สิงหาคม 2554

 
1
2
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
พระราชวังบางปะอิน....ที่แห่งนี้ยังมีรักอยู่
อีกวันหนึ่งที่ท้องฟ้าเป็นใจแม้จะไม่แจ่มใสนักแต่ก็ไร้วี่แววของสายฝน กับการเดินทางสู่แผ่นดินกรุงเก่า

เป็นการกลับไปเยือนพระราชวังแห่งนี้ในรอบเกือบยี่สิบปี ที่ที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวส่วนหนึ่งในชีวิตการเดินทางของผม วันนั้นจึงรู้สึกดีจริงๆ ที่ได้กลับมาเยือนที่แห่งนี้อีกครา เรื่องราวดีๆ ในวันเก่าๆ ยังคงมีให้จดจำ ล่องลอยอยู่ใต้ท้องฟ้ากว้างไกลเหนือสถานที่แห่งนี้ ทุกย่างก้าวกับภาพวันเก่าที่ชัดเจนในความทรงจำ


พระราชวังบางปะอิน ตั้งอยู่ในตำบลบ้านเลน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อยู่ห่างจากเกาะเมืองลงมาทางทิศใต้ประมาณ 18 กิโลเมตร เป็นพระราชวังโบราณตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง เนื่องจากเป็นที่ประสูติของพระองค์ ใช้เป็นสถานที่ทรงประทับแรมของพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา เนื่องด้วยเป็นพระราชวังใกล้พระนครนั่นเอง


เมื่อครั้งเสียกรุงแก่พม่าครั้งที่สอง พระราชวังบางปะอินถูกปล่อยให้รกร้างมาระยะหนึ่ง แต่พระราชวังแห่งนี้กลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้งเมื่อสุนทรภู่ ได้ประพันธ์ถึงพระราชวังบางปะอินไว้ในนิราศพระบาท จนกระทั่ง ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงได้เริ่มการบูรณะพระราชวังขึ้น

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้บูรณะครั้งใหญ่ โดยสร้างพระที่นั่ง พระตำหนัก และตำหนักต่าง ๆ ขึ้นมากมายเพื่อใช้เป็นที่ประทับ รับรองพระราชอาคันตุกะ และพระราชทานเลี้ยงในโอกาสต่าง ๆ


ในปัจจุบัน พระราชวังบางปะอินอยู่ในความดูแลของสำนักพระราชวัง และยังใช้เป็นสถานที่แปรพระราชฐานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ รวมถึงประกอบพระราชพิธีสังเวยพระป้าย แต่ได้เปิดให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวเข้าชมได้ โดยต้องแต่งกายให้สุภาพ

ยามเมื่อเดินเข้าไปในเขตพระราชวัง ภาพทุกภาพ ยังจำได้ดี ยังคงไม่เลือนไปจากความทรงจำ

พระราชวังส่วนมาก จะถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ เขตพระราชฐานชั้นนอก และ เขตพระราชฐานชั้นใน
เขตพระราชฐานชั้นนอกประกอบด้วยพระที่นั่ง ที่ทรงใช้สำหรับการออกมหาสมาคมและงานพระราชพิธีต่างๆ ส่วนพระราชฐานชั้นในนั้นเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ สมเด็จพระอัครมเหสี พระบรมวงศานุวงค์ฝ่ายใน

สิ่งก่อสร้างสำคัญในเขตพระพระราชฐานชั้นนอกของพระราชวังบางปะอิน มีหลายสิ่งที่น่าสนใจ สภาคารราชประยูรก็เป็นหนึ่งในนั้น เป็นตึงสองชั้นริมน้ำ สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับของเจ้านายฝ่ายหน้าและข้าราชบริพาร ปัจจุบันใช้เป็นอาคารนิทรรศการของพระราชวังบางปะอิน

อีกแห่งที่โดดเด่นก็คือ พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ เป็นพระที่นั่งปราสาทโถงกลางสระน้ำสร้างในแบบปราสาทจตุรมุข รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จำลองแบบมาจากพระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง และพระราชทานนามว่าพระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ ตามนามพระที่นั่งองค์แรก ซึ่งพระเจ้าปราสาททองทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น ณ พระราชวังบางปะอินแห่งนี้
ปัจจุบันเป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปหล่อสัมฤทธิ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในฉลองพระองศ์เต็มยศจอมพลทหารบก

พระที่นั่งวโรภาษพิมาน เป็นพระที่นั่งทรงตึกชั้นเดียว รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้น ตรงบริเวณที่เคยเป็นที่ประทับเดิมของ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ใช้เป็นที่ประทับและมีห้องพระโรงเสด็จออกว่าราชการภายในห้องโถงรับรองและห้องทรงพระสำราญ พระที่นั่งองค์นี้เคยเป็นที่ประทับเมื่อมีการเสด็จแปรพระราชฐานยังพระราชวังบางปะอิน

เขตพระราชฐานชั้นใน เชื่อมต่อกับเขตพระราชฐานชั้นนอก ด้วยสะพานที่มีลักษณะพิเศษ คือ มีแนวฉากคล้ายบานเกล็ดกั้นกลางตลอดแนวสะดพานเพื่อแบ่งเป็นทางเดินของฝ่ายหน้าด้านหนึ่งและผ่านในอีกด้านหนึ่ง ซึ่งฝ่ายในสามารถมองลอดออกมาโดยตัวเองไม่ถูกแลเห็น สะพานนี้เชื่อมจากพระที่นั่งวโรภาษพิมานกับประตูเทวราชครรไล ซึ่งเป็นประตูทางเข้าเขตพระราชฐานชั้นใน

บริเวณเขตพระราชฐานชั้นในประกอบด้วยที่ประทับ พลัลพลาและศาลาต่างๆ ซึ่งสร้างอยู่ในพระราชอุทยานขนาดใหญ่ สิ่งสำคัญในเขตพระราชฐานชั้นใน ได้แก่ พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร เป็นพระที่นั่งเรือนไม้สองชั้นแบบชาเลต์ของสวิต มีเฉลียงทั้งชั้นบนและชันล่าง ทาสีเขียวอ่อนและเขียวแก่สลับกันทั้งองค์พระที่นั่ง ภายในตกแต่งแบบยูโรปด้วยเครื่องเรอนแบบฝรั่งเศสสมัยพระเจ้านโปเลียนที่ 3 เป็นชุดเดียวเข้ากันหมด เป็นที่ประทับที่รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดปรานมากที่สุด ได้เสด็จแปรพระราชฐานมาประทับบางคราวถึง 3 ครั้งต่อปี

แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า พระที่นั่งที่สวยงามองศ์นี้ได้ถูกเพลิงไหม้เสียหายหมดทั้งหลัง แต่ต่อมา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต สร้างพระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียรขึ้นใหม่ ตามแบบเดิมทุกประการแต่เปลี่ยนวัสดุจากไม้เป็นอาคารคอนกรีตแทน พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร ก็กลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่งด้วยรูปลักษณ์ใหม่จากพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ที่รับสั่งให้บูรณะโดยใช้คอนกรีตสร้างทดแทนไม้ และทาสีเสียใหม่ให้เป็นสีม่วงตามที่พระองค์โปรดปราน

จากนั้นจึงขอพระราชทานใช้เป็นพระที่นั่งประจำพระองค์เมื่อคราวเสด็จแปรพระราชฐานมายังวังบางปะอิน ดังที่เราจะได้เห็นตราสัญลักษณ์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ ในปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้เอง พระที่นั่งนี้จึงไม่เปิดให้บุคคลภายนอกเข้าชม

พระราชวังในต่างจังหวัดแห่งหนึ่งที่มีเชื้อพระวงศ์และเจ้าฟ้าเสด็จมาประทับอยู่บ้างเป็นครั้งคราวในปัจจุบัน พระราชวังที่ว่านั้น ก็คือ พระราชวังบางปะอินแห่งนี้นี่เอง เชื้อพระวงศ์ที่อ้างถึงคือ สมเด็จพระบรมราชินีนาถสิริกิติย์ พระราชินีองค์ปัจจุบันนั่นเอง

หอวิทูรทัศนา เป็นหอสูงยอดมน ตั้งอยู่กลางเกาะในพระราชอุทยาน ตั้งอยู่กลางเกาะน้อยในสวนเขตพระราชวังชั้นใน ระหว่างพระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียรกับพระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ มีความสูงประมาณ 30 เมตร เป็นพระที่นั่ง 3 ชั้น สามารถเดินขึ้นไปบนชั้น 2 เพื่อชมทิวทัศน์รอบๆพระราชวังได้ แต่ต้องถอดรองเท้าไว้ที่ชั้นวางด้านล่าง

รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นหอส่องกล้องชมภูมิประเทศและดูดาว

พระที่นั่งเวหาศจำรูญ เป็นพระที่นั่งสองชั้นสร้างในแบบศิลปะจีนอย่างงดงาม กลุ่มพ่อค้าชาวจีนในไทยสร้างน้อมเกล้าฯ ถวายรัชกาลที่ 5

พระที่นั่งองศ์นี้ มีนามตามภาษาจีนด้วยว่า เทียนเหมงเต้ย เทียนแปลว่า เวหา เหมง แปลว่า จำรูญ เต้ย แปลว่า พระที่นั่ง

ภายในห้องกลางชั้นบนของพระที่นั่ง เป็นที่ประดิษฐานพระที่นั่งเก๋ง 3 องศ์ติดต่อกัน ทำด้วยไม้แกะสลักลวดลายต่างๆ ลงรักปิดทองงามอร่าม ช่องตะวันตกประดิษฐานพระป้ายจารึก อักษรจีน พระปรมาภฺไธย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระรามาภิไธย กรมสมเด็จพระเทพศิรินทรามาตย์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้สร้างขึ้น

ตำหนักเก้าห้อง เป็นตำหนักที่ประทับของพระบรมวงศ์ฝ่ายใน ที่ตามเสด็จฯ คราวแปรพระราชฐานมาประทับที่พระราชวังบางประอิน โดยมีสถาปัตยกรรมแบบยุโรป ก่ออิฐถือปูน มี 2 ชั้น มี 3 มุข ได้แก่ มุขข้าง 2 ด้าน และมุขกลาง คล้ายรูปตัว E
ผนังระหว่างเสาชั้นล่างเป็นวงโค้ง และชั้นบนเป็นช่องสี่เหลี่ยมมีการประดับด้วยไม้ฉลุลาดขนมปังขิง มีทางขึ้นตำหนัก 5 ทาง ด้านหน้าตำหนัก 3 ทาง และระเบียงหลัง 2 ทาง

ปัจจุบัน ใช้เป็นที่พักของนายทหารของศูนย์รักษาความปลอดภัยตั้งแต่ยศพันตรีขึ้นไป

หมู่พระตำหนักฝ่ายใน เป็นอาคารแบบตะวันตกมีทั้งชั้นเดียวและสองชั้น เรียงรายอยู่แต่ในปัจุบันพระตำหนักเหล่านี้เหลืออยู่เพียงไม่กี่องศ์เท่านั้นเนื่องจากมีการรื้อถอนไปบางส่วน

อนุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ซึ่งทรงเสด็จทิวงคตเนื่องจากเรือพระประเทียบเกิดอุบัติเหตุล่มลงในแม่น้ำเจ้าพระยา ณ อำเภอปากเกร็ด จ นนทบุรี ในขณะที่กำลังเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระราชวังบางปะอิน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเศร้าโศกเสียพระทัยเป็นอย่างยิ่ง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สร้างอนุสาวรีย์หินอ่อนขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกด้วยความอาลัย พร้อมทั้งจารึกคำไว้อาลัยที่ทรงพระราชนิพนธ์ด้วยพระองศ์เองไว้ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ที่แห่งนี้จึงเปรียบเสมือนอนุสรแห่งความรักที่ไม่มีวันจืดจางผู้คนมากมายนำดอกกุหลาบมากราบไหว้บูชา ยังอนุสาวรีย์แห่งนี้กันอยู่เนืองๆ

ยามเมื่อเดินอยู่บริเวณสวนอันร่มรื่นบริเวณอนุสาวรีย์แห่งนี้ผมรู้สึกได้ว่า ความรักล่องลอยอยู่ในทุกห้วงบรรยากาศภายในสวนแห่งนี้จริงๆ เป็นความรู้สึกดีที่เกิดขึ้นกับสถานที่แห่งนี้ นับแต่ครั้งแรกที่ไปเยือน จวบจนวันนี้ก็ยังคงอยู่


นับตั้งแต่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จสวรรคาลัยเมื่อปี พ.ศ.2453 เป็นต้นมา วังหลวงหลายวัง ก็ไม่มีกษัตริย์กรุงรัตนโกสินทร์ หรือเชื้อพระวงศ์พระองค์ใด เสด็จประทับในวังเดิมของพระองค์มากนัก ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังวิมานเมฆ วังสราญรมย์ เป็นต้น
แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีพระราชวังในต่างจังหวัดแห่งหนึ่งที่มีเชื้อพระวงศ์และเจ้าฟ้าเสด็จมาประทับอยู่บ้างเป็นครั้งคราวในปัจจุบัน พระราชวังที่ว่านั้น ก็คือ พระราชวังบางปะอินนี้

ส่ิงนี้เองทำให้พระราชวังแห่งนี้ยังคงมีชีวิตชีวา ไม่ว่าจะเดินเที่ยวชมไปในเส้นทางไหน ก็จะรู้สึกได้ถึงเรื่องราวความเป็นมาในอดีต ที่ยังคงเชื่อมต่อกับปัจจุบันได้อย่างต่อเนื่อง ทุกย่างก้าวทีเดินชม รับรู้ได้ถึงความสวยงามของสถานที่แห่งนี้

สวยงามไปหมดไม่ว่าจะมองมุมไหน ร่มรื่น มองแล้วสบายตา

แม้ว่าการกลับมาเยือนพระราชวังบางปะอินครั้งนี้จะห่างจากครั้งแรกนานหลายปี แต่ภาพทุกภาพ ก็ยังคงสวยงาม ยังคงชัดเจนอยุ่ในความทรงจำที่ดีที่มีต่อสถานทีแห่งนี้

ได้เวลาอำลาพระราชวังสวยวามแห่งนี้แล้ว สัญญาว่าจะกลับมาที่นี่อีก ภาพวันเก่าและเรื่องราวอันน่าประทับใจที่เกิดกับผม ณ ที่แห่งนี้ ยังคงตราตรึงใจจนทุกวันนี้



Create Date : 03 สิงหาคม 2554
Last Update : 3 สิงหาคม 2554 10:32:19 น.
Counter : 6037 Pageviews.

3 comments
  
ว้าวววว

มีรักอยู่จริงๆๆด้วย อิอิ เคยไปมาครั้งเดียวเองค่ะ เข้าไปแล้วไม่อยากออกเลย อากาศร่มรื่นมากๆ

ภาพสวยจังเลยค่ะ
โดย: budja09 วันที่: 3 สิงหาคม 2554 เวลา:19:45:12 น.
  


โดย: Kavanich96 วันที่: 4 สิงหาคม 2554 เวลา:8:22:53 น.
  
สวยมากมายเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ดีๆ ที่นำมาแบ่งปันนะค่ะ

Digital SLR Black Friday
Radar Detector Black Friday
Touchpad Black Friday
โดย: Qa วันที่: 20 กันยายน 2554 เวลา:12:42:54 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

3KKK
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]



New Comments
MY VIP Friend