Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2551
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
25 พฤษภาคม 2551
 
All Blogs
 
##....... สโตน เฮนจ์ บทที่ 18 .......##




บทที่ 18




เป็นเวลาโพล้เพล้มากแล้วที่ลายแบกหินล่อออกจากชายป่า...เขานึกไม่ถึงว่าหินล่อจะตกใจกลัวมากขนาดนั้น เขาแค่อยากให้หินล่อรับรู้ความจริงเกี่ยวกับเขา เพราะมั่นใจว่าหินล่อจะต้องเป็นของเขาและอยู่กับเขาที่อุ้มผางคีนี้ตลอดไป


“อ้าว!..ลายแบกใครมา?”
ครูนีร้องทักแต่ไกล

“หินล่อน่ะครับ เป็นลมอยู่ในป่า ผมไปพบเข้าจึงแบกออกมา” ลายพูดจริงบ้างไม่จริงบ้างผสมกัน เขาแบกร่างหินล่อขึ้นบนเรือนและพาเข้าไปวางไว้ในห้องด้านที่เคยนอน

“ฉันจะช่วยปฐมพยาบาลให้..ลายติดไฟต้มน้ำหน่อยนะ” ครูนีขันอาสาอย่างเต็มใจ ตรงไปที่หิ้งยาประจำบ้านหยิบสำลีจุ่มน้ำยาสมุนไพรชนิดหนึ่งกลิ่นฉุน แกว่งไปมาใต้จมูกสโตน...สักพักสโตนได้สติ ลุกพรวดพราดขึ้นนั่ง

“ลาย!”สโตนร้องออกมาทั้งยังหลับตา

“ลายกำลังต้มน้ำอยู่นั่นไง” ครูนีรู้สึกเวทนาในความสัมพันธ์ของคนทั้งสองเธอนึกว่าสโตนร้องขอความช่วยเหลือจากลาย

“ดีขึ้นแล้วหรือหินล่อ..” ลายผละจากเตาไฟเดินมาที่สโตน “ เข้าไปทำอะไรในป่าถึงเป็นลมอยู่อย่างนั้น ผมไปพบเข้าจึงแบกออกมา” ลายยกมืออังหน้าผาก..สโตนกระเถิบหนี “หึ..หึ..เป็นอะไรไป ตัวร้อนนะคุณ สงสัยเพี้ยนเพราะพิษไข้..หึ..หึ”

“ลายอย่าไปแหย่หินล่อเลย ถ้าทางจะไม่สบายจริงๆ ฉันจะเช็ดตัวให้ ลายไปต้มข้าวไป๊” ครูนีไล่ลายไปทำอย่างอื่น รู้ดีว่าลายชอบกระเซ้าเย้าแหย่

“ผมไม่ได้เป็นอะไรครับ” สโตนพูดออกมาเป็นครั้งแรกหลังจากพิจารณาสิ่งที่เขาเห็นและได้ยินการสนทนาระหว่างลายและครูนี...สโตนชักไม่แน่ใจว่าสิ่งที่พบในป่าหลังบ้านนั้นเป็นเรื่องจริงหรือฝันไป..ก็ลายแท้ๆ ที่จับหน้าผากเขาเมื่อสักครู่ ก็ลายแท้ๆ ที่ต้มน้ำต้มข้าวให้เขา แล้วลายจะไม่ใช่คนจริงๆ ได้อย่างไร...ในส่วนลึกของจิตใจเขาอาจคิดระแวงสงสัยจึงทำให้เห็นภาพเหล่านั้น..แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ดูเป็นจริงมาก..พรุ่งนี้..พรุ่งนี้เขาจะชวนครูนีเดินเข้าไปดูในป่าอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ


ตกค่ำ...ลาย สโตนและครูนีนอนอยู่ในห้อง...ทั้งสามคนมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน ไม่เหมือนคืนที่เลี้ยงฉลองบ้าน ลายนอนห่างจากสโตนไปหน่อย ครูนีนอนอยู่ในฝั่งของผู้หญิง..ที่เหมือนกันกับคืนนั้นไม่ผิดเพี้ยนคือจิตใจที่ว้าวุ่นของคนทั้งสาม

สโตนนึกถึงคำพูดของลายเมื่อเย็นนี้ที่ท่าน้ำ “คอยดู! ถ้าวันนี้ครูนีมา ผมจะทำให้หินล่อรู้ว่าหมายความว่าอย่างไร” ลายหมายความว่าอย่างไร และจะทำอะไร...สโตนเหลือบดูเห็นลายยังนอนนิ่งอยู่เช่นเดิมรวมทั้งครูนี..หรือจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น..หรือเพราะเขาคิดกังวลไปเอง..หรือลายพูดเพียงเพร า ะ.....ในที่สุดสโตนก็ผลอยหลับไป


ด้วยความหนาวเย็นของอากาศตอนดึก สโตนตี่นขึ้นเพราะปวดฉี่ เขาลุกขึ้นค่อยๆ ย่องออกจากห้องเพื่อไปปลดทุกข์...ขณะกำลังลงบันไดบ้าน ลายเดินตามมา

“จะไปไหน?” ลายถามพร้อมกับส่งเสื้อกันหนาวให้

“ไปฉี่” สโตนตอบห้วนๆ “ตามมาทำไม?”

“ฉี่เหมือนกัน” ลายตอบหน้าตาเฉย

“ที่ไหนดี” สโตนนึกอายเจ้าของบ้านที่เขาตั้งใจจะปล่อยฉี่แถวๆ พุ่มไม้

“ที่ไหนก็ได้ ส้วมอยู่ไกล ตรงไหนก็ได้ตามสบาย ไม่ตามไปหรอก”

“อือ..” สโตนเดินเข้าพุ่มไม้

เมื่อเสร็จธุระออกมาสโตนไม่เห็นลายอยู่แถวนั้นแล้วจึงขึ้นบ้านตั้งใจจะไปนอนต่อ แต่ต้องสะดุดกึกเพราะถูกลายฉุดแขนให้ไปนั่งที่ม้านั่งริมชานบ้าน

“จะทำอะไร?..” สโตนถามลายที่หยิบผ้าขึ้นพันหัวของสโตนอย่างลวกๆ

“ยิ่งไม่มีผม...ดึกๆ อย่างนี้น้ำค้างแรง ลืมแล้วหรือว่าเมื่อหัวค่ำยังไม่สบายอยู่เลย”

“ในเมื่อรู้ดีแล้ว ลายดึงผมมานั่งตรงนี้ทำไม” สโตนได้ทีหาเหตุผลที่จะเลี่ยงเข้าบ้าน

“มีเรื่องอยากคุยด้วย” ลายเขยิบเข้าเบียด คว้าแขนสโตนไปกอด “อุ่นจัง...ขอถามหินคำเดียวแล้วจะไม่เซ้าซี้อะไรอีก..แต่ต้องตอบตามความจริงนะ” ประกายตาของลายแวววามในความมืด

“อือ..อะไรหรือ?” สโตนกลัวจะเป็นคำถามที่เขาตอบไม่ได้

“คือ...หิน..หินเคยรักผมบ้างไหม?” ลายเลื่อนมือ กุมมือสโตนแน่น

“ลายไม่รู้จริงๆ หรือ..ที่ผมทำอยู่ทุกวันนี้ ลายดูไม่ออกหรือ?”

“ก็พอจะรู้นะ แต่หินไม่เคยบอกไม่เคยพูดให้ผมแน่ใจเลย..ผมเสียอีกทั้งพูดทั้งทำให้หินรู้ว่าผมรักหินแค่ไหน”

“ความรักเป็นเรื่องของใจ ถึงไม่พูดออกมาถ้ารักกันแล้วย่อมรู้ดีทั้งสองฝ่าย”

“แต่..การกระทำก็เป็นเรื่องสำคัญนะ ถ้ารักแล้วไม่พูดไม่ทำอะไรเลยอีกฝ่ายก็คงสงสัยและไม่แน่ใจไปตลอดชีวิต” ลายพูดต่อทันทีเมื่อเห็นหินนั่งนิ่ง “ผมไม่ได้พูดเรื่องสกปรกกับหินนะ..แต่จำได้ไหมว่าเราไม่เคยทำอะไรอย่างที่คนรักเขาทำกัน มีแต่ผมที่แอบกอดแอบหอมหิน..หอมนะไม่ใช่จูบ..ส่วนหินไม่เคยเลยที่จะทำอะไรกับผม แม้แต่กอดสักครั้งก็ไม่เคย..” ลายก้มลงจูบมือสโตน

“จะให้ผมทำอย่างไรเพื่อตอบแทนความรักของลายล่ะ?” สโตนรู้ตัวว่ากำลังจะจนกับเหตุผลที่ลายอ้าง

“แค่พูดว่า รัก กับผมสักคำ...นะ” เสียงลายอู้อี้เพราะยังแนบหน้าอยู่กับมือของสโตนซึ่งอึ้งกับคำขอร้องของลาย

“ไม่รักผมหรือ?” ลายนิ่งรอฟังคำตอบ

“ฮื่อ..ผมรักลาย” สโตนตัดสินใจบอกความรู้สึกที่อยู่ในใจเขาตลอดมา “เข้าบ้านกันเถอะผมหนาวแล้ว” สโตนโอบตัวลายที่ทอดอยู่บนตัก

“คำนี้เองที่ผมรอมานาน..” ลายยื่นหน้าหอมแก้มสโตน ลุกขึ้นจูงเข้าบ้านแต่โดยดี


เมื่อก้าวเข้าบ้าน สโตนเหลือบมองครูนีอย่างรู้สึกผิด เหมือนแอบไปทำสิ่งไม่ดีมา...แต่แล้วเขาก็อดตกใจไม่ได้แม้จะเคยเห็นภาพนั้นมาแล้วก็ตาม..สโตนดึงลายออกจากบ้านอีกครั้ง

“ขอถามลายสักคำ...ตอบมาตามความจริง แล้วผมจะไม่เซ้าซี้ถามอีกเลย” สโตนทวนคำพูดของลาย..ทั้งคู่กลับมานั่งม้านั่งตัวเดิม

“หึ..หึ..ย้อนคำพูดผมนะนี่” ลายอารมณ์ดี “จะตอบทุกอย่างหมดหัวใจ”

“อย่าทำเป็นเล่นสิ ผมจริงจังนะกับคำถามนี้”

“ว่ามา” ลายวางมือสโตนบนมือเขา ตบเล่นเบาๆ

“เมื่อกี้ผมเห็นลายนอนกอดครูนีอยู่ในห้อง..หมายความว่าอย่างไร..เป็นไปได้อย่างไร” สโตนจ้องหน้าลาย “อยากรู้ว่าหัวใจของลายทำด้วยอะไรกันแน่?”

“เดี๋ยวๆ..ถามทีละเรื่องซิ ตอบไม่ทัน” ลายหยุดมือ สีหน้าเครียด “ผมเคยบอกหินว่าครูนีรักผม ส่วนผมนั้นแค่สงสาร เห็นใจ และรู้สึกต้องตอบแทนบุญคุณที่ครูนีมีเมตตา..ผมนอนกอดครูนีอย่างนั้นมาตั้งนานแล้ว แค่กอด ไม่เคยทำอะไรเกินกว่านั้น แม้ว่าบางครั้งครูนีต้องการให้ผมมีรัก..แต่ครูนีรู้ดีว่าผมทำไม่ได้”

“ฮึ!..” สโตนฮึดฮัดกับสิ่งที่ได้ยิน

“และ..” ลายพูดต่อ “ผมขอสารภาพว่าบางครั้งผมก็อยากทำเหมือนกัน..แต่..ทำไม่ได้”

“ไม่จริง!” สโตนเสียงเฉียบ “ใครจะทนได้ อยู่กันสองคนอย่างนั้น..ลายก็เพิ่งสารภาพออกมาว่าอยากอยู่แล้วนี่..ไปซิ!..จะมานัวเนียอยู่กับผมทำไม จะลากผมมาที่อุ้มผางคีนี้ทำไม!” สโตนหลุดคำตัดพ้อเกรี้ยวกราดออกมาอย่างไม่เคยเป็น..ลุกขึ้นเดินลงจากบ้าน

“จะไปไหน..กลับมาก่อน!” ลายตะครุบตัวสโตนไว้ได้ก่อนที่จะถึงบันได “มานี่!” ลายกอดสโตนแน่นเหมือนงูเหลือมรัดเหยื่อ “จำได้ไหมที่ผมพูดเมื่อตอนเย็นว่าผมจะทำอะไรให้หินดู...ผมคงต้องทำจริงๆ เพื่อหินจะได้เข้าใจผมสักที” ลายกอดสโตนแน่นขึ้นอีก


ก่อนที่สโตนจะคิดอะไรได้ เขาก็เข้ามาอยู่ในห้องโดยมีลายนอนกอดแน่นอยู่อย่างนั้น และแน่นขึ้นอีก แน่นขึ้นอีก...ยิ่งกว่ากอด..ลายทำสิ่งที่สโตนไม่นึกว่าลายจะกล้าทำ เขาจับมือสโตนเลื่อนไปที่..เป้าของเขา..จับหน้าสโตนให้หันไปสบตา...แววตาของลายที่ปรากฎไม่ใช่คนที่กำลังมีความกระสัน แต่เป็นแววตาของความสะใจ..สะใจในสิ่งน่าอับอายที่เขากำลังเปิดเผยให้สโตนได้รับรู้

ทำไมจะไม่น่าอาย!...เป้าที่สโตนกำลังสัมผัสอยู่นั้นไม่มีอะไรที่ควรจะมีอยู่..มันราบเรียบ..ไม่มีอะไรเลย

“ทีนี้เชื่อหรือยังว่าผมไม่เคยมีอะไรกับครูนีเลย..เชื่อหรือยัง!” ลายบีบมือสโตนอย่างแรง แค้นใจในความพิการของตัวเอง

“ผม...” สโตนอึ้ง ไม่คิดว่าจะได้พบความจริงอันอับยศของลาย “เมื่อก่อนนี้ที่ผมเคยทาแป้งให้ลาย..” สโตนนึกถึงเมื่อครั้งเขาทำความสะอาดร่างกายให้ลายตอนไม่สบายเพราะตกจักรยานเสือภูเขาที่ช่องเย็น

“ผมเพิ่งเสียไปเมื่อคราวหล่นลงมากับน้ำหลากคราวนั้น...ครูนีรู้ดี” ลายเสียงอ่อน

“แสดงว่าครูนีเป็นคนดี รักลายอย่างแท้จริง” สโตนหันไปมองครูนี “ลายควรมอบใจและดูแลเธอให้ดี...ถ้าจะมีใครสักคนที่อยู่กับลายจนตลอดชีวิตละก็ คนๆ นั้นควรเป็นครูนี..ไม่ใช่ผม” สโตนพูดจากใจที่ใคร่ครวญแล้วอย่างดี

“แต่ผมรักหิน..ไม่ได้รักครูนี” ลายเริ่มกอดสโตนอีก

“ความรักกับความเป็นจริงบางทีมันไปกันไม่ได้..” สโตนหยุดชั่งใจ “ลายรักผมได้ แต่จริงๆ แล้วเราอยู่ด้วยกันไม่ได้..ความจริงลายไม่ได้รักครูนี แต่ลายอยู่กับครูนีได้ตลอดชีวิตอย่างมีความสุข..เชื่อผมสิเด็กน้อย” สโตนลืมไปว่าเด็กน้อยคือคำอันตรายถ้าเขาใช้กับลาย

“เด็กน้อยใช่ไหม!..ดูหมิ่นผมใช่ไหมที่รู้ว่าผมพิการ..ผมเป็นเด็กน้อยใช่ไหม..ฮึ!..อย่านึกนะว่าผมไม่มีอะไรแล้วจะทำอันตรายหรือให้ความสุขใครไม่ได้” ลายกลับเปลี่ยนทีท่า..กระเหียนกระหือ ฟึ๊ดฟัดเข้าใส่สโตน

“ลายจะทำอะไร!” สโตนตกใจกับการกระทำของลาย

“ถึงกับครูนีผมก็ทำได้ถ้าผมคิดจะทำ...นี่ไงที่ผมบอกว่าจะทำให้ดู.. คอยดู..คอยดู!” ลายยั้งใจไม่ได้เสียแล้ว เขากอดรัดสโตนอย่างเมามัน


จู่ๆ ไฟในเตากลางบ้านที่มอดเหลือแต่ถ่านก็ลุกโพลงขึ้นมาอีก


“ไม่ต้องตกใจ..นั่นละผีบ้านผีเรือน ท่านคงกำลังเตือนสติผม” ลายพูดงึมงำแต่ไม่หยุดซุกไซ้สโตน

“ไม่ดีนะลาย” สโตนพยายามอยู่นิ่งๆ ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างที่เคยได้ผลในการหยุดอารมณ์ของลาย

“ครูนีตื่นแล้ว!” สโตนตกใจที่ครูนีชะเง้อมองมาที่เขา

“ไม่เป็นไร ชั่งครูนี..ผมกอดครูนีอยู่ไม่เห็นหรือ?” ลายดึงเสื้อผ้าของสโตนออกอย่างบ้าคลั่ง

“ลาย!...” สโตนได้แต่คิดว่าเขาควรจะทำอย่างไรกับลายดี...จริงอย่างที่ลายว่า..ครูนีทิ้งตัวลงนอนต่อเมื่อ “ลาย” ดึงเธอเข้าไปกอด

“เห็นไหมครูนีนอนต่อแล้ว ไม่มีอะไรแล้ว..มาเถอะ..ผมรักหิน”


อาจจะเป็นเพราะเสียงระหว่างสโตนกับลายทำให้ครูนีลุกขึ้นมองดูอีกครั้ง ถึงแม้ “ลาย” จะพยายามดึงเธอลงนอนให้ได้ แต่ภาพของสโตนที่ปราศจากเสื้อผ้ากำลังดิ้นรนอยู่นั้นทำให้ครูนีสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับหินล่อ

“หินล่อ!.. หินล่อเป็นอะไรไปทำไมถอดเสื้อผ้าออกอย่างนี้?” ครูนีหยิบเสื้อที่วางอยู่ขึ้นคลุมร่างให้สโตน

“โอ๊ะ!..อะไรนี่!” ทันทีที่ครูนีถูกร่างของสโตนเธอกลับล้มลงนอนเหมือนมีใครฉุดลงไป

“ครูนี!” สโตนตกใจไม่แพ้กัน..เขาเห็นลายดึงครูนีให้นอนลงด้วยอีกคน..ลายกำลังจะทำอะไร?


ไฟในเตาลุกโพลงขึ้นกว่าเดิม...ไฟราคะของลายก็กำลังโพล่งขึ้นอย่างไม่มีใครคาดเดาได้ เขากำลังจะทำให้ทั้งหินล่อและครูนีได้รับความรักจากเขาพร้อมๆ กัน..คนหนึ่งเขาเต็มใจมอบให้ด้วยใจที่เปี่ยมสุขของเขา..อีกคนเขามอบให้ด้วยความสงสารและกตัญญู

“ลาย..ผมร้อน..ร้อน” สโตนครางเพราะแรงกอดรัดของลาย..ยิ่งร้องลายยิ่งกอดแน่นขึ้น รัดแน่นเข้าทุกที..สโตนรู้สึกถึงลมหายใจที่พ่นรดอยู่ทั่วใบหน้า มันร้อนเหมือนไฟ ลมหายใจและทุกส่วนของร่างกายลายกำลังรัดตรึงสโตน..เหมือนจะละลายเข้าไปในร่างของเขา

ครูนีพูดอะไรไม่ออกเหมือนมีใครปิดปากไว้ ถึงอย่างไรสิ่งที่ปรากฎต่อหน้าก็ทำให้เธอพูดอะไรไม่ออกเช่นกัน...ร่างเปลือยเปล่าของหินล่อที่ดิ้นบิดเบี้ยวอยู่ข้างๆ เริ่มเปลี่ยนไป..ใบหน้าที่เห็นค่อยๆ เลือน..เลือนจากหน้าของหินล่อ.. กลายเป็นใบหน้าลาย..ลายที่เธอรักและเวทนา..ยังไม่ทันที่ครูนีจะคิดอะไรต่อ ร่างนั้นก็โถมทับมาที่เธอ ไม่ใช่หินล่อ แต่คือลาย..ร่างของลายที่เธอเป็นคนปะติดปะต่อขึ้นมา..ร่างที่เธอเคยแอบมองอย่างหลงใหลและอยากเป็นเจ้าของ..ถึงแม้จะขาดสิ่งสำคัญของความเป็นชายแต่เธอก็ต้องการร่างนี้เหลือเกิน..ลาย..ลาย

สโตนไม่รู้ว่าทำไมเขาจึงโถมเข้าหาครูนีเช่นนั้น ทั้งที่ลายก็ยังเกาะติดแน่นอยู่.. มือเขาเลื่อนขึ้นลูบไล้ครูนีโดยที่ไม่ได้บงการ ค่อยปลดเปลื้องเสื้อผ้าครูนีออก ในขณะที่เธอก็ไม่ได้ขัดขืนอย่างใด..ในที่สุดก็เหลือแต่ร่างที่เปลือยเปล่า..ครูนีกำลังคิดไม่ดีกับเขาหรือ!

“หึ..หึ..” เสียงหัวเราะเบาๆ ดังอยู่ตรงหน้าสโตน...ร่างของลายปรากฎขึ้นระหว่างสโตนและครูนี..ลายกอดจูบสโตนด้วยทั้งหมดของความรักที่เขามีให้..มันเป็นรักที่อ่อนหวาน ไม่ดุดันอย่างที่คิดว่าลายจะทำ...ถึงตอนนี้สโตนไม่เหลือสติปัญญาจะนึกถึงความถูกต้องดีงามอะไรอีกแล้ว กอดตอบลายอย่างไม่ขัดเขิน...แต่เมื่อลืมตาขึ้นกลับพบว่าร่างที่เขากำลังกอดจูบอยู่คือครูนี ไม่ใช่ลาย..ยิ่งกว่านั้น ครูนีเป็นฝ่ายรุกรุนเขาพร้อมร้องเรียกลายเสียงกระเส่า...มันสายเกินกว่าสโตนจะถอนตัวออก...ลายกอดรัดเขาอยู่ด้านหนึ่ง ครูนีอยู่อีกด้านหนึ่ง..สโตนได้แต่รับรักจากคนทั้งสอง..อย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง


ไฟกลางบ้านโหมกระพือขึ้นตามบทรักของคนทั้งสามที่ไม่สนใจกับสิ่งรอบข้างใดๆ ทั้งสิ้น..แม้แต่ผีบ้านผีเรือนที่กำลังพิโรธอยู่ในเปลวเพลิง

ลายกำลังมีความสุขกับคนที่เขารักและกำลังมอบความสุขให้กับคนที่รักเขาด้วยร่างกายของคนที่เขารักนั่นเอง...โอ้!..ลายช่างมีความสุขและเห็นแก่ตัวเสียนี่กระไร!

ครูนีก็กำลังมีความสุขกับคนที่เธอรัก...คนที่เธอคิดว่าไม่สามารถให้ความสุขกับเธอได้..แต่เธอคิดผิด..ไม่อยากคิด ไม่อยากรู้ว่าเป็นไปได้อย่างไร...ความสุขกำลังดำเนินอยู่..ลายที่อยู่บนร่างของเธอไม่มีทีท่าจะจบลงง่ายๆ

“ผมรักหิน..ผมรักหิน..” ลายคร่ำครวญ “หินรักผมไหม..มีความสุขกับผมไหม..” เสียงกระซิบของลายแว่วอยู่ในหูของสโตน


“โป๊ะ!..ปุ๊!..โป้ง!..” กองไฟปะทุขึ้น ระเบิดกระจายเต็มห้อง...ไฟของผีบ้านผีเรือนลุกลามพื้นบ้านและกำลังพุ่งขึ้นสู่หลังคาหญ้าฟาง

“โป้ง!..ปัง!..โครม!..” ลูกไฟจำนวนมากพุ่งออกจากกลางบ้าน..เปลวไฟติดขึ้นทุกหนทุกแห่ง

“โป้ง!!” ลูกไฟใหญ่ดวงหนึ่งพุ่งมาทางคนทั้งสาม

“โอ๊ย!” ลูกไฟดวงนั้นหล่นลงบนหลังของลายที่อยู่บนร่างครูนี

“โอ๊ย!..โอ๊ย!..” ร่างนั้นร้อง กระตุกเกร็งด้วยความเจ็บปวดและความสุขสุดขีดที่ระเบิดออกมา..พร้อมกับไฟโทสะของผีบ้านผีเรือน..ที่ลุกโชนอยู่บนหลัง


ไฟพิโรธกำลังลงโทษการกระทำอันพิลึกพิลั่นของนอข่อ!...ไฟลุกลามอยู่ทั่วบ้าน..ลุกอยู่บนกลางหลัง..ของนอข่อ..ของลาย..หรือของสโตน?


ใครกันแน่ที่จะได้รับทุกขเวทนาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้!.....






Create Date : 25 พฤษภาคม 2551
Last Update : 29 เมษายน 2552 6:39:38 น. 6 comments
Counter : 847 Pageviews.

 
ป้าลีครับ...

เพื่อนๆ ผู้อ่านทั้งหลายครับ...

เรื่องมันกำลังจะเอนไปทาง Y มากขึ้นทุกที ขอโทษนะครับ...

เรื่องกำลังไขปริศนาต่างๆ ของสโตน หิน ลาย ลายลักษณ์ ลายคราม และพ่อแม่ของสโตนครับ...

ผมไม่ได้มีเจตนาจะเขียนหยาบโลนแต่อย่างใด...

จึงเรียนมาเพื่อทราบครับ...

หวังว่าคงติดตามอ่านไปจนจบนะครับ...

ดีน ดาเรน ครับ.....


โดย: ดาเรน (ดาเรน ) วันที่: 25 พฤษภาคม 2551 เวลา:15:43:04 น.  

 
20ปีต่อมา คุณโตนน่าจะอายุประมาณ 37-40 ปี แม่นบ่.. ทำมั๊ย เหี่ยวแล้ว ขนาดป้าอายุมากกว่านี้ ยังไม่เหี่ยว(ซักเท่าไรเล๊ย!!!!! อันนี้โม้ค่ะ..อิๆๆๆๆ)


โดย: ป้าลี IP: 61.7.172.190 วันที่: 25 พฤษภาคม 2551 เวลา:20:34:05 น.  

 
ป้าลีครับ...

ย้าง...ยังไม่เฉลยครับ...

เดี๋ยวป้าก็จะรู้เองครับว่าอะไรคืออะไร....

ขอบคุณที่คุยด้วยนะครับ...

ดีน ครับ.....


โดย: ดาเรน IP: 124.121.173.175 วันที่: 26 พฤษภาคม 2551 เวลา:6:44:06 น.  

 
มาเยี่ยมค่ะ เมื่อไหร่จะลงตอนต่อไปซักกาที อยากฮู้อ่ะ


โดย: ป้าลี IP: 61.7.175.6 วันที่: 29 พฤษภาคม 2551 เวลา:15:16:42 น.  

 
เดาเหมือนป้าลี (ขออนุญาติเรียกนะคะ)เลยคะ

นายหัวขาวคือโตน แต่อย่างอื่นเดาไม่ออก ทางตันคะ

มาไวๆนะจ๊ะ ตอนต่อไป

คุณดีนคะ จะ y หรือไม่ เราว่าไม่เป็นไร ถ้ามันไม่หยาบโลน หรือจาบจ้วง สองแง่สองง่ามน่ารังเกียจ

สมัยนี้แล้ว หลายอย่างเปลี่ยนไป เราหละคนหนึ่งที่รับได้ และก็จะรู้สึกดีใจมากๆด้วยถ้าคนๆนั้น ที่เขาเป็นแบบนั้น กล้าเปิดเผยตัวเอง

มันถือว่าเป็นการรับผิดชอบอย่างหนึ่งต่อสังคม เพราะเรื่องธรรมชาติ ที่หญิงชอบกับชาย แต่ถ้าชายคนนั้นปกปิด ไม่กล้ายอมรับ แล้วไปเกี่ยวเอาผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาในชีวิต คุณคิดดูซิคะว่า ในอนาคตข้างหน้า เมื่อความจริงปรากฎ ฝ่ายหญิงจะเสียใจขนาดไหนที่รู้ตัวว่าถูกหลอก และเขาคนนั้นก็คงทรมานมาตลอดกับชีวิตคู่ที่บิดเบี้ยว เพราะไม่กล้ายอมรับตัวตนที่แท้จริงของตัวเองต่อสังคม

ยิ้มสู้คะ และสู้ในสิ่งที่ถูกต้อง ในสิ่งที่ต้องทำ ให้ถึงที่สุด


โดย: sandhurst IP: 124.120.36.217 วันที่: 30 พฤษภาคม 2551 เวลา:20:53:48 น.  

 
คุณsandhurst ครับ...

เห็นหายไป นึกว่าเลิกอ่านแล้ว...

งั้น พรุ่งนี้...เอ้ย! ไม่ใช่..วันนี้สิ ผมจะรีบลงให้เลยนะครับ...

ดีน ดาเรน ครับ.....




โดย: ดาเรน IP: 124.121.173.140 วันที่: 31 พฤษภาคม 2551 เวลา:1:59:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดาเรน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดาเรน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.