Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
2 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 

##....... สโตน เฮนจ์ บทที่ 32 .......##



บทที่ 32




เสียงกรีดระงมของจักจั่นปลุกสโตนตื่นขึ้นกลางดึก เขารู้สึกปวดร้าวทั่วร่างกาย..นึกทบทวนเหตุการณ์ก่อนที่จะหมดสติ



ลายลักษณ์นอนคว่ำหน้าอยู่ใกล้สโตน มีเลือดแห้งที่พื้นครัวและตามลำตัว..สโตนเองมีเลือดเกรอะกรังอยู่ไม่น้อย เขาตัดสินใจประคองตัวลุกขึ้นยืนแต่เข่าอ่อนทรุดลงตามเดิม ลองโน้มตัวกับเคาน์เตอร์ครัวอีกครั้ง..ได้ผล...สโตนรู้สึกอ่อนแรงผิดปกติ นึกเอะใจมองสำรวจตัวเอง...อ้า!..เวลานั้นกำลังจะมาอีกแล้ว เขาหยุดคิดเรื่องทั้งหมดพยายามกระเสือกกระสนออกจากครัว

สโตนถึงห้องนอนจนได้ ตรงไปโต๊ะหัวเตียงที่ใส่เจ้า FTIs รวมไว้ในกระปุกยาแก้ปวด เทยาออกมาด้วยความรู้สึกว่า FTIs เหลือน้อยกว่าที่ควร...ไม่มีเวลาคิดอะไรมากแล้ว เขาหยิบมันออกมาเม็ดหนึ่ง รีบกลืนลงไปกับน้ำที่ลายลักษณ์กินเหลือไว้



สโตนตื่นขึ้นอีกทีท่ามกลางความมืดมิดเช่นเคย..แปลกใจที่หนนี้หลับไปไม่นาน เมื่อเปิดไฟขึ้นพบร่างลายลักษณ์อยู่อีกด้านหนึ่งของเตียง..สโตนยิ่งกว่าแปลกใจ..มีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นขณะเขาหลับอยู่!

สโตนนึกถึงกระดาษจดหมายแผ่นนั้น..เขาแลกมาด้วยเนื้อปานที่ลายลักษณ์กระชากไปกับคมฟัน..สโตนก้มลงดูรอยแผล ปานยังอยู่ที่เดิมไม่มีรอยช้ำสลายแต่อย่างใด..ลองจับหัวนม มีแต่ความเสียวซ่านไม่มีรอยขาดวิ่นอย่างที่คิด..ตะปบต้นคอ แผลฉกรรจ์นั้นก็หายไปเช่นกัน...หรือว่าเขาฝันไป!..สโตนชักไม่แน่ใจ หลือบมองลายลักษณ์ที่นอนหายใจสม่ำเสมอเหมือนไม่รู้เรื่องรู้ราวเขายิ่งสับสน



สโตนรีบลงไปที่ห้องครัว กลั้นใจเปิดไฟ...ห้องครัวสะอาดเรียบร้อยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีรอยเลือด ไม่มีจดหมายที่ถูกฉีกเป็นสองท่อน..สโตนเริ่มแน่ใจว่าเหตุการณ์ร้ายเมื่อคืนคือความฝัน เขาถลันไปเปิดตู้บานทีใส่หม้อข้าว ควานมือเข้าไปด้วยความมั่นใจว่าต้องพบจดหมายนั้น..แต่..ตู้กลับว่างเปล่า!

สโตนงงกับสิ่งที่ได้รับรู้ เขาเดินสำรวจห้องครัวอีกครั้ง มันดูสงบนิ่งไม่มีอะไรผิดแปลกจากที่เคยเป็น

“อะไรกันนี่!” สโตนออกไปนั่งริมสระสีฟ้าด้วยความคิดสับสน

“ตื่นแล้วหรือครับ?”

“โอ๊ะ!” สโตนสะดุ้งสุดตัว

“โทษทีที่ไม่ให้สุ้มให้เสียง..คุณตกใจแย่” ศักดิ์ก้าวออกมาจากเงาไม้

“ศักดิ์ล่ะยังไม่นอนหรือ” สโตนแปลกใจกับคำถามและการปรากฎตัวของศักดิ์

“ผมออกมาสำรวจความเรียบร้อยของบ้าน ดูแลความปลอดภัยให้คุณทั้งสอง หมู่นี้พวกเสพยาออกอาละวาด..คุณเป็นแขก” ศักดิ์นั่งลงบนโขดหินห่างจากสโตน

“ผมไม่ใช่แขก..มารบกวนคุณต่างหาก” สโตนได้โอกาส อยากถามอะไรหลายอย่าง แต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี

“เมื่อคืนที่ผ่านมาผมได้ยินเสียงร้องดังจากที่นี่..” สโตนใจเต้นแรงเมื่อได้ยินศักดิ์เอ่ยถึงเรื่องที่เคลือบแคลง “พบคุณลายลักษณ์นอนไม่ได้สติอยู่ในครัวมีเลือดกระเซ็นเลอะไปหมด ทีแรกผมนึกว่าได้รับบาดเจ็บ แต่สำรวจดูแล้วไม่มีบาดแผลอะไร ผมจึงเช็ดเลือด พาขึ้นนอน..คุณโตนก็หลับเป็นตายอยู่เหมือนกัน ผมกลับลงมาทำความสะอาดห้องครัวและรอคุณสองคนตื่นเพื่อจะถามถึงสาเหตุ รอข้ามคืนข้ามวันจนคุณตื่นขึ้นมานี่แหละครับ”

“ที่แท้เรื่องเป็นอย่างนี้..” สโตนพึมพำกับความจริงจากศักดิ์ “เอ..ทำไมผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย” สโตนเริ่มโกหกทั้งที่ไม่อยากทำ “มิน่าศักดิ์ถึงนั่งเฝ้าอยู่อย่างนี้”

“ผมเวียนขึ้นไปดูบ่อยๆ เห็นคุณหลับสบายดีไม่มีอาการผิดปกติอะไร แต่ที่นั่งเฝ้าอยู่เพราะผมไม่แน่ใจว่าเลือดที่เลอะอยู่ทั่วครัวจะเป็นเลือดของคนร้ายที่คุณลายลักษณ์จัดการหรือไม่ ถ้าใช่มันคงกลับมาเล่นงาน ผมจึงต้องคอยเฝ้าดู”

สโตนนั่งเหม่อคิดถึงเหตุการณ์ในคืนนั้น..ไม่รู้สึกตัวว่าศักดิ์แอบมอง

ศักดิ์ไม่ได้พบหินยี่สิบกว่าปีแต่เขายังจำภาพนายน้อยได้แม่นยำ..สโตนเป็นน้องชายคนละพ่อแต่มีความคล้ายคลึงกันมาก ผิดกันแต่สีดวงตา สีผม และท่าทางเป็นผู้ใหญ่มากกว่า..เขายังจำได้ติดตาติดใจ..นายหิน..ลูกหินของเขา

“มีอะไรหรือครับ?” สโตนหันมาพอดีเห็นรอยยิ้มและดวงตาที่จ้องมอง

“ปะ..เปล่าครับ!” ศักดิ์สะดุ้ง “ผมกำลังคิดว่าคุณเหมือนพี่ชายคุณมาก”

“ยังจำได้หรือ มันนานแล้วนะ ศักดิ์ไม่มีรูปหินไม่ใช่หรือ” สโตนถามพลาดจนได้

“รู้ได้อย่างไรว่าผมไม่มีรูป..มีสิครับ” ศักดิ์อมยิ้ม

“ไม่มี้!” สโตนยิ่งกว่าแน่ใจ

“ฮะ..ฮะ..หึ..หึ..” จู่ๆ ศักดิ์หัวเราะขึ้นมา

“หัวเราะอะไร?” สโตนขมวดคิ้ว

“ไม่มีอะไรครับ..ฮะ..ฮะ..คุณโตนอย่ารู้เลย มันเป็นไปไม่ได้..คุณคงไม่เข้าใจ” ศักดิ์เสขว้างกิ่งไม้ลงสระน้ำ

“บอกมาเถอะผมอยากรู้ จะว่ายุ่งเรื่องของคนอื่นก็ได้” สโตนเริ่มเข้าไปในอดีตอย่างไม่รู้ตัว

“คุณพูดเหมือนรู้ดีทุกอย่างเกี่ยวกับหิน ท่าทาง การพูดคุยของคุณก็เหมือนเขา..ผมหัวเราะเพราะนึกถึงวันคืนเก่าๆ ที่เราต่อล้อต่อถียงกัน..เหมือนผมกำลังอยู่กับหิน ซึ่งเป็นไปไม่ได้..คุณกับเขาอายุต่างกันกว่ายี่สิบปี..” ศักดิ์ลุกขึ้นยืน “เมื่อเห็นคุณปลอดภัยแล้วผมขอตัวกลับบ้านก่อนนะครับ”

“ผมเดินไปด้วยได้ไหม เพิ่งตื่นคงยังนอนไม่หลับแน่ๆ” สโตนไม่เคอะเขินกับการกระทำของตัวเอง..แต่ศักดิ์อดตะขิดตะขวงใจไม่ได้

“คุณลิลลี่สบายดีหรือครับ..เอ่อ..หินอีกคน” ศักดิ์ถามขึ้นหลังจากเดินกันมาเงียบๆ สักพัก...ถนนขึ้นเนินยังมีร่มไม้และแนวพุ่มเข็มขนาบสองข้าง กลิ่นดอกราตรีโชยกรุ่น

“คุณลิลลี่..เอ่อ..ผมเรียกตามหิน...แม่เสียแล้วครับ” สโตนหาวิธีที่จะพูดเกี่ยวกับหิน

“อ้าว!..เหรอครับ เสียใจด้วย..คุณลิลลี่เป็นคนดีมาก ผมยังนึกถึงบุญคุณอยู่เสมอ..ระยะหลังคุณคงมีความสุขกับครอบครัวใหม่และลูกชายสองคน” ศักดิ์พูดปลอบใจ เขาหารู้ไม่ว่าคุณลิลลี่ไม่ได้มีความสุขอย่างที่เขาคิด..โดยเฉพาะกับลูกหิน

“สำหรับหิน..เขาอยู่ให้ชื่นใจไม่เท่าไหร่ก็นำความทุกข์มาให้คุณลิลลี่” สโตนตัดสินใจค่อยๆ เล่าความจริงให้ศักดิ์ฟัง

“หินไปหลงแสงสีเมืองนอกจนกลายเป็นเด็กเกเรหรือครับ?” ศักดิ์มีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย

“ไม่ใช่ครับ..หินเป็นเด็กดีเสมอต้นเสมอปลายแต่โชคร้ายที่เขาเกิดเป็นโรค ฮัตชิสัน-กิลฟอร์ด ขึ้นมา” สโตนเผลอลูบแขนตัวเอง

“โรค ฮัตชิสัน-กิลฟอร์ด” ศักดิ์ขมวดคิ้ว

“โรคแก่ก่อนวัย ศักดิ์คงเคยได้ยินมาบ้าง..ความจริงโรคนี้มักเกิดกับเด็ก อย่างมากไม่เกิน 13 ปี ที่อายุมากที่สุดคือ 15 ปี..แรกๆ เด็กพวกนี้ก็ปกติดีเหมือนเด็กทั่วไป จนเมื่อเขาโตขึ้นจะปรากฏอาการของคนชรา ผิวหนังเหี่ยวย่น ผมร่วง กระดูกเปราะ มีไขมันสะสมตามผนังหลอดเลือด และในที่สุดเด็กคนนั้นจะตายไปพร้อมกับร่างวัยชรา” สโตนกอดตัวเองแน่น

“แต่หินโตแล้ว” ศักดิ์แย้ง ไม่ยอมรับความจริงที่ได้ยิน

“อาจจะเป็นเพราะหินถูกฟ้าผ่าลงข้างๆ ตัว กระแสไฟฟ้าแรงสูงคงไปรบกวนโครงสร้างบางอย่างของเซลล์ในร่างกาย” สโตนคาดคะเน

“หลังจากถูกฟ้าผ่าหินมีร่างกายเป็นปกติดีผมจำได้ หินไม่น่าเป็นโรคนี้ เขาอายุ 18 แล้วมั้งตอนที่ไปอยู่กับคุณลิลลี่” ศักดิ์รื้อฟื้นความทรงจำ

“จำแม่นจังนะครับศักดิ์” สโตนแอบยิ้มในความมืด

“เอ่อ..ครับ เราสนิทกันมาก คุณโตนคงไม่รู้และไม่เข้าใจ” ศักดิ์ชะงักเมื่อเดินมาถึงทางเลี้ยวเข้าสวน “คงต้องคุยต่อวันพรุ่งนี้”

“ไม่เป็นไรครับ ผมอยากเล่าต่อ..ให้ผมตามศักดิ์ไปนะ”

“จะดีหรือคุณ ในสวนมันมืด แล้วคุณจะกลับออกมาอย่างไร” ศักดิ์ไม่อยากปฎิเสธ เขาต้องการรู้เรื่องของหิน..แต่ เขาคือศักดิ์ นายศักดิ์คนเดิมที่เคยเป็นอย่างไรก็ยังเป็นอย่างนั้น เขารู้จักตัวเองดี

“นะครับ..” สโตนออกเดินนำ “ไม่อยากรู้หรือว่าหินตายอย่างไร”

“หินตายแล้ว!” ศักดิ์ยืนนิ่ง เขาพอจะเดาเรื่องได้เมื่อรู้ว่าหินเป็นโรคแก่ก่อนวัย แต่เมื่อได้ยินสโตนพูดอย่างไม่นึกถึงใจเขา ศักดิ์ก็อึ้งไปเหมือนกัน

“ขอโทษครับ..ผมพูดตรงไปหน่อย..” สโตนคิดได้เมื่อเห็นอาการของศักดิ์ “ศักดิ์คงอยากอยู่ตามลำพัง..งั้นผมกลับไปก่อน พรุ่งนี้ค่อยคุยกันใหม่” สโตนรู้สึกสงสารศักดิ์ที่ได้ยินคำพูดพล่อยๆ ของเขา นึกอยากจะอธิบายอะไรๆ เดี๋ยวนั้น แต่ศักดิ์จะยอมเข้าใจหรือ..สโตนนึกเกลียดตัวเองที่คอยนำความทุกข์ใจมาให้ชายผู้นี้


แม้เวลาจะผ่านมาเนินนานกว่ายี่สิบปีเขาก็ยังเป็นคนสร้างปัญหา...หรือคือสัญญากรรมที่ต่อเนื่องไม่รู้จบสิ้น






 

Create Date : 02 มิถุนายน 2552
0 comments
Last Update : 2 มิถุนายน 2552 10:40:13 น.
Counter : 514 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ดาเรน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดาเรน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.