สิงหาคม 2551

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
30
31
 
 
All Blog
บทเพลงแห่งท้องทะเลเคล้าสำเนียงดนตรีแจ๊สกลางหยาดฝนบนหาดทราย
เช้าวันหนึ่งกลางเดือนมิถุนายนกับช่วงเวลาที่สายฝนหวลกลับมาอีกคราหลังจากห่างหายไป ผมมีโอกาสเดินทางกลับไปยังเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงตั้งแต่ในยุคเก่าก่อนด้วยใจมุ่งหมายจะหลีกหนีความสับสนต่างๆนานาที่รุมเร้าเข้ามามากมายเหลือเกินในช่วงเวลานี้ ในใจเปี่ยมด้วยความหวังว่า ภาพเก่าๆ ที่ยังอยู่ในความทรงจำกับสถานที่แห่งนี้จะทำให้รู้สึกดีและได้ความเบิกบานใจกลับมา ผมกลับมาตามหาภาพที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์เหล่านั้นอีกครั้ง แต่ในวันนี้มีสิ่งหนึ่งที่แต่งเติมแต้มสีสรรให้กับสถานที่ตากอากาศแห่งนี้เพิ่มชีวิตชีวาให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากในหลายครั้งก่อน

ผมกำลังพูดถึงดนตรีในแนวที่มีรากฐานจากเพลงบลูส์ พัฒนาขึ้นมาโดยชาวอเมริกันผิวดำเมื่อยุคเก่าก่อน เน้นจุดเด่นที่ตัวโน๊ต การลัดจังหวะและการสวิง ที่ล้วนมีเสน่ห์และเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นในตัวเอง แนวดนตรีที่นำพาผู้ทุกจากทุกสารทิศมารวมกันอยู่บนพื้นทรายสีขาวนวลกับท้องทะเลสีหม่นหลายครั้งหลายหน และสำหรับผมการกลับมาครั้งนี้ ผมอยากจะใช้บทเพลงเป็นเครื่องกล่อมเกลาจิตใจที่อ่อนล้า ให้แข็งแรงและมีพลังสู้ต่อไป



สายฝนที่โปรยปรายลงมาตลอดเส้นทางวงแหวนออกจากกรุงเทพฯ มหานครเชื่อมต่อไปยังถนนพระรามสอง เป็นสิ่งย้ำเตือนว่า วสันตฤดูได้ย่างเยือนเข้ามาอีกครา และด้วยเหตุนี้เอง การเดินทางในวันนั้นอากาศเย็นสบาย ประกอบกับสภาพการจราจรที่เอื้ออำนวย ทำให้ผมใช้เวลาไม่นานในการเดินทางสู่ที่หมาย ทันทีที่รอดผ่านอุโมงแห่งนี้เข้าไป ผมเริ่มได้รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของความเป็นเมืองตากอากาศระดับคลาสสิค ที่ในยามนี้อบอวนไปด้วยสรรพเสียงแห่งสำเนียงดนตรีแจ๊สล่องลอยอยู่ในทุกบรรยากาศ เป็นสิ่งที่รับรู้ได้ไม่ยาก ถ้าหากมาเยือนหัวหินในยามนี้ ท่ามกลางเสียงตอบรับอย่างล้นหลามในทุกๆปีที่ผ่านมา เป็นสิ่งดึงดูดผู้คนมาพักผ่อนวันหยุดกันอย่างเนืองแน่ ทุกคนมีจุดมุ่งหมายเดียวกันนอกเหนือจากการมาพักผ่อนตากอากาศ อีกสิ่งหนึ่งคือการมาซึมซับดนตรีบนชายหาดนั่นเอง



ในไม่ช้าผมก็ใกล้ถึงที่หมายในคืนนี้ ถนนสายนี้พาผมเดินทางมาสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งท้องทะเล ณ ที่แห่งนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่มีแม้สักครั้งที่จะรู้สึกเบือหน่ายกับการกลับมาเยือนสถานที่แห่งนี้ การเดินทางสิ้นสุดลงที่สถานที่พักแรมแห่งนี้ สถานที่นี้คือรีสอร์ทในยุคแรกๆของที่นี่ บรรยากาศในยุคก่อนยังคงอบอวนอยู่ในความรู้สึกทุกครั้งที่ได้เข้าไปสัมผัส ในส่วนต้อนรับมีการตกแต่งที่คงไว้ซึ่งสิ่งที่มีคุณค่าในอดีตกาล เป็นอาคารเป็นโล่งรับลมเย็นจากด้านชายหาด ภายในบริเวณมีการนำเอาข้าวของเครื่องใช้ในยุคแรกของโรงแรมแห่งนี้มาประดับประดา ของแต่ละชิ้นมีที่มาและเล่าเรื่องราวย้อนไปในยุคก่อนในสมัยที่ยังเป็นโรงแรมรถไฟได้เป็นอย่างดี ผมใช้เวลาเดินชมสถานที่สักพักใหญ่ จากนั้นก็มาลงทะเบียนเข้าห้องพักที่ส่วนต้อนรับ



เนื่องจากขณะนั้นเป็นเวลาสิบนาฬิกา ระหว่างรอห้องที่ขอเข้าก่อนเวลาไว้ ผมถือโอกาสเดินชมบรรยากาศโดยรอบ เดิมสวนขนาดใหญ่ รำลึกภาพอดีตเมื่อครั้งยังเป็นโรงแรมรถไฟ หลายสิ่งยังคงไว้ซึ่งสภาพเดิม มีต้นไม้ใหญ่อายุร่วมร้อยปี ให้ความร่มรื่นทั่วบริเวณ ภาพสถาปัตฯ ก็ยังคงไว้ซึ่งร่องรอยแห่งอดีตกาล ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากยุคก่อน แม้จะเลือนลางก็ยังคงอยุ่ในความทรงจำ ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็ยังจำได้ดี ภาพสวนสวยตลอดทางให้ความรุ้สึกสบายตา ร้านน้ำชายามบ่ายที่ในบรรยากาศย้อนยุค ที่คลาคล่ำไปด้วยแขกที่มาใช้บริการในยามบ่าย ถึงเรื่องราวในครั้งก่อนที่เคยนั่งรถไฟมาหัวหินและมาพักค้างแรมที่โรงแรมรถไฟแห่งนี้ ผมเดินเรื่อยมาถึงสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ที่มีอยู่ด้วยกันสองสระ ร้านอาหารริมสระน้ำ สระว่ายน้ำอีกแห่งที่อยู่ท่ามกลางหมู่มวลแมกไม้ในสวนอันร่มรื่น ให้ความรู้สึกที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ รอบๆสระว่ายน้ำมีร้านอาหารบริการอาหารและเครื่องสำหรับแขกที่มาพักใช้บริการ สระว่ายน้ำที่นี่สร้างอยู่ใกล้ชิดกับชายหาดให้ความเพลิดเพลิน เหมาะแก่การพักผ่อนในวันสบายๆ สำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายมาสัมผัสลมเย็นจากท้องทะเล แต่ในวันนั้นสภาพท้องฟ้าไร้ซึ่งแสงตะวันที่ถูกบดบังด้วยเมฆฝน ให้ความรู้สึกเคร้าปนความเหงาในจิตใจ สนามเด็กเล่นท่ามกลางหมู่มวลแมกไม้ที่ร่มรื่น ห้องออกกำลังกาย ท่ามกลางหมู่มวลพฤกษา





ผมเดินมาถึงชายหาดหน้ารีสอร์ทที่พัก มองภาพท้องทะเลสีหม่น ตัดกับท้องฟ้าสีคราม กับหาดทรายขาวนวลที่มีหมู่หินน้อยใหญ่ประดับประดาอยู่เบื้องหน้า นึกย้อนถึงที่มาของนามที่เรียกขาน “หัวหิน” ยังคงเป็นภาพที่งดงามประทับใจทุกคราที่ได้ยล ด้านขวามือเห็นทิวทัศน์ของเขาตระเกียบทอดตัวยาวลงสู่ท้องทะเล ทั้งหมดนี้คือภาพที่บอกให้ผมรู้ว่า วันนี้ผมกลับมายืนที่เดิมในวันที่ท้องฟ้าไม่เป็นดั่งใจฝัน



แม้ว่าหลายสิ่งหลายอย่างจะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงเดิมก็คือมนต์เสน่ห์ที่แฝงอยู่คู่สถานตากอากาศแห่งนี้ ผมกล้าพูดได้เต็มปากว่า ที่นี่เป็นทางเลือกอันดับต้นๆ ของนักท่องเที่ยวที่นิยมและลุ่มหลงในสำเนียงแห่งท้องทะเล อีกทั้งในยามนี้สำเนียงแห่งท้องทะเลกำลังจะถูกนำมาผสมผสานกับบทเพลงแจ๊สอย่างลงตัวบนชายหาดแห่งนี้ เป็นกิจกรรมที่มีผู้จัดขึ้นมาหลายครั้งหลายหนบนพื้นที่แห่งนี้และได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีเสมอมา วันนี้ผมดีใจที่จะได้มีส่วนร่วมในงานใหญ่งานหนึ่งที่หัวหิน

เมื่อทางรีสอร์ทแจ้งว่าห้องพักหมายเลข 146 เรียบร้อยแล้ว ผมก็จัดสัมภาระเข้าห้องพัก ภายในห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เตียงขนาดใหญ่ ชุดเก้าอี้นั่งเล่นภายในห้อง ตู้เสื้อผ้า ทีวี และ มินิบาร์ โต๊ะทำงาน และห้องน้ำที่เพียบพร้อมด้วยสิ่งของเครื่องใช้ อ่างอาบน้ำพร้อมฝักบัวสองชนิดให้เลือกใช้ตามความพึงพอใจ ออกมาที่ระเบียงมีชุดเก้าอี้นั่งพักผ่อนอิริยาบถ เมื่อมองออกไปจะเห็นทิวทัศน์ของสวน และเมือมองผ่านทิวไม้ที่เรียงรายออกไปจะเห็นชายหาดอยู่เบื้องหน้า





หลังจากจัดสัมภาระเข้าห้องพัก ผมออกไปเดินเที่ยวชมบรรยากาศของตลาดหัวหิน พร้อมตั้งใจที่จะหาอาหารมื้อกลางวันรับทาน จากที่พักเดินไปที่บริเวณหอนาฬิกา ผ่านร้านโกทิ ผมจำได้ว่าใกล้ๆกับวัดหัวหิน มีร้านเก่าแก่อยู่ร้านหนึ่ง ผู้คนนิยมไปทานกลางวันกันที่นนี่ ผมถือโอกาสกลับไปที่ร้านนี้อีกครั้ง

จากนั้นเดินออกมาหากาแฟรับทานแก้ง่วงยามบ่าย ผู้คนนิยมมานั่งพักดื่มกาแฟเย็นๆ ที่ร้านแห่งนี้ บ้างก็หาหนังสือดีๆมาอ่านเล่น บ้างก็เพลิดเพลินกับเสียงเพลงส่วนตัวที่ยามนี้ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ผู้คนนิยมพกพานำติดตัวไปในทุกแห่งหน ไม่เว้นแม้แต่อุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ที่ทันสมัย ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยวไปเสียแล้ว ผมเดินกลับที่พักแวะร้านไอศครีมชื่อดังและก็หาซื้อของกินติดมือกลับไปทานแก้หิวที่ชายหาดในยามบ่าย





ผมเดินลัดเลาะไปตามชายหาดไปที่บริเวณหน้าเวที เพื่อชมบรรยากาศของงานดนตรีที่ชายหาดอย่างใกล้ชิด นอกจากเวทีที่มีการจัดตั้งอยู่บนชายหาด อีกทั้งระบบแสงสีให้เพิ่มสีสรรให้กับงานแล้ว ก็ยังมีงานออกร้านจากที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารหรือแม้แต่โรงแรมที่อยู่ใน อ หัวหิน รวมทั้งผู้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มชื่อดังที่เป็นผู้สนับสนุนงานดนตรีนี้ด้วยดีเสมอมา ร้านรวงออกมาจัดตั้ง มีทั้งอาหาร เครื่องดื่ม ตลอดจนสินค้าที่ระลึกจำหน่ายตลอดแนวชายหาดไปจนถึงหน้าเวที

ผมเดินไปสัมผัสบรรยากาศหน้าเวทีในช่วงกลางวันที่ผู้คนยังไม่หนาตามากนัก บนเวทีนักดนตรีก็ซักซ้อมและเตรียมบทเพลงที่จะบรรเลงในค่ำคืนนี้ให้บรรดาผู้ที่หลงใหลในคนตรีแนวนี้ได้ฟังกัน เสียงดนตรีที่ถ่ายทอดมีทั้งดีด สี ตีและเครื่องเป่า การซักซ้อมแยกชิ้นและซ้อมรวมเล่นเพื่อความสมบรูณ์ของงานในคืนที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า

ในยามที่แสงตะวันเริ่มโรยรา ผู้คนจากทั่วสารทิศเริ่มทยอยเดินทางเข้ามาที่บริเวณจัดงาน ถนนทุกสายมุ่งหน้าสู่ชายหาดหัวหิน ในยามนี้เต็มไปด้วยยวดยานพาหนะและผู้คน แต่จะมีสักกี่คนที่นิยมและหลงใหลในดนตรีแนวนี้อย่างแท้จริง ผมเข้าใจว่ามีคนไม่น้อยที่ไม่เคยสัมผัสหรือนิยมชมชอบดนตรีแนวนี้แต่อยากที่จะมีส่วนร่วม สำหรับผมได้มีโอกาสสัมผัสดนตรีแนวนี้อย่างผิวเผิน แต่ก็มากพอที่จะทำให้เข้าใจงานเพลงหลายชิ้นที่ศิลปินเหล่านั้นนำมาเสนอ



เหล่าศิลปินจากทุกแห่งหน เดินทางมาขับกล่อมและสื่อสารกับผู้คนด้วยบทเพลงแห่งความประทับใจอันไพเราะ เคล้าสำเนียงบทเพลงแห่งท้องทะเล ณ ชายหาดแห่งนี้ ผมเพิ่งตระหนักว่า ภาษาทางดนตรีคือภาษาสากลที่ใช้สื่อสารกันได้ในทุกแห่งหน บทเพลงเริ่มบรรเลง ขับกล่อม ผู้คนเริ่มทะยอยเข้ามากันหนาตา สายลมแห่งท้องทะเลยามนี้อบอวนไปด้วยกลิ่นไอแห่งคนตรีแจ๊ส สำเนียงอันไพเราะที่เข้ามาสู่จิตใจผม และทำให้ผมรู้สึกดีอย่างน่าประหลาด นี่คงเป็นสิ่งที่ผู้คนกล่าวขานว่าดนตรีคือยารักษาทางใจ



ผมใช้เวลาในเย็นของวันนั้นอยู่ ณ ที่แห่งนั้น บนหาดทรายกับน้ำทะเล ผมซึมซับและเพลิดเพลินกับเสียงเพลงจาก ศิลปินทะยอยผลัดกันขึ้นเวที ให้ความบรรเทิงแก่ผู้ชม ตั้งแต่ช่างบ่ายคล้อยจนค่ำมืด แสงสีบนเวทีเริ่มชัดเจน ตัดกับสีของท้องฟ้าที่อยู่เบื้องบนยามนี้ช่างดูงดงามเสียเหลือเกินในแต่ละบทเพลงที่ผ่านเข้ามาในห้วงคำนึง ผมรับรู้ถึงรสชาดความสุขได้ไม่ยาก แต่ละบทเพลงในแต่ละช่วงเวลา เป็นความรู้สึกที่วิเศษยากจะหาสิ่งใดเสมอเหมือน เป็นสิ่งที่ยากเกินคำบรรยายที่สำเนียงแห่งท้องทะเลจะผสมผสานกับบทเพลงแจ๊สได้อย่างลงตัวไร้ที่ติ



แม้ในยามที่ตะวันลาลับขอบฟ้า บทเพลงแห่งดวงดาว ก็เริ่มขับกล่อมเคล้าคลอไปกับดนตรีที่ถ่ายทอดโดยคนดนตรีบนเวทีแห่งนี้ ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังล่องลอยไปกับสรรเสียงที่แว่วเข้ามาในโสตประสาท ท่ามกลางหยาดฝนที่โปรยปรายลงมาอย่างไม่ขาดสาย สายน้ำที่ร่วงล่นจากเบื้องบนราวกับท้องนภาร่ำไห้เสียน้ำตาให้กับบทเพลงที่แฝงไปด้วยความเคร้าอาดูร





ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นบนหาดทรายแห่งนี้ น้อยคนที่จะปฎิเสธว่านี่คืองานดนตรีที่ยิ่งใหญ่งานหนึ่งที่เกิดขึ้น ณ ดินแดนคลาสสิคแห่งนี้ ผมใช้เวลาอยู่ที่ชายหาดจนใกล้เวลาอำลางานดนตรีที่ยิ่งใหญ่ไปพร้อมกับความสุขที่ดื่มด่ำเข้าไปพร้อมกับเสียงพลงที่ขับขานอยู่บนเวทีแห่งนี้ คำที่ผู้คนกล่าว “ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่มีวันเลิกลา” ดูจะเป็นจริงทีเดียว ผมผ่านค่ำคืนที่วิเศษสุดอีกคืนหนึงไปพร้อมกับสรรพเสียงบทเพลงสุดท้ายที่เริ่มแผ่วเบาลงจนจางหายไปในท้องทะเลเข้าสู่วันใหม่




แม้เสียงดนตรีจะเงียบหายไป แต่เสียงแห่งท้องทะเลงามยังคงดังก้องอยุ่ในใจมิรู้ลืม ผมยังคงเฝ้ารอวันที่จะได้กลับมายังหาดทรายแห่งนี้อีกครา วันที่สายลมนำพาสำเนียงแห่งบทเพลงแจ๊สหวลกลับมาอีกครั้ง ผมให้สัญญา...



Create Date : 07 สิงหาคม 2551
Last Update : 7 สิงหาคม 2551 11:01:54 น.
Counter : 1456 Pageviews.

1 comments
  
อยากไปฟังเพลงแบบนี้บ้างจัง
โดย: chalawanman วันที่: 7 สิงหาคม 2551 เวลา:19:06:17 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

3KKK
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]



New Comments
MY VIP Friend