Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
20 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 
##....... สโตน เฮนจ์ บทที่ 37.......##



บทที่ 37




สโตนหยิบสร้อยเชือกเส้นหนึ่งจากเป้คู่ยาก เชือกนั้นเก่าคร่ำแต่ยังอยู่ในสภาพดี มีพระองค์เล็กแขวนอยู่...
สโตนค่อยๆ สวมให้ลายลักษณ์ เด็กน้อยจะรู้ไหมว่าเชือกเส้นนี้พ่อลายครามของเขาได้มอบให้เพื่อนคนหนึ่ง...มันผ่านมานานแล้วที่ช่องเย็น..หินและลายเป็นตำนานในใจสโตนตลอดมา..อีกไม่ช้าตำนานนี้คงยุติลง..อีกไม่นาน

ลายลักษณ์หลับสนิทหายใจสม่ำเสมอ เขากลายเป็นเด็กน้อยวัยห้าหกขวบ สโตนอดใจในความน่ารักของเด็กน้อยไม่ได้ เขาก้มลงกอดลายลักษณ์ด้วยความเอ็นดู...ไม่น่าเชื่อว่าเด็กคนนี้เคยรังแกเคยทำร้ายเขามากมาย..หากทำด้วยความรักความหลงใหลจากสัญชาตญาณดิบของลายครามที่เก็บกดไว้ มันมาแสดงออกที่ลายลักษณ์ โคลนนิ่งที่ไม่มีความยับยั้งใจอย่างคนธรรมดา...แล้วเขาจะโกรธจะเกลียดลายลักษณ์ได้อย่างไร..สโตนจูบเรือนผมอ่อนนุ่มและพวงแก้มสีชมพูเป็นครั้งสุดท้าย

สโตนหยิบยาเม็ดสีเงินคลึงเล่น..ชีวิตที่เหลือของเขาอยู่กับยาเม็ดสุดท้ายนี้ เขาจะใช้มันอย่างไรดี..ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเขาดูเหมือนจะลงตัวแล้ว ทั้งพ่อแม่พี่น้องและคนใกล้ชิด..อีกไม่กี่ชั่วโมงลายครามก็จะมารับลูกชายตัวน้อยของเขา...ลายคงคอยอยู่ตรงไหนสักแห่งใกล้ๆ พร้อมจะไปกับเขาทุกที่


“คุณโตนครับ!..อยู่ห้องไหน นายศักดิ์มาดูความเรียบร้อยคร๊าบ” เสียงศักดิ์แสดงข้ออ้างกลบกลื่อนความตั้งใจที่แท้จริงดังอยู่ข้างล่าง

“ผมกำลังลงมาครับ” สโตนเพิ่งนึกได้ว่ายังมีคนหัวดื้ออีกคนที่เป็นปัญหาคาใจ

“ทำอะไรอยู่ ยังไม่นอนอีกหรือ” ศักดิ์เดินไปที่โต๊ะ..ปิ่นโตวางอยู่อย่างเดิม เขายกขึ้นดู “วันนี้คุณไม่ได้กินข้าวเลย รู้งี้ไม่ทำมาให้ดีกว่า”

“กินสิครับ กิน” สโตนแย่งปิ่นโตจากมือศักดิ์ หิ้วเข้าไปในครัว วางลงบนเคาเตอร์ เลื่อนออกทีละชั้น “ฮืมม ม . . น่ากินจัง”

“ไม่ต้องแกล้งทำเลย..ผมรู้ทันนะคุณ” ศักดิ์ตามมาติดๆ ตั้งท่าจะหยิบปิ่นโตคืนแต่ช้ากว่าสโตน

“อุ่นให้ร้อนๆ..” สโตนรีบใส่เข้าเครื่องไมโครเวฟ

“ฮะ..ฮะ..ฮา..ฮา..เอิ๊ก..” ศักดิ์หัวเราะอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

“เป็นอะไร บ๊องหรือเปล่าครับ” สโตนมองอย่างงงๆ

“หึ..หึ..คุณแหละบ๊อง เครื่องไมโครเวฟมันเสีย โบราณเก๋ากึ๊กออกอย่างนั้น อายุมากกว่าคุณอีกมั้ง” ศักดิ์เปิดประตูเครื่องหยิบปิ่นโตออกมา “ผมจะอุ่นให้เอง”

“ไม่อยากรบกวน..” สโตนพูดเบาๆ

“ทำไม!..ผมเคยทำอะไรให้หินมากกว่านี้นัก..ไม่ใช่หรือ?” ศักดิ์แอบยิ้มกับเตาแก๊สที่กำลังอุ่นอาหาร

“ตกลง..ตกลงศักดิ์เชื่อแล้วหรือว่าผมคือหิน..” สโตนละล่ำละลักถามด้วยความดีใจ

“เมื่อไหร่กัน?..ฮะ..ฮะ..ฮะ..” ศักดิ์หัวเราะชอบใจ..เขารู้สึกสบายใจเมื่อได้โต้เถียงกับสโตน เหมือนครั้งหนึ่งที่เคยปะทะคารมกับหิน นายหินของเขาบ่อยๆ

“เฮ้ย!..อย่าเอาความรู้สึกดีๆ ของผมมาล้อเล่น..โอเค ถ้าคุณไม่คิดจะเชื่อก็ไม่ควรหยามความรู้สึกของผมอย่างนี้!” สโตนกระแทกเสียง เดินออกจากครัว

“เดี๋ยวก่อน!..คุณโตนเข้าใจผิด..รอผมด้วย” ศักดิ์หันจากเตาแก๊สตามสโตนไปที่ริมสระน้ำ

“ผมคงไม่ดีเท่าหินของคุณ..ช่างเหอะ!..ผมจะลืมเรื่องราวเก่าๆ นั้นเสีย” สโตนพูดกับน้ำในสระ

“ไม่ใช่อย่างนั้น..คุณต้องเข้าใจนะว่าผมผูกพันกับพี่หินของคุณมากเพียงไร ที่คุณเอาเขามาล้อเล่นไม่ใช่ว่าผมจะพอใจ” ศักดิ์เข้ายืนข้างสโตน

“ผมพยายามที่สุดแล้วนะศักดิ์..ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรให้คุณเข้าใจ” สโตนเสียงแผ่ว

“ผมเข้าใจคุณสโตน..เราคงเป็นมิตรที่ดีต่อกันได้” ศักดิ์ลังเลที่จะโอบไหล่สโตน..ด้วยความสงสารเขาจึงตัดสินใจวางแขนบนไหล่นั้น “ที่จริง..ผมมีความสุขเหมือนเมื่อครั้งได้อยู่กับหิน แต่ข้องใจว่าคุณทำอย่างนี้ทำไม ไม่มีเหตุผลเลยที่คุณจะมาสนใจคนอย่างผม..อีกอย่างคุณก็มีเพื่อนมาด้วย”

“อย่าว่าผมนะ...” สโตนสอดมือโอบด้านหลังศักดิ์ “ผมจำได้ลางๆ ว่าเคยกอดพ่อศักดิ์ของผมอย่างนี้”

“คุณสโตน!” ศักดิ์สะดุ้ง

“อย่าผลักผมนะศักดิ์” สโตนกระชับแขนแน่น

“โตน!..หิน!..” ศักดิ์งุนงงกับถ้อยคำและการกระทำที่ตรึงเขาให้อยู่กับที่ หวนคิดถึงอดีตที่ไม่เคยลืมเลือน

“นะครับศักดิ์..พ่อศักดิ์ของหิน..” สโตนอิงไหล่ศักดิ์อย่างที่หินเคยทำ

“หิน..เป็นหินได้อย่างไร..หินของผม..” ศักดิ์ลืมนึกถึงผมสีอ่อน ตาสีน้ำเงินไปชั่วขณะ “เป็นไปไม่ได้..เป็นไปไม่ได้..” เขาพึมพำ

“ไม่เป็นไรที่ศักดิ์ไม่เชื่อว่าผมคือหิน แต่ขอให้รับรู้ไว้แล้วกันว่าผมคือหินจริงๆ หินที่ตามศักดิ์ไปชลบุรีจนเกิดเรื่อง..หินที่คิดว่าศักดิ์คือพ่อของเขา..หินที่ทำให้ศักดิ์เกือบตายเพราะความรับผิดชอบและความรักที่มีให้..ยังมีเดือน ยายพร ยายยวน นายหยดและเด็กชายลายอีกคนที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของหิน..” สโตนพลิกตัวประจันหน้าศักดิ์ ตาสีน้ำเงินหมองเศร้า “คราวนี้เชื่อหรือยังว่าผมคือหิน”

“แต่..คุณโตนก็ไม่ใช่หินอยู่ดี..ผมยอมรับว่ามีความสุขที่ได้อยู่ใกล้คนที่เหมือนหินมาก..” ศักดิ์พูดตะกุกตะกัก เอื้อมมือแตะเปลือกตาสโตน “หินไม่มีตาสวยอย่างนี้”


ความเงียบเกิดขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ...ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งๆ ที่คนหนึ่งอยากสัมผัสอดีตที่เว้าวอนอยู่ตรงหน้าและอีกคนที่เพียรพยายามมอบร่างที่เต็มไปด้วยอดีตนั้นให้

“มีหลายอย่างนะที่ผมเกือบเชื่อว่าคุณโตนคือหิน..” ศักดิ์เป็นฝ่ายทำลายความเงียบ “ลองให้เหตุผลที่น่าเป็นไปได้อีกสักอย่างซิ...คุณโตนกำลังทำให้ใจผมเต้นแรง มันอาจหยุดเต้นเอาดื้อๆ นะครับ”

“ตามผมมานี่..” สโตนแตะมือศักดิ์ให้เดินตามไปที่ซุ้มกระดังงา “ในซุ้มนี้ไง..หินหัวใจสลายเมื่อเห็นศักดิ์อยู่กับเดือนในคืนหนึ่ง”

“หิน!” ศักดิ์เข่าอ่อน พูดอะไรไม่ออก

“ที่ผมดูเหมือนเดิมไม่แก่ไปตามอายุ เพราะยาบรรเทาโรคฮัตชิสัน-กิลฟอร์ดที่คุณลิลลี่หามาให้ สีผม สีตาที่เปลี่ยนไปก็เพราะยานี้เช่นกัน..” สโตนสีหน้าเคร่งขรึม “ผมเคยพูดว่าหินตายเพราะโรคนี้..ความจริงหินยังไม่ตายและยืนอยู่ตรงหน้าศักดิ์นี่ละครับ”

“หินจริงๆ หรือ..ผม..ผม..” มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อสำหรับศักดิ์ แต่สิ่งที่สโตนพูดมาทุกอย่างคือเรื่องจริง...หินคนเดียวเท่านั้นที่รู้และรู้สึก

“นี่คือยาที่ผมพูดถึง” สโตนหยิบยาสีเงินเม็ดสุดท้ายออกมาจากกระเป๋าเสื้อ

“ไม่อยากจะเชื่อ..แต่ถ้าไม่ใช่ตาสีน้ำเงินและผมสีอ่อนนี้แล้วคุณโตนก็คือหินจริงๆ ผมขอยอมรับ” ศักดิ์จับคางสโตน “คุณดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นนะหิน”

“เย้..ศักดิ์เข้าใจผม ศักดิ์เชื่อผมแล้ว!” สโตนดีใจจนออกนอกหน้า

“ยัง!..”

“อ้าว!.. อะไรอีก..”
สโตนหยุดเต้น

“ยาเม็ดเล็กๆ นี่นะที่มีอำนาจมากมายอย่างนั้น” ศักดิ์คว้ายาจากมือสโตน “ผมจะกินมัน ดูซิว่าจะเกิดอะไรขึ้น” ศักดิ์ใส่ยาเข้าปาก กลืนลงไปหน้าตาเฉย

“เฮ้ย!..ศักดิ์..” สโตนอ้าปากค้าง “โธ่!...” ความหวังที่แวบขึ้นมาหายไปในพริบตา...สโตนคิดจะใช้ยาเม็ดสุดท้ายเพื่ออยู่กับคนที่รักภักดีเขามาตลอดชีวิต..แต่คนๆ นั้นช่างอาภัพจริง

“คอยดูนะว่ายามีผลอะไรกับผม..ถ้ามี ผมจะเชื่อร้อยเปอร์เซนต์ว่าคุณโตนคือหิน” ศักดิ์ยิ้มกวนๆ “ตอนนี้ผมเชื่อแค่เก้าสิบเก้าเท่านั้น”

“โธ่!..ศักดิ์” สโตนร้องออกมาด้วยความรู้สึกหลายอย่าง ทั้งสมหวังและผิดหวัง เขาโผเข้ากอดศักดิ์อย่างน่าไม่อาย

“นี่หรือคือนายหินของผม..” ศักดิ์ผงะออกแต่กลับยืนนิ่งให้กอดอย่างเต็มใจ..เขาอยากเชื่อมานานแล้ว ถึงเวลานี้ก็อยากเชื่อ..อยากให้สโตนคือหิน

“อย่างนี้ยังไม่เชื่อผมอีกหรือ..ฮือ..ฮือ..” สโตนสุดกลั้นความอดทน ร้องไห้ออกมา

“หิน...” รอยบุ่มกลางริมฝีปากสั่นระริก ศักดิ์สะเทือนใจไม่น้อยกับร่างที่สะอื้นสั่นอยู่แนบอก “ลูกหินของศักดิ์..” กลิ่นดอกสายหยุดกรุ่นขึ้นเร้าอารมณ์ศักดิ์ให้ยอมรับความจริง..แต่แล้วกลับมีอีกกลิ่นหนึ่งฟุ้งตลบมา

“เอ๊ะ!..กลิ่นอะไรไหม้.." ศักดิ์ขมวดคิ้ว “ตายละผมอุ่นกับข้าวไว้..” ผลุนผันวิ่งเข้าบ้าน

“กลิ่นไฟไหม้!” สโตนตกใจวิ่งตามศักดิ์...มีแสงเพลิงจากห้องครัว


ศักดิ์ต่อสายยางจากห้องน้ำส่งให้สโตนถือฉีด เขาคว้ากระป๋องวิ่งไปตักน้ำในสระสาดเข้าเปลวเพลิงที่กำลังลุกโชน

“ฉีดให้ทั่วนะ!” ศักดิ์ร้องสั่งแล้วกลับไปที่สระอีก เขาวิ่งเข้าวิ่งออกเที่ยวแล้วเที่ยวเล่า แต่บ้านเกือบทั้งหลังทำด้วยไม้..แม้ศักดิ์และสโตนจะช่วยกันสุดกำลัง...ในไม่ช้าก็ไม่เหลือห้องครัว ไฟลามเลียไปที่ห้องนั่งเล่น และบันได

“ลายลักษณ์อยู่ในห้อง!” สโตนเพิ่งนึกถึงเด็กน้อย เขาทิ้งสายยางวิ่งขึ้นบันได

“โตน!..ขึ้นไปทำไม มันอันตรายนะ” ศักดิ์วางกระป๋องวิ่งไปทันสโตนที่กลางบันได “อย่าขึ้นไป ไฟมันลามอ้อมไปด้านหน้าถึงห้องนอนแล้ว” ศักดิ์คว้าตัวสโตนไว้ได้

“ผมจะขึ้นไปช่วยเด็ก” สโตนตะโกนตอบแข่งกับเสียงไฟและเสียงลมทีวิ่งเข้าแทนที่อากาศร้อน

“มีเด็กที่ไหนกัน เพื่อนคุณคงลงมาแล้วเขาไม่ใช่เด็กๆ ถ้าคุณขึ้นไปเดี๋ยวไม่ได้กลับลงมานะ” ศักดิ์ยื้อร่างสโตนที่ดิ้นเพื่อจะขึ้นไปให้ได้..ศักดิ์พยายามดึง สโตนก็พยายามดันตัวให้หลุดจากมือศักดิ์

“ผมต้องขึ้นไป เป็นตายอย่างไรก็จะขึ้น!” สโตนรวบรวมพละกำลังดิ้นสุดฤทธิ์ เพื่อลายลักษณ์

“ผมไม่ให้ขึ้นไป!” ศักดิ์ยึดขอบกางเกงสโตนแน่น

“ผมจะขึ้น!” ทั้งสองคนยื้อยุดกันสักครู่...ในที่สุดกางเกงของสโตนก็ร่นหลุดจากเอว

“โอ๊ะ!..” ศักดิ์ร้องเสียงดัง...แสงเพลิงส่องวูบวาบบนร่างสโตน ที่หน้าท้องใต้ขอบเอวศักดิ์เห็นปานสีน้ำตาลแดง...เสี้ยววินาทีนั้น เขาหวนคิดถึงไข่ใบที่สามของหินที่เคยล้อเลียน เคยจับต้องเมื่อถูกน้ำก๋วยเตี๋ยวลวกที่พัทยา...ครั้งแรกที่ความสัมพันธ์ในใจของเขาเกิดขึ้นกับนายน้อย “หิน!..หินจริงๆ ด้วย..ผมขอโทษ..”


สโตนฉวยโอกาสขณะศักดิ์สะเทือนใจกับความจริงที่ปรากฏ ดิ้นหลุดจากอุ้งมือแข็งแกร่งวิ่งตรงไปห้องนอน...เด็กน้อยลายลักษณ์ยังหลับอยู่ในท่าเดิมเหมือนไม่รู้สึกถึงความร้อนระอุโดยรอบ

“ลายลักษณ์!..ตื่นๆ..” สโตนเขย่าตัว แต่ลายลักษณ์นอนนิ่ง..สโตนตัดสินใจอุ้มเด็กน้อยขึ้นจากเตียง

“หิน!..นั่นเด็กที่ไหน?” ศักดิ์วิ่งมาถึงพอดี “ไฟกำลังลามหน้าต่างห้อง บันไดไหม้เกือบหมดแล้ว” โดยไม่รอคำตอบเรื่องเด็ก เขาละล่ำละลักพูด “ผมขอโทษที่ไม่เชื่อหิน ทั้งที่ทั้งหมดคือความจริง เอาเถอะเราหาวิธีหนีจากที่นี่ก่อนแล้วกัน” ศักดิ์เหลียวมองรอบๆ “ส่งเด็กมาให้ผมอุ้มดีกว่า”

“ไม่!..ผมจะช่วยเขาเอง ไม่ต้องมายุ่งอะไรกับผม ผมเป็นใครก็ไม่รู้” สโตนนึกน้อยใจศักดิ์

“โธ่หิน!..บอกแล้วว่าขอโทษ..เวลามีไม่มากนะเราหนีกันก่อนดีกว่าแล้วจะโกรธผมยังไงก็ไม่ว่าหรอก..ส่งเด็กมา!” ศักดิ์เข้าประชิด

“ไม่!” เลือดขึ้นหน้า สโตนเกิดทิฐิผิดๆ

“เอาอย่างนี้ก็ได้..” ศักดิ์รู้นิสัยหิน..ถ้าเกิดน้อยใจขึ้นมามักทำอะไรที่ร้ายแรงเกินคาดเดา เขาตัดสินใจตรงเข้ากอด อุ้มขึ้นทั้งสโตนและลายลักษณ์

“อึ๊ก..อึ๊ก..แอ๊ค..แอ๊ค..” สโตนเริ่มสำลักควันไฟ วงแขนคลอนสั่น “อึ๊ก..แอ็ค..แอ็ค..ศักดิ์อุ้มเด็กคนเดียวดีกว่า เดี๋ยวจะไปกันไม่รอด” สโตนส่งลายลักษณ์ให้ศักดิ์


“เปรี๊ยะ!..โครม!..” คานไม้ซุงท่อนหนึ่งติดไฟลุกโชนหล่นจากเพดานลงขวางประตู เด็กน้อยตกใจตื่นผวากอดสโตนแน่น

“อั๊ก..อั๊ก..ไหนล่ะเด็ก..ส่งมา!” ศักดิ์ออกคำสั่งทั้งๆ สำลักควัน

“เด็กกอดผมแน่นแกะไม่ออก” สโตนพยายามแกะมือลายลักษณ์ แต่เด็กน้อยยิ่งกอดแน่นขึ้น

“แค๊ก..แค๊ก..” ลายลักษณ์สำลักควันเช่นเดียวกัน

“หิน!..ผมไม่รู้นะว่าหินคิดยังไง แต่ถ้าไม่ออกไปเดี๋ยวนี้เราจะตายกันหมดทุกคน..ถ้าเป็นเพราะโกรธหรือน้อยใจผมละก้อขอเลยนะ..ผมขอโทษ ผมรักหินเสมอมาหินก็รู้ ทำไมเราจะมาตายกันตอนนี้ล่ะ ไม่อยากอยู่กับผมอีกแล้วหรือ” ศักดิ์ยืนไม่ติดขยับเข้าหาสโตน

“โอ๊ย!” ฟืนแดงท่อนหนึ่งกระเด็นเข้าใส่ศักดิ์ “นะหิน!..เรากระโจนออกทางหน้าต่างอีกบานยังทัน..แอ็ค..แอ็ค..โขลก..โขลก..” ไฟลุกโพลงขึ้นทุกที่ ความร้อนยิ่งทวีมากขึ้น

“อึ๊ก..อึ๊ก..แอ็ค..แอ็ค..ผมรักศักดิ์ครับ..แต่..” สโตนรู้ดีว่าชีวิตกำลังจบลง แต่ลายลักษณ์และศักดิ์ไม่น่าจะตายพร้อมเขาเพียงเพราะความรัก

“ว่าไงหิน!.. ผมรักคุณ ผมรักคุณ ได้ยินไหม?” ศักดิ์อุ้มทั้งสโตนและลายลักษณ์อีกครั้งด้วยพลังฮอร์โมนอะดรีนาลีนที่พุ่งสูง

“ผมไม่ไป!..ศักดิ์หนีไปพร้อมกับเด็กเถอะขอร้อง..ช่วยชีวิตเขาและชีวิตศักดิ์เพื่อผมนะ..” สโตนดิ้นในอ้อมแขนศักดิ์

“เราต้องไปกันเดี๋ยวนี้!..” ศักดิ์รัดสโตนแน่น

“ผมไม่ไป!..ผมไม่ไป!..” สโตนตะโกน

“ต้องไป!..” ศักดิ์ตะโกนใส่หน้า

“ไม่!..” สโตนดิ้นหลุดจากศักดิ์..กระโจนเข้ากองไฟทั้งลายลักษณ์ในอ้อมแขน


“ไม่!.. ไม่!.. ม่าย ย ย . . . ” ศักดิ์พุ่งเข้าตะครุบ..แผดเสียงอย่างคลุ้มคลั่ง...





Create Date : 20 มิถุนายน 2552
Last Update : 20 มิถุนายน 2552 10:43:01 น. 2 comments
Counter : 693 Pageviews.

 
แวะมาทักทายค่ะ


โดย: CrackyDong วันที่: 20 มิถุนายน 2552 เวลา:23:43:32 น.  

 
สวัสดีครับ คุณ CrackyDong ...

ยินดีที่ได้รู้จักครับ...

ดีน ดาเรน.....


โดย: ดาเรน IP: 124.121.174.225 วันที่: 21 มิถุนายน 2552 เวลา:10:01:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดาเรน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดาเรน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.