Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
16 กรกฏาคม 2551
 
All Blogs
 
##....... สโตน เฮนจ์ บทที่ 26 .......##



บทที่ 26




“ตะดี่ตะดิ๊ดติ้ดตี ต๊ะดีต๊ะดีดี่ ตะดี่ตะดีตะดี้ ดีดี...” สโตนรีบออกจากห้องน้ำ ตรงเข้าคว้ามือถือที่ดิ้นสั่นบนที่นอน



“ผมทิ้งคุณมาอีกแล้วเหมือนวันนั้นเลย” โทนั่นเองที่โทรฯ มา

“ไม่ได้ทิ้งสักหน่อย ก็เมื่อวานตอนเย็นเราตกลงกันแล้วนี่ว่าโทจะไปแต่เช้ามืด” สโตนแปลกใจ

“ก็จริง..แต่ผมเปลี่ยนใจจะอยู่กับโตนสักสองสามวัน พอดีมีเรื่องสำคัญที่นี่ผมจึงต้องรีบมา..” เสียงโทลังเลที่จะพูดต่อ “เกี่ยวกับคุณนะโตน”

“เรื่องอะไร!” สโตนใจไม่ดี

“คิดว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของคุณ แต่เข้ามาเกี่ยวข้องกับผม ผมจึงต้องบอกคุณ” เสียงโทมีสำเนียงเหินห่างและน้อยใจ “มีคนมาตามคุณกลับบ้าน!”

“ใครหรือ..” สโตนนึกเดาได้ทันที

“ไม่รู้สิ..เขาบอกว่าชื่อลายลักษณ์ คนที่เคยมารับตอนคุณตกทะเลคราวก่อน..แต่ผมว่าไม่ใช่นะ ลายลักษณ์คนนั้นเป็นเด็กหนุ่มไม่ใช่หนุ่มใหญ่อย่างนี้”

“แล้ว..โทบอกเขาว่าอย่างไร” สโตนหวั่นใจกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น

“ผมบอกเขาไปว่าโตนไม่ได้มาที่นี่ แต่เขาไม่เชื่อนะ..เห็นว่าไปสืบดูที่บ้านสะพานทะเลของผมมาแล้ว”

“ไม่เชื่อก็ช่างเขา..คงหาบ้านโทหลังนี้ไม่พบหรอก” สโตนไม่มั่นใจสิ่งที่พูดออกมา

“เขาจะพักอยู่ที่นี่จนกว่าจะพบ และพาคุณกลับไป...ว่าไง?” โทเสียงแปร่ง

“บอกเขาว่าห้องเต็มไม่ได้หรือ?”

“อะไรได้ เขาเปิดห้องพักก่อนผมมาถึงเสียอีก...จะจัดการกับคนของคุณอย่างไรดี?” อีกแล้ว..สำเนียงประหลาดของโท

“ไม่ใช่ครับ!” สโตนไม่รู้จะพูดอะไร

“เพราะฉะนั้นโตนคงต้องอยู่คนเดียวสักสองสามวันหรือกว่านั้น ผมไม่แน่ใจ..จนกว่านายลายลักษณ์ของคุณจะกลับไปนั่นแหละ เขาคงจ้องผมทุกฝีก้าว แทบจะอยากดักฟังโทรฯ ของผมด้วยละมั้ง”

“ต้องอย่างนั้นหรือ?” สโตนหวาดๆ เหมือนกัน

“งั้นสิ!..คงอยู่คนเดียวได้นะ อาหารผมตุนไว้มากพอที่โตนจะกินได้เป็นอาทิตย์..แค่นี้นะ” โทเรียกสโตนว่าคุณและโตนสลับไปตามความสับสนในหัวใจ


“ตะดี่ตะดิ๊ดติ้ดตี ต๊ะดีต๊ะดีดี่ ตะดี่ตะดีตะดี้ ดีดี...” สโตนใจหายวาบกับเสียงมือถือที่ดังขึ้นอีก

“ผมเอง!..ลืมบอกไปว่าเป็นห่วงนะ” โทวางสายดื้อๆ ก่อนที่สโตนจะทันพูดอะไร

“อะไรของเค้า..” สโตนยิ้มขำกับมือถือที่อยู่ในมือแล้วกดปิดเครื่อง



“พี่ๆ ไปนั่งเรือเล่นรอบดอนหอยหลอดไหม..ไปดูหมู่บ้านชาวประมงและชีวิตตามป่าชายเลน เหมาเรือผมไปคิดค่าเช่าไม่แพงแถมบริการประทับใจครับ” ทิมน้องชายของโทเอ่ยถามลายลักษณ์ หลังจากเดินตามออกมาจากโรงแรม

“เราบุกเข้าไปหาลูกค้าถึงในโรงแรมเชียวหรือ?” ลายลักษณ์นึกเอ็นดูพ่อค้าหนุ่ม

“ผมเป็นญาติกับทางโรงแรมครับกำลังจะออกไปหาลูกค้า..คุณพักอยู่ที่นี่ผมลดให้สิบเปอร์เซ็นแล้วกันครับ” ทิม พ่อค้าหัวไวรีบเสนอข้อตกลง

ลายลักษณ์ไม่นึกว่าโชคจะเข้าข้างเขาอย่างนี้ “ตกลง..ไม่ต้องลดราคาให้พี่หรอก แต่ต้องบริการดีแน่นะเรา” ลายลักษณ์คิดจะสืบหาที่ซ่อนตัวของสโตนจากเด็กชายคนนี้ เขามั่นใจว่าสโตนอยู่ที่ไหนสักแห่งด้วยการช่วยเหลือของโท

“งั้นไปกันเลยพี่ เช้าๆ อย่างนี้แดดไม่ร้อน เหมาะมากเลยครับ” ทิมหันไปโบกมือกับโทที่ยืนสังเกตเหตุการณ์ผ่านกระจกโถงล็อปบี้

“ทิมเอ้ย ย ย !” โทร้องอย่างหัวเสียกับความหละหลวมของตัวเอง และความแอ็คทีฟของเจ้าน้องชายตัวดี “โธ่โว้ย!” โทหงุดหงิดที่ต่อโทรศัพท์ถึงสโตนไม่ได้ เขาแทบจะขว้างมือถือทิ้ง



ลายลักษณ์นั่งเรือชมทิวทัศน์ไปเรื่อยๆ ได้ยินเสียงเด็กทิมอธิบายเจื้อยแจ้วเกี่ยวกับภูมิประเทศและวิถีทำกินของชาวบ้าน แต่เขาแทบไม่รู้เรื่องทุกสิ่งที่ทิมพูดเพราะใจมัวคิดถึงเรื่องสโตน

เมื่อสองคืนที่ผ่านมา...สโตนหายไปจากบ้านทวิชีวินบนดาดฟ้าโรงแรม เขาวิ่งตามชายผมขาวลงมา แต่คลาดกัน มาเห็นอีกทีเมื่อชายผมขาวสะพายเป้ของสโตนเข้าลิฟต์ไปต่อหน้าต่อตา...ทีแรกคิดว่าสโตนปลอมตัว แต่ที่เขาเห็นคือคนแก่จริงๆ คนแก่ที่ไม่มีเค้าของสโตนอยู่เลย พนักงานประจำฟร้อนท์ฯ ก็ยืนยันว่าไม่เห็นสโตนออกไปจากโรงแรม..นอกจากชายแก่ผมขาวคนนั้น

เขาคิดอยู่ครึ่งวันจึงไปปรึกษาคราม...พ่อลายครามจะออกตามหาสโตนด้วย แต่คุณหมอวารุณีห้ามเอาไว้...ถ้ามาพร้อมกันคงแปลกพิลึก..เวลานี้เขากับครามแทบจะเป็นคนๆ เดียวกัน..สโตนเห็นคงแปลกใจมากกว่าใคร...อีกอย่าง..ความรู้สึกของเขาที่มีต่อครามและหมอวารุณีได้เปลี่ยนไป ลายลักษณ์รู้สึกเหมือนทั้งสองคนเป็นเพื่อนกับเขามากกว่าเป็นพ่อแม่

“พี่ๆ.. เป็นอะไรหรือเปล่าครับ ผมพูดอะไรด้วยพี่ไม่เห็นตอบรับเลย ผมพาพี่ไปจนเกือบจะครบทุกแห่งแล้วนะ..พี่!” ทิมตะโกนถามลายลักษณ์ที่นั่งเหม่ออยู่กลางลำเรือ

“หือ!..เอ่อ..พี่ยังอยากดูอีก เราพาไปเรื่อยๆ ละกัน พี่จะจ่ายค่าบริการเพิ่มให้..” ลายลักษณ์เริ่มแผนการ “ขยันดีนะเรา..ชื่ออะไรล่ะ เป็นญาติกับทางโรงแรมจริงๆ หรือ?”

“ผมชื่อทิม เป็นน้องพี่โทผู้จัดการโรงแรมที่พี่คุยกับเขานั่นแหละครับ” ทิมยืดอกอย่างภูมิใจ

“ทิมกับพี่โทพักอยู่ที่โรงแรมหรือ?” ลายลักษณ์ค่อยๆ ตะล่อม

“ความจริงแม่ผมเปิดร้านค้าอยู่ที่ดอนครับ พี่โทดูกิจการโรงแรมที่นี่ ผมก็อยู่ที่นี่เหมือนกัน อ้าว!..นั่นไงบ้านสะพานทะเลของพี่โท” ทิมชี้ให้ดูบ้านสะพานทะเลที่ลายลักษณ์เคยมาแล้ว เมื่อคืนเขาก็แอบมาสำรวจหาสโตน

“หลังนิดเดียวเองเหมือนกระต๊อบเด็กเล่นเลย” ลายลักษณ์แกล้งพูดสบประมาท..ซึ่งได้ผล

“โอ๊ย!..บ้านสะพานทะเลหลังนี้พี่โทกับผมมานอนเล่นกันเฉยๆ ครับ แม่มีบ้านอีกหลังหนึ่งสวยมากอยู่ไกลไปอีกหน่อย” ทิมหลงกลสาธยายเรื่องส่วนตัว

“จะสวยแค่ไหนกัน..” ลายลักษณ์ตาลุกวาวกับคำบอกเล่าของทิม “กลับโรงแรมเถอะพี่ไม่อยากดูหรอก” ลายลักษณ์ทำเป็นมองไปทางทิศที่โรงแรมตั้งอยู่ แต่ชำเลืองดูทิม

“ตามใจพี่..กลับก็กลับครับ” ทิมทำท่าจะเลี้ยวเรือกลับ ลายลักษณ์รีบกลับอารมณ์เช่นเดียวกัน

“เดี๋ยวๆ..กว่าจะถึงโรงแรมคงอีกนาน..” ลายลักษณ์แอบเทน้ำดื่มทิ้งข้างกราบเรือ “พี่หิวน้ำจัง เราแวะไปหาน้ำกินที่บ้านทิมก่อนละกัน..คงมีนะ”

“ชัวร์!..แน่นอนครับพี่” ทิมเร่งเครื่องเรือเต็มที่ เสียงเครื่องยนต์กระหึ่มท้องทะเล



หลังจากปิดมือถือแล้วสโตนเกิดความรู้สึกสองอย่าง..อย่างแรก รู้สึกโดดเดียววังเวง..บ้านริมทะเลหลังนี้อยู่ค่อนข้างห่างไกลจากผู้คน อย่างที่สอง รู้สึกปลอดภัยและเป็นอิสระจากทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนไม่ต้องเกี่ยวข้องกับผู้คนอื่นในโลกนี้เลย

สโตนถอดเสื้อผ้าทุกชิ้นออก เดินโทงๆ ไปห้องของโท ถือวิสาสะค้นหาจนได้กางเกงว่ายน้ำสีดำตัวหนึ่ง เขารีบใส่อย่างลวกๆ วิ่งลงไปชั้นล่าง ออกไปที่ทะเลหน้าบ้านอย่างลิงโลด

“วู้!..วู้!..ฮิ้ว!..” สโตนตะโกนกับทะเลและฟ้าสีคราม...เสียงคลื่น เสียงใบมะพร้าว เสียงนกร้องไกลๆ ทำให้สโตนแทบจะลืมเรื่องราวทั้งหมดในชีวิต เขาแหวกว่าย ปะทะคลื่นและเม็ดทรายอย่างมีความสุข

“ผมมีความสุขจริงคร๊ า บ . . .” สโตนร้องขึ้นบนฟ้าเหมือนบอกให้ใครบางคนที่เป็นห่วงเขาได้รับรู้...สโตนดำผุดดำว่ายอยู่จนบ่ายจึงขึ้นจากทะเล นอนเกลือกทรายเล่นหน้าบ้าน

“จ๊อก..จ๊อก..” ท้องสโตนร้องประท้วงเจ้าของที่ละเลยอาหาร เขาเพิ่งนึกได้ว่าตั้งแต่เช้าดื่มนมและกินคุกกี้เพียงสองชิ้นเท่านั้น สโตนลูบทรายที่เกาะอยู่ตามผิวสีแทนชมพูออก ตั้งใจจะเข้าบ้านหาอะไรกิน

ขนสีน้ำตาลทองบนท่อนขาแข็งแรงเต็มไปด้วยเม็ดทราย สโตนปัดทรายออกจากขน เขารู้สึกเจ็บจากแรงปัดของตัวเองแต่ไม่ทันคิดอะไร ลุกขึ้นยืนลูบทรายออกลำตัวและหน้าท้อง...จู่ๆ เขารู้สึกเจ็บที่ผิวหนัง

“โอ๊ะ!...” สโตนร้องออกมาด้วยความตกใจ...หน้าท้องที่เป็นลอนของเขาค่อยๆ เหี่ยวย่น มือที่ลูบไล้อยู่ก็เช่นกัน..สโตนรู้ดีว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง เขารีบหันหลังกลับวิ่งเข้าบ้าน แต่ก่อนจะก้าวขา สโตนก็อ่อนแรง...ทรุดลงคุกเข่ากับพื้นทราย

“ปวื๊ด..ปวือ อ อ อ . . . ” มีเสียงเรือเร่งเครื่องมาแต่ไกล

“ทำอย่างไรดี..ทำอย่างไรดี..” เสียงสโตนสั่นเครือเหมือนคนแก่...


“พี่ๆ ใครไม่รู้นอนอยู่บนหาดหน้าบ้านผม” ทิมร้องลั่นเมื่อเรือจอดสนิท “หน้าต่างบ้านก็เปิดอยู่ มีคนมาพักแน่ๆ” ทิมรีบลุยน้ำขึ้นหาด

“คุณหนีผมไม่พ้นแน่..โตน” ลายลักษณ์กระหยิ่มใจ วิ่งตามหลังทิม

แสงแดดที่สว่างจ้ากลับครึ้มหม่น ใบมะพร้าวส่งเสียงกราว ลมพัดแรง...ทิมและลายลักษณ์ถึงตัวชายชรา

“ลุงเป็นอะไรหรือเปล่า มานอนอยู่อย่างนี้” ทิมคุกเข่าลงข้างชายนั้น “ลุงมาจากไหนล่ะ แถวนี้ไม่มีบ้านคนสักหน่อย”

“ลุง..ลุงไม่ได้อยู่แถวนี้” ชายชราอ้อมแอ้มตอบ “ลุงแล่นเรือหาปลามาเรื่อยๆ จนถึงนี่ เห็นบ้านสวยดีเลยขอนอนเล่นสักหน่อย”

“เข้าไปนอนเล่นในบ้านผมน่ะนะ!” ทิมหันไปมองประตูบ้านที่เปิดแง้มอยู่

“เฮ้ย!..ข้าไม่รู้ไม่เห็นด้วย..เพิ่งมาถึง เพิ่งหย่อนก้นลงนั่งนี่แหละเอ็งก็มาพอดี..อีกอย่างหาดและทะเลเป็นของสาธารณะโว้ย เองจะห้ามข้าได้ยังไง” ชายชราเริ่มขึ้นเสียง

“ใช่! ใช่!..ตากับฉันเพิ่งมาถึง..ไม่ได้เข้าไปในบ้านนายสักหน่อย” เด็กชายคนหนึ่งไต่ลงมาจากต้นมะพร้าว “ไปเถอะตา..คนมีเงินมันขี้งก เราไปหาปลาของเราต่อดีกว่า” เด็กน้อยฉุดชายชราลุกขึ้น..พากันเดินไปที่ชายทะเลอีกด้านที่มีเรือหาปลาลำเล็กๆ จอดอยู่

“ขี้งกแล้วยังไม่ดูตาม้าตาเรืออีก..ไอ้เด็กเวร!” เสียงชายชราแว่วมา


ตลอดเวลาลายลักษณ์ยืนดูเหตุการณ์อยู่ด้วยความผิดหวัง..ชายแก่คนนี้ไม่ใช่คนที่เขาเคยเห็นที่บ้านและที่หน้าลิฟต์...แต่ยังมีใครอีกคนหนึ่งอยู่ในบ้านของทิม!

“ไม่เข้าไปดูในบ้านหรือว่ามีใครอยู่..พี่หิวน้ำด้วยจำไม่ได้หรือไง?” ลายลักษณ์กระตุ้นทิม

“ไปสิพี่!..ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าใครเข้าบ้านผม” ทิมเดินลิ่วไปที่ตัวบ้าน

“โอ๊ย!..หิวน้ำจัง” ลายลักษณ์เจ้าเล่ห์เดินยิ้มตามหลังทิมที่ไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือ “คุณหนีผมไม่รอดหรอก” ลายลักษณ์พึมพำ

“ใครอยู่ในบ้านครับ!..” ทิมตะโกนเข้าไปในบ้าน เขาแน่ใจว่าต้องเป็นคนแปลกหน้า..แม่ขายของอยู่ที่ดอน พี่ชายอยู่ที่โรงแรม พี่สาวอยู่กรุงเทพฯ..ฉะนั้นคงต้องเป็นคนแปลกหน้าหรือพวกมิจฉาชีพ

“หัวขโมยมั้ง!..” ลายลักษณ์แกล้งพูด..แน่ใจว่าเป็นสโตนที่อยู่ในบ้าน

“ใคร!..ออกมานะ!” ทิมตะโกนอีกครั้ง

“เอะอะอะไรกัน!..” ใครคนนั้นเดินมาที่ประตู


“อ้าว!..” ทิมอ้าปากค้าง...ผู้ที่เปิดประตูออกมาคือโท..พี่ชายของเขาเอง





Create Date : 16 กรกฎาคม 2551
Last Update : 17 พฤษภาคม 2552 11:32:52 น. 4 comments
Counter : 573 Pageviews.

 
ไหนว่า เรื่องนี้จบไม่เศร้างัยล่ะ...เฮ้อ ตกลงจะมีใครรอดมั๊ยเนี่ย...สงสัยภาค 3 จะเป็นภาควิญญาณ เอ หรือว่า คุณลายครามจะโคลนนิ่งนายหินขึ้นมาเอ่ย...ยังงัย..นายโตน(รูปข้างบน) คนนี้หล่อสุดๆ อิๆๆ..


โดย: ป้าลี IP: 222.123.84.130 วันที่: 17 กรกฎาคม 2551 เวลา:10:42:22 น.  

 
ป้าลีครับ...

ถ้าป้าลีไม่คอมเม้นท์มาผมคงนึกว่าไม่มีใครอ่าน...
เครื่องนับเสียอีกแระ...
ผมยังไม่แน่ใจเลยว่าจะนำพวกเขากลับมาอย่างไร ที่ป้าลีแนะนำก็ดีเหมือนกัน...
แต่จะซ้ำกันการกำเนิดลายลักษณ์...
การเขียนของผม การอ่านของผู้อ่านก็จะไม่มีอะไรให้สงสัย ให้ลุ้น...
คงต้องหาวิธีอื่นซึ่งก็พอจะมีแล้วแต่ติดขัดกับรายละเอียดที่จะเอ่ยกล่าว..ถ้าผิดเพี้ยนจากความเป็นจริงจะเกิดความเสียหาย...
อย่างเช่นเมื่อสองสามวันที่ผมหายไปจนป้าลีต้องจุดธูปตามนั้นก็เพราะผมมัวไปตามหาสโตนคนสุดท้ายที่จะให้อยู่ในความทรงจำของผู้อ่านทุกคน...เกือบถอดใจเสียแล้ว..แต่ก็ได้มาในที่สุด...
หล่อเศร้าอย่างที่ผมตั้งใจ...
จะได้อยู่ในใจของป้าลีอีกนานๆ...
จนกว่าภาค 3 จะปรากฎ...
แกล้งให้ป้ารัญจวนใจซะงั้นละครับ...

ดีน ครับ.....


โดย: ดาเรน (ดาเรน ) วันที่: 17 กรกฎาคม 2551 เวลา:11:38:20 น.  

 
เฮ่อ !!

น่าสงสาร สะเทือนใจจัง

ชีวิต ความรัก ลำบากจังกว่าที่ใครซักคนจะสมหวัง

อย่าถอดใจนะคุณดีน พี่ตามอ่านตลอดแหละคะ เร็วบ้าง ช้าบ้าง แล้วแต่เวลาอำนวย

หักมุมมากๆ คนอ่านใจสะเทือนหมดแล้วนะ

*__*


โดย: sandhurst IP: 124.120.36.207 วันที่: 19 กรกฎาคม 2551 เวลา:14:53:08 น.  

 
อ้าว! อ้าว! อ้าว!...

เย้ เย้ เย้...

เครื่องนับใช้การได้แล้ว...

ถ้ายังใช้ไม่ได้ ผมไม่ยอมจบแน่ๆ...

ไม่อยากให้นายสโตนจากไปอย่างเงียบเหงาครับ...

ขอบคุณมากครับ..ใครก็ตาม...

ดีน ดาเรน ครับ.....


โดย: ดาเรน IP: 124.121.176.229 วันที่: 23 กรกฎาคม 2551 เวลา:9:13:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดาเรน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดาเรน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.