พฤษภาคม 2556

 
 
 
1
3
4
5
6
7
8
9
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
23
24
25
26
27
29
30
 
 
All Blog
ตามหากระเจียวดอกสุดท้าย....อุทยานแห่งชาติไทรทอง
ในวันฝนพร่ำปลายเดือนสิงหาคม ช่วงเวลาที่ฤดุกาลดอกบัวสวรรค์กำลังจะผ่านพ้น เป็นวันที่ดีอีกวันหนึ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตแห่งการเดินทาง ได้มีโอกาสกลับไปตามหาความสดใสของธรรมชาติป่าเขา แมกไม้และหมู่มวลพฤกษาที่ยังพอมีเหลือให้จดจำไว้ในใจและบันทึกเป็นเรื่องราวที่อุทยานแห่งชาติไทรทอง บนเทือกเขาพังเหย แนวยกตัวของที่ราบสูงตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นการเดินทางตามหากระเจียวชุดสุดท้ายที่ยังชูช่อรอคอยผู้มาเยือนก่อนจะอำลาจากไป เพื่อรอวันเวลาหวลกลับมาอีกครา

การเดินทางในวันนั้นผมเลือกเส้นทางจาก กทม มุ่งหน้า จ สระบุรี ผ่านเขต จ ลพบุรี ระหว่างทางแวะเที่ยวชมเขื่อนป่าสักฯ แหล่งน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคของชุมชนต่าง ๆ ในเขตจังหวัดลพบุรีและจังหวัดสระบุรีและยังเป็นแหล่งน้ำช่วยเสริมเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภคของประชาชน ในเขตกรุงเทพมหานคร ทั้งยังช่วยป้องกันอุทกภัย และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ


แต่ในวันนั้นผู้คนค่อนข้างบางตา อาจเป็นเพราะหมดฤดูกาลแห่งการท่องเที่ยวชมทุ่งทานตะวันก็เป็นได้

มุ่งหน้า อ วิเชียรบุรี แวะทานอาหารกลางวัน ไก่ย่างวิเชียรบุรี ที่ร้านบัวตอง

จากนั้นมุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทาง พาใจล่องลอยเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์สองข้างทางจนเส้นทางเริ่มไต่ระดับความสูงขึ้นเขาพังเหย ทิวเขาขอบที่ราบสูงจากชัยภูมิทอดตัวผ่านมาสิ้นสุดที่ อ ปากช่อง มีด้านตะวันตกเป็นหน้าผาชันตลอดแนว เกิดจุดชมวิวทิวทัศน์และจุดพักรถที่สวยงามในเส้นทางมากมาย

ผมมาแวะที่จุดชมวิวเขาพังเหย ที่ยามเมื่อมองออกไปเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามกว้างไกลจนสุดขอบฟ้า ทิวทัศน์มุมสูงของ จ ชัยภูมิ ภายใต้ท้องฟ้าสีหม่น ชุ่มฉ่ำด้วยระอองฝนและอากาศบริสุทธิ ให้ความรู้สึกสดชื่นอิ่มในหัวใจ

บนทางหลวงหมายเลข 225 มุ่งหน้าสู่ จ ชัยภูมิเส้นนี้ มีหน่วยย่อยของอุทยานแห่งชาติไทรทองตั้งอยุ่ มีลานกางเต้นท์และบ้านพักไว้รองรับนักท่องเที่ยวที่จะมาชมทุ่งกระเจียวหรือบัวสวรรค์เช่นกัน ผมใช้เวลาชื่นชมธรรมชาติอยู่ที่นั่นจนได้เวลาอันสมควร ก็ออกเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทางของวันนี้ที่อุทยานแห่งชาติไทรทอง

หลังจากชำระค่าธรรมเนียมเข้าสู่เขตอุทยานฯ บทเพลงแห่งธรรมชาติ ก็เริ่มล้อบรรเลงเพลงจากพงไพรดังก้องในหัวใจที่พองโตอีกครา

ที่นี่มีบ้านพักและลานกางเต้นท์พักแรมบริการนักท่องเที่ยว สามารถติดต่อได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีร้านค้าสวัสดิการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม

ธรรมชาติบริเวณที่พักแรม ช่างงดงามยิ่งนัก ภาพบัวลอยล่องชูช่อ ในบึงน้ำใส สะท้อนเรื่องราวของหมู่มวลพฤกษาที่ร้อยเรียงหมุ่นเวียนผ่านวันเวลาบนทุ่งบัวสวรรค์ นำพานักเดินทางมาสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่าง ณ ที่แห่งนี้

ผมนั่งทอดอารมณ์อยู่ที่สะพานแห่งนี้ เพลิดเพลินกับภาพที่ปรากฎแก่สายตาเบื้องหน้า จนเวลาล่วงเลยผ่าน

ผมใช้เวลาในช่วงบ่ายคล้อย ไปชมความงดงามของน้ำตกไทรทอง ที่อยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวไปประมาณ 700 เมตร จากลานจอดรถเดินเท้าเข้าไปอีกราว 300 เมตร

ระหว่างทางไปชมน้ำตกไทรทอง แวะชมต้นไม้พันปี คือต้นกระบากขนาดใหญ่ อายุพันปี

จากลานจอดรถเดินเท้าเข้าไปตามเส้นทางที่เขียวขจีไปด้วยแมกไม้อันร่มรื่น ราว 300 เมตร ก็จะถึงบริเวณน้ำตก สองข้างทางยามห้อมล้อมด้วยพฤกษานานาพันธุ์ ในความรู้สึก ณ เวลานั้น ตัวเราเล็กลงไปในบัดดล เทียบมิได้เลยกับความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ป่าเขา และสายน้ำ ณ ที่แห่งนี้

สรรพสำเนียงของธรรมชาติเคล้าเสียงน้ำตกที่กระทบกับโขดหินดังขึ้นเป็นระยะ แว่วมาแต่ไกลในทุกย่างก้าว เป็นทุกย่างก้าวที่ล้วนมีแต่สิ่งสวยงาม สายน้ำตกไทรทองในยามนี้ ยังคงรินใหลอย่างไม่ขาดสาย ส่งเสียงดังก้องไปทั่วทั้งพงพนา

ในยามนี้คงไม่มีอะไรดีกว่าการนั่งเหมอมองสายชล ที่ใหลรินบนลานหินอันกว้างใหญ่ คำว่าสายน้ำและวันเวลาคือสิ่งที่สะท้อนความเป็นจริง ไม่มีใครย้อนวันเวลาเพื่อแก้ไขเรื่องราวที่เคยผิด แต่ชีวิตคนยังต้องก้าวไป พาใจล่องลอยไปกับสายน้ำและป่าเขาแมกไม้อันเขียวขจี นึกถึงเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมาแล้วจะผ่านไป จนเวลาล่วงเลย

ผมกลับที่ถึงที่พักแรมในช่วงที่ตะวันกำลังจะลาลับขอบฟ้า ท้องฟ้าเบื้องบนยังคงฉ่ำฝน แม้ไร้วี่แววของสายฝน ในใจยังเปี่ยมด้วยความหวังว่าการเดินทางสู่ทุ่งบัวสวรรค์ในวันรุ่งขึ้นจะไม่สูญเปล่า ผมนั่งรอคอยความมืดมิดที่กำลังจะย่างเยือนเข้ามา อยู่ตรงนี้


รุ่งอรุณวันใหม่ ที่ยังไม่มีวี่แววของแสงตะวันฉายส่อง ท้องฟ้ายังคงฉ่ำฝน ยังเชื่อมั่นว่าจะต้องได้อะไรกลับมาจากการเดินทางครั้งนี้ แม้จะดูเลือนลางแต่ก็ควรค่าแก่การพิสูจน์ว่าเพลานี้บรรดาบัวสวรรค์และดอกเทพอับสรจะยังช่อชู่อยู่บนแดนสวรรค์เบื้องบนหรือไม่

จุดเริ่มต้นของการเดินทางเริ่มขึ้นที่ศุนย์บริการนักท่องเที่ยวสู่ถนนสายนี้ฝ่านลำห้วยขนาดใหญ่ ที่ยังคงเอ่อนองไปด้วยสายน้ำที่หลั่งใหลในช่วงฤดูฝน คือจุดเริ่มต้นที่ท้าทายก่อนที่หนทางจะราบรื่น


เส้นทางเริ่มทอดตัวยาว ไต่ระดับความสูงขึ้นสู่ทุ่งบัวสวรรค์เบื้องบน ตลอดระยะทาง 9 กม กลิ่นอายของธรรมชาติสองข้างทางชวนให้หลงใหล งดงาม สะอาดตา ฝืนป่าหน้าฝนอันเขียวชอุ่มในยามเช้า ชักชวนให้หายใจเข้าเต็มปอด

หลังจากเพลิดเพลินกับธรรมชาติสองข้างทาง ในไม่ช้าผมก็มาถึงจุดเริ่มต้นของการเดินทางค้นหาดอกกระเจียวชุดสุดท้าย ณ ทุ่งบัวสวรรค์แห่งนี้ ห่างออกไปไม่ไกลเพียงแค่ใจเอื้อมถึง

บริเวณนี้มีร้านอาหารบัวสวรรค์ไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน

ผมเดินลัดเลาะไปตามแนวหน้าผาฝั่งตะวันตกของเขาพังเหย ที่มีหน้าผาสูงชันหลายแห่งตลอดแนวยกตัวที่ราบสูงตะวันออกเฉียงเหนือยาวขนานผ่านตั้งแต่ อ ปากช่อง ผ่านอุทยานแห่งชาติไทรทอง อุทยานแห่งชาติภูแก้ว-ภูพานคำ ไปสิ้นสุดที่ จ หนองคาย เกิดเป็นเขตแดนทางธรรมชาติที่แบ่งภาคกลางและอีสานออกจากกัน

ระหว่างเส้นทางไปทุ่งบัวสวรรค์ ทิวทัศน์อันงดงามที่ผาพ่อเมือง แนวหน้าผาหินทรายยาวหลายกิโลเมตร ยามได้ยลแล้วหายเหนื่อยในบัดดล เห็นทิวทัศน์มุมสูงของอำเภอภักดีชุมพล งดงามยิ่งนัก

หน้าผาที่เป็นจุดเด่นของอุทยานฯไทรทองก็คงหนีไม่พ้นหน้าผาแห่งนี้ ผาหินตัดเรียบ เป็นฉากหน้า ฉากหลังก็เป็น ผืนป่าเขียวและทิวทัศน์อันกว้างไกลของ อำเภอภักดีชุมพล จากจุดนี้มองเห็นเทือกเขาพญา ซึ่งเป็นรอยต่อของจังหวัดชัยภูมิและเพชรบูรณ์ ได้อย่างชัดเจน

ผมใช้เวลายืนซึมซับและดื่มด่ำธรรมชาติ ณ หน้าผาแห่งนี้อยู่จนเวลาล่วงเลย ผมเดินลัดเลาะมาตามแนวหน้าผา ผ่านมาจนถึงบริเวณผาเพลินใจ ที่มีทางแยกไปทุ่งบัวสวรรค์ 4 มีดอกกระเจียวสีขาวที่ยังคงเบ่งบานให้ได้ยล แม้จะไม่มากแต่อย่างน้อยการเดินทางมาที่นี่ในครั้งนี้ก็ไม่สูญเปล่าที่ยังได้มีโอกาสเห็น ดอกเทพอับสร ดอกระเจียวสีขาวสด แม้ดอกเล็กกว่าและไม่ชูช่อหราเท่าบัวสวรรค์ แต่ก็นับเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่น่าไปเที่ยวชมที่อุทยานฯไทรทองไม่น้อย

ด้วยความที่อุทยานฯไทรทองเป็นน้องใหม่ที่เริ่มมาแรงในด้านการเที่ยวชมทุ่งดอกกระเจียว ทางอุทยานฯ จึงได้จัดให้มีการท่องเที่ยวเชิงนิเวศโดยได้จัดให้มีรถบริการของประชาชนในท้องถิ่น จัดให้มีรถบริการของประชาชนในท้องถิ่น เพื่อขนนักท่องเที่ยวเดินศึกษาธรรมชาติ และชมความงามทุ่งกระเจียว หรือบัวสวรรค์ที่บานชูช่อสีสดสวยงามแซมหญ้าเพ็ก ท่ามกลางแมกไม้ขุนเขา และไอหมอกจางๆที่เย็นสบาย

ตลอดเวลาที่เดินผ่านทุ่งดอกกระเจียว สีชมพูอันสดใสของดอกกระเจียวพาใจให้สดชื่น เบิกบานอย่างน่าประหลาด ในทุกย่างก้าวบทเพลงของหมู่มวลพฤกษาดังก้องอยู่ในใจ เป็นสิ่งที่รับรู้และสัมผัสได้ไม่ยาก

ในยามหน้าฝนความงามของทุ่งดอกกระเจียว ที่อุทยานฯป่าหินงาม และที่อุทยานฯไทรทองต่างก็มีความสวยงามแต่โดดเด่นกันไปคนละแบบ ใครที่ชอบชมทุ่งดอกกระเจียวที่สวยงาม กว้างใหญ่ สามารถเดินชมแบบสบาย ๆ แต่ว่ามีคนพลุกพล่านหน่อยก็ให้ไปที่อุทยานป่าหินงาม ส่วนใครที่อยากชมทุ่งดอกกระเจียวที่ขึ้นท่ามกลางธรรมชาติอันบริสุทธิ์ และมีดอกกระเจียวสีขาวขึ้นแซมก็ควรไปที่อุทยานฯไทรทอง

ผมสังเกตุเห็นท้องฟ้าเหนือทุ่งบัวสวรรค์ในวันนั้น ดูช่างหม่นหมอง ราวกับฟ้าจะร่ำไห้หลั่งน้ำตาอำลาอาลัย หมู่มวลดอกไม้ที่กำหลังจะลาจากพิ้นที่แห่งนี้ไป

แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาหนึ่ง แต่ก็นานพอที่จะทำให้แหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้เงียบเหงา ปราศจากผู้มาเยือนเป็นเวลาหลายเดือน

สำหรับผมการไปเยือนอุทยานไทรทองในครั้งนั้น แม้จะเป็นช่วงเวลาสุดท้าย ที่จะมีโอกาสได้พบเจอดอกบัวสวรรค์ แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่ดีที่เกิดขึ้นอีกครั้งในชีวิต เป็นความสุขใจที่เกิดขึ้น ณ ที่แห่งนั้น

ที่ที่บทเพลงแห่งมวลพฤกษายังคงลอยล่องอยู่ทุกบรรยากาศ ณ ทุ่งบัวสวรรค์ ผมจะจดจำภาพอันงดงามเหล่านั้นไว้ตราบนานเท่านาน

ทิ้งท้ายด้วยภาพแห่งความงดงาม ณ อุทยานแห่งชาติไทรทอง เป็นภาพที่ไม่ว่าจะมองกี่ครั้งกี่หนก็ไม่เคยรู้สึกเบื่อหน่าย ผมสัญญาว่าจะกลับมาที่นี่อีก เมื่อวันเวลาที่ดีหวลคืนมาอีกครา...



Create Date : 10 พฤษภาคม 2556
Last Update : 10 พฤษภาคม 2556 13:58:25 น.
Counter : 3436 Pageviews.

2 comments
  
สวัสดีครับคุณ 3KKK

ตามมาชมดอกกระเจียวดอกสุดท้ายด้วยคนครับ
สวยคุ้มค่ากับการดั้นด้นไปชมเลย

ปล. ขอบคุณที่แวะไปทักทาย ผมมีภาพจากบล็อกมาฝากด้วย

โดย: ทองกาญจนา วันที่: 14 พฤษภาคม 2556 เวลา:13:58:41 น.
  
ขอบคุณที่มาเยี่ยมนะคะ
โดย: gualazaipha วันที่: 14 พฤษภาคม 2556 เวลา:19:18:38 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

3KKK
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]



New Comments
MY VIP Friend