Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
7 กรกฏาคม 2551
 
All Blogs
 

##....... สโตน เฮนจ์ บทที่ 25 .......##




บทที่ 25




สโตนยืนตะลึงกับภาพที่อยู่เบื้องหน้า...


บ้านน้อยหลังหนึ่งตั้งอยู่บนชายหาดริมทะเล...
ตัวบ้านสองชั้นประดับด้วยหินสีเนื้อสีส้มและน้ำตาลอ่อนสลับกันตามธรรมชาติ หลังคากระเบื้องสีน้ำเงินสด อ่อนเข้ม วางไว้อย่างไม่จงใจ มุขจั่วหลังคาเล็กๆ พร้อมกระจกช่องแสงอยู่สองด้านหลังคา บานหน้าต่างเลียนแบบบ้านจากต่างประเทศ ประกอบด้วยบานหน้าต่างตารางช่องกระจกจริง และบานเกร็ดไม้สีน้ำเงินประดับสองข้าง รางกระถางดอกไม้สีชมพูใต้บานหน้าต่าง ตัดกับม่านสีฟ้าน้ำทะเลสด

ทางเข้าบ้านทำเป็นมุขยื่นออกมาจากตัวบ้าน มีจั่วหลังคาสีน้ำเงินเช่นเดียวกัน ประตูบ้านเป็นประตูไม้กรอบโค้งสีเขียวสดอยู่ระหว่างเสากึ่งโรมัน ลานหินเล็กๆ และบันไดสองขั้นสีเดียวกับอิฐตัวบ้าน


“บ้านโทเหมือนบ้านตุ๊กตา” สโตนเดินมือระรั้วไม้แผ่นโตสีขาว ปักห่างๆ สูงระดับเอว..ดอกผักบุ้งทะเลขึ้นอยู่โคนรั้ว

“ไม่ใช่บ้านของผมหรอกครับ บ้านแม่..หึ..หึ..” โทหัวเราะอารมณ์ดี “แม่สร้างตามโปสการ์ดรูปเขียนวันปีใหม่น่ะครับ ดูหน่อมแน้มไปหน่อยใช่ไหม?” โทเดินนำสโตนไปนั่งริมสระน้ำเล็กๆ สีฟ้าใสแข่งกับน้ำทะเลที่ซัดซ่าอยู่หน้าบ้าน

“น่าอยู่มากครับ..ทำไมเหมือนไม่มีใครอยู่ล่ะ?” สโตนเหลียวกลับไปมองบ้านอีกครั้ง

“แม่มัวแต่ค้าขายอยู่ในเมือง ส่วนผมก็ง่วนกับงานที่โรงแรม..” โทหันมายักคิ้วยิ้ม “บ้านบนสะพานไม้หลังนั้นไงที่ผมไปขลุกอยู่เป็นประจำถ้าเหนื่อยจากงาน บ้านนี้ออกจะไกลสักหน่อยและต้องระมัดระวังดูแล ผมจึงไม่ค่อยมา..คนอื่นก็เหมือนกัน”

“อ้าว!..ผมก็ละลาบละล้วงนะสิ เจ้าของบ้านเขาไม่มาสักหน่อย ผมถือวิสาสะอยู่เฉยเลย” สโตนพูดทีเล่นทีจริงกับทะเล

“เจ้าของบ้านยืนอยู่นี่แล้วไง มองไม่เห็นหรือ..” จู่ๆ โทเข้ามายืนขวางระหว่างสโตนกับทะเล “ถามจริง!..หนีอะไร หนีใครมาหรือ?”

“ปล่าว..” สโตนหลบตาต่ำ ลุกขึ้น เลี่ยงเดินไปที่ตัวบ้าน “กำลังหนีตัวเอง...จะไม่พาผมเข้าบ้านหรือไง?” สโตนแกล้งเปลี่ยนเรื่อง

“ขอโทษ..ที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องของผม” โทหันหลังกลับ “เดี๋ยวก่อนนะ!” เขาวิ่งไปที่รถ...กลับมาพร้อมสัมภาระและอาหารสดแห้งหลายถุง

“เออ!..ผมนี่ไม่ได้เรื่องจริงๆ..” สโตนรับของจากโทที่หิ้วพะรุงพะรัง “มาทำให้คุณเดือดร้อน”

“ไม่..ไม่..” โทปฏิเสธขึงขัง “ผมจะได้หาเรื่องให้ตัวเองพักผ่อนบ้าง..ความจริงงานที่โรงแรมก็พอปล่อยได้ แต่อดเป็นห่วงไม่ได้ มันมีจุดรั่วไหลน่ะ” โทไขกุญแจเปิดประตูบ้าน “เข้ามาสิครับ” เขาพยักหน้ากับสโตนที่ยืนเฉยอยู่

ไม่ใช่เพียงเพราะความเกรงใจ แต่สโตนบอกกับตัวเองว่า เขากำลังเข้ามาพัวพันกับอีกชีวิตหนึ่งซึ่งอาจจะมีทั้งเรื่องดีและไม่ดีเกิดขึ้น..เขาสังหรณ์ใจ



“วันนั้นที่ตลาด..โตนคิดยังไงถึงได้ทำขนาดนั้น?” โทถามขึ้นขณะกำลังนั่งกินอาหารเย็นริมหาด

“ทำอะไรหรือ?” สโตนลืมเรื่องที่ตลาดไปแล้ว เพราะมีเรื่องอื่นเข้ามาในชีวิตไม่เว้นวัน

“ช่างเถอะ..” โทลุกขึ้นจากโต๊ะกินข้าวที่เขากับสโตนช่วยกันยกมาตั้งใต้ต้นไม้ริมหาด “ผมเองไม่เคยทำอะไรอย่างนั้น...พวกเราตั้งใจแกล้งให้โตนตกใจเล่น แต่ผมกลับตกใจซะเอง..หึ..หึ” โทพูดเรื่องที่ตลาดต่อ เมื่อเห็นสโตนเดินตามมา

“อ๋อ!..หึ..หึ..ผมก็เพิ่งเคยครับ..มันเป็นเรื่องของธรรมชาติ ใครๆ ก็ต้องทำ ใครๆ ก็ทำกัน ไม่ใช่หรือ?” สโตนเตะทรายเล่นแก้เขิน

“ไม่ต้องแกล้งทำก็ได้..ผมรู้..”

“รู้อะไร?” สโตนสวนกลับทันที

“รู้แล้วกันละน่า..ฮะ..ฮะ..ฮะ..” โทวิ่งหนีสโตนเหมือนเด็กๆ

“ผมไม่วิ่งตามนะ!..เดี๋ยวจุก กินอาหารที่โททำไปเยอะ” สโตนตะโกนตามหลังโทที่วิ่งเลยไปไกล


สโตนทิ้งตัวลงนอนบนพื้นทราย...แหงนหน้ามองฟ้าสีคราม สูดอากาศเข้าเต็มปอด..เสียงนกร้องเว๊กๆ บางตัวบินโฉบฉวัดเฉวียนไปมา สโตนมองท้องฟ้าจนรู้สึกเหมือนตัวลอยขึ้นไปบนนั้น..เขาหวนคิดถึงหลายๆ คนในชีวิตของเขา


“ลาย...คุณอยู่ที่ไหนนะ ทำอะไรอยู่ ผมคิดถึงคุณ” สโตนคิดถึงลายนอข่อแห่งบ้านอุ้มผางคี...ครั้งสุดท้ายที่พบกันเขาตัดสินใจจะอยู่ที่นั่นตลอดไป แต่เพราะอะไรหรือเพราะใครไม่รู้พรากเขามาโลกปัจจุบันอย่างที่เขาไม่มีวันกลับไปได้อีก “ลาย..ผมรักคุณ” สโตนพึมพำ

“พรื้บ!” นกตัวหนึ่งโฉบลงมาเกือบถึงตัวสโตน

“เฮ้ย! ข้ายังไม่ตายนะโว้ยแก..หึ..หึ” สโตนทักทายนกตัวนั้นอย่างอารมณ์ดี “หรือเราตายไปแล้ว!” จู่ๆ สโตนนึกถึงตัวเองแบบแปลกๆ


“ศักดิ์...เป็นอย่างไรบ้าง..บางทีผมก็ลืมคุณไปได้เหมือนกัน..คุณแก่ไปมากนะ มีใครอยู่เป็นเพื่อนหรือเปล่า..ศักดิ์ครับ” สโตนน้ำตาซึมออกมาไม่รู้ตัว


“ลายคราม คุณหมอวารุณี ลดาวัลย์...พวกคุณดีกับผมทุกคน ถึงแม้ผมยังไม่เข้าใจในหลายๆ เรื่องที่เกิดขึ้น..ผมหนีมาเพราะไม่อยากให้พวกคุณหมางใจกันเพราะผม”


สโตนเลื่อนศอกขึ้นขนานกับหัวไหล่ มือปิดตาทั้งสองข้างเหมือนไม่อยากนึกเห็นภาพคนที่เขาจะพูดถึงอีกคน “ลายลักษณ์...ตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยพลาดพลั้งกับใครเลย คุณทำผมเจ็บ แต่ผมก็โกรธคุณไม่ลง..ไม่กี่วันก่อนคุณยังเป็นหนุ่มน้อยเดินตามผมต้อยๆ แต่ทุกวันนี้คุณเหมือนวายร้ายที่จ้องจะฉีกเนื้อผมกิน!”


“น้ำทะเลขึ้นจนถึงปลายเท้าแล้วยังไม่รู้สึกตัวอีก” โทซึ่งนั่งฟังอยู่ใต้ต้นมะพร้าวร้องบอก...เขาไม่อยากได้ยินเรื่องส่วนตัวของสโตนมากไปกว่านี้..เท่าที่ได้ยินก็มากเกินพอ

“โอ๊ะ!..โทมาตั้งแต่เมื่อไหร่?” สโตนกระดกตัวขึ้นนั่ง

“เพิ่งมา” โทโกหกหน้าตาเฉย

“ได้ยินอะไรหรือเปล่า?” สโตนหน้าเจื่อน

“เงียบๆ อย่างนี้ใครพูดอะไร ได้ยินไปตลอดแนวหาดน่ะแหละ” โทตอบทีเล่นทีจริง “ได้ยินพึมพำว่าจะกินเนื้อใคร..อะไร!..เพิ่งกินข้าวเสร็จหิวอีกแล้วหรือ?” โทแกล้งพูดตลกกลบเกลื่อน

“โทหูไม่ดี..ฮึ..ฮึ” สโตนโล่งใจ

“จะว่าอะไรไหมถ้าผมจะปล่อยให้คุณอยู่คนเดียว..” ไม่รู้อะไรทำให้โทคิดและพูดออกมา “กลัวไหม?” โทลงนอนข้างสโตน

“อ้าว!..ไหนว่าจะมาพักผ่อนไง?” สโตนตะแคงกายชะเง้อถาม

“ผมเพิ่งนึกได้ว่ามีงานค้างอยู่อย่างหนึ่ง..ตอนโตนมาผมดีใจจนลืมหน้าที่..หึ..หึ..ผมเพิ่งรู้” โทตอบแปลกๆ แต่สโตนไม่ได้เฉลียวใจ

“นี่มันเย็นมากแล้ว โทไปพรุ่งนี้แต่เช้าไม่ดีหรือ อยู่เป็นเพื่อนผมสักคืน..ก็ไม่ได้กลัวนะ แต่มันยังไงไม่รู้” สโตนมองโท..ลูกแก้วสีน้ำเงินส่งประกายจ้าสะท้อนสีฟ้าน้ำทะเล

“หรือว่า..” โทเริ่มใจอ่อนเมื่อเห็นปึกขนตาและสายตาอ้อนวอน “ความจริง..ผม..” ความจริงโทงอน นึกน้อยใจที่ได้ยินคำรำพึงรำพันของสโตนเมื่อครู่..เขาผิดหวัง เข้าใจผิด คิดว่าสโตนคือหนุ่มใสๆ ไม่ใช่คนที่ผ่านชีวิตมามากมายอย่างที่เขาได้ยินและนึกภาพตามคำรำพันนั้น

“ตกลงไม่ไปแล้วใช่ไหม..” คิ้วเข้มเลิกขึ้นพร้อมกับประกายขาวของฟัน “ดีจังครับ!” สโตนหงายหลังลงนอนกับพื้นทรายอย่างเดิม “ฮู้ว ว ว . .”

“โตน...” โทพลอยยิ้มกับท้องฟ้าสีคราม...



“ดึกแล้วเข้านอนกันดีกว่านะ” โทและสโตนนั่งดูทีวีอยู่หน้าเตาผิงที่มีฟืนและเปลวไฟเทียม

“ผมก็ง่วงเหมือนกัน..หาว..เฮ้อ..” สโตนล้มตัวลงนอนบนพรมหน้าเตาผิง

“ใครว่าให้นอนตรงนี้..ไป!..ขึ้นข้างบนกัน..” โทเดินปิดไฟตำแหน่งต่างๆ เดินนำขึ้นบันได “โตน..”

“หือ..” สโตนเดินตาม ง่วงมากเหมือนกัน

“บอกให้อย่างหนึ่ง..” โทเหลียวดูสโตน “เวลากลางคืนถ้าได้ยินเสียงอะไรหรือมีใครเรียกอย่าเปิดประตูออกมานะ”

“หา!..ที่นี่มีผีเหรอ?” สโตนหยุดอยู่กลางบันได

“ไม่มี..ผมพูดเผื่อไว้น่ะ” โทมีสีหน้าแปลกๆ จะขำก็ไม่ใช่ ออกไปทางเครียดมากกว่า “นี่คือห้องของคุณนะ ผมหยิบเป้ขึ้นมาไว้ตั้งแต่ตอนเย็นแล้วไม่สังเกตหรือว่าเป้หายไป..ไม่ได้เรื่องเลยคุณ!”

“เออใช่...ผมคงง่วงมากไปหน่อย” สโตนล้มบนชุดนอนที่พาดอยู่บนที่นอน

“เอ้ย!..อาบน้ำก่อนสิ ผมเตรียมชุดนอนไว้ให้แล้ว” โทเขย่าร่างสโตนที่นอนนิ่งอยู่ “ลุกไปปิดประตูก่อน..เร็วเข้า..” โทโยกร่างสโตนที่หลับลงรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ “โตน..” โทตบแก้มสโตนเบาๆ ให้ตื่น

“หือ..” สโตนคว้ามือโทที่อยู่บนแก้มเข้าไปกอด “ลาย..”

“ลาย..ลาย..หลายครั้งแล้วนะที่ผมได้ยินชื่อนี้” โทพึมพำ..ตบแก้มแรงขึ้น

“เฮ้ย!” สโตนรู้สึกตัวสะดุ้งตื่นทั้งๆ ยังกอดมือโทอยู่ “อะไรนี่!” เขารีบปล่อยมือโทออก หายงัวเงียเป็นปลิดทิ้ง

“ปิดประตูก่อนแล้วค่อยนอน..” โทเดินไปรอสโตนที่ประตูห้อง “เร็วเข้า!..เดี๋ยวผีออกอาละวาดนะคุณ”

“เดี๋ยวๆ..มาแล้วครับ..” สโตนรีบลุกขึ้นไปที่ประตู “ตกลงมีผีใช่ไหม?”

“อือ..มี..” โทยิ้มเจ้าเล่ห์ “ปิดประตูแล้วล็อกซะ ใส่กลอนด้วยนะเผื่อผีมันจะมีกุญแจ..หึ..หึ” โทรอจนได้ยินเสียงสโตนล็อกและลงกลอนประตูจึงเดินไปห้องของเขา “จะผีที่ไหนล่ะ..หึ..หึ..ก็ผีนายโทตัวนี้ไง นายโตนเอ๊ย” โทพึมพำ



“ทำไมโตนดึงมือเราไปกอด..เขาคิดอะไรกับเราหรือ?” โทนอนกระสับกระส่ายคิดถึงเหตุการณ์ที่ห้องสโตน...ดึกมากแล้วแต่โทนอนไม่หลับ เขาไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเขา

เมื่อก่อน..ก่อนที่จะพบสโตนเขาไม่เคยเป็นอย่างนี้ ความรู้สึกส่วนตัวของเขาตรงไปตรงมาเป็นปกติเช่นชายหนุ่มทั่วไป แต่เมื่อได้เห็นความอ่อนโยนมีน้ำใจที่สโตนมอบให้แสงเดือนน้องสาวของเขา โทรู้สึกทึ่งในตัวหนุ่มลูกครี่งคนนี้ แต่ก็ยังไม่ได้คิดอะไรมาก

“ปี๊บๆ” เสียงมือถือดังขึ้นสกัดกั้นความคิดเกี่ยวกับสโตน โทกดสายทิ้ง...จนเมื่อเขาได้พบสโตนอีกครั้ง ได้ใกล้ชิด ได้ช่วยเหลือในเวลาต่อมา..จนเดี๋ยวนี้...เขายอมรับว่าไม่สามารถลบภาพดวงตาสีน้ำเงินใสที่มองเขาอย่างบริสุทธิ์ใจออกไปได้ มันรบกวนใจเขาตลอดมานับตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็น..ความรู้สึกนั้นคืออะไร!

“ปี๊บๆ” มือถือดังขึ้นอีก โทซุกเข้าใต้หมอน หยิบผ้านวมทับอีกชั้นหนึ่ง “ตีสองตีสามแล้วจะโทรฯ เรื่องอะไรกัน”

โทลุกจากเตียงเดินไปหยุดที่ประตูห้อง “โตนไม่ใช่เด็กๆ แล้ว คงเข้าใจและพูดคุยเรื่องเหล่านี้ได้” โทเปิดประตูห้อง..เขานึกถึงภาพสโตนนอนพูดกับตัวเองที่ริมหาดเมื่อเย็นนี้..ถ้อยความเกี่ยวกับความรักของสโตนที่ได้ยินทำให้เขารู้สึกหวงและน้อยใจสโตนอย่างไม่มีเหตุผล และไม่สมควรจะเกิดขึ้น

กว่าจะรู้ตัว โทก็มาหยุดยืนอยู่หน้าห้องสโตน..เขาเกิดความปรารถนาขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

“ก๊อก..” โทชะงักกับเสียงเคาะประตูครั้งแรก “ทำไมดังจัง” โทค้างมือไว้ ไม่แน่ใจในสิ่งที่กำลังทำ..สโตนเป็นผู้ชาย เขาก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน..ทำไมเขาถึงทำอย่างนี้!

“ก๊อก..ก๊อก..” โทยอมแพ้ความปรารถนาที่เข้าครอบงำ “น่า..ก็แค่คุยกันเพราะนอนไม่หลับจะเป็นอะไรไป”

“ก๊อก ก๊อก ก๊อก..” โทเคาะประตูห้องอย่างไม่ลังเล

“อือ..อือ..” เสียงสโตนขานรับมาจากในห้อง “คราย..อือ..” เสียงเครือทุ้มต่ำลอดบานประตู

“ปะ..เปล่า..” โทลังเลอีกครั้ง เงี่ยหูฟัง หยุดชั่งใจ

“ใคร..หือ!..” เสียงสโตน...เสียงผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังงัวเงีย...ความรู้สึกของโทสะดุดลงกับความจริง..ที่ได้ยิน

เสียงสโตนหายไป เหลือแต่ความเงียบ..เสียงคลื่นซัดทรายแผ่วมา...


“บ้าจริงเรา!” โทสบถ...หันหลังกลับห้องของตัวเอง






 

Create Date : 07 กรกฎาคม 2551
2 comments
Last Update : 16 พฤษภาคม 2552 12:33:05 น.
Counter : 1681 Pageviews.

 

ตอนนี้มันส์หยดติ๋งเลยคะ

กระชับ ฉับไว เรื่องราวดีมากๆ

ว่าแต่ว่า หนุ่มๆนายแบแต่ละคน ทำมายยย ถึงได้หล่อหยาดเยิ้มกันทั้งนั้นเลยหละคะ

เฮ่อ!! เห็นแล้วอยากกลับถอยหลังไปอีก 20 ปี

ฮ่า ...............

ปล.
จะตามไปเก็บ ปริศนามาตานะคะ ^__^

 

โดย: sandhurst IP: 58.10.131.121 8 กรกฎาคม 2551 16:09:07 น.  

 

มาหลายรอบละ คุณดีนหายไปไหน ตอนนี้ป้ายุ่งหัวมาก(เป็นกรรมกรในที่ทำงานง่ะ) มีอารมณ์เศร้าเกินพิกัด แต่ว่าพอเห็นนายโตน(ตาสีน้ำเงิน) ค่อยหัวโปร่งหน่อย ..อิๆๆ (หัวงูออกอีกแล้ว)
งานเลี้ยงใกล้เลิกลาแล้วแม่นก่อเจ๊า...ที่ถามเพราะว่าสังเกตนายโตนรู้สึกจะเศร้าเหลือเกิ้น...อ้อ ลืมบอก เขียนได้ดีค่ะ จิงๆๆ

 

โดย: ป้าลี IP: 117.47.223.215 15 กรกฎาคม 2551 12:00:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ดาเรน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดาเรน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.