
 |
|
 |
 |
|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
 |
 |
|
|
เตียงที่นี่ต้องนอน นิ่งๆๆนะครับ
และแล้วฝนแรกก็มาเยือน ไฟฟ้าดับทุกดรั้ง สั่งให้ภารโรง จัดการหาน้ำมันกาดตะเกียงเจ้าพายุมาไว้
ไฟฉายสองท่อน สามท่อนและถ่านไฟฉายอีกจำนวนมากพอสมควร
คงยังจำได้ว่า มรไฟฟ้าปั่นให้ใช้ทั้งอำเภอ เฉพาะตอนกลางคืน
กลางวันเตรื่องมือแพทย์ที่ไว้ปั่นเลือด หรือตรวจแลบอะไรไม่ต้องคิดใช้ เลือกแต่วิธีไม่ใช้ไฟฟ้า
เตรียมการหาหลอดแก้วขนาดเล็กไว้เจาะเลือดจากปลายนิ้ว ที่เจาะเลือด(blood lancets)และดินน้ำมันไว้แล้วละน่าจะได้ใช้สังเกตุว่าคนที่นี่นอนๆไม่กางมุ้งมาก และกะลามะพร้าว ภาชนะใส่น้ำชั้นดี สำหรับการพาะลูกน้ำมีทุกบ้านเพราะที่นี่มีแต่ต้นมะพร้าวทั้งอำเภอ
และแล้วก็พบคนไข้คนแรกของปี เด็กเป็นไข้เลือดออก ชนิดรุนแรงปานกลาง
พอบอกพ่อแม่เด็ก รู้สึกเขาตกใจมากๆๆทำท่ากังวล เหมือนจะต้องรีบร้อนรน ถามกันใหญ่ พอฟังได้ความว่า "จะไปนคร พัน พรือ"
"ไปทำไม" ผมถาม
สรุปได้ความว่าเมื่อปีก่อนก่อนเด็กตายกันมากจากโรคไข้เลือดออก แล้วต้องให้เลือด แล้วการเดินทางพอบ่ายจะต้องไปด้วยรถบรรทุกมะพร้าวคือรถจีปที่ขึงตาข่ายไว้กันมพร้าวตกสภาพเก่าๆๆ
แล้วเมื่อเข้าหน้าฝน เส้นทางที่ใช้เข้าออกจากอำเภอถึงถนนใหญ่ก็เริ่มมีสภาพเป็นทางเละๆๆๆเป็นหลัมบ่อที่ยังไม่มากนัก แต่ถ้าฝนตกติดกันหลายๆๆวัน คนขับรถบรรทุกมะพร้าวบอกว่าทางเดียวที่จะออกไปได้ต้องเอาโซ่มาพันล้อรถไว้ แล้วใช้เกียร์สโลว์กับวินช่วย
ผมจึงอธิบายให้พ่อแม่เด็กทราบว่าปกติไข้เลือดออกจะรุนแรงปีเว้นปี และมีอาการให้เราทราบได้ว่าจะรุนแรงหรือยัง เรามีอุปกรณ์ตรวจระดับความข้นของเลือดไว้พร้อมแล้ว
ไข้เลือดออกไม่มียารักษาเพราะเป็นเชื้อไวรัส แบบเดียวกับไข้หวัดอื่น
แต่เรารักษา ผลที่เกิดขึ้นให้บรรเทาได้ และพอพ้นระยะรุนแรงสี่ห้าวัน คนไข้ก็ปลอดภัย
อาการที่สำคัญ ไช้เลือดออก ทำให้เส้นเลือดแตก ทำให้เห็นจ้ำๆๆตามผิวหนังและเสียน้ำเพราะความร้อนสูง
เราเพียงคอยตรวจเจาะเลือดอย่าให้เสียน้ำจนเลือดข้น
ผมเอาใบเซ็นต์ ยินยอมรักษาเช่นเดียวกับการยินยอมผ่าตัดให้พ่อแม่เด็กเซ็นต์ด้วย
(เราอยู่คนเดียวต้องป้องกันถ้าเด็กเป็นอะไรไปได้เซ็นต์ไว้แล้วว่าไม่เอาเรื่อง)
และแล้ววันนั้นจากหนึ่งเป็นสองสามสี่ เด็กถูกสั่งให้พักที่โรงพยาบาลจนเกินเตียงที่มี
ผมสั่งเจ้าหน้าที่ภารโรงและขอแรงญาติคนไข้ช่วยเปิดสถานีอนามัยเรือนไม้หลังเก่าทำความสะอาด และนำเตียงไม้ที่ยังใช้งานได้มาตั้งเรียงเพิ่มวอร์ดรับคนไข้เด็กเพิ่ม
เรียกเจ้าหน้าที่มาสั่งการเพิ่ม ทำตัวอย่างให้ดู การเจาะเลือดปลายนิ้วแล้วเอาหลอดแก้วเล็กๆๆเท่าใส้ดินสอ ที่เตรียมไว้ต่อที่เลอดให้ดูดเข้าไปในหลอดเอง จนเกือบเต็มแท่งแก้วแล้วเอาก้นหลอดแก้วกระแทกในดินน้ำมันใช้ดินน้ำมันอุดรูไว้ข้างหนึ่ง แล้วตั้งทิ้งไว้ให้เลือดตกตะกอน ประสมณ15นาทีก็วัดระยะที่มีเลือดแดง กับความยาวเลือดทั้งน้ำเหลืองด้วย หาเปอร์เซนต์ ที่มีเลือด
(ง่ายๆๆถ้าน้ำเหลืองน้อยก็เติ่ม น้ำเกลือที่เข้มข้นเท่าน้ำเลือดลงไปไม่ให้คนไข้ช๊อค)
แล้วสั่งญาติคนไข้ทุกคนต้องพามุ้งมาให้เด็กด้วย อย่าใจร้อนรออ่านต่อนะ อยากเขียนต่อให้อ่านเลยเร็ว ต่อจากตอนนี้ด้วยตอนชื่อว่า พอบอกเช้า บ่ายก็มา ......... คืนวันนั้นทั้งคืนทั้งตึกใหม่และเรือนไม้เก่า ก้มองเห็นมุ้ง ขาวเป็นปื้นเต็มไปหมด
น่าจะเป็นคืนแรกที่รู้สึกว่ามีคนมากมาย
ตั้งแต่หมดคนไข้โอพีดี (คนไข้มาตรวจ ห้องตรวจโรคด้านนอก) เจ้าหน้าที่ก็เริ่มเดินกันขวักไขว่ ทำตามโปรแกรม ที่กำหนดไว้ เจาะเลือดปลายนิ้วเด็ก เสียงร้องเด้กที่กลัวเข็มระงมไปหมด แล้วหลอดเจาะเลือดทิ่มกับดินน้ำมันตั้งเรียงแถวถุนำมาเสนอให้ดู
เด็กคนไหนมีน้ำสีเหลืองด้านบนหลอดที่เม็ดเลือดตกตะกอนไปแล้วน้อยๆๆ จะถูกกำหนดไว้ว่าจะต้องไปดูอาการ
ยังไม่พบเด็กคนไหน มีจ้ำเลือดทั่วตัว มีแค่ตรงแขนที่ใช้สายยางรัดตรวจสอบไว้ตั้งแต่ตอนตรวจครั้งแรกที่โอพีดี ยังไม่มีใครอาเจียนเป็นเลือด ไอเป็นเลือดหรือถ่ายปัสสาวระอุจจาระ มีเลือด
ยังไม่มีเด็กคนไหนตับม้ามโต
โล่งอกไปอีกรอบ ที่อาการเด็กยังไม่มีอะไรน่าวิตก
เว้นหายใจสดวกไปอีกสองชั่วโมง รีบบอกเจ้าหน้าที่หาอะไรใส่ท้อง
ญาติคนไข้ได้ยินก็เรียกเรากับเจ้าหน้าที่ ให้ไปร่วมวงทานอาหารกันที่ใต้ต้นไม้หน้าอาคารเก่า
ผ่านอาหารไปอีกมื้อ มีเวลานั่งพัก จนครบสองชั่วโมง ปฏิบัติการรอบใหม่ก็ดำเนินการอีก
จนใก้ลเเจ้ง เริ่มีเด็กที่ต้องให้น้ำเกลือ สองคน จากไข้สูง เหงื่อออกมาก และซึมเล็กน้อย และน้ำสีเหลืองน้อยกว่าคนอื่นมาก
ดีที่ไม่ใช่เด็กเล็กมากนักการให้น้ำเกลือทำได้ไม่ยากเย็นนัก สองคนใช้เวลาไม่นาน
จัดการหาเศษไม้ใผ่สะอาดสะอาดมาทำที่ดามแขนยึดเข็มน้ำเกลือไว้ สั่งพ่อแม่เด็กไว้ว่า
ถ้ารักลุกมากยึดแขนนี้ไว้ให้ดีอย่าให้ขยับมากเข็มจะแตกออกนอกเส้นเลือดแล้วเด็กจะถุกแทงน้ำเกลือใหม่ แล้วถ้าเห็นปลายเข็มปูดโปนขึ้นมา ให้ปิดที่บังคับน้ำเกลือแล้วไปตามหมอด้วยจะได้มาแทงเข็มให้ใหม่ แล้วการได้รับน้ำเกลือนี่แหละจะช่วยให้ลูกของเขาปลอดภัยจากการชีอคได้
ดูทุกคนจะตั้งใจเฝ้าระวังกันอย่างดี วันแรกคืนแรกของใข้เลือดออกก้ผ่านไปด้วยดี
ที่สำคัญ ที่ต้องย้ำกับญาติที่ตึกเก่า ตลอดคือ
นอนนิ่งๆๆนะครับ ระวังเตียงพัง เพราะเป็นเตียงไม้ชำรุดแล้ว
ประมาณราวหกเจ็ดวัน เหตุการณ์ระบาดของไข้เลือดออกก้ผ่านวิกฤตไปด้วยดีสำหรับปีนั้น ไม่มีคนไข้ช๊อค หรือเสียชีวิต มีแค่เลือด ออกที่จมูกเพียงรายเดียว กับจ้ำเลือดตามตัวทั้งตัว สี่ห้าคน
แต่ในช่วงนั้น งานของพนักงานอนามัย และฝ่ายป้องกัน และส่งเสริมสุขภาพ ก้หนักมากๆๆกับการออกไปรณรงค์ ให้เอากะลาคว่ำ สอนให้นอนในมุ้ง แจกทราย เอสเบสโตส ใส่โอ่งน้ำป้องกันยุงลาย แต่ปีนั้นยังไม่ได้รับเครื่องพ่นควันจากจังหวัด
หลังจากนั้นไม่นานวันหนึ่งทางอำเภอได้เชิญไปพูดให้ชมรมภรรยาคุณนายกำนัน และผู้ใหญ่บ้านฟังปัญหาของในพื้นที่นี้
ได้สรุปเหตุการณ์ระบาดไข้เลือดออกให้เขาฟัง ว่ายังขาดแคลนอะไรอีกหลายๆๆอย่าง แต่ก็ผ่านไปด้วยดี เพราะชาวบ้านร่วมมือดีมาก ส่วนที่ยังบกพร่องอยู่ก็ขอร้องกันได้
ก็พูดให้ตลกให้เขาฟังว่า มานอนโรงพยาบาลนี้ต้องนอนนิ่งๆๆ
เพราะตึกเก่า เตียงไม้เก่าๆๆ ถ้านอนไม่นิ่งเตียงจะหักได้
ปรากฏว่า ช่วงเย็นวันนั้น ชมรมภรรยากำนันผู้ใหญ่บ้านได้มากันที่โรงพยาบาล พร้อมนำเตียง สปริงพับได้และที่นอน มาบริจาคให้10เตียง
และบอกว่า " ขอให้หมอทำเท่านั้น ถ้าอะไรขาดพวกเราช่วยได้ให้บอก นะค่ะ "
" พวกเราเฝ้าดูหมอมาตั้งแต่วันแรก เพียงเวลาไม่นาน พวกเราคิดว่ามองคนไม่ผิด " สองประโยคที่ยังก้องในหูผม จนทุกวันนี้
Create Date : 19 เมษายน 2552 |
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2557 6:28:24 น. |
|
5 comments
|
Counter : 728 Pageviews. |
|
 |
|
|
โดย: teeranet วันที่: 19 เมษายน 2552 เวลา:20:35:06 น. |
|
โดย: janny IP: 115.67.7.83 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:10:03:58 น. |
|
โดย: janny IP: 115.67.7.83 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:10:03:59 น. |
|
โดย: janny IP: 115.67.7.83 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:10:03:59 น. |
|
โดย: Fairly IP: 171.96.240.79 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:19:02:41 น. |
|
| |
|
หมอสัจจะ |
 |
|
 |
|
" พวกเราเฝ้าดูหมอมาตั้งแต่วันแรก เพียงเวลาไม่นาน พวกเราคิดว่ามองคนไม่ผิด "
เป็นผมก็ซึ้ง...
เป็นความหวังของชาวบ้านทั้งอำเภอนิครับ