มกราคม 2551

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
สวิสเซอร์แลนด์แดนอีสาน...สวรรค์เมืองในหมอก ดอกไม้งาม วังน้ำใส (ตอน 2)
หลังจากการอำลาเขาแผงม้าในวันนั้น ผมตัดสินใจที่จะไม่ย้อนเส้นทางเดิม จึงตัดสินใจใช้เส้นทางหลวงชนบทหมายเลข 3052 ที่เชื่อมไปยังถนนธนะรัตน์ตรงบริเวณด่านทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ฝั่งปากช่อง ด้วยเหตุผลที่ว่าเส้นทางนี้มีทิวทัศน์สวยงาม เหมาะแก่การขับรถชมควายามของธรรมชาติสองข้างทางเป็นอย่างยิ่ง ภาพขุนเขาตะหง่านอยู่ไกลริบเบื้องหน้าผมคือเขาใหญ่ พงพนาที่สัตว์ป่าร่าเริงและเป็นผืนป่าที่ผมหลงใหลในธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพนั้นเอง เส้นทางนี้มุ่งหน้าสู่ถนนธนะรัตน์เป็นทางลาดยางอย่างดี เลี้ยวลดคดเคี้ยวไปตามเนินเขาลูกแล้วลูกเล่า ผ่านอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำพระเพลิง ระยะทางราวๆ หกสิบกิโลเมตรเห็นจะได้ เป็นเส้นทางที่สวยงามเส้นทางหนึ่ง ตลอดเส้นทางทิวทัศน์สองข้างทางให้ความเพลิดเพลินใจไม่น้อย ภาพพื้นที่เกษตรกรรม และภาพทิวเขาน้อยใหญ่สลับกันเป็นลอนคลื่นราวกับพรมผืนใหญ่หลากหลายลวดลายที่ปูสลับกันไปมาไปจรดแนวเขตอุทยานแห่งชาติ ผมเดินทางลัดเลาะไปตามอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนลำพระเพลิง ภาพสายน้ำท่ามกลางหุบเขา มีทัศนียภาพที่สวยงามของแนวสันเขาที่ยาวเหยียดเป็นฉากหลังทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะบันทึกภาพเก็บไว้ในความทรงจำอีกครา ณ ที่แห่งนี้ ผมลดความเร็วลงเพิ่มซึมซับบรรยากาศรอบๆอ่างเก็บน้ำที่สวยงามแห่งนี้

อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อยู่ท่ามกลางหุบเขา มีทัศนียภาพที่สวยงามของแนวสันเขาที่ยาวเหยียด มีการก่อสร้างเขื่อนปิดกั้นลำพระเพลิงที่ อ ปักธงชัย ซึ่งเป็นเขื่อนดินสูงราวห้าสิบเมตร แล้วเสร็จเมื่อปี 2510 รองรับน้ำได้ราว 150 ลบม ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีการสะสมตะกอนที่ใหลลงอ่างถึง 40 ล้าน ลบม ทำให้ความจุลดลงเหลือเพียง 110 ล้าน ลบม ปัจจุบันกรมชลประทานเข้ามาดูแลซึงมีแผนปรับปรุงโครงการเขื่อนลำพระเพลิงและกำลังจะมีการพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญต่อไป เป็นแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและผักผ่อนหย่อนใจ

ขณะที่ผมเดินทางลัดเลาะไปตามริมอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ สังเกตุเห็นมีร้านอาหารและรีสอร์ทที่พัก ผุดขึ้นมากมายกว่าเมื่อก่อนมาก ในอนาคตอันใกล้บริเวณนี้จะต้องได้รับความนิยม เพราะมีองค์ประกอบหลายอย่างที่ครบครันที่จะเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของคนเมือง ทั้งภาพท้องน้ำที่ให้ความชุ่มชื่น ร่มเย็น ห้อมล้อมด้วยแนวสันเขาที่โอบล้อมพื้นที่แห่งนี้ ภายใต้ท้องฟ้าสีครามอันกว้างใหญ่ สามสิ่งรวมเป็นภาพที่ให้ความรู้สึกที่งดงาม ให้ความสบายกายและใจจริงๆ เหมาะแก่การมาพักผ่อนด้วยประการทั้งปวง ภาพเขาใหญ่เบื้องหน้าเริ่มปรากฎเด่นชัดขึ้นในความรู้สึกของผมอีกคราเมื่อผมเดินทางใกล้รอยต่อของอุทยานฯเข้าไปทุกขณะ



ในไม่ช้าผมก็มาถึงถนนธนะรัตน์บริเวณด่านทางเข้าอุทยานฯเขาใหญ่ฝั่ง อ ปากช่อง ผมเลี้ยวขวามุ่งหน้าไปทางถนนมิตรภาพ ระหว่างทางกลับ ผมนึกถึงสถานที่ที่สามารถแวะรับทานอาหารกลางวันและได้เที่ยวไปพร้อมกันโดยไม่ต้องแวะที่ไหนอีก และสถานที่ที่ว่าคงจะหนีไม่พ้นที่แห่งนี้ ผมจอดรถบริเวณนี้แล้วเดินออกไปยังร้านอาหารที่มีผู้คนยืนรอคอยอยู่มากมาย สอบถามเจ้าหน้าที่บอกว่าต้องรอประมาณสิบนาที ผมยินดีเพราะยังไม่รู้สึกหิวมากเท่าไร ประกอบกับอยากใช้เวลาระหว่างนี้เดินชมสถานที่และร้านจำหน่ายของที่ระลึก ผมอยากถือโอกาสนี้เข้าท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ฟาร์มแห่งนี้ แต่ในวันนั้นบัตรท่องเที่ยวถูกสำรองเต็มหมดทั้งเจ็ดรอบที่เหลือในช่วงบ่ายวันนั้น แต่ผมก็ยังหวังว่าโชคจะเข้าข้างด้วยการฝากชื่อและหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อไว้กับเจ้าหน้าที่ที่ห้องจำหน่ายบัตรในกรณีที่มีผู้ยกเลิกการจองและระหว่างรอก็ได้ที่นั่งรับทานอาหารในร้านสเต็กของฟาร์มพอดี หลังอิ่มจากมื้ออาหารก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้เข้าไปเที่ยวชม ผมตัดสินใจที่จะเดินทางกลับ แต่ในไม่ช้าโชคเข้าข้างมีโทรศัพท์ติดต่อเข้ามาให้ไปซื้อบัตรโดยสารราคาสองร้อยห้าสิบบาท หลังการฟังบรรยายและผ่านการพ่นยาฆ่าเชื้อการทัวร์ฟาร์มก็เริ่มขึ้นจากจุดนี้ กับเจ้าหน้าที่บรรยายและพาชมตลอดทางเดินทางท่องเที่ยวในฟาร์มแห่งนี้



รถไถที่เคยใช้บุกเบิกฟาร์มแห่งนี้ในยุคแรกเมื่อที่มีการก่อตั้งในปี 2500 โดยเริ่มจากการทำเกษตรแบบผสมผสานและการเลี้ยงโคพื้นเมือง แต่ธุรกิจฟาร์มโคนมเริ่มอย่างจริงจังในปี 2521 กับที่ดินเพียงแค่ 250 ไร่ในวันนั้นจะกลายเป็นเนื้อที่ฟาร์มในปัจจุบันที่มีถึง 20000 ไร่ ซึ่งจัดแบ่งออกเป็นห้าส่วนตามการใช้งานภายใต้อักษรย่อ CR ย่อมาจาก Chokchai Ranch อันได้แก่ ส่วนบริการจัดการงานเกษตรกรรม ส่วนของแหล่งอาหารหยาบและการทำหญ้าแห้ง ส่วนที่ใช้เลี้ยงแม่โคสาว ส่วนของแหล่งอาหารหมัก และส่วนอาหารเสริมต่างๆ ในยุคก่อตั้งฟาร์มแห่งนี้มีวัวนมแปดตัวจนเพิ่มเป็นห้าพันตัวในปัจจุบัน แบ่งเป็นแม่โครีดนม 2000 ตัวและ อีก 3000 ตัวเป็นโครุ่นและโคสาวที่รอเวลาที่จะเติบโตมาเป็นแม่โครีดนมต่อไป สายพันธุ์โคนมของที่ฟาร์มเป็นพันธุ์ผสมพัฒนามากจากสายพันธุ์โคนมจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ในส่วนแสดงบริเวณนี้ จัดแสดงรถคันแรกที่เจ้าของฟาร์มแห่งนี้ใช้ออกเดทกับคู่ชีวิตก็ถูกนำมาเก็บรักษาไว้ที่นี่

บริเวณนี้เป็นสถานที่สำหรับทำการรีดนมวัว ด้วยเครื่องมือพิเศษที่เลียนแบบมาจากการดูดนมของลูกวัว มีการรักษาความสะอาดตลอดทุกขั้นตอน เพราะน้ำนมดิบที่ใหลออกมาจากเต้านมวัวผ่านหลอดลำเลียงไปสู่ขบวนการผลิตที่อยู่ห่างไปราวห้าสิบเมตร ก่อนจะออกมาเป็นผลิตภัณฑ์นมและไอศกรีม ภายใต้ชื่อสินค้า “อืมม..มิลค์” จะอยู่ในระบบปิดทุกขั้นตอน ดังนั้นเค้าจะรับประกันเรื่องความสะอาดถูกหลังอนามัยครับ ปริมาณน้ำนมดิบที่ผลิตได้จะมีปริมาณ 30 ตัน ในแต่ละวัน

หลังจากนั้นผู้เข้าชมก็จะขึ้นรถพาทัวร์ไปภายในพื้นที่ฟาร์ม พร้อมกับผู้บรรยายให้ข้อมูลความรู้ ระหว่างทางผมชื่นชมกับทิวทัศน์กว้างใหญ่และภาพการจัดการฟาร์มโคนมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย ได้สัมผัสบรรยากาศสวนป่าส่วนตัวที่โอบล้อมด้วยขุนเขาและธรรมชาติเขียวขจี ผมเพลิดเพลินปลดปล่อยไปตามธรรมชาติในฟาร์มแห่งนี้ ผ่านแปลงปลูกอาหารเสริมของวัวนม ซึ่งก็คือข้าวโพดนั่นเอง บริเวณนี้เป็นแหล่งน้ำสำหรับการเกษตรในกิจการฟาร์มโคนม ยานพาหนะพาผู้เข้าชมมาถึงบริเวณที่มีการปลูกหญ้าซึงเป็นอาหารของโคนม ซึ่งมีหญ้าหลายสายพันธุ์ที่นำมาปลูก หญ้าแต่ละชนิดก็จะเหมาะกับวัวแต่ละรุ่น โดยที่หญ้าอ่อนก็จะถูกจัดให้โครุ่น ในบางช่วงที่หญ้าที่ปลูกมีปริมาณไม่เพียงพอก็จะมีการจัดเก็บหญ้าไว้สำรองโดยทำเป็นก้อนขนาดใหญ่ แล้วนำไปเก็บไว้ในโรงจัดเก็บก่อนจะจำหน่ายจ่ายแจกเป็นอาหารของโคนมต่อไป นอกจากอาหารประจำแล้ว โคนมยังต้องการอาหารเสริมด้วยเช่นกัน ทางฟาร์มมีการนำเอาหญ้าไปผ่านกรรมวิธีการหมักเป็นเวลาประมาณสองเดือนแล้วนำมาใช้เป็นอาหารเสริมให้แก่โคนมต่อไป

ในไม่ช้ารถก็พาคณะผู้เข้าชมมาถึงหมู่บ้านคาวบอย เพื่อเข้าชมสาธิตการแสดงวิถีชีวิตของคาวบอยไทยที่มีหน้าที่ดูแลโคนมที่อยู่ในฟาร์ม ผู้ชมสามารถนั่งชมได้ที่บริเวณที่จัดไว้ คาวบอยดูแลวัวอาศัยม้าเป็นพาหนะ มีการแสดงการจับวัวโดยใช้เชือกและการล้มวัว และทำเครื่องหมายแสดงความเป็นเจ้าของที่ตัววัว รวมทั้งการแสดงอื่นๆ อาทิ การแสดงวิธีการใช้บ่วง การควงปืน ตลอดจนการใช้แส้ในการต้อนฝูงโค เป็นต้น

หลังจากการแสดงจบก็ปล่อยให้ผู้เข้าชมร่วมกิจกรรมตามอัธยาศัย โดยมีการร่วมสนุกกับการขี่ม้า นั่งรถม้าเที่ยวชมฟาร์ม ตลอดจนร่วมสนุกกับการเล่นต่างๆ เช่นป่าเป้าลูกโป่ง ยิงปืน และอื่นๆ ส่วนบริเวณนี้เป็นอานม้าแต่ละแบบที่นำมาแสดงให้ชมครับ ออกไปด้านนอกก็สามารถสนุกสนานกับการขี่รถเอทีวีได้เช่นกัน หรือจะนั่งพักผ่อนอิริยาบถบริเวณนี้ก็ได้เช่นกัน

จากนั้นคณะผู้เข้าชมก็เดินทางต่อไปยังสถานีต่อไป ซึ่งเป็นฟาร์มฝึกสุนัขต้อนแกะ มีการแสดงความสามารถของสุนัขสายพันธุ์ต่างๆ เช่นการบวกเลข การคลานและการหมอบ

สถานีสุดท้ายเป็นการแสดงของสัตว์แสนรู้ต่างๆ เช่นลิงและนกแก้ว ตลอดจนการแสดงป้อนนมให้โคนมโดยสุนัขแสนรู้สายพันธุ์โกลเด้ล รีทริฟเวอร์ หลังการแสดงผู้เข้าชมสามารถสนุกกับการให้ป้อนอาหารสัตว์ในสวนสัตว์ตามอัธยาศัย ซื้ออาหารสัตว์ในราคาเพียงสิบบาทก็ร่วมสนุกได้ด้วยการให้อาหารกวาง กระต่าย แกะ เป็นต้น


ผมออกจากฟาร์มในช่วงเย็น จากนั้นก็เดินทางกลับ แม้จะเป็นการเดินทางพักผ่อนช่วงสั้นๆเพียงแค่สองวันหนึ่งคืนแต่ก็ได้ความเพลิดเพลินบันเทิงใจไม่น้อย

ต้องยอมรับว่านี่เป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสมาค้นหาสาระกับการท่องเที่ยวเชิงเกษตรชมฟาร์มโคนมแห่งนี้โดยไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้า ครั้งหน้าถ้ามีโอกาสได้ผ่านมาที่นี่อีกผมตั้งใจว่าจะนอนค้างคืนชมบรรยากาศในฟาร์มแห่งนี้สักครั้งให้จงได้...



Create Date : 22 มกราคม 2551
Last Update : 22 มกราคม 2551 10:39:51 น.
Counter : 2645 Pageviews.

1 comments
  
แวะมาเยี่ยมชมค่ะ ธรรมชาติดีจัง
โดย: paerid วันที่: 22 มกราคม 2551 เวลา:12:35:24 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

3KKK
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]



New Comments
MY VIP Friend