ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่(ขุนวาง).....ในวันที่ไร้เงานางพญาสีชมพู

ช่วงนี้มีเวลาที่ว่างเว้นทำรีวิวบ่อย ยังเป็นรีวิวในสายลมหนาวที่แสนคิดถึงแม้จะจางหายไปนานพอสมควร แต่หลับตาลงก็ยังรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นในสายลมหนาวที่ได้ไปสัมผัสในวันนั้น ถือเป็นรีวิวส่งท้ายลมหนาวอย่างเป็นทางการก่อนจะเข้าสู่การท่องเที่ยวหน้าร้อนที่หลายคนโหยหาแต่ท้องทะเลแรกแห่งปีนี้กัน

เส้นทางท่องเที่ยวของผมหลังจากอำลาอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ได้มีโอกาสเดินทางไปเยือนสถานที่แห่งหนึ่งที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล ดินแดนที่นางพญาสีชมพูเบ่งบานเจิดจ้าครั้งแล้วครั้งเล่ารอคอยนักเดินทางเข้าไปสัมผัสชื่นชม ดินแดนแห่งอดีตในหุบเขาที่เกือบจะถูกกลืนหายไปกับกาลเมื่อหลายทศวรรษที่ผ่านมาจวบจนต้องสายพระเนตรอันยาวไกลพลิกพื้นให้ผืนดินในหุบเขาแห่งนี้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง คงความสวยงามจนกลายเป็นตำนานแห่งปัจจุบันของ"ขุนวาง"...

ย้อนไปเมื่อคราวที่พระเจ้าแผ่นดินของเราทรงเสด็จพระราชดำเนินมายังพื้นที่แห่งนี้เมื่อหลายสิบปีก่อน ทรงทอดพระเนตรเห็นการปลูกพืชเสพติดเป็นจำนวนมากในพื้นที่จึงเห็นควรให้ส่งเสริมการปลูกพืชชนิดอื่นที่สร้างรายได้ดีกว่า นับแต่นั้นหน่วยงานในพื้นที่จึงดำเนินงานสนองพระราชดำริจนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของตำนานแห่งขุนเขาบทใหม่

ดินแดนแห่งขุนเขาสลับซับซ้อนมีแอ่งที่ราบระหว่างภูเขาเพียงเล็กน้อยอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลเพียงหนึ่งพันกว่าเมตร เป็นถิ่นพำนักอาศัยของชาวเขาเผ่าต่างๆมากมายจึงเริ่มเป็นที่รู้จักของนักเดินทางรุ่นสู่รุ่น


ผู้คนมากมายเดินทางมาสัมผัสธรรมชาติแห่งขุนเขาที่ขุนวางจะรู้จักขุนวางในฐานะที่เป็นดินแดนแห่งนางพญาสีชมพูงามเจิดจ้า

และแน่นอนที่สุดการเดินทางมาเยือนที่แห่งนี้ก็เพื่อจักได้มีโอกาสสัมผัสสีชมพูอันสดใสอย่างใกล้ชิด

แต่ในความเป็นจริงขุนวางเป็นมากกว่านั้น เพราะในปัจจุบันศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ ขุนวาง มีงานวิจัยไม้ดอกไม้ผลมากมายหลายชนิด แบ่งออกเป็นงานวิจัยไม้ดอก ไม้ผลและพันธุ์ไม้ เช่น สตอเบอร์รี่ องุ่น คาร์เนชั่น เฟิน ควบคู่ไปกับงานพัฒนาด้านการเกษตรในเรื่องการปลูกกาแฟ

นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมไม้ผลเมืองหนาว งานหลักที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง ของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวาง คือการส่งเสริมงานหัตถกรรมพื้นบ้านเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับชาวเขาในชุมชน

ขุนวางสามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปีสิ่งสวยงามที่จะพบเห็นในพื้นที่จะผันแปรสลับหมุนเวียนตามฤดูกาล

ในช่วงเวลาหนึ่งในแต่ละปีขุนเขาแห่งนี้จะถูกเติมแต่งด้วยสีชมพูสดใสของดอกนางพญาเสือโคร่ง สร้างเสน่ห์อันน่าหลงใหลและดึงดูดผู้คนมากมายเข้ามาสัมผัส

แต่น่าเสียดายที่วันนั้นสิ่งที่คาดหวังไม่เป็นดังตั้งใจ การเดินทางไปถึงขุนวางในครั้งนั้นยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดอกนางพญาเสือโคร่งจะผลิดอกบานสพรั่งแต่งแต้มให้ทั้งขุนเขากลายเป็นสีชมพูสดใส


แม้ดอกนางพญาสีชมพูจะผลิดอกให้เห็นไม่มากนักแต่ก็ไม่ทำให้มนต์เสน่ห์แห่งขุนเขาแห่งนี้ลดน้อยลงแต่อย่างใดเนื่องจากยังคงมีภาพธรรมชาติรอบด้านอันงดงามเข้ามาทดแทน ทำให้พื้นที่แห่งนี้คงความงดงามไม่เสื่อมคลาย อีกทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวของผู้คนที่นิยมท่องไพรและขุนเขาต้องไม่พลาด

มุมด้านหน้าบริเวณสโมสรสถานีเกษตรขุนวางยังคงมีนางพญาสีชมพูที่เพิ่งจะผลิดอกให้ได้ชมอยู่บ้างแต่จุดเที่ยวชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่งดงามที่สุดของขุนวางคงจะหนีไม่พ้นอุโมงค์พญาเสือโคร่ง ซึ่งต้องเข้าไปข้างในโครงการเลยร้านอาหารของสโมสารเข้าไปตามเส้นทางสู่ศาลาชมวิว

ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ ขุนวาง มีบ้านพักและลานกางเต็นท์ไว้บริการนักท่องเที่ยว บ้านพักอยู่ใกล้กับร้านอาหารของสโมสรเดินขึ้นเนินไปไม่ไกล

บริเวณโซนบ้านพักจะมีดอกกล้วยไม้ดินสกุลซิมบิเดียมออกดอกชูช่อสีขาวอมชมพูบานสะพรั่งเติมไปหมด กล้วยไม้ชนิดนี้เป็นหนึ่งในงานวิจัยที่ประสบความสำเร็จของศูนย์วิจัยแห่งนี้ มีบ้านพักรับรองนักท่องเที่ยวได้ประมาณสี่หลัง แต่ละหลังพักได้ตั้งแต่สี่ถึงแปดคน สถานที่กางเต็นท์มีด้วยกันสองจุด อยู่บริเวณลานหญ้าหน้าอาคารสำนักงานและบริเวณหุบรับเสด็จ มีอาหารบริการที่โรงอาหารของสโมสร ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลดอกนางพญาเสือโคร่งบาน บ้านพัก ที่กางเต็นท์ การเดินทางได้ที่ 0-5311-4133, 08-1960-2033

จากร้านอาหารของสโมสร มีระเบียงชมทิวทัศน์ซึ่งสามารถมองเห็นสวนขุนวางซึ่งมีไม้ดอก ไม้ประดับ ประติมากรรม จัดแต่งไว้อย่างสวยงาม ในช่วงเทศกาลท่องเที่ยวที่มีวันหยุดยาวต่อเนื่องหลายวัน จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาบันทึกภาพแห่งความทรงจำภายในสวนขุนวางกันอย่างเนื่องแน่นเป็นภาพที่พบเห็นจนชินตา

มุมนี้เป็นมุมโปรดที่ผมมักจะมานั่งจิบกาแฟร้อนๆ ปล่อยใจล่องลอยไปกับบรรยากาศแห่งขุนเขาและสีสันแห่งมวลพฤกษาจนเวลาผ่านเลยไปอย่างรวดเร็ว

ทุกภาพทุกบรรยากาศยังอยู่ในความทรงจำอันแสนงดงามจวบจนทุกวันนี้ ผมจะไม่มีวันลืมช่วงเวลาหนึ่งที่มีคุณภาพที่ขุนวาง ที่มุมด้านหน้าสวนขุนวางมี่ที่นั่งและป้ายชื่อสถานที่ให้บันทึกภาพซึ่งมักจะเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างมาก ต่างพากันเข้าแถวเพื่อรอเก็บรูปเป็นที่ระลึกเป็นจำนวนมากคือภาพที่พบเห็นจนชินตา ทุกครั้งที่ได้มายืน ณ ที่ตรงนี้ มองไปยังขุนเขาเบื้องหน้า สูดลมหายใจลึกๆ ท่ามกลางบรรยากาศแห่งสายลมหนาว น้อยคนนักที่จะไม่ต้องมนต์เสน่ห์แห่งขุนเขาแห่งนี้

และเหมือนเช่นทุกครั้ง ผมรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นท่ามกลางสายลมหนาวที่พัดผ่านขุนเขาแห่งนี้ สายลมหนาวที่พัดพาความรักและความอบอุ่นแต่ในบางคราวก็แอบแฝงด้วยความเดียวดายอย่างน่าฉงน

แต่สำหรับผมแล้วเคยชินกับสิ่งเหล่านี้จึงไม่รู้สึกเดียวดายแม้แต่น้อย หันมองไปรอบกายมีธรรมชาติอันสวยงามร้อยเรียงเข้ามาในห้วงคำนึง ก่อเกิดเป็นความสุขใจทุกครั้งที่ได้ไปเยือน
การไปเยือนดินแดนแห่งขุนเขาในวันนั้น แม้เป็นแค่เพียงเวลาสั้น แต่ก็ได้พลังใจกลับมาเต็มเปี่ยม ทุกภาพและบรรยากาศยังคงจดจำและรู้สึกได้แม้เวลาผ่านไป นึกถึงทีไรใบหน้าก็เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มทุกคราวไป

สัญญากับตัวเองว่า วันใดที่ร่างกายและจิตใจต้องการไออุ่นแห่งสายลมหนาว ผมจะกลับไปยืน ณ ที่ตรงนั้นอีกครั้ง...

อำลาด้วยภาพสุดท้าย
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชม ทักทาย พูดคุยและเป็นแรงใจเสมอมา

Create Date : 13 สิงหาคม 2557 Last Update : 9 กันยายน 2557 10:18:41 น. Counter : 2759 Pageviews.		11 comments
Share Tweet