Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2548
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
7 พฤษภาคม 2548
 
All Blogs
 
นิทาน ....น้ำตา...งานศพ

มีหลายคนถามหาเรื่องเล่าของฉันว่าหายไปไหน ไม่เห็นได้เจอในถนนักเขียนนี้เลย ฉันไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม ฉันถึงเขียนงานไม่ได้เลยทั้งๆที่ก่อนหน้านี้
ฉันสามารถถ่ายทอดจินตนาการผ่านตัวอักษรได้อย่างง่ายดาย

ฉันได้แต่ถามตัวเองว่าฉันเป็นอะไรไป
“ทำไมฉันถึงได้ไม่มีความรู้สึกกับสิ่งที่อยู่รอบข้างเลย ?”
“ทำไมฉันน้ำตาฉันไม่ไหลเวลาที่ได้ดูหนังเศร้า นางเอกโดนคนรักทิ้งไป?”
“ทำไมฉันคิดไม่ออกเวลาที่ คนมาเล่าว่าโดนหักอกมา?”
“ทำไมฉันไม่รู้สึกเวลาที่คนข้างกายที่ใครๆเรียกว่าแฟน มาบอกลาแล้วเดินจากฉันไป?”

“หรือว่าอารมณ์ของฉันมันตายด้าน ด้านชาขนาดนั้นแล้วเหรอ?”

คำถามมากมาย คงเป็นข้ออ้างอย่างดีที่ฉันเลือกและตอบกับตัวเองว่าทำไมฉันถึงตัดสินใจไปชลบุรีในวันนี้เพื่อร่วมงานศพของพ่อเพื่อนคนนหนึ่งที่ฉันรักมาก แน่นอนที่สุดเขาต้องมาร่วมงานด้วยแน่นอน เพียงคิดถึงตรงนี้ เหมือนกินของแสลง อาการเก่าๆบางอย่างเริ่มกำเริบออกมา ใช่ที่ตรงหัวใจ แต่ไม่ใช่ที่ข้างซ้ายตรงเกือบกลางอก แต่เป็นหัวใจที่มีความรู้สึก ทำงานคู่กับอารมณ์ ช่วยกันบังคับ น้ำตาให้ไหลออกมา ฉันรีบปาดน้ำตาก่อนที่จะไหลออกมามากกว่าตรงนี้

ฉันเตรียมจัดเสื้อผ้าพร้อมที่จะนอนพักหากว่าหารถกลับมาไม่ทัน เพราะฉันมีงานที่ต้องทำในวันรุ่งขึ้น แปลกใจตัวเองเหมือนกันที่ของทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้ามีความหลังซ่อนอยู่ทุกชิ้น น้ำตาฉันกำลังจะออกมาโชว์อีกแล้ว ฉันรีบสั่งอารมณ์ทันที อย่าเพิ่งเลย อย่าเพิ่งให้น้ำตามาแสดงตอนนี้เก็บเอาไว้ก่อนนะ เก็บไว้ค่อยแสดงเมื่อถึงเวลา

เฉดสีเครื่องสำอางค์ที่แต่งแต้ม เป็นโทนสีที่เขาเคยเอ่ยว่าเข้ากับฉันมากที่สุด ลิปสติกสีโปรดของเขา ขนตาที่งอนยาวถูกเติมด้วยมาสคาร่า เน้นให้ดกหนาและงอนมากขึ้น ช่วยให้ดวงตาดูโดดเด่น

ทรงผมที่ไดร์ตรงตามที่เขาเคยเอ่ยชม ว่าสวย นุ่มน่าสัมผัส ฉันอุตส่าห์ไปที่ร้านทำผมขอให้เขาทำทั้งๆที่เขาปิดร้าน ยอมจ่ายเงินเพิ่ม เจ้าของร้านคงงง เพราะไม่เคยเห็นฉันทำผมให้ตรงมาหลายปีแล้ว จะดัดผมตลอด ที่จริงฉันชอบที่ผมตัวเองตรงและดำขลับมากกว่า ผมหยิกฟูเป็นสีน้ำตาลแบบนี้ แต่ฉันคงทนไม่ได้ที่จะอดคิดถึงเขา คิดถึงเวลาที่เขาเอามือลูบผมฉันอย่างแผ่วเบา มักจะเอาหวีมาสางผมให้กับฉันบ่อยๆ

“ รู้ไหมว่าผู้ชาย 99 % ชอบผู้หญิงผมยาว และเกิ้น ก็เป็นหนึ่งในนั้น”
เขาเคยพูดกับฉันเสมอ เวลาที่ฉันจะตัดผม

แม้อากาศจะค่อนข้างเย็นแต่ฉันก็ยังเลือกเสื้อที่บางตัวนั้น ตัวที่เขาซื้อให้ฉันในวันเกิด ฉันยังคงเก็บรักษาไว้อย่างดี การแต่งตัวฉันในวันนี้เป็นแบบที่เขาชอบ เขาเคยบอกว่า

“ เกิ้น ชอบผู้หญิงที่แต่งตัวเท่ห์ๆ เกิ้นว่าดูทะมัดทะแมงดี แล้วหุ้นอย่างเนยนี่แหละเหมาะมาก”
“ จะมาว่าเป็นทอมล่ะสิ “ ฉันว่า
“ถ้าเนยเป็นทอม เกิ้นก็ต้องเป็นดี้สิ จริงป่าว”

บทสนทนาเก่าๆกลับมาในหัวฉันอีกแล้ว ภาพวันเก่า ในอดีตกำลังกลับมาเหมือนได้ดูหนังเรื่องเดิมเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ น้ำตากำลังจะออกมาอีกแล้ว คราวนี้ฉันห้ามไม่ทัน ดีนะที่มาสคาร่ากันน้ำ ไม่งั้นฉันคงต้องเสียเวลาแต่งหน้าใหม่แน่ๆ

น้ำหอมกลิ่นนี้เขาซื้อให้ฉัน เขาบอกว่า

“ เกิ้นว่ากลิ่นนี้ต้องเหมาะกับเนยมากเลย ตอนที่ได้กลิ่นนี้ครั้งแรกนะ เกิ้นวิ่งตามไปถามว่าเขาใช้กลิ่นอะไร กว่าจะรู้เมื่อยมือมากๆ เนยก็รู้นี่ เกิ้นไม่เก่งภาษาอังกฤษ ตอนแรกเขาคิดว่าเกิ้นจะไปจีบ แต่พอเกิ้นบอกว่าจะซื้อให้แฟนเขาก็รีบเขียนชื่อให้แล้วบอกว่า อิจฉาเนยด้วย”

เขาเล่าด้วยหน้าตาที่ยิ้มแย้ม ฉันอดไม่ได้ที่จะเลือกกลิ่นนี้เป็นกลิ่นประจำตัว ถึงแม้ยี่ห้อนี้จะไม่มีขายในเมืองไทย แต่ฉันก็หาทางจนได้ที่จะหาซื้อไม่ให้กลิ่นนี้จางหายไปจากตัว

ฉันพร้อมแล้วที่จะออกเดินทาง ฉันยกมือไหว้พระ ขอพรทาน ขอให้ฉันเข้มแข็ง ขอให้ฉันชนะใจตัวเอง

5 ชั่วโมง ฉันเคยทำอะไรได้หลายอย่าง ดูหนังได้ 2 เรื่อง แถมกินข้าวได้อีก เต้นระบำจนเหนื่อย กินเหล้าอย่างเมามาย เขียนเรื่องสั้น ได้ สักเรื่อง หรือบางทีก็นั่งเม้าท์จนน้ำลายแตกฟอง แต่ไม่ใช่วันนี้ วันนี้ฉันทำได้เพียง นั่งอยู่ในรถ แล้วรอลุ้นทุกวินาทีที่ผ่านเข้ามา เสียงเพลงจากเครื่องเล่นเทป วอร์คแมน ที่ฉันหวังจะพึ่งพิงให้หายอาการกังวล แต่ฉันคิดผิด ฉันเลือกเทปที่เหมือนดังเรื่องราวของฉันกับเขา มาร้อยเรียงเป็นบทเพลงรักร้าว ฉันปิดมันทัทีก่อนที่เจ้าน้ำตาจะไหล ฉันพยายามมองไปรอบๆตัว ก็เห็นมากันเป็นคู่ เหมือนอย่างที่ครั้งหนึ่งที่ฉันกับเขามาด้วยกัน เหลือบมาที่พนักพิงด้านหน้า ช่างเป็นกรรมฉันเหลือเกิน เป็นยิ่งกว่าคำว่าบังเอิญ ถ้วยคำที่เขาเขียนให้ฉันยังติดอยู่ที่เบาะนั่น

“ You are my Life ,my Love and I want to Live with”

ลายมือหวัดแกมบรรจงที่เขาเขียนไว้แม้จะจางไปบ้างแต่ยังพอที่จะอ่านได้ ฉันรีบเบือนหน้าออกมองนอกหน้าต่างเห็นหมู่บ้าน ที่ครั้งหนึ่ง เขาเคยบอกกับฉัน

“ เกิ้นชอบบ้านเดี่ยวมากกว่าคอนโด แต่กำลังของเกิ้นคงซื้อได้แต่แถบชานเมือง ไม่รู้ว่าเนยพอจะอยู่ได้ไหม”
“ได้สิ ที่ไหนที่มีเกิ้น เนยอยู่ได้อยู่แล้วล่ะ”

ครั้งนั้นเราสองคนเตรียมที่จะแต่งงานกันหลังจากเรียนจบและทำงานได้ระยะ ความฝันอันสวยหรูมันจบลงตรงไหนนะ

ถึงบางประกงแล้ว ใครกันนะที่บอกว่ากลั้นใจข้ามแม่น้ำบางประกงได้ จะขออะไรก็จะสมหวัง ไม่จริงเลย

“ เนย เรามาอธิษฐานพร้อมกัน “ เกิ้นกับฉันเกี่ยวก้อยกัน กลั้นลมหายใจ พร้อมอธิษฐานให้เราได้อยู่กันจนแก่เฒ่า

“ทำไมนะ เกิ้นถึงได้ลืมคำอธิษฐานของเราได้ “ ฉันได้แต่ถามตัวเอง

ถึงแล้ว ถึงซะที ชลบุรี ฉันนั่งรถต่อไปที่วัด มือฉันเริ่มเย็น ตัวเริ่มเกร็ง ใจเย็นๆสิ ใช่เย็นมากๆ เย็นจนรู้สึกหนาว ความหนาวภายนอกกับภายในมันช่างรวมตัวกันได้ดีจริงๆ ฉันจะกลายเป็นน้ำแข็งไหมนะ ฉันพยายามคิดให้เป็นเรื่องสนุก แต่มันไม่ตลกเลย

ฉันพยายามคิดให้เป็นเรื่องสนุก แต่มันไม่ตลกเลย

สงสัยฉันจะมาเร็วไป ที่วัดยังไม่มีเพื่อนคนไหนนอกจากญาติคงเพื่อน ฉันเข้าไปสวัสดีพี่ชายเพื่อนฉัน ฉันเห็นตาเขาแดงๆ เขาบอกว่า “ป๊าไปแล้วเนย” ฉันได้แต่พยักหน้า พอดี แม่เพื่อนเดินมาฉันรีบเดินเข้าไปหากราบท่าน ท่านบอกว่า ไม่มีใครผัดข้าวให้เนยกินแล้วล่ะ แล้วม๊าก็ร้องไห้ ฉันรีบกอดท่าน แล้วก็ร่วมร้องไห้ด้วย ฉันไม่รู้ว่าน้ำตานี้มาจากความเศร้าที่ป๊าของเพื่อนจากไป หรือว่า ความอดทนของความรู้สึกของฉันมันหมดลงแล้ว ฉันร้องไห้ได้สักพัก เพื่อนๆก็ทยอยมากัน ฉันได้แต่ลุ้นว่าเขาจะมาไหม แล้วเจอกันฉันจะทำอย่างไร ฉันไม่ได้เจอเขามานานมากแล้ว นี่ถ้าไม่ใช่งานของพ่อเพื่อนคนนี้ฉันคงไม่มาหรอก ฉันพยายามหาเหตุผลมากมายที่จะมางานครั้งนี้ แต่ลึกๆในใจฉันรู้ดีว่า เพราะฉันอยากเจอเขาฉันก็เลยมา แต่มันคงไม่ดีแน่ถ้าฉันบอกกับตัวเองอย่างนั้น เพราะหมายถึงฉันตัดใจจากเขาไม่ได้

“ มานานแล้วเหรอ เนย” เสียงที่คุ้นเคย ทำให้ฉันหันไปมองตามเสียงทันที ฉันอึ้งไปนิดหนึ่ง
“ ได้สักพักแล้วล่ะ เกิ้นทำไมเพิ่งมาล่ะ อยู่แถวนี้ไม่ใช่เหรอ” เขานั่นเอง หัวใจฉันแทบจะหายไปไหนไม่รู้ดีที่เรียกกลับมาทัน ฉันพูดกับเขาเหมือนเดิม
“ เกิ้นไปทำงานที่จังหวัดอื่นตั้งนานแล้ว เนยไม่รู้เหรอ” เขายังคงยิ้มให้กับฉัน เหมือนก่อนเคยยิ้มให้กัน เพียงแต่ตอนนั้น เขามั้งจะลูบผมของฉันด้วย
“ก็ไม่ได้เจอกันตั้งนาน เนยเองก็ไม่ค่อยได้เจอเพื่อนๆด้วย” ฉันพยายามทำเสียงให้ปกติ รวมทั้งท่าทางด้วย ความอึดอัด เพิ่มขึ้นทุกที

“ เกิ้นไม่ขึ้นไปไหว้ศพก่อนล่ะ” ฉันรีบหาทางออก
“ รอน้องก่อน เขาไปเข้าห้องน้ำ” เขาหมายถึงผู้หญิงคนนั้น

ไม่ไหวแล้ว ฉันทนไม่ไหวแล้ว ละครต้องจบฉากลงแล้ว แต่ฉันจะทำยังงัย ม่านละครไม่ยอมปิด ไฟก็ไม่ยอมดับ ตัวละครสมัครเล่นอย่างฉันจะทำยังงัยดี ใครก็ได้ช่วยบอกที ฉันได้แต่ภาวนาในใจ ไม่อยากเจอเธอคนนั้น
“เนย ม้าตามหาให้ไปช่วยรับแขกหน่อย” เหมือนสวรรค์มาโปรด เพื่อนฉันเข้ามาช่วยไว้พอดีกุ้งคงรู้ว่าฉันลำบากใจขนาดไหน กุ้งไม่กล้าโทรบอกฉันว่าพ่อเสีย ฉันรู้จากเพื่อนคนอื่น กุ้งรู้ว่าฉันไม่อยากเจอหน้าเขา อยู่กับม๊า ม๊าพูดถึงแต่ป๊า

“ ป๊าไม่น่าไปเร็วเลย วันก่อนยังได้คุยกัน อีกไม่กี่วันก็วันเกิดป๊าแล้ว ไม่มีป๊าแล้วเนย ไม่มีป๊า” ม๊าร้องไห้ไปพูดไป ฉันจับมือม๊าแล้วก็ร้องไห้
“ป๊าไปดีแล้วม๊า” ฉันได้แต่ปลอบ ฉันร่วมร้องไห้ด้วย ความรู้สึกที่ต่างจากม๊าที่คนรัก และร่วมทุกข์สุขกันมาหลายสิบปีมาจากไป

แต่ฉัน ร้องไห้ด้วยความรู้สึกอิจฉาม๊า ที่ได้เจอป๊า แล้วอยู่กันจนตายจาก แต่ฉัน ต้องมาเจอคนที่เคยรักและหวังฝากชีวิตไว้มาทิ้งกัน เขาผิดคำสัญญา

เพื่อนคนอื่นๆ คิดว่าฉันร้องไห้เพราะป๊า ฉันสนิทกับป๊ามาก ฉันมากินนอนบ้านนี้ทุกครั้งที่มาเที่ยวชลบุรี ทุกครั้งฉันมากับเกิ้น เกิ้นไปนอนอีกบ้านหนึ่ง ฉันชอบกินข้าวผัดฝีมือป๊ามาก เกิ้นเคยหัดจากป๊า เพราะจะได้ทำให้ฉันกิน

ทำไมนะในวันที่เขามาบอกลา ทำไมฉันไม่โดดชกหน้าเขาสักหมด หรือด่าว่าเขาให้หายเจ็บใจ ทำไมๆๆๆ ฉันถามตัวเอง คำตอบก็คือมันเร็วจนฉันตั้งตัวไม่ทัน มันเร็วและแรงจนชาไปทั้งตัว ดีที่เข้ามาบอกฉันที่บ้านไม่งั้น ฉันคงหาทากลับบ้านไม่ถูก วันนั้นไม่มีน้ำตา ไม่มีคำพูดใด เหตุการณ์วันนั้น เหมือนผ่านไปเมื่อสักครู่

ฉันยังจำได้ว่า เขามาหาฉันที่บ้าน วันนั้นเป็นวันเกิดของฉัน ฉันรอให้เขามาฉลองกับฉันเหมือนอย่างทุกปี เขามาประมาณ 2 ทุ่ม มารับฉันไปกินข้าว ร้านโปรด วันนั้นเขากินเบียร์เยอะกว่าที่เคย จนฉันแปลกใจ เขาไม่มีของขวัญให้ฉันเหมือนอย่างทุกปี ฉันคิดว่าเขาคงจะเซอร์ไพรส์ฉันตอนกลับ และก็จริงๆ ตรงหน้าบ้านเขาให้ของขวัญชิ้นพิเศษให้กับฉัน

“ เนย เกิ้นรู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดเนย เกิ้นอยากให้เนยมีความสุขมากๆ เกิ้นรักเนย และจะรักตลอดไปไม่มีวันเปลี่ยน”
“ จ้า เนยรู้ เกิ้นบอกเนยมาหลายครั้งแล้วนี่ “ ฉันยิ้ม
“ เกิ้น ไม่อยากหลอกเนยอีกต่อไป เกิ้นต้องแต่งงาน ต้นเดือนหน้าแล้ว”
“ นี่เกิ้นกำลังขอเนยแต่งงานใช่ไหม” ฉันยังคงยิ้ม เพราะคิดอย่างนั้นจริงๆ
“ ป่าว เนย เกิ้นต้องแต่งงานกับน้องคนหนึ่งที่เกิ้นไปฝึกงานด้วย เกิ้นพลาดทำเขาท้อง…….”
ไม่ทันที่เกิ้นจะพูดต่อ ฉันยกมือขึ้นมาห้าม

“ ไม่ต้องพูดต่อแล้วล่ะเกิ้น เนยเข้าใจแล้ว เนยเหนื่อยแล้วล่ะ ขอบคุณสำหรับอาหารแล้วก็ ของขวัญวันเกิดนะ สำหรับงานแต่งก็เกิ้น เนยคงไปไม่ได้หรอก ขอให้โชคดีนะ “ ฉันเดินเข้าบ้านทันทีโดยไม่หันกลับไปมองแม้เกิ้นจะตะโดนเรียกอย่างไร พ่อกับแม่ได้ยิน ก็มาถามว่า เกิดอะไรขึ้น ฉันตอบไม่มีอะไร เกิ้นมาบอกว่าจะแต่งงานเดือนหน้ากับน้องที่ฝึกงาน แล้วฉันก็เข้าห้องปิดประตู นอน ใช่วันนั้นฉันหลับ แปลกใจใช่ไหมว่าทำไมฉันหลับได้ ความฝันได้วันนั้นยังอยู่ในความทรงจำ

“ เกิ้นไปฝึกงาน 3 เดือนนะ แล้วเกิ้นจะได้เตรียมตัวสอบผู้ช่วยผู้พิพากษา เกิ้นจะได้รีบมาขอเนยสักที”
“ แล้วแต่เกิ้นเถอะ ว่าแต่อย่าไปหลงเด็กๆนะ เนยจะอาระวาดให้ดู “
“ไม่มีทาง เราคบกัน 7 ปีแล้วนะ เกิ้นไม่เคยมีใครนอกจากเนย”
“ จ้าๆ แล้วเนยจะคอยดู แค่ 3 เดือนเอง”

แล้วความฝันในคืนนั้นก็มาจบลงตรงที่ เขามาบอกลา

น้ำตาแห่งความช้ำไหลจากขอบตา
น้ำตาแห่งความเสียใจเกินจะเอื้อนเอ่ย
น้ำตาแห่งความทรงจำก่อนเก่าเคย
น้ำตาเจ้าเอ๋ยจงไหลลบทุกสิ่งจากใจฉันที

นั่นคือครั้งสุดท้ายที่ฉันเห็นเขา ข่าวคราวของเขาก็ไม่มีอีกเลย เพราะเพื่อนทุกคนไม่มีใครคิดที่จะพูดถึง ฉันเป็นคู่ที่ทุกคนหมายมั่นกันมากว่าจะต้องแต่งก่อนใคร ฉันไม่ได้เข้ากลุ่มเพื่อนอีก มีแต่กุ้งคนเดียวที่ฉันยังคงติดต่อ อยู่บ้าง ทุกคนเข้าใจฉันดี

พระเริ่มสวดแล้ว ม๊าเดินไปนั่งฟังที่ศาลา ส่วนฉันเดินไปยังกลุ่มเพื่อนเพราะแรงลากของเพื่อน

“ หายไปไหนตั้งนาน ไม่ยอมมาให้เห็นหน้าเลยนะ “ เพื่อนคนหนึ่งทัก
“ งานยุ่งมาก เรียนต่อด้วย ก็เลยไม่ค่อยมีเวลา” ต่อจากนั้นฉันก็ได้แต่ฟังเพื่อนคนอื่นๆพูดกัน จนงานเลิกเพื่อนๆเริ่ททยอยกลับกันแล้ว วินาทีที่ฉันเคยหลีกก็มาถึง

“กุ้ง เรากลับก่อนนะ พอดี ลูกไม่สบาย ไม่งั้นจะค้างช่วยงานต่อ” เขาเดินเข้ามาพูดกับกุ้ง ฉันพยายามไม่หันไปมองแต่ไม่ได้แล้ว ละครต้องเดินต่อ หมดเวลาโฆษณาแล้ว และภาพบาดตาที่ฉันพยายามหลบมาเกือบ 5 ปี ก็อยู่ตรงหน้าฉัน เธอคนนั้น ยืนกอดแขนเกิ้น

“ เข้ากรุงเทพรึป่าว “ กุ้งถาม เกิ้น
“ เข้าสิเพราะฝากลูกไว้กับยายที่กรุงเทพ” งั้นขับรถดีๆนะ

ฉันลุ้นแทบตายกลัวกุ้งจะฝากฉันให้เข้ากรุงเทพกับเกิ้น แล้วเขาก็หันมาทางฉัน

“เอาไว้เจอกันนะเนย “

เขาช่างเป็นนักแสดงที่เก่งกาจอะไรเช่นนี้ ไม่มีความรู้สึก ผิดเลยเหรอ เขาทำได้อย่างไร คำพูดทีเขาเคยพร่ำว่ารักเราเป็นนักหนา ห่วงใยเรา มันหายไปไหน ความรู้สึกเจ็บ เหมือนเอาคมมืดทื่อๆมากรีดลงบนแผลที่อักเสบจนเป็นหนอง ทรมานเหลือเกิน

เป็นครั้งแรกที่ฉันอยากมองเขาอย่างเต็มตา ด้วยสายตาที่ฉันใช้เป็นสื่อบอกความรู้สึกทุกอย่างที่ฉันเก็บมากว่า 5 ปี ฉันหวังว่าเขาจะรับรู้ความรู้สึกนี้ของฉัน แต่ เปล่าเลย ไม่มีสายตาใดๆตอบกลับมานอกจาก

“ ไปนะกุ้ง เนย “ เขาโบกมือลาไปอีกครั้ง

ฉันมาทำอะไรที่นี่
ที่ที่มีแต่ความเจ็บปวดของหัวใจ
ฉันกำลังทำร้ายตัวเองใช่ไหม
ไม่มีใครบังคับแต่ฉันรนหาที่เอง

ฉากละครจบลงแล้ว น้ำตาได้แสดงอย่างเต็มที่ ในบทบาทของการสูญเสียป๊า แต่ความหมายลึกๆ เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 5 ปีที่ผ่านมา ฉันได้ให้โอกาสกับอารมณ์ได้ปล่อยให้เจ้าน้ำตาออกมาวาดลวดลายอย่างเต็มที่ ไม่มีบทให้ท่อง ปล่อยไปตามแต่มันจะเป็นไป

เจ้าน้ำตาเหนื่อยแล้ว มันกระซิบบอกเจ้าอารมณ์มายังฉัน หัวใจฉัน กล่าวขอบใจ ที่ความรู้สึกที่อัดอั้นมานานได้ปลดปล่อยแล้ว

เสียดายเวลา ที่อุตส่าห์เตรียมตัวทุกอย่างหวังลึกว่าเขาจะเอ่ยทักบ้าง เสื้อผ้า น้ำหอม ทรงผม เขาจำเราไม่ได้เลยจริงๆ เขาลืมเราหมดแล้ว ภาพในอดีตเหมือนภาพวีดีโอที่ถูกย้อนกลับอย่างรวดเร็ว และถูกลบทิ้งไปพร้อมๆกัน ฉันแทบอยากจะทิ้งเสื้อผ้าที่ใส่ อยากไปยีหัวให้หยิก ตามเดิม

ฉันคิดถูกแล้วใช่ไหมที่ไม่คร่ำครวญถึงเขาเลย ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา
ฉันคิดถูกใช่ไหมที่ไม่เคยร้องไห้ให้กับเขาเลย
ฉันคิดถูกใช่ไหมที่ฉันมายืนอยู่ที่ตรงนี้
ฉันคิดถูกแล้วใช่ไหมที่ลบความทรงจำทั้งหมดที่มีเขา

ฉันเดินไปลาทุกๆคน ในใจขอบคุณทุกคนที่ทำให้ฉันมีโอกาสได้ทำในสิ่งที่อยากทำมานาน ฉันกราบลาป๊า และขอบคุณป๊าอย่างที่สุด

กว่า 5 ปี ที่ฉันไม่เคยแม้แต่จะกล้าถามตัวเองสักครั้งว่ารู้สึกอย่างไรที่เกิ้นบอกเลิก


ฉันได้คำตอบแล้ว

คืนนี้ฉันมีงานเก็บกวาดบ้านที่ต้องทำครั้งยิ่งใหญ่ ที่ต้องทำ คงมีของให้บริจาคเยอะ
ต่อจากนี้ ฉันคงไม่ต้องเหนื่อยหาซื้อน้ำหอมกลิ่นเดิม
ต่อไปนี้เลิกคิดที่จะไว้ผมตรง และ มันจะไม่วันกลับมาเป็นสีดำอีกแล้ว

แล้วเรื่องสั้นของฉันล่ะ………….
อืม……………… คงจะได้พล็อตเรื่องแนวใหม่ ที่สดใสกว่าเดิม

สงสารแต่เจ้าน้ำตา คงอดมาแสดงตัวอวดโฉมอีกนาน กับบทบาทเศร้าสร้อย
ไม่เป็นไร ถ้าเจ้าน้ำตาอ้อนมาจาอารมณ์บ่อยนักบางที ฉันอาจจะให้แสดงในนิทานของฉัน

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว……………………………

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑



Create Date : 07 พฤษภาคม 2548
Last Update : 7 พฤษภาคม 2548 1:48:59 น. 0 comments
Counter : 399 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เอ็นจัง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add เอ็นจัง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.