Group Blog
 
 
ตุลาคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
11 ตุลาคม 2550
 
All Blogs
 

ยูโทเปีย เล่มที่ 1 (3)

(ต่อ)


“ในหมู่เราคนพวกนี้ควรจะเป็นที่ทะนุถนอมเป็นพิเศษ” ทนายความกล่าว “ในกรณีที่มีศึกสงคราม กำลังกองทัพของเราขึ้นอยู่กับพวกนี้เพราะพวกเขามีน้ำใจที่สูงส่งและกล้าหาญชาญชัยกว่าพวกกรรมกร และชาวไร่ชาวนา”

“ท่านควรจะพูดเสียด้วยว่า เราควรจะส่งเสริมพวกขโมยโดยอ้างสงครามเป็นเหตุ” ข้าพเจ้าตอบ “เพราะท่านจะไม่มีวันขาดขโมยตราบเท่าที่ท่านมีสงครามอยู่ เพราะเมื่อบางครั้งพวกขโมยกลับเป็นทหารที่ดี ทหารก็มักจะเป็นโจรที่แข็งขัน วิถีชีวิตสองทางนี้เกี่ยวโยงกันอย่างใกล้ชิดเหลือเกิน ที่นี่ประเพณีการมีข้าบริวารมากเกินไปนั้นเป็นที่นิยมปฏิบัติกันมาก แต่นี่ก็มิใช่สิ่งที่เกิดขึ้นเฉพาะประเทศนี้ มันเป็นสิ่งที่เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเกือบทั้งหมด ในฝรั่งเศสนั้นมีคนแบบที่ก่อให้เกิดปัญหายิ่งกว่านี้เสียอีก เพราะทั้งประเทศเต็มไปด้วยทหารซึ่งในยามสงบก็ต้องมีไว้ ถ้าหากว่าสภาพแบบนั้นจะเรียกได้ว่าสงบ ทหารพวกนี้ได้รับค่าจ้างโดยเหตุผลเดียวกันกับที่คนชั้นสูงของท่านมีบริวารที่ไม่ทำอะไรไว้ คนโง่ที่ฉลาดมีหลักการอยู่ว่าเพื่อความมั่นคงรัฐจึงจำเป็นที่จะต้องมีกองทัพที่เข้มแข็งให้พร้อมไว้เสมอยิ่งประกอบด้วยทหารที่ชำนาญศึกมาแล้วยิ่งดี เขาคิดว่าไม่ควรจะไว้ใจในคนที่ไม่ชำนาญและบางทีพวกนี้ถึงกับหาโอกาสที่จะทำสงครามเพื่อที่ว่าเขาจะได้ฝึกหัดทหารและพวกผู้ร้ายให้พร้อมหรืออย่างที่แซลลัสท์12 กล่าวไว้ว่า เพื่อมือและน้ำใจจะได้ไม่อืดอาดเฉื่อยชาไปเพราะไม่ได้ทำอะไร แต่ฝรั่งเศสก็ได้เรียนรู้ด้วยราคาอันแพงแล้วว่าการเลี้ยงสัตว์ร้ายเช่นนั้นไว้มีอันตรายอย่างไร เคราะห์กรรมของชาวโรมัน ชาวคาร์เธจ ชาวซีเรีย และชนชาติอื่นๆก็แสดงผลอย่างเดียวกัน เพราะรัฐบาลที่ทำมาหากินและแม้แต่นครของพวกเขาเหล่านี้ถูกทำลายลงโดยกำลังทหารประจำการของตนนี้เอง ที่ว่าการเตรียมพร้อมนี้ไม่มีความจำเป็นอย่างไรเลยจะเห็นได้จากความจริงที่ว่าทหารฝรั่งเศสที่หัดอาวุธมาตั้งแต่ยังเยาว์วัยไม่อาจจะอวดได้ว่าสามารถเอาชนะพวกท่านที่ยังไม่ได้หัดอะไรได้บ่อยครั้งนัก เพื่อว่าจะได้ไม่ดูเหมือนว่าข้าพเจ้ากำลังยกยอพวกท่าน ข้าพเจ้าจะไม่ขอพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก แต่ทั้งกรรมกรในเมืองและผู้ที่ทำงานในไร่นาของท่านก็มิได้มีใครคิดกันว่าจะกลัวเกรงการต่อสู้กับพวกบริวารที่เกียจคร้านของพวกผู้ดีเหล่านี้เลยตราบเท่าที่พวกเขามิได้วิกลวิการไปเพราะอุบัติเหตุหรืออ่อนแอลงเพราะความขาดแคลนอย่างหนักเท่านั้น เพราะฉะนั้นท่านก็ไม่จำต้องกลัวว่าคนที่แข็งแรงและแข็งขัน (คนเหล่านี้เท่านั้นที่ชนชั้นสูงจะเอาไว้รอบๆตัวเขา) ซึ่งนุ่มนิ่มและปวกเปียกลงโดยชีวิตที่ขี้เกียจและเหมือนผู้หญิงจะอ่อนแอลงถ้าเขาถูกสอนให้รู้การฝีมือที่มีประโยชน์ในการหาเลี้ยงชีพ และถ้าเขาถูกหัดให้ทำงานที่เหมาะสำหรับผู้ชาย จะอย่างไรก็ตาม ย่อมเป็นการไม่ชอบด้วยเหตุผลอย่างที่สุดที่ท่านควรจะเตรียมคนไว้หมู่หนึ่งเพื่อสงครามที่จะเกิดขึ้น เพราะว่า ท่านจะไม่มีวันมีสงครามนอกจากท่านจะปรารถนามันเอง ยิ่งกว่านั้นในยามสงบ ท่านจะต้องถูกรบกวนโดยคนที่ไม่มีอะไรทำเป็นจำนวนมากซึ่งเป็นสิ่งที่จะต้องกังวลมากกว่าสงคราม อย่างไรก็ดีข้าพเจ้าไม่คิดว่าเหตุที่ผลักดันให้ลักขโมยนั้นมาจากสิ่งนี้อย่างเดียว มีสาเหตุอื่นอีกซึ่งเป็นเรื่องเฉพาะสำหรับประเทศอังกฤษ”

“อะไรกัน ?” ท่านคาร์ดินัลถาม

“แกะของท่าน” ข้าพเจ้าตอบ “ซึ่งเคยอ่อนโยนและกินอาหารแต่เพียงเล็กน้อย เดี๋ยวนี้มันตะกละตะกรามและดุร้ายเสียจนอาจกล่าวได้ว่ามันกินคนเสียเอง มันทำลายล้างและปล้นสะดมไร่นาบ้านเรือนและเมืองเพราะไม่ว่าแห่งใดก็ตามที่แกะให้ขนสัตว์ที่อ่อนนุ่มและดีกว่าปกติ ที่นั่นชนชั้นสูงและพวกผู้ดี และแม้แต่นักพรตนักบวชก็ไม่พึงพอใจกับค่าเช่าที่ตนเองได้จากที่ดิน พวกเขาไม่พอใจที่จะอยู่ในความเกียจคร้านและความหรูหรา โดยไม่ทำประโยชน์อะไรให้แก่สังคม เขาจำต้องทำอันตรายต่อสังคม พวกเขาไม่เหลือที่ดินไว้เพื่อการเพาะปลูกเลย แต่เอาที่ดินทั้งหมดไปทำทุ่งเลี้ยงสัตว์ เขาทำลายบ้านเมืองและรื้อถอนเมือง คงเหลือไว้แต่โบสถ์ซึ่งก็เอาไว้เป็นโรงเลี้ยงแกะ ผู้คนที่มีคุณค่าเหล่านี้เปลี่ยนแปรสถานที่อยู่อาศัยและไร่นาเป็นทะเลทรายไปสิ้น ราวกับว่าเนื้อที่ป่าและที่สงวนพันธุ์สัตว์ยังมีไม่มากพอ ดังนั้น คนที่ตะกละและมีความโลภอันไม่สิ้นสุดเพียงคนเดียวก็อาจเป็นตัวทำลายท้องถิ่นของตนได้อย่างทั่วถึงโดยการปิดที่ดินหลายพันเอเคอร์ด้วยรั้วเพียงอันเดียว ผู้เช่าถูกขับออกและถูกบีบบังคับให้ขายทรัพย์สินของตนโดยกลอุบายหรือโดยกำลัง หรือเพราะผู้เช่าเองเหนื่อยอ่อนเนื่องจากถูกกลั่นแกล้ง ผู้ที่ประสบกับความทุกข์ยากเหล่านี้ตั้งแต่ บุรุษ สตรี สามี ภรรยา เด็กกำพร้า หญิงหม้าย บิดา มารดากับบุตรเล็กๆ และครอบครัวขนาดใหญ่เหล่านี้ (เนื่องจากการทำไร่ไถนาต้องมีคนหลายๆคน) ต้องถูกบีบบังคับให้ออกไป พวกเขาต้องละจากบ้านที่คุ้นเคยและไม่อาจหาที่ที่เขาจะตั้งหลักแหล่งได้ เขาต้องขายเครื่องใช้ในครัวเรือนซึ่งก็ไม่ได้อะไรมาก และแม้ว่าเขาจะรอซื้อได้ก็ได้เพียงเล็กน้อยหรือไม่ได้เลย เมื่อเงินเพียงจำนวนน้อยนั้นหมดไป (และมันก็จะหมดไปอย่างรวดเร็ว) แล้วจะเหลืออะไรให้เขาทำได้นอกจากการลักขโมย และถูกแขวนคอ ซึ่งก็ออกจะสาสมแล้วหรือมิเช่นนั้นก็ต้องกลายเป็นขอทาน ? และถ้าเขาเป็นขอทานเขาก็จะถูกจับใส่คุกโทษฐานเป็นคนจรจัด พวกเขาเต็มใจที่จะทำงานแต่ไม่มีใครที่จะจ้างเขาได้ ในเมื่อไม่มีที่ดินที่เหมาะแก่การเพาะปลูกเหลืออยู่ก็ไม่มีความต้องการแรงงานในไร่นาซึ่งพวกเขาเติบโตมา เพราะคนเลี้ยงสัตว์เพียงคนเดียวสามารถดูแลฝูงแกะที่ใหญ่พอที่จะอยู่ในที่ที่ซึ่งจำเป็นต้องใช้คนหลายๆคนถ้าจะไถนาหรือเก็บเกี่ยว”

“การกั้นรั้วนี้ได้ทำให้ราคาข้าวในหลายๆแห่งขึ้นไปด้วย ราคาขนแกะก็ขึ้นไปสูงเสียจนกระทั่งคนจนๆที่เคยทอผ้าก็ไม่สามารถจะหาซื้อมันได้อีกต่อไป และนี่ก็ทำให้คนจำนวนมากไม่มีอะไรทำ เพราะตั้งแต่เริ่มมีทุ่งเลี้ยงสัตว์เพิ่มขึ้น โรคสัตว์ก็ฆ่าแกะไปเป็นจำนวนไม่น้อยราวกับว่าพระเจ้าได้ส่งภัยพิบัตินี้มาลงโทษความโลภของเจ้าของที่ดินซึ่งจะถ้าให้ยุติธรรมยิ่งกว่านี้แล้วก็ควรจะตายเสียเองมากกว่าแกะ แต่ถึงแม้ว่าจำนวนแกะจะได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก ราคาของมันก็ไม่มีทีท่าว่าจะตกลงมา ถึงแม้ว่านี่มิอาจเรียกได้ว่าเป็นการผูกขาดเพราะไม่ได้มีบุคคลเดียวเป็นเจ้าของแกะทั้งหมด แต่เจ้าของก็มีไม่กี่คน ซึ่งร่ำรวยมากเสียจนกระทั่งว่าในเมื่อไม่มีใครบีบเจ้าของให้ขายได้ถ้าเขาไม่ยอมขาย เขาจึงไม่ขายจนกว่าเขาได้ขึ้นราคาให้สูงขึ้นไปเท่าที่จะทำได้”

“โดยเหตุผลอย่างเดียวกัน ราคาปศุสัตว์อย่างอื่นก็สูงพอกัน และก็ยิ่งสูงขึ้นเพราะเมื่อหมู่บ้านจำนวนมากต้องสลายตัวไปและงานการในชนบทถูกละทิ้งอย่างใหญ่หลวง ก็ไม่มีผู้คนเหลืออยู่เพียงพอที่จะดูแลการเลี้ยงปศุสัตว์ คนรวยนั้นไม่เพาะพันธุ์ปศุสัตว์เหมือนอย่างที่เขาเพาะพันธุ์แกะ หากแต่ซื้อมันเมื่อยังผอมในราคาอันต่ำ และหลังจากที่ได้เลี้ยงดูให้อ้วนพีในทุ่งเลี้ยงสัตว์ของตนเองแล้วก็ขายต่อไปในราคาอันสูง ข้าพเจ้าคิดว่าผลร้ายของสิ่งนี้ยังไม่เป็นที่รู้สึกกันโดยทั่วเพราะจนกระทั่งบัดนี้ความขาดแคลนมีอยู่ก็แต่เฉพาะในเขตที่ปศุสัตว์ที่สมบูรณ์มีขาย แต่เมื่อถึงเวลาที่คนรวยซื้อปศุสัตว์ได้เร็วกว่าที่มันถูกเพาะออกมาแล้ว เมื่อนั้นจำนวนที่มีขายก็จะลดลงในที่ที่มีคนซื้อ และในที่สุดก็จะมีการขาดแคลนโดยทั่วกัน ดังนั้นเกาะอังกฤษของท่านซึ่งดูเหมือนว่าจะโชคดีเป็นพิเศษในเรื่องนี้ก็จะตกอยู่ในอันตรายเพราะความโลภโมโทสันของคนเพียงไม่กี่คน”

“ยิ่งกว่านั้น ราคาข้าวที่สูงขึ้นก็ทำให้คนรวยต้องปลดบริวารออกจากบ้านช่องของตนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ข้าพเจ้าขอถามว่าพวกที่ถูกปลดออกนี้จะทำอะไรได้นอกจากปล้น หรือเป็นขอทาน ? และผู้ที่มีใจองอาจก็จะปล้นมากกว่าที่จะขอ”

“เพื่อที่จะทำให้ความยากจนนี้เลวลงไปอีก ความหรูหราฟุ่มเฟือยอันสำมะเลเทเมาก็ถูกผสมเข้าไป ในครัวเรือนของชนชั้นสูงและแม้แต่ในครัวเรือนของพ่อค้าและชาวไร่ชาวนา และคนทุกระดับก็มีความฟุ้งเฟ้อด้วยเครื่องแต่งกายราคาแพง และการกินทิ้งกินขว้าง ดูที่ร้านอาหาร โรงหญิงโสเภณีแบบใดแบบหนึ่ง โรงเตี๊ยม และโรงสุราก็แล้วกัน และดูที่เกมกีฬาต่างๆอย่างลูกเต๋า ไพ่ ฟุตบอล เทนนิส และโยนห่วงที่เงินทองต้องสูญเสียไปอย่างรวดเร็ว สิ่งเหล่านี้มิได้ทำให้ผู้เล่นต้องปล้นสะดมดอกหรือ ? ห้ามสิ่งเลวร้ายเหล่านี้เสีย บังคับให้ผู้ที่ทำลายไร่นาและหมู่บ้านรื้อฟื้นมันขึ้นมาหรือให้เจ้าของที่ดินที่จะทำอย่างนี้เช่าไป ควบคุมการสะสมที่ดินโดยคนร่ำรวยซึ่งเกือบจะเทียบเท่าได้กับการผูกขาดเสีย ทำให้คนที่อยู่ได้โดยการไม่ทำอะไรเลยมีจำนวนน้อยลง ฟื้นฟูการเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมขนสัตว์ เพื่อว่าจะได้มีงานที่เป็นประโยชน์แก่ฝูงชนที่ไม่ได้ทำอะไรเลยและซึ่งกลายเป็นขโมยไปเพราะความต้องการหรือเพราะความเกียจคร้าน”

“ถ้าท่านไม่สามารถแก้สิ่งชั่วร้ายเหล่านี้ได้ ก็เป็นอันเปล่าประโยชน์ที่จะอวดโอ้ถึงความรุนแรงในการลงโทษการลักขโมย นโยบายของท่านอาจจะมีทีท่าของความยุติธรรมแต่มันทั้งไม่ยุติธรรมจริงและไม่เป็นหนทางที่ดีจริง ถ้าท่านปล่อยให้ผู้คนได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างเลวและมีนิสัยมาทีละเล็กละน้อยตั้งแต่เด็ก แล้วท่านจึงลงโทษเขาสำหรับความผิดซึ่งการอบรมของเขาตั้งแต่เล็กทำให้เขาเป็นเช่นนั้น ข้าพเจ้าก็ขอถามหน่อยเถิดว่านี่จะคืออะไรเสียอีก หากนี่มิใช่การทำให้คนเป็นหัวขโมยเสียก่อนแล้วจึงลงโทษที่เขาขโมย ?”

ในขณะที่ข้าพเจ้ากล่าวดังนี้ ทนายความผู้นั้นก็พร้อมที่จะตอบและได้เลือกวิธีอันเป็นทางการของคู่โต้แย้งซึ่งชอบที่จะสรุปย่อมากกว่าที่จะโต้ตอบ คือดูทีท่าว่าจะถือเอาความทรงจำนั้นเป็นสิ่งควรแก่การสรรเสริญอย่างยิ่ง ดังนั้นเขาจึงกล่าวแก่ข้าพเจ้าว่า “สำหรับคนต่างถิ่นแล้วท่านพูดได้ดีมาก แต่ท่านได้ยินเรื่องต่างๆมามากกว่าที่ท่านอาจมีความรู้โดยถ่องแท้ได้ ข้าพเจ้าจะอธิบายเรื่องให้กระจ่างชัดแก่ท่านโดยตรง ในประการแรกข้าพเจ้าจะขอกล่าวทวนเป็นลำดับถึงสิ่งที่ท่านได้กล่าวมา แล้วข้าพเจ้าก็จะแสดงให้ท่านเห็นว่าท่านเข้าใจผิดไปเพราะท่านไม่รู้กิจการของเราอย่างไร แล้วในที่สุดข้าพเจ้าก็จะกล่าวค้านข้อโต้แย้งทั้งหมดของท่านในอันดับแรกข้าพเจ้าจะเริ่มตรงที่ข้าพเจ้าได้สัญญาไว้มีอยู่สี่อย่างที่ท่านดูเหมือนว่า….”

“หยุดก่อน” ท่านคาร์ดินัลพูด “เพราะท่านคงไม่อาจจบได้เร็วถ้าท่านเริ่มต้นอย่างนั้น เราจะไม่ให้ท่านตอบเดี๋ยวนี้ ขอให้ท่านเลื่อนการโต้ตอบไปจนพรุ่งนี้ถ้าราฟาเอลและท่านจะทำได้ แต่ขณะนี้ราฟาเอล ข้าพเจ้าอยากจะทราบว่าทำไมท่านจึงคิดว่าการลักขโมยไม่ควรถูกลงโทษถึงตาย และทำไมท่านจึงจะกำหนดวิธีการลงโทษอย่างอื่นซึ่งเป็นหนทางที่ดีกว่าสำหรับความคงอยู่ของรัฐ เพราะแน่นอนว่าท่านคงไม่ปล่อยให้การขโมยเป็นไปโดยมิต้องรับโทษ และในเมื่อความตายมิอาจเหนี่ยวรั้งมนุษย์ได้ อำนาจหรือความกลัวอะไรที่จะยับยั้งคนชั่วถ้าเขาคิดว่าชีวิตของเขาปลอดภัยแน่ๆ ? ในทางตรงกันข้ามเขาจะเห็นว่าการลดหย่อนผ่อนโทษเป็นการเชื้อเชิญให้กระทำความผิดมากยิ่งขึ้น”

ข้าพเจ้าตอบว่า “ท่านบิดาที่กรุณาเป็นที่สุด ดูเหมือนว่าเป็นการไม่ยุติธรรมอย่างยิ่งที่จะเอาชีวิตมนุษย์เพียงเพราะเงินจำนวนเล็กน้อย เพราะไม่มีอะไรในโลกที่มีคุณค่าเท่ากับชีวิตของมนุษย์ และถ้าหากเขากล่าวว่ามิใช่เพราะเงินหรอกที่ผู้ขโมยต้องรับทุกข์ แต่เป็นเพราะการละเมิดความยุติธรรมและการฝ่าฝืนกฎหมายแล้ว จะมิอาจกล่าวได้หรือว่าความยุติธรรมจนเกินไปก็คือการทำร้ายที่เกินไป ? เราไม่ควรเห็นด้วยกับกฎหมายที่เลวซึ่งลงโทษอย่างรุนแรงสำหรับการกระทำผิดเพียงเล็กๆน้อยๆ และเราไม่ควรเห็นด้วยกับคติสโตอิคที่ถือว่าอาชญากรรมทุกอย่างเท่าเทียมกันหมดราวกับว่ามิได้มีข้อแตกต่างอะไรเลยในการฆ่าคนและการฉกชิงกระเป๋าเงินของเขา ถ้าเราวินิจฉัยอย่างเป็นธรรมแล้วก็จะเห็นว่าไม่มีความเหมือนกัน หรือความสัมพันธ์ใดๆในเรื่องที่กล่าวมาแล้วนี้เลย พระเจ้าทรงห้ามเราฆ่า แต่เราจะฆ่าอย่างทันท่วงทีสำหรับการขโมยเงินเพียงเล็กๆน้อยๆหรือ ? แต่ถ้าจะเถียงว่าจริงอยู่ พระเจ้าทรงห้ามการฆ่า แต่กฎของมนุษย์อนุญาตให้ฆ่าได้แล้ว อะไรเล่าจะป้องกันมนุษย์มิให้ออกกฎหมายอื่นๆในลักษณะเดียวกัน เช่น การทำให้การค้าประเวณี การผิดประเวณี และการให้การเท็จเป็นสิ่งที่ชอบด้วยกฎหมาย ? พระเจ้าได้เอาสิทธิในการฆ่ากันจากมนุษย์แต่ละคนไปแม้แต่สิทธิในการฆ่าตัวเอง แม้แต่ถ้าจะสมมุติว่า การยินยอมเห็นพร้อมกันต่อกฎหมายมนุษย์ในเรื่องการฆ่า สามารถปลดปล่อยผู้ที่ฆ่าให้เป็นอิสระจากกฎอันศักดิ์สิทธิ์แล้ว นี่จะคืออะไรเล่านอกจากการทำตามกฎของมนุษย์มากกว่ากฎของพระเจ้า ? ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผลลัพธ์ก็คือมนุษย์จะกำหนดว่ากฎของพระเจ้าควรจะเป็นที่ยึดถือสักแค่ไหน ถึงแม้ว่ากฎของโมเสสจะหยาบและรุนแรงราวกับว่ามันถูกกำหนดขึ้นมาเพื่อคนที่ตกเป็นทาสและดื้อดึง แต่มันก็ลงโทษด้วยการปรับไหมมิใช่ความตาย ขออย่าให้เราคิดว่าด้วยกฎใหม่แห่งความเมตตาซึ่งพระเจ้าทรงปฏิบัติต่อเราด้วยความอ่อนโยนแบบบิดา พระองค์ได้ปล่อยให้เราโหดร้ายกันได้มากกว่าที่พระองค์ให้ต่อพวกยิว นี่คือเหตุผลที่ข้าพเจ้าคิดว่าทำไมจึงเป็นการผิดที่จะประหารชีวิตพวกขโมย ใครๆก็รู้กันว่าเป็นเรื่องโง่และอันตรายต่อความเป็นอยู่ของชุมชนแค่ไหนที่จะลงโทษหัวขโมยและฆาตกรเท่าๆกัน ถ้าขโมยเห็นว่าไม่มีโทษทัณฑ์อย่างอื่นที่เบากว่าการฆ่าคนสำหรับเขาอีกแล้วถ้าเขาถูกจับได้ว่าลักขโมย เขาก็จะฆ่าคนที่ปกติแล้วเขาจะเพียงแต่ปล้นเฉยๆ เมื่อโทษทัณฑ์เป็นอย่างเดียวกันหมดการฆาตกรรมย่อมจะทำให้เกิดความมั่นใจได้มากกว่า และความหวังที่จะปกปิดอาชญากรรมโดยการฆ่าคนก็จะมากขึ้น ดังนั้นในขณะที่เราพยายามจะทำให้พวกโจรกลัวโดยการทารุณโหดร้ายอย่างเกินเลยไป แท้จริงแล้วเราก็กำลังยุให้พวกเขาฆ่าคนที่ไม่มีความผิดเสีย”

“สำหรับคำถามที่ว่า การลงโทษอย่างอื่นที่ดีกว่าจะหาได้หรือไม่นั้น โดยการวินิจฉัยของข้าพเจ้าแล้วเป็นการง่ายที่จะหาโทษที่ดีกว่ายิ่งกว่าโทษที่เลวกว่า ทำไมเราจึงไปตั้งข้อกังขาเอากับคุณค่าของโทษทัณฑ์ที่ชาวโรมันซึ่งมีความชำนาญที่สุดในศิลปของการปกครองเคยใช้กันเป็นเวลาช้านานเสียเล่า ? พวกเขากำหนดให้ผู้ที่ถูกตัดสินว่าได้กระทำความผิดอย่างร้ายแรงต้องไปทำงานในบ่อหินและขุดแร่ในเหมืองโดยมีโซ่ล่ามตนอยู่ตลอดชีพ แต่ในเรื่องของการลงโทษแล้ว ข้าพเจ้านิยมวิธีซึ่งข้าพเจ้าได้เห็นมาในระหว่างการเดินทางในเปอร์เซียของพวกที่เรียกกันว่า โพลีเลอริตส์13 มากกว่า พวกนี้เป็นผู้ที่น่าสนใจพอสมควรและมีการปกครองที่ดี มีกฎหมายของตนเอง เพียงแต่ต้องส่งเครื่องบรรณาการประจำปีให้แก่กษัตริย์เปอร์เซียเท่านั้น เขาอยู่ห่างจากทะเลและเกือบจะถูกล้อมรอบไว้หมดด้วยภูเขา พวกนี้พอใจในผลิตผลของตนเองซึ่งมีประโยชน์จึงมีการค้ากับชาติอื่นเพียงเล็กน้อย ตามนโยบายดั้งเดิมพวกเขาไม่ประสงค์ที่จะขยายดินแดนของพวกเขาออกไป ดังนั้น เทือกเขาที่ล้อมรอบและเครื่องบรรณาการที่เขาถวายให้แก่เจ้าผู้คุ้มครอง จึงคุ้มกันการรุกรานทั้งมวลได้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีสงคราม พวกเขามีชีวิตอยู่อย่างสะดวกสบายมากกว่าอย่างวิเศษวิโส และอาจจะได้ชื่อว่ามีความสุขมากกว่าที่จะเป็นผู้ที่เด่นหรือมีชื่อเสียง อันที่จริงแล้วข้าพเจ้าสงสัยว่าจะมีใครอื่นอีกนอกจากประเทศเพื่อนบ้านถัดไปที่จะรู้จักแม้แต่ชื่อของพวกนี้ ใครก็ตามในหมู่เขาที่ถูกจับได้ว่าขโมยจะต้องชดใช้ให้แก่เจ้าของ และไม่ใช่ต่อกษัตริย์ (อย่างที่ทำกันที่อื่น) เขาถือว่ากษัตริย์ก็มิได้มีสิทธิ์อะไรต่อสิ่งที่ถูกขโมยมามากไปกว่าผู้ขโมย ถ้าทรัพย์สินที่ถูกขโมยมาไม่มีอีกต่อไป เขาก็จะตีราคาทรัพย์สินที่ผู้ขโมยมี แล้วก็เอาค่าชดใช้จากสิ่งนั้น ทรัพย์สินส่วนที่เหลือก็จะกำหนดให้แก่ภรรยาและลูกๆของผู้ขโมยต่อไป”

“ผู้ที่ถูกตัดสินว่ากระทำความผิดฐานขโมยก็ถูกกำหนดให้มาทำงานของสาธารณะแต่ก็มิได้ถูกจำคุกหรือล่ามโซ่ เว้นเสียแต่ว่าอาชญากรรมที่เขากระทำนั้นเลวร้ายเสียจริงๆ ถ้าเขาหลีกเลี่ยงหรือทำงานของตนอย่างเกียจคร้าน เขาก็จะถูกเฆี่ยน ถ้าเขาทำงานหนัก เขาก็จะได้รับการปฏิบัติตอบอย่างปราศจากร่องรอยของการตำหนิติเตียน เพียงแต่ว่ายามกลางคืนหลังจากที่ได้ตรวจตรารายชื่อแล้ว เขาก็จะถูกกักขังไว้ในห้องที่ใช้นอน และนอกเสียจากงานที่ต้องกระทำเป็นประจำแล้วเขาก็ไม่มีข้อลำบากอื่นใดในการดำรงชีวิต และโดยที่เขาทำงานให้แก่รัฐเขาก็ได้รับการเลี้ยงดูเป็นอันดีจากคลังของรัฐ สำหรับค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูผู้ต้องโทษนี้ก็มีวิธีการแตกต่างกันไปในท้องถิ่นส่วนต่างๆของประเทศ บางแห่งพวกนี้ได้รับการเลี้ยงดูโดยอาศัยการบริจาคทาน ถึงแม้ว่าวิธีนี้ดูจะไม่ค่อยแน่นอนนักแต่ชาวโพลีเลอริตส์เป็นผู้เมตตากรุณาจนไม่มีวิธีอันใดที่จะเป็นที่น่าพึงใจยิ่งไปกว่านี้ สำหรับบางแห่งก็จะมีการกันรายรับของรัฐออกไปเสียส่วนหนึ่งเพื่อการนี้หรือไม่ก็มีการเก็บภาษีรัชชูปการไว้เลี้ยงดูคนโทษ ในที่อื่นๆคนโทษไม่ต้องทำงานสาธารณะ แต่ใครก็ตามที่ประสงค์จะได้คนงานก็จะไปที่ตลาดและว่าจ้างพวกนี้เอาเป็นรายวันตามอัตราที่กำหนดไว้แน่นอนแล้ว ซึ่งจะเป็นอัตราที่ต่ำกว่าการจ้างคนธรรมดาๆเล็กน้อย และถ้าคนโทษนี้เกียจคร้านก็ชอบด้วยกฎหมายที่จะเฆี่ยนตีเขา โดยวิธีนี้พวกนี้ก็มีงานทำอยู่เสมอ และคนโทษทุกคนก็มีส่วนหารายได้ให้แก่คลังหลวงแทนที่จะอยู่เฉยๆ”

“คนโทษนี้แต่งกายด้วยสีเดียวกันหมด ศีรษะของเขาไม่ถูกโกน แต่จะต้องตัดผมสั้นแค่ใบหู และหูข้างหนึ่งก็จะถูกตัดออกไปเล็กน้อย เพื่อนฝูงของคนโทษจะให้อาหาร เครื่องดื่มหรือเสื้อผ้า (ตราบเท่าที่เป็นสีที่ใช้ได้) แก่คนโทษก็ได้ แต่ถ้าให้เงินแล้วทั้งคนให้และคนรับจะต้องตาย สำหรับคนที่เป็นไทแก่ตนที่ไปเอาเงินจากคนโทษไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอันใดก็จะต้องได้รับโทษอย่างเดียวกัน ถ้าทาสนี้มีอาวุธโทษก็ถึงตายเช่นกัน ในแต่ละเขตของประเทศนั้น พวกนี้จะมีตำหนิพิเศษและการทำลายตำหนิมีโทษถึงตาย หรือการออกนอกเขตของตนหรือเจรจากับทาสในเขตอื่นก็เช่นกัน การพยายามหลบหนีก็จะถูกลงโทษเหมือนกับการหนีจริงๆทาสคนใดมีส่วนช่วยในการหลบหนีต้องโทษถึงตาย สำหรับผู้ที่เป็นไทแก่ตน ถ้ามีส่วนช่วยทาสในการหลบหนีจะถูกลดตัวลงเป็นทาส ในทางตรงกันข้าม ผู้บอกข่าวจะได้รับรางวัล คือผู้ที่เป็นไทแก่ตนก็จะได้เงิน ถ้าเป็นทาสก็จะได้เป็นอิสระและต่างก็จะได้รับอภัยโทษในส่วนของตน เพื่อที่ว่าการยืนยันจะหลบหนีตามแผนจะไม่มีวันปลอดภัยกว่าการกลับใจไม่หนี”


* * * * * * * * *

12 แซลลัสท์ (86 – 24 B.C.) เป็นนักประวัติศาสตร์โรมัน ความตอนนี้มอร์เอามาจาก Catalina, xvi ของแซลลัสท์

13 Polylerites มาจากภาษากรีก Polus lerss ซึ่งแปลว่าไร้สาระอย่างมาก




 

Create Date : 11 ตุลาคม 2550
0 comments
Last Update : 11 ตุลาคม 2550 0:16:06 น.
Counter : 1034 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ende
Location :
สงขลา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




I do my thing and you do your thing.
I am not in this world to live up to your expectations,
And you are not in this world to live up to mine.
You are you, and I am I,
And if by chance we find each other, it's beautiful.
If not, it can't be helped.

(Fritz Perls, 1969)
Friends' blogs
[Add ende's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.