Group Blog All Blog
|
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์..........เพียงฟ้าจรดดิน ธันวาคม 2552 ย้อนกลับไปเมื่อคราวที่สายลมหนาวพัดหวลคืนยามเมื่อฝนหยาดสุดท้ายจางหายช่วงปลายปี การเดินทางที่ยังคงมุ่งไปข้างหน้าบนดินแดนล้านนา กาลเวลาเวียนหมุนไปจนถึงวันที่ผมได้มีโอกาสหวลกลับไปมองดูภาพดอยอินทนนท์อีกคราวหนึ่ง ยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทยแห่งนี้ยังคงตั้งตระหง่านอยู่ ณ ที่แห่งนั้นรอคอยนักเดินทางเข้าไปสัมผัสความสวยงามที่ผันแปรไปตามฤดูกาล ![]() การกลับไปครั้งนั้น นับว่ามีโชคอยู่บ้างที่มวลอากาศเย็นยังคงอยู่คู่ขุนเขาแห่งนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวยังมีไม่มากนัก เนื่องจากเป็นช่วงก่อนเข้าเทศกาลปีใหม่ ธรรมชาติที่เริ่มฟื้นตัวยังคงสวยสดงดงามรอคอยผู้มาเยือนในช่วงเทศกาลวันหยุดต่อเนื่องที่จะมาถึงในอีกไม่กี่วัน ![]() การเดินทางขึ้นไปท่องเที่ยวบนอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ทุกวันนี้เต็มไปด้วยความสะดวกสบาย แม้จะมีความลาดชันอยู่บ้างแต่เส้นทางลาดยางอยางดีและกว้างพอที่ยวดยานจะวิ่งสวนกันได้ ใช้เวลาเดินทางราวสองชั่วโมง ผมก็กลับมายืนที่เดิมตรงนี้อีกคราหนึ่งด้วยหัวใจที่เบิกบาน ![]() แหงนมองท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ ก็ยังคงงดงามดั่งวันวาน ผมเชื่อมั่นว่าหลายคนที่ไปยืน ณ จุดนั้น รับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของดอยอินทนนท์ได้ไม่ยาก การกลับไปครั้งนั้น นับว่ามีโชคอยู่บ้างที่มวลอากาศเย็นยังคงอยู่คู่ขุนเขาแห่งนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวยังมีไม่มากนัก เนื่องจากเป็นช่วงก่อนเข้าเทศกาลปีใหม่ ธรรมชาติที่เริ่มฟื้นตัวยังคงสวยสดงดงามรอคอยผู้มาเยือนในช่วงเทศกาลวันหยุดต่อเนื่องที่จะมาถึงในอีกไม่กี่วัน เวลาผ่านไปเกือบสี่ทศวรรษ ดอยอินทนนท์ในวันนี้เติบโตขึ้นเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับต้นๆของเมืองไทย เป็นอุทยานฯ ลำดับที่ 6 ของประเทศ ครอบคลุมพื้นที่ในสี่อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ คืออำเภอจอมทอง อำเภอแม่แจ่ม อำเภอแม่วาง และกิ่งอำเภอดอยหล่อ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ใช้เป็นแหล่งแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ มีเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์คอยให้บริการกับนักท่องเที่ยว ศูนย์บริการฯ มีอยู่ 3 แห่งด้วยกันเรียงตามลำดับดังนี้ บริเวณกิโลเมตรที่ 9 กิโลเมตรที่ 31 บริเวณที่ทำการอุยานฯและยอดดอยอินทนนท์ ![]() ในวันเวลาที่ผมไปยืนอยู่ที่แห่งนั้น อิทธิพลของลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ยังคงพัดพาความหนาวเย็นจากประเทศจีนเข้ามาปกคลุมพื้นที่ อุณหภมิ ณ ขณะนั้นยังคงอยู่ที่ 16 องศา ไม่จะเป็นเวลากลางวัน เนื่องจากเป็นพื้นที่เขาสูง จึงมีอากาศเย็นตลอดปีแม้ในช่วงฤดูร้อน บริเวณที่ทำการอุทยานฯ กม 31 มีร้านอาหารสวัสดิการไว้บริการนักท่องเที่ยว มีร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในราคาย่อมเยา ผมใช้เวลานั่งซึมซับดื่มด่ำธรรมชาติอยู่ที่มุมกาแฟบริเวณร้านอาหารสวัสดิการแห่งนี้ ![]() จากนั้นก็เดินทางเข้าสู่ที่พัก ที่สถานีเกษตรหลวง ดอยอินทนนท์ ซึ่งอยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวไปไม่ไกลก็มาถึงทางเข้าที่พักที่สถานีเกษตรหลวงแห่งนี้ ลงทะเบียนเข้าที่พักซึ่งอยู่บนเนินเขา มองเห็นทิวทัศน์อันกว้างไกลของพื้นที่เกษตรกรรมบนดอยสูง ![]() สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ มีห้องพักมาตรฐาน 28 ห้อง และพรั่งพร้อมด้วยอุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีทางขึ้นสู่ห้องใต้หลังคา ข้างบนมีที่นอนจัดเตรียมไว้ ซึ่งบ้านพักหลังหนึ่งสามารถรองรับผุ้เข้าพักได้ถึง 4 คนได้อย่างสบาย ![]() ![]() ![]() พร้อมระเบียงชมวิวทิวทัศน์ภูเขาและสวนดอกไม้ สัมผัสได้ถึงบรรยากาศอันบริสุทธิ์ ![]() สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ สังกัดมูลนิธิโครงการหลวง ก่อตั้งขึ้นอันเนื่องมาจากพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการช่วยเหลือชาวเขาให้มีพื้นที่ทำกินเป็นหลักแหล่ง ปรับปรุงฐานะความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น ส่งเสริมการปลูกพืชทดแทนฝิ่น ถ่ายทอดวิชาความรู้ทางด้านการเกษตรแผนใหม่อันจะเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรให้สูงขึ้น อีกทั้งป้องกันการบุกรุกทำลายป่าไม้ ต้นน้ำลำธารด้วยการทำการเกษตรแบบถาวร สโมสรสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ บริการอาหารและเครื่องดื่มจากผลผลิตโครงการหลวง ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันร่มรื่น ภายในจัดที่นั่งรับทานอาหารอิงแอบกับแมกไม้รอบด้าน บริการอาหารที่รับประกันความสะอาด สด และถูกหลักอนามัย ![]() สิ่งที่ผู้คนที่แวะมารับทานอาหารที่สโมสรแห่งนี้ต้องสั่งคือเมนูปลาเรนโบว์เทร้าท์นึ่งซีอิ้ว ![]() สตรอเบอรี่สดจากไร่ ![]() จากสถานีวิจัยโครงการหลวงเดินทางขึ้นไปยัง กม 38 ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงบริเวณทางขึ้นพระธาตุทั้งสององศ์ ![]() วันนั้นไม่อนุญาตให้นำรถยนตร์เข้าไปยังองศ์พระธาตุ นักท่องเที่ยวต้องจอดรถไว้ริมเส้นทางด้านนอก แล้วโดยสารรถรับส่งเข้าไปยังองศ์พระธาตุ พระมหาธาตุนภเมทนีดล เป็นพระธาตุที่ทางกองทัพอากาศร่วมกับพสกนิกรชาวไทยทั่วประเทศ ร่วมใจสร้างถวายแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา เมื่อปี พ ศ 2530 ประกอบกับเป็นวาระที่กองทัพอากาศมีอายุครบ 72 ปี ในปีเดียวกัน การสร้างพระบรมธาตุเจดีย์ของกองทัพอากาศเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศล จึงเป็นวิธีเดียวที่กองทัพอากาศรำลึกว่า จะฉลองพระเดชพระคุณอันเปี่ยมล้นได้อย่างสูงสุด ให้สมกับพระบรมเดชานุภาพ และพระบารมีแห่งพระมหาธรรมราชา ที่แผ่ไพศาลสุดแผ่นดินและจดแผ่นฟ้า ![]() พระมหาธาตุนภเมทนีดล มีรูปแบบเป็นทรงระฆังคว่ำ รูปแปดเหลี่ยม มีความสูง 60 เมตร เพื่อเป็นนิมิตรหมายการสร้างเมื่อ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระชนมพรรษาครบ 60 พรรษา ส่วนบนสุดเป็นรูปทรง ยอดปลีสีทอง รองรับกลีบบัวบาน หมายถึงการตรัสรู้สู่ปรินิพาน นับว่าเป็นส่วนสำคัญ ซึ่งได้บรรจุ พระบรมสารีริกธาตไว้ ภายในองค์พระมหาธาตุ เป็นห้องโถง ทรงแปดเหลี่ยม เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางประทานพร แกะสลักด้วยหินแกรนิต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าพระราชทานนามว่า " พระพุทธบรมศาสดา นวมินทรมหาจักรีราชานุสรณ์ สัฐิพรรษาสถาพรพิพัฒน์ มีความหมายว่า พระพุทธเจ้าพระบรมศาสดา สร้างเป็นอนุสรณ์ที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 แห่งพระมหาจักรีบรมราชวงศ์ พระชนมพรรษา 60 การตกแต่งพระมหาธาตุ นภเมทนีดล คำนึงถึงความสวยงาม เพื่อสร้างศรัทธาให้เกิดขึ้นเมื่อแรกเห็น การประดับประดาแต่ละรายการ ก็ล้วนมีคุณค่า ทั้งทางสถาปัตยกรรม และศิลปกรรม เพื่อที่จะให้ปูชนียสถานสำคัยแห่งนี้ ปรากฏเป็นพระเกียรติคุณชั่วกาลนาน สถานที่ประดิษฐานพระบรมธาตุเจดีย์นี้ จึงสถิตอยู่ ณ จุดที่สูงสุดบนผืนแผ่นดินไทยเพื่อให้สมกับพระมหากรุณาธิคุณ พระมหาเมตตาธิคุณ และพระมหาบริสุทธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้สถิตอยู่สูงสุด และในดวงใจของปวงพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อ ตามที่กองทัพอากาศขอพระราชทานว่า "พระมหาธาตุนภเมทนีดล" แปลได้ความว่า พระสถูปเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ยิ่งใหญ่เพียงฟ้าจดดิน ![]() พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ สร้างขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในมหามงคลสมัยที่ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2535 พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ เป็นพระนามที่สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถทรงพระราชทาน มีความหมายว่า เป็นกำลังแห่งฟ้า เป็นสิริแห่งดิน องศ์พระธาตุเป็นทรงระฆังค่ำสิบสองเหลี่ยม พื้นผิวนอกขององศ์เจดีย์ประดับด้วยโมเสกแก้วสีม่วงสื่อถึงความงามอ่อนหวานของกุลสตรีไทย ที่ผนังด้านนอกองศ์เจดีย์ตกแต่งด้วยภาพปั้นเคลื่อบระบายสีโดยรวมออกโทนสีม่วง เป็นเรื่องราวภิกษุณีที่เป็นเลิศทางพุทธศาสนา การตกแต่งโดยรอบองศ์พระเจดีย์ที่สื่อความหมายถึงการเชิดชูบทบาทของสตรีที่มีส่วนช่วยทะนุบำรุงพระศาสนา องศ์เจดีย์ช่วงล่างมีบัวรัดรอบแบ่งเป็นสี่ชั้น มีความสูง 55 เมตร สื่อความหมายว่าสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตย์ทรงมีพระชนมายุอ่อนพระชัณษากว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 พรรษา เหนือยอดปลีสีทองกั้นด้วยฉัตรโลหะสีเงินเก้าชั้น ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ภายในองค์พระมหาธาตุ เป็นห้องโถง ทรงสิบสองเหลี่ยม เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางรำพึง แกะสลักด้วยหินหยกสีขาว ซึ่งเป็นพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร ของ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า " พระพุทธสิริกิติทีฆายุมงคล " ![]() โดยรอบบริเวณพระมหาธาตุเจดีย์ทั้ง 2 องค์ สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของดอยอินทนนท์โดยรอบได้อย่างชัดเจน พระมหาธาตุทั้ง 2 องค์นี้ มีรูปทรงคล้ายคลึงกัน คือ มีฐานเป็นรูป 12 เหลี่ยม รอบๆ องศ์พระธาตุทั้งสองมีการประดับประดาด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ เสริมสร้าง แต่งแต้มความงามให้กับพื้นที่ตรงนี้ ![]() ผู้คนที่เดินทางมาเยือนอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เมื่อได้มาเห็นพระมหาธาตุเจดีย์ทั้งสององศ์ และรู้เหตุแห่งการสร้างน้อมเกล้าถวายเป็นพระราชกุศล ต่างตั้งจิตถวายพระพรชัยมงคลทุกครั้งคราวที่มีโอกาสมาเยือนพระธาตุแห่งนี้ด้วยศรัทธาในองศ์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และด้วยความจงรักภักดีต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ นักท่องเที่ยวทุกคนต่างเห็นพ้องกันว่า พระพุทธคุณแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อีกทั้งพระบารมีแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระมหาธรรมราชาอันยิ่งใหญ่เพียงฟ้าจรดดินนี้ จะแพร่ไพศาลคุ้มครองและบันดาลให้ประสบแต่ความร่มเย็น ความเจริญรุ่งเรือง ![]() หลังจากเที่ยวชม ดื่มด่ำบรรยากาศ ชื่นชมทัศนียภาพอันงดงามรอบๆ องศ์พระธาตุทั้งสององศ์ ผมใช้เวลาช่วงสุดท้ายของวันนั้นขึ้นไปชมทิวทัศน์บนยอดดอยอินทนนท์ ซึ่งอยู่บริเวณ กม 41 ห่างจากพระธาตุไปไม่ไกล ดีใจที่ได้กลับไปยืนบนจุดสูงสุดของแผ่นดินไทยอีกครั้งหนึ่งในวันที่ว่างเปล่า ไร้ความมัวหม่นในจิตใจ ได้มองเห็นภาพดอยอินทนนท์อย่างชัดเจน รู้สึกตัวเราลอยล่องไปกับสายลมเย็นที่ยังคงพัดผ่านอยู่ตลอดเวลา หลายครั้งหลายหนที่มาเยือนที่แห่งนี้ คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว แต่ในวันนั้นยอดดอยสูงแห่งนี้ช่างดูเงียบเหงา ผู้คนบางตา ![]() ผมยืนอยู่ตรงนั้น ทอดสายตาออกไปเบื้องหน้า กับภาพที่เห็น อดนึกมโนภาพท้องมหาสมุทรสีครามอันกว้างใหญ่ไฟศาล สุดสายตาไม่มี่สิ้นสุด สมกับคำกล่าวที่ว่าดอยอินทนนท์หลังคาแห่งแผ่นดินสยามจริงๆ บนยอดดอยอินทนนท์ มีผืนป่าดิบดึกดำบรรพ์อันกว้างใหญ่สมบูรณ์ปกคลุมภูเขาที่สูงที่สุดของประเทศ เทือกเขาดอยอินทนนท์นั้นคือแนวทิวเขาสลับซับซ้อนตอนหนึ่งของเทือกเขาถนนธงชัย มียอดดอยอินทนนท์ เป็นยอดสูงสุด สูงถึง 2,565 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ไม่ว่าฤดูกาลใด อากาศเย็นตลอดปี รอบ ๆ เส้นทางเดินทอดลดหลั่นลงไปสู่บึงใหญ่ของอ่างกาหลวง ถูกปกคลุมด้วยไม้ใหญ่ยืนต้นหนาทึบของป่าดงดิบ ความหนาวชื้นของละอองหมอกช่วยให้กิ่งก้าน ใบและดอกชุ่มด้วยน้ำอยู่ตลอดเวลา ตามกิ่งก้านของต้นไม้ทั้งป่าถูกเกาะจับ ปกคลุมไปด้วยมอส และเฟิร์น อยู่อย่างหนาแน่น ![]() เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา คือป่าดึกดำบรรพ์หรือป่าเขาระดับสูง ที่ยังคงสภาพค่อนข้างสมบรูณ์มีความหลากหลายทางชีวภาพ และการอยู่ร่วมกันอย่างพึ่งพาอาศัย ข้าวตอกฤาษ๊คือมอสชนิดหนึ่งที่เป็นตัวแปรบ่งบอกความชุ่มชื่นของป่า ถ้าป่าชุ่มชื้นข้าวตอกฤาษีจะขึ้นบานสะพรั่งให้เห็นได้ทั่ว ![]() ผมใช้ช่วงเวลาในวันที่สองที่ได้กลับมาเยือนอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์อีกหน ในการเดินทางท่องเที่ยวน้ำตก ซึ่งมีอยู่หลายแห่งในพื้นที่อุทยานฯ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์คือพื้นที่ที่มีน้ำตกมากที่สุดแห่งหนึ่ง จนมีหลายคนกล่าวว่า ดินแดนแห่งน้ำตกสวย พระธาตุสูงสง่า ป่าไม้งาม กุหลาบพันปี ดูจะไม่ห่างไกลความจริงเลย ![]() จากโครงการหลวงอินทนนน์ยังมีเส้นทางเดินเท้าจากสถานีวิจัยไปยังน้ำตกสิริภูมิ ระยะทางราวหกร้อยเมตร น้ำตกแห่งนี้มีชื่อเดิมว่าน้ำตกเลาลี ตามชื่อของหมู่บ้านม้ง ซึ่งอาศัยอยู่ใกล้ ๆ น้ำตก ภายหลังเปลี่ยนชื่อตามพระนามาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ โดยบริเวณรอบๆ น้ำตกมีการจัดสวนหย่อมและตกแต่งภูมิทัศน์ด้วยไม้ดอกไม้ประดับไว้อย่างสวยงามเรียกว่า สวนหลวงสิริภูมิ สวนหลวงสิริภูมิ อยู่ภายใต้การดำเนินงานของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงอินทนนท์ มีการจัดเก็บค่าเข้าชม ผู้ใหญ่คนละ 20 บาท เด็ก คนละ 10 บาท รถไม่สามารถเข้าไปใกล้ตัวน้ำตกได้ นักท่องเที่ยวต้องจอดรถและเดินเท้าเข้าไปบริเวณด้านล่างของน้ำตก ![]() น้ำตกวชิรธาร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ เดิมชื่อ ตาดฆ้องโยง น้ำจะดิ่งจากผาด้านบนตกลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง ในช่วงที่มีน้ำมากละอองน้ำจะสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณเกิดเป็นสายรุ้งสวยงาม รู้สึกได้ถึงความเย็นและชุ่มชื้น ![]() น้ำตกแม่กลาง คือประตูเข้าสู่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อยู่ บริเวณ กม 8 ![]() ศูนย์บริการนักทอ่งเที่ยว ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากน้ำตกแม่กลางราว 400 เมตร การท่องเที่ยวในช่วงฤดูฝนต้องระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยเป็นพิเศษ ด้านล่างก่อนทางขึ้นน้ำตกจะมีร้านอาหารไว้บริการค่อนข้างมาก วันที่สามของการเดินทาง เป็นเวลาที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ ณ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ที่เกิดขึ้นในการเดินทางครั้งนั้น คือการได้กลับมาสัมผัสธรรมชาติที่กิ่วแม่ปานอีกครั้งหนึ่ง ที่ซึ่งมีคำกล่าวขานกันว่าเส้นทางสายแห่งรัก หนุ่มสาวที่มาเดินเที่ยวชมธรรมชาติบนทางสายนี้ คำว่าเพื่อนจะจางหายไปเปลี่ยนเป็นความรักที่ไม่มีวันจืดจาง แม้กาลเวลาอาจหมุนใจคนให้เปลี่ยนไป แต่สำหรับผมทุกสิ่งทุกอย่างยังคงเดิมไม่มีสิ่งใดแปรเปลี่ยนไป ยังต้องก้าวเดินต่อไป ![]() ผมเดินทางมาถึงบริเวณ กม 42 ของถนนจอมทอง ดอยอินทนนท์ที่ระดับความสูงประมาณ 2,000 เมตรจากระดับน้ำทะเลในช่วงบ่ายของวันนั้น บริเวณทางเข้าเส้นทางศึกษาธรรมชาติมีลานจอดรถลาดยาง จอดได้ประมาณ 50 คัน มีร้านอาหารบริการ กาแฟ อาหารว่าง และมีร้านขายของที่ระลึก มีห้องน้ำแยกชายหญิงสภาพมีความสะอาดดี ![]() กิ่วแม่ปาน เป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะสั้น ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร มีเส้นทางเป็นวงรอบ เส้นทางเดินแบ่งออกเป็น 4 ระยะ ช่วงแรกเป็นป่าดิบชื้นมีมอส และเฟิร์นขึ้นอยู่อย่างหนาแน่นตามลำต้นของไม้ใหญ่ในป่าดิบเขา ธรรมชาติอันโดนเด่นที่สุดของดอยอินทนนท์ได้ปรากฏแก่สายตาผม ตั้งแต่เริ่มเดินเข้าสู่เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปานแห่งนี้ พื้นที่ป่าดิบเขาที่รายล้อมในระดับความสูงมากกว่าสองพันเมตรจากระดับน้ำทะเลสิ่งสำคัญที่ก่อให้เกิดป่าดิบเขาประเภทนี้ เนื่องด้วยสภาพภูมิอากาศที่หนาวเย็นและมีความชื้นสูงตลอดปี พื้นที่แห่งนี้จะมีเมฆหมอกปกความเกือบตลอดเวลา ซึ่งเป็ฯที่มาของคำเรียกขานป่าชนิดนี้ว่า ป่าเมฆ ตามต้นไม้ต่างๆ มีพืชที่ชอบความชื้นจำพวก มอส เฟิน ไรเคน และกล้วยไม้ป่าขึ้นอยู่อย่างเหนียวแน่น สายนทีคือสายใยแห่งชีวิต เกิดจากป่าดิบเขาที่มีการซึมซับและปลดปล่อยน้ำสู่ลำห้วย ลำธาร ![]() น้ำตากแห่งนี้คือน้ำตกลานเสด็จ ตั้งชื่อเรียกขานจากการเสด็จพระราชดำเนินเมื่อกาลก่อน เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น การสลายตัวของซากพืชจึงเป็นไปอย่างช้าๆ ทำให้สิ่งปกคลุมหน้าดินเปรียบเสมือนฟองน้ำดูดซับและเก็บกักน้ำไว้ในดิน นอกจากนั้นบรรดามอส เฟิน ยังทำหน้าที่ดูดซับความชื้นที่มากับเมฆหมอกและกลั่นตัวเป็นหยดน้ำลงสู่ดิน น้ำที่ใสสะอาดเกิดจากป่าบริเวณต้นน้ำยังอยู่ในสภาพดี ช่วงที่สองเส้นทางจะเข้าสู่ช่วงของทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ที่คอยเปลี่ยนสีจากสีเขียวขจึในช่วงฤดูฝนสลับกับสีน้ำตาลอ่อนอย่างพรั่งพร้อมในช่วงฤดูแล้ง ทุ่งหญ้าที่แลเห็นเบื้องหน้าในตอนนี้เป็นทุ่งหญ้ากึ่งอัลไพน์ ปกคลุมสันเขาและยอดเขาในระดับความสูง สันนิษฐานว่าการเกิดทุ่งหญ้าอัลไพน์เนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นตลอดปี และมีการแปรปรวนของแรงลมสูง จึงทำให้ไม้ใหญ่พืชป่าดิบเขาระดับสูงไม่สามารเจริญเติบโตได้ ![]() ผู้คนที่ได้มายืนอยู่กับตัวเอง ณ จุดชมวิว ทอดสายตาออกไปเบื้องหน้า คงรู้สึกไม่ต่างจากผม ว่าตัวเราล่องลอยหายไปที่ขอบฟ้าตรงนั้น ![]() ณ ที่แห่งนี้ นั่นเองที่เค้าเรียกว่า กิ่ว คือลักษณะของภูมิประเทศแบบสันเขาที่มีลักษณะเฉพาะตัว โดยบนสันเขานั้นจะแคบและมีไหล่เขาสองข้างลาดชันลงมาตามแนวสันเขา จากจุดชมวิว เดินไปตามทางเดินที่ลาดลงไปตามแนวสันเขา ทางเดินที่ลาดลงไปตามแนวสันเขา ลัดเลาะไปตามสันเขา มีทัศนียภาพที่สวยงามรอบด้าน เส้นทางที่ลัดเลาะไปตามสันเขา ช่างงดงามนัก เพลิดเพลินกับธรรมชาติที่ร้อยเรียงมาอย่างไม่ขาดสาย ในวันที่ฟ้าเปิดสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้ไกลถึงอำเภอแม่แจ่มในหุบเบื้องล่าง ![]() น้ำที่หล่อเลี้ยงพื้นที่เกษตรกรรมเบื้องล่างนั้นมาจากบริเวณห้วยทรายเหลืองและห้วยแม่ปานที่อยู่ในหุบข้างล่าง น้ำในห้วยจะไหลไปบรรจบกับน้ำแม่แจ่มและแม่น้ำปิงในที่สุด หล่อเลี้ยงชีวิตให้กับชุมชนสองฟากฝั่งตามวิถีทางที่เป็น ป่าไม้บนยอดดอยอินทนนท์เปรียบเสมือนฟองน้ำช่วยซึมซับน้ำและค่อยๆ ปลดปล่อยลงสู่ลำธารพื้นที่เกษตรกรรมและชุมชนเบื้องล่าง ถ้าวันข้างหน้าต้นน้ำลำธารบริเวณอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ กลายเป็นพื้นที่เกษตรกรรมทั้งหมด อีกหลายชีวิตมากมายเบื้องล่างคงจะมีชีวิตอยู่รอดได้ยาก จุดชมวิวที่งดงามอีกแห่งหนึ่ง ตามแนวสันเขา ![]() การเดินทางศึกษาธรรมชาติมีจุดมุ่งหมายให้ได้เรียนรู้ได้เข้าใจ และซาบซึ้งกับธรรมชาติ ถึงความสัมพันธ์ระหว่างสรรพสิ่งรอบตัวของเราที่เชื่อมโยงกันเป็นบ้านของธรรมชาติ การใช้เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน ต้องได้รับอนุญาตจากอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ในช่วงเดือน มิถุนายน-ตุลาคม ของทุกปี เส้นทางจะปิดเพื่อปรับปรุงให้ป่าฟื้นตัวจากการรบกวนของมนุษย์ เส้นทางมีความเปราะบางสูงมาก และง่ายต่อการได้รับผลกระทบจากมนุษย์ ![]() ในป่าใหญ่แห่งนี้เป็นบ้านของสิ่งทีชีวิตนานาพันธุ์ ทั้งพืชและสัตว์ ทุกตารางนิ้วของผืนป่ามีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ทั้งสิ้น จากพื้นดินจนถึงบนยอดไม้ นับสิ่งมีชีวิตได้หลายชนิด จุดสิ้นสุดการเดินทางในช่วงทุ่งหญ้าอัลไพน์ เป็นจุดที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของพระธาตุทั้งสององศ์ ![]() กลับเข้ามาสู่ป่าดิบอีกครั้งหนึ่งในช่วงท้ายของการเดินทาง เส้นทางวนกลับออกมาสู่ทางออกที่เดิม เวลาที่เดินไปข้างหน้า ทำให้ผมต้องจำใจจากอำลากิ่วแม่ปาน แต่ภาพงดงามเหล่านั้นจะอยู่กับตัวผมตลอดไป จวบจนวันนี้ ยามใดที่ย้อนความทรงจำกลับไป ยังอดยิ้มในใจไม่ได้ หากวันใดที่สายลมพัดหวล สัญญาว่าจะไปยืน ณ ที่แห่งนั้น บนเส้นทางแห่งรักอีกคราหนึ่งให้จงได้.... ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชม ทักทาย พูดคุยและเป็นแรงใจเสมอมา ถ่ายรูปสวยครับ รูปที่แอบซ่อนอยู่ก็ใหญ่จุตาดี น่าจะโชว์รูปแบบไซส์ใหญ่ไปเลย
ขอบคุณนะครับที่แวะไปเยี่ยมบล็อก ![]() ![]() โดย: yyswim
![]() ![]() เคยไปดอยอินทนน หลายสิบปี ..
อยากกลับไปอีก ..หาโอกาสอยู่ค่ะ.. หลายอย่างเปลี่ยนไปมากเลยค่ะ.. แวะมาเที่ยวด้วยค่ะ.. ![]() โดย: tifun
![]() อยู่ที่ตัวอำเภอแม่แจ่มก็มองเห็นพระเจดีย์ค่ะ
อาทิตย์ที่แล้วลูกเห็บเพิ่งตกด้วย ![]() ภาพสวยมากค่ะ โดย: tuk-tuk@korat
![]() สวยจังเลย *~..แวะมาทักทายจ๊ะ..ขอให้มีความสุข สดใส..หัวใจเบิกบาน..~* ![]() "ถ้าอ๊อกซิเจนทำชีวิตนี้ดำรงอยู่ได้ . . . ความรักก็ทำให้การมีชีวิตนั้นมีความหมายมากยิ่งขึ้น" ![]() ![]() โดย: *~ต้นกล้า...ของหัวใจ~*
![]() ภาพสวยมากค่ะ เสียดายภาพเล็ก คุณสินเลยจัดมาให้ซะเลย
ไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมานี้เองค่ะ กางเต็นท์แถวๆ ภาพที่ 2 แต่ที่พักแบบที่คุณบอกสวยดีค่ะ สะดวกสบายด้วย เฟอะฟะค่ะ ไม่รู้ว่าเค้ามีตรงนั้นด้วย ![]() เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา ไปเดินแล้ว 2 ครั้ง แต่กิ่วแม่ปานยังไ่ม่เคยไปซักครั้งเลยค่ะ *** ขอบคุณที่แวะทักทายกันค่ะ โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ
![]() ![]() เห็นไปทักทายรีบคลิกกลับมาเพราะคิดว่าอัพบล็อกใหม่แล้วซะอีกค่ะ แฮ่..
ขอบคุณที่ไปทักทายกันนะคะ ถ้ามีเวลากลับมาเขียนบล็อกนะคะ แล้วไปบอกกันนิดหนึ่ง จะได้มาอ่านเนาะ โดย: สาวไกด์ใจซื่อ
![]() ก่อนอื่นขอขอบคุณที่แวะไปเที่ยวทะเลชะอำ
และทักทายกันที่บ้านความฝันนะคะ ดอยแห่งนี้ยังไม่เคยขึ้นไปเลยค่ะ ภาพแรกสวยงามมากๆเลยนะคะ และก้อชอบภาพกิ่วแม่ปาน ที่มีสะพานยื่นออกไปค่ะ สวยมากๆ กดไลค์ให้นะคะ ![]() โดย: ดาวริมทะเล
![]() |
3KKK
![]() ![]() ![]() ![]() ![]()
|
ขอบคุณค่ะ ที่แวะเอาลิงค์ไปแปะให้
ภาพใหญ่เต็มๆตาเลยค่ะ ดีจัง
เคยเห็นชื่อล็อกอิน 3kkk รีวิวบ่อยๆมาตลอดๆ ในห้องบลูเหมือนกันค่ะ
แอบเข้าไปชมมาเรื่อยๆค่ะ
อยากไปกิ่วแม่ปานสักครั้งเหมือนกันค่ะ
แต่ยังไม่มีโอกาสเลย
ขอบคุณที่นำบรรยากาศมาฝากกันค่ะ