มกราคม 2555

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
21
22
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
อัมพวา............เวนิสแห่งภาคตะวันออกกับตำนานที่ยังมีชีวิต
ในยามที่ท้องฟ้ายังคงชุ่มฉ่ำไปด้วยหยาดฝน พร่างพราวทั่วท้องนภา ช่วงเวลาที่ใครหลายคนอาจปฎิเสธการเดินทางท่องเที่ยว แต่สำหรับผม สายฝนคือแรงขับเคลื่อนแห่งการเดินทาง

ด้วยยังคงเชื่อมั่นอยู่ในใจนี้ว่า “ฟ้าหลังฝนงามตาเสมอ”


ผมกลับมาบนเส้นทางแห่งการท่องเที่ยวอีกครั้งหนึ่ง หลังจากห่างหายไปด้วยเหตุผลที่มีมากมาย

เป็นการเดินทางที่มิได้เพียงก้าวเดินไปด้วยขาทั้งสองหากแต่เป็นการเดินทางด้วยหัวใจไปยังทุกที่ที่วันพรุ่งนี้จักต้องเป็นวันที่ดีอีกวันหนึ่ง

ถนนสายนี้นำพาผมกลับมาสู่ อ อัมพวา จังหวัดสมุทรสงครามหรือที่ผู้คนเรียกขานเมืองแม่กลอง เมืองเล็กที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแม่กลอง แต่กลับยิ่งใหญ่ด้วยมนต์เสน่ห์อันน่าหลงใหล นำพานักเดินทางมากมายจากทุกสารทิศให้มาเยือน ติดอันดับต้นๆของประเทศ มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจดึงดูดผู้คนให้มาสัมผัสหลายแห่ง

แน่นอนว่าแหล่งท่องเที่ยวในอัมพวามีอยู่มากมายหลายแห่งจนทำให้ผมมิอาจนำเสนอได้ครบทุกแห่งในการเดินทางที่ยังคงมีเงื่อนเวลาเป็นข้อจำกัด แต่จะพยายามนำพาสิ่งดีๆที่ได้กลับมาจากการไปเยือนถิ่นแม่กลองในครั้งนั้นให้มากที่สุด

ตลาดน้ำอัมพวาและเมืองแม่กลองเป็นสิ่งที่อยู่คู่กันมาช้านานและด้วยสมบูรณ์ของทรัพยากร ประกอบกับที่ตั้งอยู่ชายทะเล มีแม่น้ำลำคลองหลายสายเชื่อมโยงเป็นโครงข่ายลำน้ำเข้าถึงในทุกพื้นที่ ทำให้ตำนานที่อยู่คู่เมืองแม่กลองแห่งนี้ถูกขนานนามว่าเป็น “เวนิสแห่งภาคตะวันออก” แห่งสุดท้ายที่ยังหลงเหลืออยู่

ในอดีต ชุมชนอัมพวาเป็นชุมชนริมน้ำที่ทำสวนไม้ผลและปลูกพืชผักขนาดเล็ก ภาพบ้านเรือนปลูกขนานไปตามแนวคลอง เป็นภาพที่มีมาช้านาน สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา หากแต่ในวันวาน อัมพวาเป็นศูนย์กลางการค้าขายทางน้ำที่คับคั่ง เพียงแต่ในอดีตวิถีเหล่านั้นอยู่บนพื้นฐานชีวิตความเป็นอยู่จริงของผู้คน มิได้อยู่บนฐานของการท่องเที่ยวดังเช่นในปัจจุบัน

จวบจนความเจริญรุ่งเรืองเข้ามาแทนที่ มีการสร้างถนนหนทาง การสันจรทางน้ำเริ่มมีบทบาทน้อยลง สิ่งเหล่านี้ก็เริ่มเลือนหาย กลายเป็นความว่างเปล่า ผุ้คนเริ่มอพยพย้ายถิ่น และแน่นอนว่าวัฎจักรนี้ไม่ได้เกิดขึ้นที่อัมพวาเพียงแห่งเดียว ชุมชนอีกหลายแห่งในเขตที่ราบลุ่มภาคกลางซึ่งการคมนาคมทางน้ำเป็นหัวใจสำคัญก็เผชิญกับสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงในทำนองเดียวกัน หากวันหนึ่งตำนานอันทรงคุณค่าที่สะท้อนให้ประจักษ์ถึงรากฐานที่มาของชุมชนต้องล่มสลายฝังนิ่งอยู่กับกาลเวลา คงเป็นสิ่งที่น่าเสียดาย


แต่แล้ววิถีชุมชนริมน้ำแห่งหนึ่งที่เหลืออยู่ในประเทศไทยนามว่าอัมพวาก็พื้นคืนกลับมาอีกครั้งด้วยสายพระเนตรอันยาวไกลของสมเด็จพระเทพฯ ที่ทรงพระดำริที่จะให้ชาวชุมชนอัมพวาเก็บรักษาสถาปัตยกรรมเก่าแก่อันทรงคุณค่าเหล่านี้ไว้โดยทรงพระดำริให้มีการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมริมน้ำทั้งหมดให้คงสภาพใกล้เคียงกับของเดิม
ถ้าหากเราไม่เก็บรักษาสิ่งเหล่านี้ไว้ ในวันข้างหน้าคนรุ่นหลังคงจะไม่มีโอกาสได้เห็นวิถีความเป็นมาของชุมชนดั่งเดิมที่มีกิจกรรมผูกพันอยู่กับแม่น้ำลำคลอง สืบเนื่องจากในปัจจุบันโครงข่ายอาคารที่มีการก่อสร้างขึ้นในภายหลังไปยึดเกาะอยู่กับถนนหนทาง

ผลพวงจากงานอนุรักษ์ ภาพบ้านเรือนไม้ที่ขนานไปตามริมสองฝั่งคลอง ควบคู่ไปกับการค้าขาย และการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายก็กลับมาให้เห็นอีกคราหนึ่ง จะต่างกันก็เพียงแต่เป็นวีถีที่อยู่บนพื้นฐานของการท่องเที่ยวมิใช่วิถีที่แท้จริงของผู้คนในอดีตเท่านั้นเอง

คงจะไม่ผิดนัก หากจะกล่าวว่าในปัจจุบัน การท่องเที่ยวใน อ. อัมพวากำลังเดินไปในทิศทางเดียวกับการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าให้ชนรุ่นหลังได้รับรู้ถึงเอกลักษณ์และความเป็นตัวตนของวิถีคนอัมพวาที่ยังชัดเจนอยู่

อาคารว่างเปล่าหลายแห่งที่ไม่มีผู้อยู่อาศัยถูกปรับปรุงให้เป็นร้านอาหาร หรือที่พักแบบโฮมสเตย์ไว้รองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่ดูเหมือนว่าจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกปี สิ่งเหล่านี้คือการฟื้นฟูเศรษฐกิจพื้นฐานระดับชุมชน สร้างรายได้ให้ชาวอัมพวาให้สามารถยืนอยู่บนฐานรากเหง้าของตัวเอง

ผลสำเร็จจากการโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมศิลปกรรม พื้นที่ชุมชนริมคลองอัมพวา ทำให้ชุมชนได้รับรางวัลอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมในภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิค จากองศ์การยูเนสโก

ผ่านมาเนิ่นนาน แต่ภาพในอดีตยังคงหลงเหลือให้เห็น แม้ว่าอาจจะลบเลือนไปบ้างตามกาลเวลา ในทุกย่างก้าวที่เดินเรียบลำคลองสายนี้ ผมรับรู้ได้ไม่ยากเลยว่าภาพวิถีของชุมชนอัมพวาในอดีตคือวิถีที่ยังมีชีวิตและสัมผัสได้จนทุกวันนี้

ผมสังเกตว่านอกจากสิ่งก่อสร้างมีที่มีการอนุรักษ์ไว้ให้ใกล้เคียงกับของเดิมมากที่สุดแล้ว สิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือวิถีชีวิตของผู้ที่อาศัยอยู่ภายใน เพราะหลายแห่ง ชีวิตของผู้คนผูกติดกับการค้าขายกันมาชั่วชีวิต สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นหลายชั่วอายุคน

ภาพบ้านเรือนไม้ที่ขนานไปตามริมสองฝั่งคลอง ควบคู่ไปกับการค้าขาย และการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย สอดคล้องไปกับการรักษาวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามในชุมชน คือสิ่งที่นำพานักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศแวะเวียนมาเยือนอัมพวาอยู่เป็นนิจ แม้ว่าการไปเยือนอัมพวาจะต้องเผชิญกับปัญหานานับประการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสถานที่จอดรถ จำนวนนักท่องเที่ยวที่แออัดเบียดเสียดกัน แต่ผู้คนไม่น้อยก็ยังเลือก อัมพวา เป็นจุดหมายในวันหยุดพักผ่อน

ชื่อของอัมพวา ถูกขนานนามคู่กับเมืองแม่กลองมาช้านาน ในฐานะอำเภอหนึ่งที่มีชื่อเสียงทางด้านการท่องเที่ยวชมตลาดน้ำและหิ่งห้อย แต่ ณ วันนี้ต้องยอมรับว่า อีกสิ่งหนึ่งที่โดดเด่นของอัมพวาก็คือ การอนุรักษ์สถาปัตยกรรมเก่าแก่ของชุมชนริมน้ำที่ได้รับการยอมรับในระดับโลกไปเสียแล้ว อยากชวนเชิญให้ทุกคนเดินทางไปเที่ยวอัมพวาหากมีโอกาส เพราะนอกจากจะได้รับความเพลิดเพลิน อิ่มอร่อยกับอาหารนานาชนิดแล้ว ยังเป็นการได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมชิ้นนี้ให้คงอยู่สืบไปด้วยครับ

สถานที่ท่องเที่ยวใน อ อัมพวา ที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่งคือโบสถ์ปรกโพธิ์ ที่ค่ายบางกุ้ง เป็นอุโบสถที่สร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ถูกปกคลุมด้วยรากไม้ใหญ่ซึ่งช่วยให้โบสถ์แห่งนี้คงรูปร่างอยู่ได้จนปัจจุบัน เมื่อมองจากภายนอกแทบไม่เชื่อว่าภายในจะมีโบสถ์อยู่

ภายในมีพระพุทธรูปประดิษฐาน ชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อโบสถ์น้อยหรือหลวงพ่อนิลมณี และเรียกโบสถ์แห่งนี้ว่า โบสถ์ปรกโพธิ์

อาสนวิหารพระแม่บังเกิด เป็นโบสถ์ที่มีความสวยงาม ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแม่กลองมานานกว่าหนึ่งศตวรรษแล้ว

เดิมอาสนวิหารแห่งนี้ที่มีชื่อเรียกว่าวัดศาลาแดง ต่อมาได้มีการย้ายที่ตั้งมาอยู่ที่ปากคลองบางนกแขวกและมีการก่อสร้างขึ้นใหม่และมีชื่อเรียกว่า "แม่พระบังเกิด" ดังเช่นในปัจจุบัน

การก่อนสร้างอาสนวิหารแห่งนี้ซึมซับกลิ่นอายแห่งศิลปกรรมแบบโกธิคอันลือเลื่องจากประเทศฝรั่งเศส จากข้อมูลทราบว่าการก่อสร้างวิหารอันงดงามแห่งนี้ ใช้อิฐเผา ฉาบด้วยปูนตำกับน้ำเชื่อมจากอ้อยใสสีดำ

ภายในประดับด้วยกระจกหลากสีอันงดงามที่มีการนำเข้ามาจากประเทศฝรั่งเศสด้วยเช่นกัน สิ่งตกแต่งอันวิจิตรงดงามเหล่านี้ล้วนเพิ่มความงดงามอลังกาลสมกับเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์

อุทยานพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยหรือที่เรียกกันติดปากว่า “อุทยาน ร.2” เป็นโครงการจัดตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เพื่อเป็นการสนองพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองศ์ทรงได้พระราชทาน ศิลปวัฒนธรรมอันงดงามไว้ เป็นมรดกแก่ชาติ

พื้นที่บริเวณที่ก่อสร้างอุทยานพระบรมราชานุสรณ์นี้ มีที่มาและมีความสำคัญ เพราะเป็นสถานที่ พระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

ภายในอุทยานแห่งนี้มีอาคารทรงไทยตั้งอยู่หลายหลัง มีการจัดเป็นพิพิธภัณฑ์และอาคารซ้อมโขน โรงละครและโรงเก็บเครื่องดนตรีไทย

พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ลักษณะเป็นอาคารทรงไทยเช่นกัน ภายใน จัด แสดงศิลปวัตถุในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ที่จะสะท้อนให้เห็นลักษณะศิลปวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ และการดำรงชีวิตของชาวไทยในสมัยแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

อุทยานฯ เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 09.00 - 18.00 น. อัตราค่าเข้าชม เด็ก 5 บาท ผู้ใหญ่ 20 บาท ส่วนพิพิธภัณฑ์เปิด เวลา 09.00 - 17.00 น.

การเดินทางไปเยือนอัมพวาหนนั้นผมเลือกเข้าพักที่บ้านอัมพวา รีสอร์ทแอนด์สปา ที่พักระดับสี่ดาว ที่พักแห่งนี้เป็นรีสอร์ทเรือนไทยริมแม่น้ำแม่กลอง

สิ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจเลือกที่แห่งนี้ ด้วยเหตุผลที่อยากจะดื่มด่ำกับบรรยากาศของเมืองแม่กลอง อีกเหตุผลก็คืออยากที่จะพักผ่อนพร้อมกับซึมซับในวิถีของชุมชนริมสองฝั่งแม่น้ำแม่กลองอันงดงาม ซึ่งยังคงวิถีชีวิตเรียบง่ายแบบไทยไว้อย่างชัดเจนและหาดูไม่ง่ายในทุกวันนี้

บริเวณนี้คือส่วนต้อนรับของรีสอร์ท

ที่รีสอร์ทแห่งนี้ มีบ้านพักให้เลือกสองบรรยากาศ ไม่ว่าจะเป็นห้องพักในเรือนไทยสมัยรัชกาลที่ 2 และห้องพักในวิลล่าแบบรัตนโกสินทร์ตอนกลาง ห้องพักส่วนใหญ่ห้องอยู่ท่ามกลางสวนไม้ไทยในวรรณคดีที่งดงามเพื่อการผ่อนคลายดื่มด่ำบรรยากาศในวันหยุด ห้องพักในหมู่เรือนไทยถูกรายล้อมด้วยพันธุ์ไม้ไทยในวรรณคดีที่หายาก สร้างบรรยากาศการพักผ่อนที่เป็นเอกลักษณ์ โดยที่สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครันในมาตรฐานโรงแรม

ห้องที่ผมเข้าพักในครั้งนั้นคือ ห้องพักแบบ Superior อยู่ที่ชั้น 1 ของเรือนไทย จากห้องนอนสามารถเห็นบรรยากาศสวนไม้ไทยที่ร่มรื่นพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกตามมาตรฐานของโรงแรมครบครัน

ห้องน้ำ เราพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกตามาตรฐานของโรงแรมชั้นนำทั่วไปเช่นกัน

ส่วนอาบน้ำแยกเป็นสัดส่วน

สระว่ายน้ำขนาดพอประมาณ ในบรรยากาศติดริมแม่น้ำแม่กลอง พร้อมพูลบาร์ บริการเครื่องดื่ม บริเวณสระว่ายน้ำ

ห้องอาหารสบันงา บริการอาหารไทยและสากลตลอดทั้งวันโดยใช้วัตถุดิบท้องถิ่นที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี

รับทานอาหารและดื่มด่ำกับวิถีริมน้ำของชาวอัมพวาที่ยังคงมีให้เห็นอยู่ ปล่อยใจให้ลอยไปกับสายน้ำ เป็นบรรยากาศที่ยากจะลืมเลือน สายน้ำยามเย็นยังคงรินใหล เหมอมองสายน้ำ สิ่งไม่ดีให้ใหลไปกับลำน้ำแม่กลองไม่หวลคืนกลับมา แต่จะมีวันใดที่สายน้ำจะใหลย้อนนำพาสิ่งดีๆกลับคืนมา...


อำลาอัมพวาด้วยภาพสุดท้าย ขอบคุณทุกท่านที่แวะมา ทักทาย พูดคุยและเป็นแรงใจเสมอมา





Create Date : 23 มกราคม 2555
Last Update : 23 มกราคม 2555 11:03:58 น.
Counter : 8101 Pageviews.

3 comments
  
กะว่าจะไปเที่ยวเหมือนกันค่ะอยากไปคนเดียวแต่มีเพื่อนอยู่ที่นั่นเหมือนกันพอจะบอกได้ไหมคะว่าโรงแรมเท่าไหร่ แพงไหมคะอยากไปจังคะ คิดอยู่ว่าจะนอนกับเพื่อนหรือว่านอนโรงแรมดีแต่อยากนอนโรงแรมมากกว่า
โดย: กล่อม วันที่: 23 มกราคม 2555 เวลา:14:14:10 น.
  
เข้ามาชมปู่เคเที่ยวอัมพวาครับ
โดย: Koon Shy_Tour Dee วันที่: 23 มกราคม 2555 เวลา:14:33:22 น.
  

โดย: Kavanich96 วันที่: 24 มกราคม 2555 เวลา:7:46:50 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

3KKK
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]



New Comments
MY VIP Friend