Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
4 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 

##....... สโตน เฮนจ์ บทที่ 33.......##



บทที่ 33



“โตน..โตนอยู่ไหน?” เสียงลายลักษณ์ดังจากห้องนอน..สโตนรีบขึ้นบันไดด้วยความหวาดหวั่น

“ตื่นแล้วหรือคุณ!”
สโตนไม่วายสำเนียงประชด ทั้งๆ ที่กลัวผลตามมา

“พูดกับผมไม่เพราะเลยนะโตน” ลายลักษณ์ต่อว่าเสียงอ่อน ผิดกันเป็นคนละคนกับครั้งสุดท้ายที่ปะทะอารมณ์

“ผมก็พูดกับลายอย่างเคยนะ” สโตนแปลกใจกับความเปลี่ยนแปลงของลายลักษณ์ ทำใจดีสู้เสือนั่งลงบนเตียง

“ผมหิวข้าว..” ลายลักษณ์ยิ้มแหยๆ..เป็นยิ้มที่สโตนไม่เคยเห็นนานแล้ว ลายลักษณ์ดูอ่อนโยนอ่อนวัย ต่างจากลายครามหื่นกระหายเมื่อคืนก่อนอย่างเห็นได้ชัด

“จริงสิ..ผมก็หิวเหมือนกัน ไปดูในครัวดีกว่า นายศักดิ์มีอะไรไว้ให้เราบ้าง” สโตนสงสัยว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับลายลักษณ์

“มา..ผมจะช่วยโตนหาอะไรกิน” ลายลักษณ์ลุกจากเตียง ฉุดสโตนที่ยังนั่งงงกับลายลักษณ์คนปัจจุบัน


“แน่ใจนะลาย?” สโตนเดินนำเข้าครัว

“เรามาช่วยกันดูดีกว่า..เอ..มีอะไรบ้าง..” ลายลักษณ์เปิดตู้สำรวจเสบียง “มีบะหมี่สำเร็จรูป ผักกาดดองกระป๋อง..มีไข่ไก่หรือเปล่านะ”

“คงมีไข่อยู่ในตู้เย็น” สโตนคล้อยตามลายลักษณ์อย่างไม่เต็มใจนัก “มีจริงๆ ด้วย” สโตนหยิบไข่สองใบออกมา

“โตนนั่งเฉยๆ นะผมจะทำให้คุณกินเอง” ลายลักษณ์ลากเก้าอี้ให้สโตนนั่งที่โต๊ะเล็กกลางห้อง “ผมเคยเห็นกุ๊กเขาทำกินกัน ไม่ยากหรอก..ผมทำได้..ฮะ..ฮะ” ลายลักษณ์หัวเราะกับความขี้คุยของตัวเอง

“กินได้แน่นะ?” สโตนเริ่มผ่อนคลาย

“อ่าว..อ่าว..ดูถูกกันแระ..หึ..หึ” ลายลักษณ์ตีไข่สองฟองลงทอดในกระทะ พอไข่เริ่มสุกเทน้ำใส่ลงไปเดือดคลักๆ หักก้อนบะหมี่สองซองใส่ลงไป ตามด้วยเครื่องปรุงรสต้มยำและน้ำมันหอมเจียว ฉีกผักกาดดองกระป๋องที่ใช้กินกับข้าวต้มใส่เป็นอันดับสุดท้าย

“ผมน้ำลายหกแล้วนะลาย” สโตนกลืนน้ำลาย

“อร่อยนะ..ขอบอก” ลายลักษณ์แบ่งบะหมี่ต้มยำรสแซบเป็นสองชาม ยื่นให้สโตน และลงนั่งกินส่วนของตัว

“ไม่เคยกินสูตรนี้มาก่อน ผักกาดดองช่วยให้รสชาดเข้มข้นขึ้น..เก่งจังนะคุณ” สโตนนึกถึงเมื่อครั้ง “ลาย” ทำอาหารให้กินที่ช่องเย็น...คงเป็นส่วนดีที่ลายลักษณ์ซึมซับมาจากต้นแบบ “ลาย” หรือ “ลายคราม” คนไหนกันแน่!

“ไม่อร่อยหรือ นั่งมองผมกินเฉยเลย” ลายลักษณ์อมยิ้ม

“อร่อย..อร่อยสิ..กำลังมองว่าลายทำอะไรบางอย่างได้ดีกว่าผมเสียอีก..ไม่ได้ยอนะ” สโตนพูดกลบเกลื่อน จริงๆ แล้วเขากำลังแปลกใจกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น..เหมือนเมื่อครั้งอดีต ทั้งคำพูดและท่าทางของลายลักษณ์ที่แอบมองเขา...แล้วสโตนก็ถอนใจ



ศักดิ์นอนไม่หลับ...เขาถูกกระตุ้นด้วยความรู้สึกเก่าๆ ที่ห่างหายไปนานแล้ว มันไม่มากเท่าเดิมแต่กวนใจจนไม่สามารถข่มตาหลับได้ ศักดิ์ออกมานั่งบนระเบียงที่เคยนอนกับลูกหิน เขาเคยหวังลึกๆ ว่าสักวันจะได้พบหิน...คืนนี้เขารู้แล้วว่ามันไม่มีวันเป็นไปได้

“อุ๊ก..อุ๊ก” เสียงนกกลางคืนร้องมาจากไหนสักแห่ง..ศักดิ์ลงจากบ้านเดินเข้าสวน เลยถึงเนิน...เขามองไปที่บ้านใหญ่ด้วยความรู้สึกแปลกกว่าเคย อาจเป็นเพราะมีคนมาพักหลังจากบ้านร้างอยู่นาน..แสงไฟที่ลอดออกมาจากหน้าต่างห้องนอนทำให้ศักดิ์อบอุ่น มีความสุข

“ทัฟ..” เสียงของเบาๆ หล่นลงพื้นหญ้า ศักดิ์ก้มมองที่มาของเสียง..กระดาษจดหมายที่เขาเขียนถึงป้ายวนนั่นเองหล่นจากกระเป๋ากางเกง..เขาพบมันถูกฉีกเป็นสองท่อนบนพื้นครัวเมื่อสองคืนก่อน แปลกใจที่มันยังอยู่ สงสัยว่าวางอยู่ตรงนั้นได้อย่างไร...ถึงเวลาจะผ่านมานาน..ศักดิ์ยังจำทุกข้อความที่เขียนได้แม่นยำ

“ป้ายวนครับ ผมขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น..คุณลิลลี่คงบอกอะไรป้าบ้างแล้วแต่ไม่ละเอียดเท่าที่ผมกำลังจะเล่า..” ศักดิ์สลัดหัวหเมือนจะไล่ความทรงจำออกจากสมอง..เขาก้มลงหยิบจดหมายใส่กระเป๋าตามเดิม เดินกลับบ้านเล็กท้ายสวน



“จะนอนทั้งอย่างนั้นหรือลาย..ตัวเหม็น หัวเหม็นน้ำมันไข่เจียวหึ่งเลย” สโตนเพิ่งอาบน้ำเสร็จ

“ผมปวดหัวอีกแล้ว” ลายลักษณ์ลุกจากเตียงเดินกุมหัวเข้าห้องน้ำอย่างเด็กว่าง่าย...สักครู่กลับออกมาด้วยใบหน้าสดชื่นกว่าเดิม ทิ้งตัวลงบนเตียงทั้งๆ ยังไม่ได้ใส่อะไร หยดน้ำเกาะอยู่ตามตัวและเส้นผม “แต่ผมก็ยังไม่หายปวดหัวนะโตน”

“เช็ดตัวเช็ดผมให้แห้งก่อนสิคุณ” สโตนขยับห่างลายลักษณ์ที่กลิ้งตัวเข้าใกล้...เพิ่งสังเกตว่าร่างกาย ผิวพรรณของลายลักษณ์อ่อนละมุนกว่าลายลักษณ์โหดอำมหิตคนเก่า

“ขอยากินหน่อยนะ..” ลายลักษณ์เอื้อมมือผ่านสโตนไปที่โต๊ะหัวเตียงหยิบกระปุกยาแก้ปวดเปิดออก..เทยาเม็ดสีเงินวาวสองเม็ด...

“เอ๊ย!..นั่นมันยาของผม..อย่ากินเข้าไปนะมันอันตราย!” สโตนร้องด้วยความตกใจ...ช้ากว่าลายลักษณ์ที่ใส่ยาทั้งสองเม็ดเข้าปาก

“คืนนั้นที่ปวดหัวผมก็กินไปสองเม็ดไม่เห็นเป็นอะไรเลย” ลายลักษณ์ทิ้งตัวเปล่าเปลือยทับลงบนสโตน ร่างหอมกรุ่นนั้นไม่มีปฎิกิริยาหื่นกระหายแต่อย่างใด..เหมือนชายหนุ่มที่เหนื่อยล้าล้มตัวลงนอน

ใจที่เต้นตึกตักของลายลักษณ์แนบกับใจสโตน มีเพียงเสื้อนอนบางๆ กั้นไว้ ใบหน้าลายลักษณ์ทาบอยู่บนไหล่ เขาพึมพำอะไรอย่างหนึ่งออกมา แล้วม่อยหลับไป

สโตนได้ยินคำพึมพำนั้นชัดเจน มันดังอยู่ตรงหูเขาพอดี “ลายรักโตนนะ..โตนรักผมบ้างไหม?” สโตนเอื้อมมือหยิบผ้าเช็ดตัวเช็ดผมที่เปียกด้วยความเอ็นดู ลืมหมดสิ้นถึงความโหดร้ายที่เคยได้รับ..จากร่างที่หลับอยู่บนอก

“อย่าลืมผมนะ..” ลายลักษณ์ละเมออ้อนออกมา...สโตนเผลอตัวกอด..ไม่แน่ใจว่าเขากำลังกอด กำลังรู้สึกรักใครอยู่..ลายนอข่อ..ลายคราม..ลายลักษณ์..หรือทั้งหมดคือคนๆ เดียวกัน “นายลาย”

กลิ่นดอกสายหยุดอ่อนๆ โชยมาเหมือนเป็นคำตอบ



“กา..กา..กา”

“เอ้ก อี้ เอ้ก เอ้ก”


เสียงธรรมชาติยามเช้าปลุกให้สโตนตื่น เขายิ้มกับตัวเองเมื่อพบว่ายังคงนอนกอดลายลักษณ์อยู่ในท่าเดิม รู้สึกวงแขนหลวมๆ ขึ้น เหลือบดูลายลักษณ์ที่นอนหลับสนิท สโตนตกใจกับภาพที่ได้เห็น คนที่เขากำลังกอดอยู่คือลายลักษณ์ ทวิชีวิน หนุ่มน้อยอายุสิบห้า ผู้ช่วยของผู้ช่วยผู้จัดการที่แนะนำตัวให้เขารู้จักวันแรกที่เข้าพักในห้องอุ้มผางคี

“ลาย..” สโตนลองเรียก..ไม่มีปฏิกิริยาตอบอย่างใด เขาค่อยๆ วางลายลักษณ์บนที่นอน คิดว่าลายลักษณ์คงต้องหลับสนิทอย่างนี้อีกวันสองวัน

อาจเป็นเพราะฤทธิ์ตัวยับยั้ง faenesyl transferase เข้มข้นพิเศษที่คุณลิลลี่ทุ่มเททรัพย์สินจำนวนมากเพื่อให้นักวิทยาศาสตร์เก่งๆ แวดวงจากคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอบกินส์ ณ เมืองบอลติมอร์ ค้นคิด เพื่อบรรเทาอาการของโรค ฮัตชิสัน-กิลฟอร์ด ที่หินเป็น...ลายลักษณ์กินเข้าไปติดๆ กันถึงสี่เม็ด มีผลต่อโครงสร้างของตัวโคลนนิ่ง เป็นเหตุให้ลายลักษณ์มีสภาพร่างกายอ่อนวัยลง

สโตนเทยาทั้งหมดออกจากกระปุก มันเหลือเพียงสี่เม็ดทั้งที่ควรจะเหลือแปดเม็ด...ฤทธิ์ของยา FTIs ที่มีต่อสโตน..เมื่อระดมใช้อย่างมากในครั้งแรกๆ ของการทดลองทำให้เม็ดสีผิวหนัง เส้นผม และสีดวงตาเปลี่ยนไป ดูน่ากลัวมาก เผือกไปตลอดหัวจรดเท้าแม้กระทั่งดวงตา...ด้วยความรักความสงสาร คุณลิลลี่และตายายจึงทุ่มเททรัพย์สินลงไปอีกจนเกือบหมดตัวเพื่อหาทางช่วย..สโตนไม่รู้ความจริงนี้ ความจริงที่เขากลายเป็นลูกที่เกิดมาเพื่อล้างผลาญทรัพย์สมบัติของแม่อย่างไม่รู้ตัว...น่าสงสารคุณลิลลี่ที่มีลูกอย่างเขา

เมื่อตายายและคุณลิลลี่เสียชีวิต สโตนจึงกลับมาเมืองไทยเพื่อค้นหาความกระจ่างให้ชีวิต ทั้งเรื่องพ่อและความรู้สึกที่แท้จริงของหัวใจ เขามาพร้อมกับยาชุดสุดท้ายและเงินที่ใช้อย่างไม่ระมัดระวัง

ถ้าไม่ใช้พลังงานมากนัก สโตนจะมีชีวิตเป็นปกติประมาณสิบถึงสิบห้าวันต่อยาหนึ่งเม็ด..เขานึกว่าจะได้ใช้ชีวิตที่นครสวรรค์สักสามสี่เดือน แต่ขณะนี้ยาเหลืออีกเพียงเดือนกว่าๆ เท่านั้น ลายลักษณ์ขโมยเวลาของเขาไปโดยไม่ได้ตั้งใจ

คิดอีกแง่หนึ่ง..ถ้าจะต้องมีชีวิตอยู่อย่างไม่มีความสุข เจ็บปวดจากความอำมหิตโหดหื่นของลายลักษณ์เป็นเวลาถึงสี่เดือน สู้มีความสุขกับสิ่งดีๆ เพียงเดือนเดียวจะยังดีกว่า


ถึงอย่างไรเขาก็ต้องจากไปแล้วอย่างแน่นอน...





 

Create Date : 04 มิถุนายน 2552
0 comments
Last Update : 4 มิถุนายน 2552 9:30:37 น.
Counter : 525 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ดาเรน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดาเรน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.