
 |
|
 |
 |
|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
 |
 |
|
|
ประวัติศาสตร์ หน้าต่อไป ผ่าเกิด แฝด คู่แรก ที่นี่
หลังผ่าตัด ด้วยบ้านพักที่ห่างกับตึกที่ทำงานสักร้อยเมตร ผมก็เดินไปเดินมากับบนตึกที่เจ้าหน้าที่เริ่มต้องจัดกันอยู่เวร กลางคืนแล้วละหลังจากสบายไปอยู่ช่วง ที่ผลัดเปลี่ยนหมอแต่ละครั้ง
จากที่รู้จากภารโรงที่เก่าและผดุงครรภ์ ที่มีอายุมากสุด ได้ความว่า
หมอคนแรก เป็นหมอที่คน ที่นี่ส่งให้เล่าเรียน โดยก่อนหน้านั้นที่หมอคนแรกจะมาอยู่ตอนได้เข้าเรียนแพทย์ปีแรก นายอำเภอได้มาแจ้งกำนันผู้ใหญ๋บ้าน ช่วยกันบริจาคให้ทุนการศึกษาให้นักศึกษาแพทย์ ผู้นั้น โดยให้เป็นเงินประจำไม่กี่ร้อยบาทต่อเดือน จนหมอคนนั้น(ชาวตรัง)เรียนจบ ก็ขอมาทำงานที่นี้เป็นแห่งแรก เพื่อใช้ทุนให้คนอำเภอนี้ที่ส่งเรียนจนจบ มาได้เพียงหนึ่งปีก็ไป แล้วอำเภอนี้ก็ขาดแพทย์อีกตามเดิมอีกหนึ่งปีจึงมีแพทย์คนที่สองมาอยู่ หนึ่งปี แล้วเว้นไปอีกหนึ่งปี ก็มีหมอคนที่สามมาอยู่อีกหนึ่งปี แล้วเว้นไปหนึ่งปีหมอคนที่สี่มาอยู่เว้นแค่เดือนเดียว ผมก็มาเป็นคนที่ห้า
วันเดียวคนไข้ที่ได้ผ่าใส้ติ่งไว้ เริ่มไม่มีไข้ รีบบอกให้คนไข้ขยับตัวลุกขึ้นให้ลำใส้ทำงานเร็วๆๆแล้วเริ่มให้อาหารเหลวและน้ำ เมื่อมีเสียงลำใส้ทำงานแล้ว คนไข้ผุดลุกผุดนั่งบ่อยๆๆ
ภูมิต้านทานคนต่างจังหวัดจะดูดีกว่าคนในเมือง อย่างเห็นได้ชัดในเรื่องหลังผ่าตัด ไม่ช้าก็ครบเจ็ดวัน ตัดไหมให้กลับบ้านได้
ต่อมาไม่กี่วัน ก้เจอคนไข้ท้อง ใหญ่มาก คิดว่าต้องผ่าท้องให้คลอดจะปลอดภัยกว่าให้คลอดเอง เพราะมีบวมขาทั้งสองข้าง มีความดันเริ่มจะสูง
ปรึกษาคนไข้และสามีเสร็จแล้วก็เตรียมคนไข้ผ่าตัดเลย ราวๆๆบ่ายๆๆที่ปลอดคนไข้อื่นพอดี
เมื่อเตรียมคนไข้เสร็จ ก็จะเดินเข้าไปห้องผ่าตัด ญาติคนไข้ก็เข้ามาจับมือถามว่า หมออีกคน ไม่มาก่อนเหรอครับ ( เขาทราบว่าเมื่อก่อนจะผ่าจะมีหมอสองคนจากอีกอำเภอที่อยู่ติดไปรษณีย์มาช่วยเมื่ออีกฝ่ายมีคนไข้เคาะตะแลบแกรบ ไปทางไปรษณีย์ อีกอำเภอให้ตามหมอให้มาช่วยเพราะสมัยนั้นไม่มีทรศัพท์ แบบปัจจุบัน แล้วรอกันจนครบสองหมอแล้วจึงจะผ่าได้ ) เมื่อบอกไม่รอรู้สึกญาติ เริ่มแสดงอาการไม่มั่นใจ
พอแทงหลังไม่กี่นาทีได้ก็เริ่มผ่าอย่างรวดเร็ว
โดยการที่เตรียมการหัดตัวเองมาก่อน ตอนปีสี่ที่เรียนก็เริ่มออกไปดูงานตามสถานีอนามัย เรียนรู้ว่ามีเจ้าหน้าที่อย่างไรบ้างแล้วการไปอยู่เพียงคนเดียวจะช่วยตัวเองให้ทำงงานสำเร็จได้อย่างไร
พอเรียนปี ห้าปี หก และอินเทิรน(แพทย์ฝึกหัด) ก็สามารถผ่าตัดได้คนเดียวคล่องแล้ว
แต่การคลอด ถ้าเราคลอดตามธรรมชาติ คนไข้ก็จะต้องเสียเลือดจำนวนหนึ่ง เพราะต้องตัดฝีเย็บปากช่องคลอดให้หัวเด็กลุกคนแรกที่เล็กกว่าช่องคลอดออกมาให้ได้
แล้วกว่าเด็กจะถูกเบ่งออกมาจนเท้าพ้นระหว่างนั้นเลือดก็จะไหลเมื่อแม่เบ่งท้อง
เมื่อเทียบกับการผ่าตัดเร็วๆๆได้แล้วการผ่าตัดทำคลอดก็ไม่ได้เสียเลือดอะไรมากมายบนักจนเป็นการเสี่ยง ในกรณีเราจำเป็นต้องผ่าตัด
จากการที่ได้ฝึกตัวเองมาก่อนแล้วไม่กี่นาทีเด็กก็ออกมาร้องได้
พอเด้กออกแล้วทุกคนร้องลั่นห้องผ่าตัด เพราะยังมีอีกหนึ่งคน
เจ้าหน้าที่อีกคนต้องรีบวิ่งเข้ามารับเพิ่ม (ทุกคนยังอยู่กันเต็มห้องแบบวันแรกที่ผ่า)
แล้วผมก็เริ่มติดที่จะร้องเพลงไปผ่าไปเสียแล้ว
เพราะคนไข้ยังได้ยินเสียงเช่นเดิม ชาแค่ครึ่งตัว เมื่อเห็นหมอผ่าด้วยอารมณืสบายใจเขาก็นอนอมยิ้มไปด้วยไม่เครียด พอบอกลุกมีอีกคนที่ไม่ได้บอกเขาก่อนเพราะเด้กบังกันไว้ และท้องใหญ่มาก
พอเสร็จคนไข้เข็นออกไปแล้วเมื่อล้างมือเสร็จออกมา พ่อเด้กวิ่งมาจับมือ เมื่อเห็นหน้าลูกสองคนก่อนแล้วจึงได้เห็นหน้าแฟนยังนอนยิ้ม ก่อนจะมาเจอผม เขย่าแสดงความดีใจ ตามแบบฉบับของเขา
ก็เป็นบันทึกอีกหน้า ผ่าท้อง คลอดรายแรก ของอำเภอนี้
และบันทึกต่อไปด้วยว่าผ่าท้องเด็กแฝดของอำเภอนี้ ด้วยคนไข้คนเดียวกัน
หลังจากนั้นเจ้ดวันคนไข้ก็กลับบ้านได้เช่นกัน
แต่สิ่งที่ตามมา ถ้าผมขึ้นมาดูคนไข้ตอนเย็น จะมีข้าวหรือของกินมาฝากผมทุกวัน จากพ่อเด็ก ที่ดีใจมากคนนั้น
Create Date : 19 เมษายน 2552 |
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2557 6:28:09 น. |
|
2 comments
|
Counter : 604 Pageviews. |
|
 |
|
|
โดย: janny IP: 115.67.7.83 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:9:50:12 น. |
|
โดย: Chatchai IP: 125.24.225.192 วันที่: 25 มกราคม 2563 เวลา:21:44:22 น. |
|
| |
|
หมอสัจจะ |
 |
|
 |
|