Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2548
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
7 พฤษภาคม 2548
 
All Blogs
 
ชาติเดียวก็เกินพอ

“เป็นงัยบ้าง โอเค ไหม ตอง”
“ ยังไหวอยู่ “ ฉันตอบด้วยเสียงอันแผ่วเบา
“ทำใจดีๆไว้นะ” เธอยังคงปลอบฉันต่อ
“อืม ” ฉันพยายามกลั้นไม่ให้น้ำตาทะลักออกมา
“ช่วยอะไรฉันอยากสิ” ฉันเอ่ยปาก
“ฉันอยากทำบุญ ช่วยพาฉันไปที่วัดไหนก็ได้ ฉันอยากทำบุญให้เขา”
“ จะเอาอย่างนั้นเหรอ” เธอถามย้ำ
“อืม... นะ” ฉันย้ำเจตนารมณ์

น้ำ เธอ เป็นเพื่อนรักฉันคนเดียวที่อยู่เคียงข้างฉันตลอดไม่ว่าจะสุขหรือว่าทุกข์ แต่จะเป็นทุกข์มากกว่า เพราะยามที่ฉันสุขทีไร เธอมักจะหายหน้าไปทุกที เธอขับรถฉันไปทุกทีที่ฉันอยากไป แต่พอฉันมีเขา เธอก็ ห่างไป เพียงเพราะว่าเธออยากให้ฉันมีความสุขมากที่สุดกับเขา

เธอรู้ดีว่าฉันรักเขามากแค่นั้น รักครั้งแรกของฉัน ฉัน มอบความรักให้เขาจนเรียกได้ว่าทั้งหัวใจ มากที่สุดเท่าที่ผู้หญิงจะรักผู้ชายคนหนึ่งได้ ฉันเคยถามตัวเองว่าฉันรักเขามากแค่ไหน ตายแทนเขาได้ไหม ฉันตอบตัวเองทันทีเลยว่า “ได้”

ระยะทางจากบ้านฉันไปยังวัด ใช้เวลานานพอควรที่ทำให้ฉันนึกถึงวันแรกที่ฉันและเขาเจอกัน ความรักของเราสองคนก่อตัวอย่างรวดเร็ว แต่ฉันรู้สึกว่ามันช้ามาก แต่ทุกวินาทีที่ฉันได้อยู่กับเขาช่างมีความสุขเหลือเกิน ทำให้ฉันนึกขอบคุณน้ำเสมอที่ สอนให้ฉันรู้จักใช้ทุกเวลาวินาที อยู่กับเขาให้มากที่สุด มันเป็นช่วงเวลาที่วิเศษที่สุดอย่างเธอน้ำบอกฉัน

ฉันเก็บมันไว้ในความทรงจำของฉัน

ถึงแม้เราเคยจะเลิกกัน ด้วยความหวัง และการรอคอยทำให้เขากลับมาหาฉันหลายครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่มีทางแล้ว ไม่ทางที่เขาจะกลับมาได้อีกแล้ว ไม่มีความหวังใดเหลืออีกแล้ว

“ไปถวายสังฆทานก่อนนะ ถ้ายังไม่สะใจ ฉันจะพาไปที่อื่นต่อ โอเคไหม” น้ำพูดขึ้นหลังจากที่ฉันนั่งเงียบไปนาน
“ยังงัยก็ได้แล้วแต่เธอ” ฉันตอบด้วยเสียงเนื่อย

ฉันกลับเข้าสู่ภวังค์ของตัวเองต่อ

“ความรักมักไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป” ฉันไม่รู้หรอกว่าใครเป็นคนพูดประโยคนี้ แต่มันเป็นความจริง ความรักของฉันกับเขา เริ่มต้นที่ความหอมหวาน ทุกอย่างสวยงาม สดใส รักครั้งแรกของเด็กที่เพิ่งเข้าสู่โลกผู้ใหญ่ เขาคือผู้ชายที่มีรัศมีความอบอุ่นอยู่รอบๆ ทำให้คนบ้านแตกอย่างฉันอยากอยู่ใกล้ๆ เพื่อได้สัมผัสไออุ่นนั้น เหมือนได้ผิงเตาไฟ ยามหนาว

สิ่งที่ผู้หญิงต้องการจากผู้ชายสักคน ที่จะคิดมากกว่าความเป็นเพื่อน คือ มีความสุขทุกครั้งที่อยู่ด้วยกัน ความอบอุ่น ความรู้สึกว่าปลอดภัยเมื่อมีเขา ทุทีที่ไป ไม่ต้องนึกกลัวกับสิ่งใดเพราะว่ามีเขา เขาเป็นยิ่งกว่า วัตถุมงคลใดๆ ที่เคยรู้จัก และความมั่นคงทั้งหน้าที่การงาน

ใช่ เขามีทุกอย่างที่ฉันพูดไป ไม่น่าแปลกใจเพราะเขาห่างจากฉัน กว่า10 ปี อาจเป็นเพราะฉันไม่ค่อยได้อยู่กับพ่อ ทำให้ฉันรู้สึกดีที่มีเขา เป็นทั้งพ่อ และคนรักในเวลาเดียวกัน ฉันวิเคราะห์และบอกกับตัวเองหลายครั้งที่ถามคัวเองว่า ทำไมถึงได้รักเขามากมายขนาดนี้

เวลาที่เราทะเลาะกัน เพราะมุมมองและความคิดที่ต่างกัน คือเหตุผลที่เขามักให้กับฉันเสมอ เวลาที่เขาบอกเลิก และเหตุผลของฉันในการคืนดี คือ “ฉันรักเขา”

“ผู้หญิงมักใช้อารมณ์เป็นตัวตัดสิน ต่างจากผู้ชายที่ใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์” ฉันยังเป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่ปฏิเสธความแตกต่างนี้

ทุกครั้งที่เขากลับมา โลกของฉันจะเป็นสีสดใสอีกครั้ง และโลกของฉันจะเป็นสีดำ คล้ำ เมื่อเขาบอกเลิก

ฉันคงไม่ใช่ผู้หญิงคนเดียวแน่ที่เป็นแบบนี้ ฉันมักหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองเสมอ และมักรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนมีเหตุผลขึ้นมาทันที

เขาไม่เคยง้อ ฉันหรอก นะ ฉันต่างหาก ที่เฝ้าตามตื้อ อ้อนวอน ก้มกราบให้เขากลับมาคบกับฉันเหมือนเดิม แม้จะมีเงื่อนไขที่ผู้หญิงทั่วไปยอมไม่ได้ แต่ฉันยอม เพลงแค่ให้ฉันได้สัมผัสไออุ่นนั้นให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้

ฉันไม่กล้าถามเขาหรอกนะว่าเขารักฉันไหม แต่ฉันต่างหากที่พร่ำบอกเขาทุกครั้งที่มีโอกาวว่ารักเขามากขนาดไหน

เพราะเหตุนี้ด้วยมั้งที่ทำให้เขาไม่ค่อยจะแคร์ฉัน และบอกเลิกกับฉันอย่างง่ายดายทุกครั้ง

ฉันเคยนับว่าเขาเลิกกับฉันกี่ครั้งแล้ว แต่หลังมานี่ เราแทบจะบอกเลิกกับรายเดือน มันเยอะมาก จนฉันนับไม่ไหว ฉันเอาเวลาที่มานับ ไปหาทางที่จะขอคืนดีกับเขามากกว่า

กว่า 7 ปีที่ฉันต้องอยู่กับสภาพแบบนี้ หลายครั้งที่น้ำมักถามฉันด้วยคำถามเดิมๆว่า

“ทำไมไม่ เปิดโอกาสให้คนอื่นเข้ามาบ้างล่ะ อาจจะดีกว่านี้ก็ได้ ฉันว่าน้ำตาเธอที่ร้องไห้ให้กับผู้ชายคนนี้คงพอที่จะให้ชาวนาที่ทุ่งกุลาร้องไห้ ทำนาได้ทั้งปีแล้ว”

ฉันมักจะหัวเราะกับการเปรียบเทียบของน้ำ แต่ก็จริงของน้ำ ฉันร้องไห้ ให้เขามากกว่าร้องไห้ ให้กับใครๆ ในชีวิตฉันเลย

ในแต่ละครั้งที่เขามาหาฉัน แม้เพียง 10 นาที มันก็มากเกินพอ สำหรับฉัน ฉันเทิดทูนบูชา มากจนน้ำ ยังแซวว่า ที่บ้านไม่น่าจะแขวนรูปพระเลย เอารูปเขามาแขวนแทนดีกว่า

ฉันเห็นด้วยนะ ยามที่ไม่เขา ฉันเหมือนคนไร้สิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจ

ที่จริงแล้ว สำหรับฉัน มันมากกว่าคำว่ารัก น้อยคนนักที่จะเข้าใจ ว่ามันเป็นไปได้เหรอ ฉันไม่รู้ว่าจะอธิบายให้คนอื่นเข้าใจได้ยังงัย และไม่คิด ไม่ใส่ใจว่า จะมีใครเข้าใจฉันบ้าง

ตั้งแต่มีเขา ชีวิตของฉันถูกตัดขาดออกจากสังคมเพื่อน มีเพื่อนเพียงคนเดียวที่ยังคบกับฉัน คือน้ำ เหตุผลง่ายๆเหตุผลเดียวที่ทำให้คนที่มีเพื่อนมาก และเป็นคนชอบออกงานสังคมอย่างฉัน มาเป็นอย่างนี้ เพียงเพราะว่า เขาบอกว่า

“ต้องให้ความสำคัญกับเขา ถ้าคิดจะคบเพื่อนก็ไม่ต้องมาคบกับเขา”

อย่างที่บอกแหละขอเพียงแต่เขาบอกฉันก็กลายเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย อย่างที่ไม่เคยเป็นกับพ่อแม่ หรือครูอาจารย์มาก่อน
ทำไมนะ เขาถึงมีอิทธิพลกับฉันมากมายขนาดนี้ ฉันไม่รู้ ไม่เคยคิด

ฉันเคยคิดว่า ระหว่างจากเป็น กับจากตาย ฉันจะเลือกแบบไหน ถ้าฉันเลือกได้

ฉันตอบกับตัวเองว่าฉันขอเลือกให้เขาจากตายดีกว่า เพราะถ้าเขาจากเป็น นั่นหมายความว่า เขาคงจะไปอยู่กับผู้หญิงคนใดคนหนึ่งที่เขาคบอยู่

ฉันคงไม่ได้บอกล่ะสิว่า เขาไม่ได้มีฉันแค่คนเดียว

แต่ทำไมฉันถึงได้ยอม น่ะเหรอ

เปล่าหรอกฉันไม่ใช่แม่พระ แต่ฉันมารู้ตอนที่ฉันรักเขาไปหมดใจแล้ว ถอนตัวไม่ทัน แล้ว นั่นคือความฉลาดของเขา

หลายครั้งที่ฉันได้ยินเสียงผู้หญิงมารับสาย เวลาโทรไปที่บ้าน หรือหลายครั้ง ก็ข้อความหวานๆมาทาง เพจ

เขาฉลาดพอที่จะไม่ได้พกโทรศัพท์มือถือ ให้ตามตัวได้ ฉันต้องคอยรอว่าเมื่อไหร่เขาจะโทรมาสักครั้ง นั่นคือเวลาทอง ฉันทิ้งทุกอย่างที่จะไปเจอเขาให้ได้

ฟังดูน่าสมเพชใช่ไหม โปรดเข้าใจฉันเถอะ อย่างที่ฉันได้บอกแล้วว่าฉันรักเขามากแค่ไหน และเขาสำคัญกับฉันเพียงใด

“เธอเคยเอาดวงไปดูบ้างไหมว่าเป็นเนื้อคู่กันหรือเปล่า” น้ำเคยถามฉัน
“ไม่ล่ะ กลัว”
“กลัวอะไร” น้ำถามต่อ
“กลัวว่าหมอดูบอกว่าไม่ใช่” ฉันตอบ
“แต่ฉันว่าใช่นะ”
“ทำไมล่ะ เธอดูเป็นเหรอ” ฉันถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“ไม่เป็นหรอกแต่ฉันว่า เธอกับเขาน่ะ เป็นคู่เวรคู่กรรมกันมากกว่า” พูดจบเธอก็หัวเราะ ส่วนฉันได้แต่อึ้ง

ก็เห็นจะจึง อย่างที่น้ำว่า

“ ตองถึงแล้ว วัดนี้แหละ มีปล่อย นกปล่อย ปลา แถมยัง ทำบุญโรงศพด้วย เรียกว่า มาวัดเดียวได้ทุกอย่าง” น้ำพยายามพูดให้ฉันหัวเราะ ฉันได้แต่ยิ้มบางๆตอบ

“เข้มแข็งไว้นะตอง อย่างงัยเธอก็มีเรานะ” น้ำย้ำ
“เรารู้ ขอบใจมากนะน้ำ”

“เราขอทำให้เขาเป็นครั้งสุดท้าย” เสียงฉันเริ่มเครือ น้ำตาที่กลั้นไว้มานานเริ่มเอ่อ

น้ำเดินเข้ามากอดฉัน

“ อยากร้องไห้ก็ร้องมาเถอะ ขอให้เป็นครั้งสุดท้ายที่จะร้องไห้ให้กับเขานะ เพราะเธอร้องเขามามากแล้ว”

น้ำตาที่ฉันกลั้นมานาน ก็ทลายออกมา

วันนี้เป็นวันเกิดของฉัน ฉันวางแผนว่าฉันจะได้ฉลองวันเกิดกับเขา เราคุยกันแล้วว่าปีนี้เขาจะอยู่กับฉันทั้งวัน เขาจะมารับฉันแต่เช้า

อีกแค่วันเดียวทำไม สวรรค์ไม่เมตตาฉันเลย ฉันบอกกับสวรรค์แล้วงัย ว่าฉันแค่ขอความทรงจำครั้งสุดท้ายระหว่างฉันกับเขา แล้วฉันจะจากเขาไปอย่างโดยดี แต่ทำไม

ทำไม ?

ฉันได้แต่ พร่ำคำว่าทำไม ทำไม กับตัวเอง

ฉันไม่รู้ว่าตัวเองร้องไห้นานเท่าไหร่ ฉันอยากจะลองเดินจากเขาไปบ้างเพื่อที่เขาอาจจะรู้คุณค่าของฉัน เหมือนที่ใครบางคนเคยบอกว่า “คนเรามักจะเห็นคุณค่าเมื่อสูญเสียมันไปแล้ว”

ฉันต้องการแค่นี้จริงๆ ขอแค่สักครั้งในชีวิต ที่เขาจะมองเห็น แต่ฉันไม่มีโอกาสอีกแล้ว

ฉันหวังว่า การทำบุญในครั้งนี้ กรรมเวรระหว่างฉันกับเขาจะได้รับการชดใช้หมดสิ้นกันที
ฉันขอกรวดน้ำคว่ำขัน จบกันเพียงชาตินี้ อโหสิซึ่งกันและกัน

อย่าได้จองเวรซึ่งกันและกันเลย
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด
อย่าได้มีความพยาบาทเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด

ชาติเดียวก็เกินพอ



Create Date : 07 พฤษภาคม 2548
Last Update : 7 พฤษภาคม 2548 3:45:18 น. 0 comments
Counter : 220 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เอ็นจัง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add เอ็นจัง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.