฉันแล้วก็ พาท่านกลับ แล้วก็มาเฝ้าฉันต่อ จนกระทั่ง พิม กลับมาจากที่ทำงาน มานอนเป็นเพื่อนฉัน

เขาเป็นคนที่เสมอต้นเสมอปลาย ตลอดระยะเวลา 5 ปี เขาไม่เคยทำอะไรที่ไม่ดีกับฉันเลย ทุกอย่างราบรื่นไปด้วยดี พิม บอกว่าฉันโชคดีมากที่ได้รู้จักกับพี่ปาน พ่อแม่ก็ เห็นดีด้วย

ความรักของฉัน เริ่มถักทอ จากสายใยเล็กๆ ก่อตัวเป็นรูปร่าง สายใยที่เขาสร้างเพื่อห่อหุ้ม ความอบอุ่นที่ส่งผ่านสายใยนั้นก่อเกิดความรักขึ้นในใจฉันอย่างไม่รู้ตัว

ทุกวัน สำคัญๆ เขาไม่เคยลืมที่จะมีของเตือนความทรงจำ เขาจำได้วันแรกที่รู้จักกัน วันเกิดของฉันและคนรอบข้างฉัน ทุกครั้งที่พบกัน เขาจะมีรอยยิ้ม ที่อบอุ่น บนใบหน้าให้กับฉันเสมอมา

ฉันอยากลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้น ทุกอย่างที่เกี่ยวกับตัวเขา ฉันไม่อยากจดจำ มันเจ็บปวด
เขา ฆ่าฉันทั้งเป็น


“แนน พี่ปาน ขอโทษ ยกโทษให้พี่นะครับ พี่ทำไปเพราะรักแนน พี่รักแนนจริงๆ”

ฉันต้องสะดุ้งตื่นทุกครั้งที่ฝันถึงเขา มันเป็นภาพหลอนที่ติดตามฉันไปทุกที่ คำพูดนี้ ไม่เคยลบเลือนจากความทรงจำของฉันเลยสักครั้ง

เวลาผ่านไป 3 ปีแล้ว ฉันไม่สามารถ หนีมันได้ แม้จะอยู่ไกล แสน ไกล สักเพียงไหน
ฉัน ยังคงติดต่อกับ พิม ตลอดเวลา ฉันไม่เคยให้ที่อยู่ กับพิม ฉันไม่ต้องการให้พวกเขาเห็นฉัน ในสภาพนี้ พ่อกับแม่ เฝ้าถนอม เลี้ยงดูฉันด้วยความรัก ดุจดังแก้วตา ฉันไม่อยากให้พวกเขาต้องเสียใจ

ฉันคิดถึงพวกเขามาก
ฉันได้แต่ขอร้องให้พิม ส่งรูปพวกท่าน ผ่านมาทาง Internet ฉันใช้ E- mailติดต่อกับพิม เท่านั้น ฉันไม่อยากให้พิมรู้ว่าฉันอยู่ที่ไหน

สวัสดี แนน

ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเธอถึงได้ ใจดำไม่ยอมกลับมาเยี่ยมบ้านบ้างเลย พ่อกับแม่คิดถึงเธอมาก ฉันเองก็ ด้วย พี่เจี๊ยบ ยังบ่นถึงเธอ จนฉันอดหึงไม่ได้ เลย ( ล้อเล่นนะ ) เธอควรทำใจได้แล้วนะ
พี่ปาน ก็จากไปตั้งนานแล้ว ฉันว่าเขาคงเสียใจนะที่เห็นเธอต้องจมอยู่ในความทุกข์อย่างนี้

ตอนนี้ ฉันคิดถึงเธอมาก อยากไปหา แต่ไม่รู้ว่าเธออยู่ ณ ซีกใดของโลกนี้ ฉันเป็นห่วงเธอด้วยใจจริงเชียวนะ จะบอกให้

เมื่อวาน มีเพื่อนส่งบทกลอนให้ฉันบทหนึ่ง ฉันว่า ถ้าพี่ปานอยู่เขาคงคิดเหมือนกัน ก็เลยส่งมาให้เธอได้อ่าน

รักษา ตัวด้วยนะ ยิ่งผอมๆอยู่ด้วย ฉันอยากไปดูแลเธอด้วยใกล้ๆจังเลย ฉันหวังว่า คริสมาส ปีนี้ เธอคงจะ มาหา เรา รึว่าอยากให้เราไปหา ฉันเก็บเงินได้เยอะแล้วนะ ถ้าไม่พอฉันก็ จะเอาเงินที่เธอให้ไว้ ดูแลพ่อกับแม่เธอซื้อตั๋วเครื่องบิน บินไปหาเธอ ดีไหม

ฮ่าๆๆ เรียกว่า อัฐยายซื้อขนมยายงัยจ๊ะ ช่วยไม่ได้ อยากทำให้เราคิดถึงทำไม

กลอนที่ส่งมาอยู่ข้างล่างนี่แล้ว อ่านซะนะ ฉันขอร้องแกมบังคับเลยล่ะ

Red Roses (กุหลาบสีแดง)

Red roses were her favorites, her name was also Rose.
กุหลาบสีแดง...คือ..ดอกไม้สุดโปรดของเธอ และเธอก็ชื่อ...โรส ซึ่งหมายถึง..กุหลาบ..ด้วย

And every year her husband sent them, tied with pretty bows.
ทุกปี..สามีของเธอจะส่งดอกกุหลาบผูกโบว์น่ารักให้

The year he died, the roses were delivered to her door.
แม้กระทั่งปีที่เขาตายจากไป เธอก็ยังได้รับดอกกุหลาบ ซึ่งมาส่งที่หน้าบ้าน

The card said, "Be my Valentine," like all the years before.
การ์ดที่แนบมาเขียนไว้ว่า "ที่รักของผม" เหมือนกับหลาย ๆ ปี

Each year he sent her roses, and the note would always say,
ก่อนหน้านี้ แต่ละปีที่เขาส่งดอกกุหลาบให้เธอ เขาจะเขียนว่า

"I love you even more this year, than last year on this day."
"ปีนี้ผมรักคุณ...มากกว่าที่ผมเคยรัก..เมื่อปีก่อน

"My love for you will always grow, with every passing year."
“เพราะความรักของผม..เติบโดขึ้นทุกปีที่ผ่านไป"

She knew this was the last time that the roses would appear.
เธอรู้ว่านี่คือกุหลาบช่อสุดท้ายแล้ว..ที่เธอจะได้รับ

She thought, he ordered roses in advance before this day.
เธอคิดว่า..เขาคงสั่งดอกไม้ล่วงหน้า ก่อนถึงวันวาเลนไทน์

Her loving husband did not know, that he would pass away.
โดยที่เขาไม่รู้ว่า...เขาจะจากไป

He always liked to do things early, way before the time.
เขามักจะทำอะไร..เอาไว้ล่วงหน้าเสมอ

Then, if he got too busy, everything would work out fine.
เพื่อที่จะได้ไม่พลาดแม้ว่าเขาจะงานยุ่งแค่ไหนก็ตาม

She trimmed the stems, and placed them in a very special vase.
เธอตัดก้านกุหลาบ แล้วจัดมันลงในแจกันสุดพิเศษ

Then, sat the vase beside the portrait of his smiling face.
วางไว้..ข้างภาพถ่ายใบหน้าเปื้อนยิ้มของสามี

She would sit for hours, in her husband's favorite chair.
นั่งลงบนเก้าอี้ตัวโปรดของเขา เนิ่นนานนับชั่วโมง
While staring at his picture, and the roses sitting there.
จ้องมองภาพถ่ายของเขาที่มีดอกกุหลาบอยู่ด้านข้าง

A year went by, and it was hard to live without her mate.
หนึ่งปีผ่านไป มันยากมาก สำหรับการที่ต้องอยู่คนเดียว

With loneliness and solitude, that had become her fate.
โชคชะตา..บันดาลให้เธอต้องกลายเป็นคนอ้างว้าง-เปล่าเปลี่ยว

Then, the very hour, as on Valentines before,
และเหมือนดังเช่น วาเลนไทน์ปีก่อนๆ

The doorbell rang, and there were roses, sitting by her door.
แล้วกริ่งประตูก็ดังขึ้น เมื่อเธอเปิดประตู ก็พบกุหลาบแดงวางอยู่ที่หน้าประตู

She brought the roses in, and then just looked at them in shock.
เธอนำมันเข้ามาในบ้าน และรู้สึกตกใจกับสิ่งที่ได้รับ

Then, went to get the telephone, to call the florist shop.
ในที่สุดเธอก็กดโทรศัพท์ไปที่ร้านดอกไม้

The owner answered, and she asked him, if he would explain,
เมื่อเจ้าของร้านมารับสาย เธอจึงถามเขาว่า

Why would someone do this to her, causing her such pain?
"ทำไมถึงมีคนส่งดอกไม้ให้ฉันล่ะ" ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวด

"I know your husband passed away, more than a year ago,"
"ผมทราบว่า..สามีของคุณจากคุณไปเมื่อปีที่แล้ว"

The owner said, "I knew you'd call, and you would want to know."
เจ้าของร้านตอบ "และผมก็รู้ว่า...คุณต้องโทรมา และอยากรู้ว่า...ใครส่งดอกไม้ไปให้คุณ"

"The flowers you received today, were paid for in advance."
"ดอกไม้ที่คุณได้รับวันนี้ ชำระเงินล่วงหน้าเรียบร้อยแล้วครับ

"Your husband always planned ahead, he left nothing to chance."
สามีคุณ...เป็นคนสั่งดอกไม้โดยเตรียมการไว้ล่วงหน้า

"There is a standing order, that I have on file down here,
ผมยังมีคำสั่งซื้อดอกไม้จากเขาเก็บเอาไว้ในแฟ้มอีก

And he has paid, well in advance, you'll get them every year.
ผมได้รับคำสั่งให้ส่งดอกไม้ให้คุณทุกปี

There also is another thing, that I think you should know,
ยังมีอีกเรื่องนะครับ ที่ผมคิดว่าคุณควรจะทราบ

He wrote a special little card...he did this years ago."
เขาเขียนการ์ดพิเศษเอาไว้ให้คุณใบหนึ่งเมื่อหลายปีที่แล้ว

"Then, should ever, I find out that he's no longer here,
และเขาต้องการให้ผมส่งการ์ดนี้แก่คุณ

That's the card...that should be sent, to you the following year."
ในปีถัดจากปีที่เขาจากคุณไปแล้ว"

She thanked him and hung up the phone, her tears now flowing hard.
เธอกล่าวขอบคุณเจ้าของร้านดอกไม้แล้ววางโทรศัพท์ น้ำตาไหลอาบแก้ม

Her fingers shaking, as she slowly reached to get the card.
นิ้วของเธอสั่นระริกขณะเอื้อมมือไปหยิบการ์ดใบนั้น

Inside the card, she saw that he had written her a note.
บนการ์ดมีลายมือของเขา..ที่เขียนถึงเธอ

Then, as she stared in total silence, this is what he wrote...
แล้วเธอก็เริ่มอ่านมันอย่างเงียบ ๆ ในการ์ดเขียนว่า

"Hello my love, I know it's been a year since I've been gone,
"หวัดดีจ้ะที่รัก ถึงตอนนี้ผมได้จากคุณไปหนึ่งปีแล้ว

I hope it hasn't been too hard for you to overcome."
หวังว่า..มันคงไม่ทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยเกินไปในการต่อสู้กับปีที่ผ่านมานะ

"I know it must be lonely, and the pain is very real.
ผมรู้ว่าคุณคงรู้สึกอ้างว้างและเจ็บปวด

For if it was the other way, I know how I would feel.
ถ้าเป็นผมก็คงรู้สึกไม่ต่างจากคุณ

The love we shared made everything so beautiful in life.
ความรักของเราสองคน ทำให้ทุกสิ่งในชีวิตดูงดงามไปหมด

I loved you more than words can say, you were the perfect wife."
ผมรักคุณมาก..เกินกว่าที่จะบรรยายได้ คุณคือภรรยาที่สมบูรณ์แบบ
"You were my friend and lover, you fulfilled my every need.
คุณเป็นทั้งเพื่อนและคนรัก คุณเติมชีวิตผมให้เต็ม

I know it's only been a year, but please try not to grieve.
ผมรู้ว่ามันเพิ่งผ่านไปได้แค่ปีเดียว แต่ผมไม่อยากให้คุณตกอยู่ในความเศร้า

I want you to be happy, even when you shed your tears.
ผมอยากให้คุณมีความสุข แม้กระทั่งเวลาที่คุณหลั่งน้ำตา

That is why the roses will be sent to you for years."
และนี่คือเหตุผลว่า..ทำไมผมจะยังคงส่งดอกไม้ให้คุณ ต่อจากนี้อีกหลายปี

"When you get these roses, think of all the happiness,
เมื่อคุณได้รับดอกกุหลาบผมอยากให้คุณนึกถึงความสุข

That we had together, and how both of us were blessed.
ตลอดระยะเวลาที่เราได้รักกัน

I have always loved you and I know I always will.
ผมรักคุณเสมอ และรู้ว่ามันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

But, my love, you must go on, you have some living still."
แต่ที่รัก ..คุณต้องต่อสู้ต่อไป ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป

"Please...try to find happiness, while living out your days.
ได้โปรดมองหาความสุข ตลอดวันเวลาที่คุณยังมีชีวิตอยู่

I know it is not easy, but I hope you find some ways.
ผมรู้ว่ามันไม่ง่าย หากหวังว่าคุณคงไปถึงมันได้สักวัน

The roses will come every year, and they will only stop,
กุหลาบจะส่งถึงคุณทุกปี และจะหยุดส่ง ก็ต่อเมื่อ..

When your door's not answered, when the florist stops to knock."
คนที่มาส่งดอกไม้เคาะประตูแล้ว ไม่มีใครมาเปิดรับ

"He will come five times that day, in case you have gone out.
เขาจะมาส่งห้าครั้งในวันนั้น เผื่อว่าคุณจะออกไปธุระข้างนอก

But after his last visit, he will know without a doubt,
หากครบห้าครั้งแล้ว ยังมอบดอกกุกลาบให้คุณไม่ได้

To take the roses to the place, where I've instructed him,
เขาจะรู้เองว่าต้องนำดอกไม้ ไปยังสถานที่ที่ผมสั่งเอาไว้

And place the roses where we are, together once again."
ดอกกุหลาบจะวางลงบนที่ที่เราจะได้อยู่ร่วมกันอีกครั้ง....ชั่วนิรันดร์"


ฉันเกลียดบทกลอน บทนี้ มันเหมือน หนาม ….หนามนับร้อยพันมาทิ่มแทงหัวใจของฉัน ฉัน ร้องไห้ หนักขึ้นๆๆ และนั่นเป็น เมลล์ ฉบับสุดท้ายที่ฉันเปิดอ่าน ฉันไม่ได้ติดต่อกับพิมอีก เวลาฉันเหลือน้อยลงๆ ทุกทีแล้ว

ฉันยังคงย้ายไปที่ต่างๆ ไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมาย ทุกอย่างในตัวฉันเริ่มเปลี่ยนแปลง ฉันเริ่มเจ็บป่วยบ่อยขึ้นๆ ฉันจึงตัดสินใจ อยู่ ณ เสี้ยวหนึ่งของอเมริกา ฉันเลือก ที่นี่ เพราะฉันมองเห็นทะเล ได้สุดตา มองเห็นเส้นขอบฟ้า ฉันอยู่บนเนินเขา ที่เงียบสงบ

ยามเช้าตรู่ ฉันจะออกมานั่งมองดูพระอาทิตย์ขึ้น มองดู ฝูงนก น้อยบินออกจากรัง ฉันควรจะมีความสุขกับชีวิตช่วงสุดท้าย

ฉัน มักจะวาดรูป ทำขนม หรือบางทีก็เป็นตุ๊กตา แล้วนำไป มอบให้กับ เด็ก น้อยๆที่ถูกทอดทิ้ง ฉันอยากกอดพวกเขา อยากโอบกอดเขาไว้ ให้เขาได้รับไอ ความอบอุ่น ความรักที่ฉันมีให้กับพวกเขาแต่ฉันไม่กล้า…………. ฉันกลัวทำบาปกับเขา

ฉันมีเพียงสมุดบันทึก เป็นเพื่อนคุย ฉันบันทึกทุกช่วงเวลาและความคิดตั้งแต่ฉันก้าวเข้ามาในโลกที่โดดเดี่ยว ฉันตั้งใจจะมอบให้กับพิม ฉันรู้ดีว่า พิม มีคำถามมากมายแต่ฉันไม่เข้มแข็งพอที่จะบอกความจริงกับพิม ขอให้สมุดบันถึงบอกเล่าเรื่องราวเหล่านั้นกับพิมแทนฉัน
พิม เพื่อนรัก

ฉันต้องขอโทษที่ฉันไม่ได้ติดต่อหาเธอเลย ฉันกลัวว่าตัวเองจะอ่อนแอ
ฉันได้ส่งจดหมายฉบับนี้มาพร้อมสมุดบันทึก ที่ฉันได้เขียนไว้ตลอดเวลา ทุกความรู้สึกทุกห้วงความคิด พิมได้รับรู้คำตอบของทุกคำถามที่เธอเคยถามฉัน

ฉันไม่เคยรู้สึกเสียใจเลยในชีวิตเท่ากับการตัดสินใจแต่งงานกับพี่ปาน

ฉันรักพี่ปานเขามาก เขาไม่เคยนอกใจฉัน เขายังคงดีกับฉันเหมือนที่เคยเป็นมา ฉันเคยคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลก มีพ่อแม่ที่รักฉันเข้าใจฉัน มีเพื่อนที่ดีอย่างเธอ ได้สามี ที่ดี ไร้ที่ติ อย่างพี่ปาน

พี่ปานเป็นคนที่มีโรคประจำตัวซึ่งเขาไม่เคยบอกว่าเป็นอะไร ฉันเองก็ ไม่คิดถามเพราะ กลัวว่า จะเป็นการว่าเขาอ่อนแอ ทุกคืน เขาต้องทานยาก่อนนอน ไม่เคยหยุดสักวันเดียว และทุกครั้งที่ไปหาหมอ เขาไม่ยอมให้ฉันไปด้วยเลย

ความสงสัยในตัวเขามากขึ้นหลังจากแต่งงานได้ 1 ปี เขาไม่เคยคิดที่จะมีลูก เขาให้ฉันทานยาคุมกำเนิดเขาอ้างว่าอยากอยู่ลำพัง สองต่อสองอย่างนี้ก่อน

ฉันเชื่อและตามใจเขาทุกอย่าง ระยะหลัง ร่างกายเขาเริ่มอ่อนแอลง ด้วยความเป็นห่วงและความอยากรู้ ฉันได้ ขโมยยา ที่เขาทานเป็นประจำ ไปให้คุณหมอเอก คุณหมอประจำครอบครัวของฉัน

คุณหมอเอก เรียก ให้เราทั้งสองไปพบ แล้วตรวจร่างกาย ผลออกมา เราทั้งสองเป็นเอดส์

วินาทีแรกที่ฉันรู้ ฉันมองหน้าเขาด้วยความรู้สึกเสียใจ แต่ยังคิดว่า อาจมาจากสาเหตุ อื่น คุณหมอบอกว่า เขาเป็นเอดส์มานานกว่า 8 ปี เป็นก่อนหน้าที่จะมารู้จักกับฉัน นั่นก็หมายความว่า เขาหลอกฉัน

เขาฆ่าฉัน!!!!!!!

ฉันต้องเก็บความรู้สึกต่างๆ ฉันไม่กล้าที่บอกใครๆ
หลังจากนั้น 1 ปี เขาก็ ตาย ส่วนฉัน เหลือเวลา เพียง 4 ปี

ฉันไม่อยากให้ คนที่รัก ฉัน อย่างบริสุทธิ์ ได้เห็น ได้รับรู้ว่า ฉันตายเพราะอะไร

ทางเดียวคือฉันต้องไปหา ที่ใด ที่หนึ่งในมุมโลก เพื่อ ลมหายใจครั้งสุดท้าย

จดหมายฉบับนี้ ถึงมือเธอ ร่างฉันคงนอนนอยู่ในห้องเย็นเรียบร้อยแล้ว

คำขอร้องของฉันครั้งสุดท้าย

อย่าบอกพ่อกับแม่ว่าฉันเป็นอะไรตาย
ฉันอยากกลับมานอนอยู่ผืนแผ่นดินไทย อยู่ใกล้กับคนที่ฉันรัก

แต่ฉันไม่อยากอยู่กับกับเขา…………..

หวังว่าเธอคงจะเมตตาเพื่อนที่แสนโง่คนนี้ ให้ได้มีความสุขเป็นครั้งสุดท้าย

มรดกทั้งหมดฉันได้ ทำพินัยกรรมให้กับเธอไว้แล้ว เธอจะได้เอาไว้ใช้ในงานศพของฉัน และ ใช้เลี้ยงดูพ่อกับแม่ รวมทั้งตัวเธอด้วย

ฉันเคยห่วงว่าเธอควรจะมีผู้ชายที่มาดูแบบเธอมากกว่าผู้หญิงแต่ใจเป็นชายอย่างพี่เจี๊ยบ แต่ตอนนี้ฉันคิดว่า เธอโชคดีมากต่างหาก

เงินที่เหลือ คงทำให้เธอใช้ชีวิตได้อย่างสบาย นะ ถ้าว่างก็ ทำบุญให้ฉันด้วยเกิดชาติหน้าจะได้ไม่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้อีก

ฉันไม่แน่ใจว่า เขาจะให้พาร่างฉันกลับมาหรือไม่ ถึงอย่างไร ก็ ขอให้เถ้ากระดูก ของฉันได้กลับมาอยู่ที่เมืองไทยนะ

อย่าร้องไห้เมื่อฉันจากลา
น้ำตาของเธอทำให้ใจฉันช้ำ
ขอเพียงเธอจดและจำ
ทุกคืนวันที่เราสุขมาด้วยกัน

ฉันอยากให้เธอ จดจำแต่ภาพคืนวันที่สวยงามระหว่างเรา ไว้ตลอดไป

ฝากกราบลาพ่อกับแม่แทนฉันด้วยนะ

รักและคิดถึงเธอ จนลมหายใจสุดท้าย

แนน





Create Date : 07 พฤษภาคม 2548
Last Update : 7 พฤษภาคม 2548 22:44:44 น. 2 comments
Counter : 372 Pageviews.

 


โดย: wbj วันที่: 27 กรกฎาคม 2548 เวลา:22:23:14 น.  

 
เลือดเย็นสุด ๆ


โดย: ต้นน้ำ-ลำธาร IP: 58.11.110.56 วันที่: 29 กรกฎาคม 2548 เวลา:8:46:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เอ็นจัง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add เอ็นจัง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.