สิงหาคม 2551

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
30
31
 
 
All Blog
วันที่ไร้ดาวบนดิน ณ ภูทับเบิก
เมื่อไม่นานมานี้ได้เห็นภาพอันสวยงามของภูทับเบิก ที่เพื่อนสมาชิกหลายท่านได้นำเสนอ ร้อยเรียงเข้ามาเป็นภาพที่ดึงดูดใจให้ผมย้อนกลับไปตามหาความสดใส สวยงามเหล่านั้นอีกครา นำใจกลับมาสู่ดินแดนที่เป็นจุดสูงสุดของเทือกเขาเพรชบรูณ์ ที่สายหมอกขาวโอบแมกไม้และขุนเขาอันเขียวขจีไว้ ทักทอจนกลายมาเป็นจุดชมทะเลหมอกดีที่สุดแห่งหนึ่งในเขตภาคเหนือตอนล่าง



เส้นทางสู่ภูทับเบิกในคราวนี้ของผม เริ่มจากกรุงเทพฯ ไปตามถนนพหลโยธิน มุ่งหน้าตัวเมืองสระบุรี ระยะทางราวเจ็ดสิบกว่ากิโลเมตร จากนั้นมุ่งหน้าไปตามเส้นทางสู่จังหวัดลพบุรีและไปเลี้ยวขวาเข้าสู่เส้นทางมุ่งหน้าไปยังจังหวัดเพชรบูรณ์

ช่วงเช้ามืดของวันใหม่ ใกล้ถึงที่หมาย ในยามที่แสงตะวันยังคงหลับใหล ผมรับรู้และสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของสายหมอกยามเช้าที่ยังเลิอนลางอยู่ในความมืดมิด แต่ก็ยังชัดเจนอยู่ในใจ จวบจนรุ่งสาง เมื่อแสงแรงของวันโผ่ลพ้นขอบฟ้า ภาพทะเลหมอกที่ยังจำได้ดี ก็ปรากฎให้ประจักษ์แก่สายตา เหมือนในทุกคราที่มาเยือนดินแดนแห่งนี้

เมื่อฟ้าเริ่มสาง เผยให้เห็นจุดเด่นที่เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของเพรชบูรณ์ ทำให้ผู้คนที่เคยไปสัมผัสบรรยากาศ ธรรมชาติที่งดงามที่นี่ ถึงกับหลงใหลในความงดงาม และจะต้องหาเวลา เพื่อกลับมาตามหาความสดใสอีกครั้งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และครั้งนี้ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ในวันนี้ไม่เหมือนในหลายครั้งที่ผ่านมา ที่น่าเสียดายไม่มีโอกาสได้สัมผัสดาวบนดิน เนื่องจากเวลาอันจำกัด ทำให้ไม่มีโอกาสพักค้างแรมเพื่อดื่มด่ำบรรยากาศ



คงไม่ผิดนักกับ คำที่ว่า นอนทับเบิก สัมผัสความหนาว ดูดาวบนดิน เป็นนิยามที่รวบรวมจุดเด่นของ ภูทับเบิกมาอย่างลงตัว ยังไม่นับรวมถึงแปลงกะหล่ำปลีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปกคลุมไปทั้งขุนเขา กว้างไกลสุดสายตา ณ ที่แห่งนี้ ยังจำได้ดี แม้จะผ่านมาเนินนาน เมื่อครั้งไปนอนนับดาว เก็บดวงดาวที่ลอยเกลื่อนบนท้องนภาไม่เว้นแม้แต่บนพื้นดินเบื้องล่างในยามค่ำคืน หากจะหาเหตุผลว่า ด้วยเหตุใดผมจึงหลงใหลภูทับเบิก ก็คงจะเป็นเพราะเจอแต่สิ่งดีงามในทุกครั้งที่ไปเยือน



สภาพภูมิประเทศที่สวยงามด้วยธรรมชาติของทะเลภูเขา ป่าไม้ ไม้เมืองหนาวและน้ำตก อากาศบริสุทธิ์ เย็นสบายตลอดปี เนื่องจากอยู่ในแนวร่องลมเย็นจากเทือกเขาหิมาลัย และตั้งอยู่บนที่สูง จึงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล โดยเฉพาะช่วงเข้าจะมองเห็นกลุ่มเมฆ และทะเลหมอกตัดกับยอดเทือกเขาเพชรบูรณ์ ใครได้ไปเที่ยว ผมกล้าพูดได้เต็มปากว่า น้อยคนนักที่จะนอนตื่นสาย มาดูหมอกยามเช้า สัมผัสอากาศเย็นที่บนยอดภูทับเบิก ตราบจนแม้ในยามนี้ สายหมอกเป็นละอองสีขาวยังคงโอบกอดแมกไม้และขุนเขา ฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ ตราบนานเท่านาน



อีกสิ่งหนึ่งที่ผมยังคงจำได้ดี เมื่อครั้งภูทับเบิกเป็นสถานที่รองรับน้ำฟ้ากลางหาว เมื่อเกือบสิบปีก่อน เพื่อนำไปรวมเป็นน้ำเพชรน้อมเกล้าถวายเป็นน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบในครั้งนั้น

นอกเหนือจากธรรมชาติที่งดงามแล้ว ที่นี่ยังเป็นแหล่งที่อาศัยของชนกลุ่มน้อยชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง คืออีกสิ่งหนึ่งที่แต่งแต้มสีสรรให้ภูทับเบิก ด้วยวิถีชาวไทยภูเขา กับการเกษตรแบบขั้นบันไดตามเชิงเขา

หลายสิ่งที่สวยงามเติมแต่งให้ภูทับเบิก กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวที่นิยมสัมผัสแก่นแท้วิถีชีวิต วัฒนธรรมชุมชน และแหล่งธรรมชาติที่บริสุทธิ์ เป็นรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่กำลังได้รับความนิยม ภายใต้คำกล่าวที่ว่า “นอนทับเบิก สัมผัสความหนาว ดูดาวบนดิน"



เก็บเกี่ยวความสุขจนเต็มตา จำใจต้องอำลาภูทับเบิกแดนสวรรค์ กลับไปสู่โลกแห่งความเป็นจริงอันแสนวุ่นวาย ผมยังคงจดจำสิ่งสวยงามที่นำผมกลับมาที่นี่ในวันที่แม้ไร้ดาวบนดินให้ยล แต่ก็ยังเต็มเปี่ยมด้วยมนต์ขลังของเทือกเขาเพชรบรูณ์ ผมสัญญาว่าจะกลับมาตามหาดาวบนดินที่ภูทับเบิกอีกครา ตราบเท่าที่พลังกายและแรงใจยังมีเหลือพอ...



Create Date : 06 สิงหาคม 2551
Last Update : 6 สิงหาคม 2551 14:58:54 น.
Counter : 3136 Pageviews.

4 comments
  
สวยจัง
โดย: azui07 วันที่: 6 สิงหาคม 2551 เวลา:15:23:29 น.
  
อยากไปจังเลยค่ะ
โดย: จันทร์ไพลิน วันที่: 6 สิงหาคม 2551 เวลา:16:06:26 น.
  
เห็นไหมล่าว่าแจ๋ว
โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 6 สิงหาคม 2551 เวลา:17:13:52 น.
  
จะไปพรุ่งนี้ค่ะ
โดย: moonoinarak (lomsak123 ) วันที่: 13 มกราคม 2553 เวลา:18:53:02 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

3KKK
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]



New Comments
MY VIP Friend