Group Blog All Blog
|
เหนือสุดยอดในแดนสยามที่ จ เชียงราย เชียงราย ดินแดนเหนือสุดของของประเทศ มีสายน้ำโขงและทิวเขาหลวงพระบาง แบ่งแยกสองแผ่นดินไทยและลาวออกจากกัน ที่แห่งนี้คือเมืองท่องเที่ยวสำคัญเมืองหนึ่งของประเทศ มีลำน้ำกกเป็นแม่น้ำสายหลักที่หล่อเลี้ยงชีวิตสองฝากฝั่ง วันนี้ผมเดินทางตามสายน้ำกกกลับมาเยือนเจียงอายอีกคราหนึ่งด้วยหัวใจที่ยังคงเต็มเปี่ยมด้วยความสุข ไร้ความมัวหม่น ผมเดินทางไปถึงสนามบินในช่วงสายของวันที่ท้องฟ้ายังคงงดงามเหมือนดั่งใจหมาย จากนั้นก็ใช้บริการรถเช่าโดยคูปองที่ซื้อไว้ในงานไทยเที่ยวไทยที่ผ่านมา ใช้เป็นพาหนะคู่ใจตลอดการเดินทางท่องเที่ยวไปในดินแดนเหนือสุดของสยามแห่งนี้ จุดแรกที่ผมแวะเที่ยววัดร่องขุ่น ออกแบบและก่อสร้างโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ด้วยความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะสร้างวัดให้เหมือนเมืองสวรรค์ที่มนุษย์สัมผัสได้ สีขาว สื่อความหมายถึงพระบริสุทธิคุณของพระพุทธเจ้า สะพาน สื่อความหมายถึงการเดินข้ามจากวัฎสงสารสู่พุทธภูมิ เขี้ยว หรือ ปากพญามาร สื่อความหมายถึงกิเลสในใจ กึ่งกลางของสะพาน สื่อถึงเขาพระสุเมรุ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างวัดมาจาก ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ธรรมะได้เปลี่ยนชีวิตของอาจารย์เฉลิมชัยจากจิตที่ร้อนกลายเป็นเย็น อาจารย์เฉลิมชัยจึงขออุทิศตนให้แก่พระพุทธศาสนา และด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อาจารย์เฉลิมชัยจึงปรารถนาที่จะสร้างงานพุทธศิลป์ถวายเป็นงานศิลปะประจำรัชกาลพระองค์ท่าน สบรวก - สามเหลี่ยมทองคำ ตรงจุดบรรจบของลำน้ำรวกและแม่น้ำโขง บริเวณที่แม่น้ำรวกจากพม่าไหลลงสู่แม่น้ำโขง ก่อนแม่น้ำทั้งสองจะบรรจบกัน ลำน้ำได้ขนาบแผ่นดินของประเทศพม่าให้แคบลงๆ จนกลายเป็นแหลมเล็กๆ จุดที่แผ่นดินของสามประเทศมาพบกัน คือ ไทย พม่า และลาว ดินแดนแห่งนี้เรียกชื่อกันว่าสบรวก หรือสามเหลี่ยมทองคำ เป็นจุดที่มีทัศนียภาพที่สวยงาม สามารถมองเห็นแม่น้ำโขงและแม่น้ำรวก ซึ่งมีสีแตกต่างกันอย่างชัดเจน ในอดีตเป็นแหล่งปลูกฝิ่น และผลิตยาเสพติดแหล่งใหญ่ มีโรงงานผลิตเฮโรอีนกระจายอยู่ตามตะเข็บชายแดน แต่ในวันนี้เมื่อควันปืนจางหาย เหลือให้เห็นเพียงภาพสวยใสของแผ่นดินทอง ราคาซื้อขายยาเสพติดว่ากันว่าแลกเปลี่ยนด้วยทองคำ ในน้ำหนักที่เท่ากัน ยางข้นเหนียวของฝิ่นดิบจึงถูกเรียกว่า ทองดำ พื้นที่แถบนี้จึงถูกขนานนามว่า "สามเหลี่ยมทองคำ" เมื่อตำนานสามเหลี่ยมทองคำปิดฉากลง สามเหลี่ยมทองคำในปัจจุบันจึงเหลือเพียงความสวยงามที่เชื้อเชิญนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกให้มาเที่ยวชม สามเหลี่ยมทองคำ เป็นชื่อใหม่ที่ตั้งขึ้นเพื่อการท่องเที่ยวให้แก่บ้านสบรวก ตำบลเวียงอำเภอเชียงแสน มีซุ้มประตูเขียนว่า สามเหลี่ยมทองคำ สำหรับนักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก และเป็นจุดหมายหนึ่งของการมาเที่ยวเชียงราย สามเหลี่ยมทองคำ ในวันนี้ไม่หลงเหลือภาพในอดีตให้เห็นอีกต่อไป ที่แห่งนี้กลายเป็นดินแดนแห่งธรรม พระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่มีแววพระเนตรเปี่ยมด้วยความเมตตาต่อเหล่าสรรพสัตว์ มีพุทธนาวาลำใหญ่ขับเคลื่อนพระธรรมคำสอนไปข้างหน้า เป็นแสงสว่างส่องนำทางแก่พุทธศาสนิกชนทุกหมู่เหล่า ผู้คนมากมายเดินทางมากราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์ ณ ที่แห่งนี้ นักท่องเที่ยวนิยมนั่งเรือเที่ยวชมทิวทัศน์จุดบรรจบของพรมแดนไทย ลาว และพม่า หรือถ้าต้องการชมทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำโขงไปไกลถึงเชียงแสนและเชียงของ ก็สามารถหาเช่าเรือได้ ถ้าใครได้ไปเยือนสบรวกในวันนี้ คงคิดไม่ต่างจากผม ด้วยบุญบารมีแห่งองศ์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดลบันดาลให้รอยอดีตอันเลวร้าย ผ่านไปแล้วไม่หวลคืน ดั่งกฎแห่งสายน้ำ ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวหลั่งใหลเข้ามากราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิกันอย่างเนืองแน่น โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลวันหยุดต่อเนื่องที่นี่จะคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทุกสารทิศ ยากที่จะปฏิเสธว่าที่แห่งนี้ คือแหล่งท่องเที่ยวสวยงาม ติดอันดับต้นๆ ของภาคเหนือไปเสียแล้ว วัดพระธาตุเจดีย์หลวง คือวัเก่าแก่แห่งหนึ่งของ อ เชียงแสน ประกอบด้วยพระอุโบสถที่เก่าแก่ ดูแปลกตาเนืองจากไม่มีผนัง ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระประธานที่งดงามอีกองศ์หนึ่งของเชียงแสน พระพักตร์และแววพระเนตรเปี่ยมด้วยพระเมตตา ทราบมาว่าองศ์พระเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอเชียงแสนก็อยู่ที่วัดแห่งนี้ บริเวณรอบๆ วัดดุร่มรื่นมีร้านรวงขายของที่ระลึกมากมาย ในทุกย่างก้าว กลิ่นอายแห่งล้านนายังคงลอยล่องเข้ามาในหัวใจ ผมหลงใหลวัฒนธรรมล้านนาเข้าซะแล้ว ทุกวันนี้ไม่ว่าจะไปเยือนแหล่งท่องเที่ยวที่ใด สิ่งที่จะได้พบเจอก็คือร้านกาแฟ ไม่เว้นแม้แต่ในเขตพระอารามแห่งนี้ ทุกแห่งล้วนมีการออกแบบให้ดูกลมกลื่นกับสถานที่ในบรรยากาศที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย จากการท่องเที่ยวในวันที่ฟ้าเป็นใจ หนังสือดีๆ สักเล่มหนึ่ง กับบรรยากาศอันร่มรื่น สายลมหนาวพัดโบกโบย สามารถนั่งอยู่ที่นั่นได้ทั้งวันจริงๆ ทะเลสาบเชียงแสน อ่างเก็บน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ ในเขตอำเภอเชียงแสน แห่งท่องเที่ยวบนเส้นทางสายเชียงแสน-แม่จัน ในฤดูหนาวจะมี ฝูงนกน้ำ อพยพมา อาศัยที่ทะเลสาบแห่งนี้ ริมทะเลสาบมีร้านอาหารและที่พัก ที่นี่คือแหล่งดูนกที่มีนักดูนกมาเยี่ยมเยือนกันอยู่ตลอด วัดพระธาตุผาเงา ชื่อของวัดนี้มาจากชื่อของพระธาตุผาเงาที่ตั้งอยู่บนยอดหินก้อนใหญ่ 17 มีนาคม 2519 เวลา สิบสี่นาฬิกา เมื่อคณะศรัทธาได้เข้าทำการปรับพื้นที่บริเวณเนินเขาเล็ก มีการตั้งข้อสังเกตุว่าบริเวณนี้ต้องเคยเป็นวัดเก่า เนืองจากพบถ้ำแห่งหนึ่ง เรียกชื่อถ้ำแห่งนี้ว่า ถ้ำผาเงา ปากถ้ำผาเงาถูกปิดไว้นาน ทำให้บริเวณแห่งนี้เป็นป่ารก พบซากโบราณวัตถุกระจายอยู่ทั่วบริเวณ จึงมีการดำเนินการแผ้วถางป่าที่ปกคลุมพื้นที่เนินเขาเล็กนี้ จึงพบส่วนพระอุระขององศ์พระประฐานในปัจจุบัน แต่ต่อมาหลังจากการดำเนินการขุดดินรอบฐานพระประธานเพื่อทำการบูรณะ คณะทำงานทุกคนต่างตื่นเต้นและปีติยินดีเมื่อ ได้พบว่าใต้ตอไม้ตรงนั้นบริเวณหน้าฐานพระประธาน มีอิฐโบราณก่อเรียงไว้ เมื่อยกอิฐออก จึงได้พบพระพุทธรูป มีลักษณะสวยงามมาก ผู้เชี่ยวชาญทางโบราณวัตถุได้วิเคราะห์ว่า พระพุทธรูปองค์นี้มีอายุเก่าแก่ร่วม1300 ปี คณะศรัทธาทั้งหมดจึงได้พร้อมใจกันตั้งชื่อพระพุทธรูปองค์นี้ว่า หลวงพ่อผาเงา และเปลี่ยนชื่อวัดใหม่เป็น วัดพระธาตุผาเงา ตั้งแต่บัดนั้น หลวงพ่อผาเงา เป็น พระพุทธรูปศิลปะเชียงแสน ผสมผสานกับ ศิลปะสุโขทัย องค์พระเป็นพระพุทธรูปขัดสมาธิราบปางมารวิชัย พระพักตร์รูปไข่ พระหนุเป็นปม พระรัศมีเป็นเปลว ประดิษฐานอยู่กลางพระวิหาร พระพุทธรูปหลวงพ่อผาเงาที่ขุดค้นพบนี้ถูกสร้างและฝังอยู่ใต้ พระพุทธรูปองค์ใหญ่ซึ่งเป็นพระประธาน มีการปิดบังซ่อนเร้นเนื่องจากเกรงว่าองศ์พระที่ทรงคุณค่าอาจถูกโจรกรรมจากพวกนิยมของเก่า เดิมวัดพระธาตุผาเงามีชื่อว่า วัดสบคำ ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำโขง ต่อมาตลิ่งได้พังทลายลง ทำให้บริเวณ ของวัดพัดพังลงใต้น้ำโขงเกือบหมดวัด คณะศรัทธาจึงได้ย้ายวัดไปอยู่ที่ใหม่บนเนินเขา ซึ่งไม่ไกลจากวัดเดิม วัดพระธาตุผาเงาอยู่ห่างจากสามเหลี่ยมทองคำประมาณ 15 กม. ชื่อของวัดนี้มาจากชื่อของพระธาตุผาเงาที่ตั้งอยู่บนยอดหินก้อนใหญ่ คำว่าผาเงาก็คือ เงาของก้อนผา (ก้อนหิน) หินก้อนนี้มีลักษณะสูงใหญ่คล้ายรูปทรงเจดีย์และทำให้ร่มเงาได้ดีมาก ชาวบ้านจึงตั้งชื่อว่า พระธาตุผาเงา ตั้งอยู่บนก้อนหินทรายขนาดใหญ่ เจาะก้อนหินด้านหน้าเป็นซุ้มประตูประดิษฐานพระพุทธรูป ภายในบริเวณวัดร่มรื่น มีหอพระไตรปิฎกเฉลิมพระเกียรติสร้างอยู่กลางน้ำจ้ดสร้างขึ้นในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา เป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมที่งดงามอีกแห่งหนึ่งในวัดพระธาตุผาเงา ศิลปะแบบล้านนาเชียงแสนประยุกต์ ปัจจุบันนี้วัดพระธาตุผาเงามีความสำคัญในฐานะที่มีโรงเรียนพระปริยัติธรรม นอกจากนี้ยังมีหอสมุด พิพิธภัณฑ์และสถานพยาบาลที่บำบัดรักษาโรคด้วยยาสมุนไพร จากด้านล่างมีทางรถยนตร์ขึ้นไปชมพระอุโบสถไม้สักทองและพระบรมธาตุพุทธนิมิตเจดีย์ พระอุโบสถไม้สักทอง งามศิลปะล้านนาแท้ทางภาคเหนือของไทย พระอุโบสถไม้สักทอง มีความวิจิตรงดงาม และก็เหมือนทุกครั้งที่ในทุกย่างก้าว ที่ผมรู้สึกถึงเอกลักษณ์อันโดดเด่นแห่งศิลปล้านนาเชียงแสนประยุกต์ ผสมผสานกันอย่างกลมกลืน งดงามยากจะหาที่ใดเสมอเหมือนเหมือน ยามเมื่อยืนอยู่หน้าองศ์พระ แสงทองเหลืองอร่ามส่องเรื่องรองดั่งรัศมีแห่งธรรมเปล่งประกายเจิดจ้า พระพักตร์งดงามอร่าม เป็นภาพที่งดงามภาพหนึ่งที่บันทึกไว้ในการเดินทางครั้งนั้น พระบรมธาตุพุทธนิมิตเจดีย์ คือพระเจดีย์ที่สร้างขึ้นครอบพระเจดีย์องค์เดิม เพื่อร่วมฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบรอบ 200 ปีและเทิดพระเกียรติพระมหากษัตริย์ไทยในคราวเดียวกัน รอบฐานขององศ์พระเจดีย์ ประดิษฐานด้วยพระพุทธรูปประจำวัน สำหรับพุทธศาสนิกชนกราบไหว้บูชาพระประจำวันเกิด ด้านบนพระเจดีย์ไม่อณุญาตให้สตรีขึ้นชม มุมมองจากด้านบนขององศ์พระเจดีย์ สามารถมองเห็นทัศนียภาพอันกว้างใกล้ของอำเภอเชียงแสน มุมมองจากด้านบนขององศ์พระเจดีย์ในวันที่อากาศดีสามารถมองไปไกลถึงสบรวกได้อย่างชัดเจน จากจุดนี้ทำให้ผมสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงการเดินทางอันยาวไกลของสายน้ำโขง ที่รินใหลข้ามกาลเวลาหล่อเลี้ยงชีวิตสองฟากฝั่ง บนเส้นทางอันคดเคี้ยวจากอำเภอเชียงแสนมุ่งหน้าสู่ อ.เชียงของ ระยะทางราว 42 กม คือที่ตั้งของสวนป่าห้วยทรายมาน มีจุดชมวิวสองฝั่งของระหว่างไทย ลาว พื้นที่ติดน้ำโขงบริเวณตัวอำเภอเชียงของจะมีการสร้างถนนเรียบน้ำโขงเริ่มตั้งแต่บ้านหาดไคร้ไปถึงบ้านหัวเวียงนักท่องเที่ยวสามารถแวะชมบรรยากาศริมโขงได้ บรรยากาศริมโขงที่ยังคงงดงาม ผ่านมาเนิ่นนานแค่ไหน ตราบเท่าที่สายน้ำโขงยังไม่แห้งเหือดหาย ความงดงามนี้จะคงอยู่ตลอดไป ออกจากจุดชมวิวห้วยทรายมาน ไปตามเส้นทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 1129 อันแสนคดเคี้ยวลัดเลาะริมฝั่งโขงสู่จุดหมาย อ เชียงของ ดินแดนริมฝั่งโขง มีพื้นที่ราบ สลับเทือกเขา ฝั่งตรงข้ามคือ เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ปัจจุบัน อำเภอเชียงของเป็นอำเภอที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเริ่มให้ความสนใจเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น สิ่งก่อสร้างที่พักอาศัยเริ่มมีเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะบริเวณบ้านหัวเวียง จะมีที่พักเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยนักท่องเที่ยวที่มายังอำเภอเชียงของสามารถข้ามไปยัง เมืองห้วยทรายได้ที่ท่าเรือบ้านหัวเวียง สามารถทำหนังสือเดินทางชั่วคราวเพื่อข้ามไปท่องเที่ยวได้และสามารถใช้พาสปอร์ตข้ามได้เช่นกัน ทุกวันนี้ เชียงของ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของเชียงราย จำนวนห้องพักที่เพิ่มขึ้นมากมายในแต่ละปีเป็นสิ่งยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า เชียงของเติบโตขึ้นจากวันวาน นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือจากท่าเรือบ้านหัวเวียงข้ามไปจับจ่ายซื้อสินค้ายังฝั่งลาว หรือล่องน้ำโขงไปยังเมืองหลวงพระบางได้ วัดหลวงไชยสถาน เป็นวัดที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งใน อ เชียงของ ภายในอุโบสถมีภาพเขียนสีที่งดงาม เมื่อมาถึงดินแดนริมฝั่งโขง เป็นจุดหมายปลายทางสุดท้ายของการเดินทางในครั้งนั้น ก็รู้ดีว่าการเดินทางเยือนดินแดนเหนือสุดสยามกำลังจะจบลงอีกในไม่ช้า ภาพทุกภาพที่ดินแดนเหนือสุดของสยาม นามว่า เชียงราย ยังคงชัดเจน และยังคงตราตรึงในหัวใจ ไม่ว่านานแค่ไหน ณ ที่แห่งนั้น จะยังคงอยู่ในความทรงจำที่ดีงามอีกหน้าหนึ่ง ตราบที่สายน้ำโขงยังรินใหล คงจะมีสักวันหนึ่งที่ ถนนสายนี้จะนำผมกลับไปเยือน จ เชียงรายอีก ภาพสีจัด ชัด สวยมากๆค่ะ
แวะมาให้กำลังใจ และตามไปเที่ยวด้วยค่ะ ^ ^ โดย: ชบาหน้าบาน วันที่: 12 กรกฎาคม 2554 เวลา:14:43:00 น.
โดย: auyza วันที่: 13 กรกฎาคม 2554 เวลา:0:59:29 น.
สวยมากมายเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ดีๆ ที่นำมาแบ่งปันนะค่ะ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ที่นำมาแบ่งปันนะค่ะ Digital SLR Black Friday Radar Detector Black Friday Touchpad Black Friday โดย: Qa วันที่: 20 กันยายน 2554 เวลา:9:30:52 น.
|
3KKK
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]
Link |
ยังมีอีกหลายที่ที่เรายังไม่เคยไป คงต้องหาเวลาและโอกาสไปอีกครั้งนึง แน่นอนค่ะ ,, ขอฟันธง