Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
25 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 

##....... สโตน เฮนจ์ บทที่ 23 .......##



บทที่ 23




สโตนนั่งอยู่ในห้องพักผ่อนของบ้านทวิชีวิน...กระจกใสบานสูงจากพื้นจรดเพดานทำให้เหมือนนั่งอยู่ในสวนสวยใต้ดวงดาว..ไฟที่สระน้ำยังสว่างวอมแวมลอดต้นไม้ให้เห็น พนักงานกำลังเก็บทำความสะอาดพื้นที่


“วันนี้แปลกใจไหม?”
ลายลักษณ์หย่อนตัวลงบนโซฟาเดี่ยวที่สโตนนั่งอยู่

“ผมเหนื่อยและเจ็บตัวกับเรื่องแปลกใจตั้งแต่เช้าจนเดี๋ยวนี้!” สโตนประชด “และยังไม่หายข้องใจ”

“ข้องใจเรื่องอะไร..ผมต่างหากที่ควรจะสงสัย” ลายลักษณ์แกล้งเบียดสโตน

“ที่นั่งมีตั้งเยอะทำไมมานั่งเบียดผม..เดี๋ยวใครเข้ามาเห็น” สโตนขยับตัว เปลี่ยนเรื่องที่ตั้งใจจะพูด

“ไม่มีใครแน่ พ่อกับแม่อยู่กับแขกวีไอพีที่ห้องรับแขก ส่วนพี่วัน ไม่เคยดื่มไวน์มาก่อน คืนนี้ชิมมากไปหน่อย เดินเซเข้าห้องนอนไปแล้ว คงเหลือแต่ผมนายลายลักษณ์ และหิน และสโตน..” ลายลักษณ์วางแขนระหว่างไหล่ของสโตนกับพนักพิงโซฟา “ทำไมพ่อเรียกโตนว่าหิน ผมไม่เข้าใจ!”

“อ้าว!..ไหนว่าเข้าถึงใจของคุณครามหมดทุกอย่างไง?” สโตนได้ที

“ช่าย..ผมรู้..แต่บางเรื่องที่ฝังลึกอยู่ในใจ และเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนผมเกิด ผมเข้าไปไม่ถึง” ลายลักษณ์เริ่มล้าและมึน เขาเองก็ดื่มไวน์มากเหมือนกัน..ความจริงไม่เพียงแต่ลดาวัลย์ แม้แต่ลายลักษณ์ก็แทบไม่เคยลิ้มรสไวน์มาก่อน

“ผมจะกลับห้องพักแล้ว ง่วงนอน...วันนี้..ทั้งวัน” สโตนลุกขึ้นจากโซฟา

“เดี๋ยวสิ!..รอพ่อกับแม่ก่อน เผื่อท่านมีอะไรอยากคุยด้วย..ผมรู้ว่าพ่ออยากคุยกับโตน” ลายลักษณ์ดึงแขนสโตนให้นั่งลงตามเดิม

“ไม่!..ผมจะกลับ” สโตนฝืนลุกขึ้นจนได้ แกล้งเดินดูสิ่งต่างๆ ที่วางโชว์ในห้องเพื่อหลีกเลี่ยงการเกาะกุมจากลายลักษณ์

“งั้นโตนก็กลับเอง..ฮึ!..ประตูลิฟต์ใช้รหัสสแกนฝ่ามือ จ้างให้ก็กลับลงไปไม่ได้..ฮะ..ฮะ..” ลายลักษณ์หัวเราะชอบใจ “ คืนนี้ค้างกับผมที่นี่นะ...มานี่” ลายลักษณ์เดินตามสโตนไปรอบๆ ห้อง

“เอ๊ะ!..นี่อะไร!” สโตนเบิ่งตาโตกับของในตู้กระจกที่ตั้งโดดเด่นอยู่มุมห้องด้านหนึ่ง

“กีต้าร์ไง..ไม่รู้จักหรือ มิสเตอร์หินสโตน” ลายลักษณ์เริ่มงอแง เกาะไหล่ด้านหลัง ยื่นหน้าแนบแก้มสโตน

“ทำไมมีรอยไหม้ไฟอย่างนั้น...ของศิลปินคนไหนหรือถึงเก็บไว้อย่างดี” สโตนไม่ทันสังเกตว่าลายลักษณ์กำลังเริ่มรุกรานเพราะมัวแต่ให้ความสนใจกับกีตาร์กระดำกระด่างในตู้กระจก

“ของแม่...พ่อทำไฟไหม้ แต่พ่อรักมันมากจึงเก็บรักษาไว้อย่างดี...อืมม์..” ลายลักษณ์โอบเอว คลึงเคล้าใบหน้ากับท้ายทอยของสโตน

“มีรอยสลักอยู่ด้านข้าง...” สโตนแกะมือลายลักษณ์ออกเพื่อก้มเข้าไปดูใกล้ๆ

“โตนนะ!” ลายลักษณ์ก้มตามประกบ

“เขียนว่า...” สโตนเพ่งมองรอยสลักที่ค่อนข้างเลือนราง


“วารุณี..นอข่อ..หินล่อ” เสียงเข้มๆ ของครามดังขึ้น

“พ่อ!” ลายลักษณ์หายงอแงเป็นปลิดทิ้ง ผละออกจากสโตนที่สะดุ้งดีดตัวขึ้นพร้อมกัน

“โอ๊ย!” หัวสโตนเข้าที่คางของลายลักษณ์อย่างจัง

“โอ๋ย..” สโตนคลำหัวป้อย

“ฮะ..ฮะ..สมน้ำหน้า..อยากไปวุ่นวายกับคุณสโตนดีนัก..ฮะ..ฮะ” ครามหัวเราะขำลูกชาย

“พ่อก็..” ลายลักษณ์ทิ้งตัวลงนอนบนโซฟายาว มือหนึ่งกุมคาง อีกมือหนึ่งไม่วายดึงสโตนนั่งลงด้วย ข้างหน้าเขา

“ถ้าลายง่วงก็ไปนอน พ่อจะคุยกับคุณสโตนก่อน แล้วจะไปส่งกลับห้องให้เอง” ครามนั่งลงบนโซฟาเดี่ยวตรงกันข้าม

“ไม่อาว...” ลายลักษณ์เสียงงัวเงีย เอื้อมมือกอดเอวสโตนไว้กับอก ซุกหน้าอยู่หลังเอว

“คุณโตนเขยิบถอยเบียดให้นายลายแบนติดโซฟาไปเลย” ครามเย้าลูกชาย

“พ่อนะ..” ลายต่อคำ “รู้นะพ่อจะทำอะไร..” ลายลักษณ์ขมุบขมิบพูด แทบไม่มีเสียงลอดออกมา

สโตนแอบยิ้ม นึกชื่นชมความน่ารักของสองพ่อลูก...ถ้าไม่มีตำหนิอยู่ในใจ สโตนคิดว่าเขากำลังมีความสุขกับครอบครัวใหม่ หลังจากว้าเหว่อยู่ตัวคนเดียวมานาน...ครอบครัวทวิชีวิน

“กีต้าร์นั้นเป็นของคุณหมอวารุณีเมื่อครั้งหนึ่งนานมาแล้ว..” ครามเริ่มเล่า สีหน้าจริงจัง “คุณหมอเป็นคนช่วยชีวิตผมไว้จากน้ำหลาก..” ครามหยุดชั่งใจที่จะพูดความรู้สึกส่วนตัว..แต่แล้วเขากลับพูดต่อเพราะเกิดความแน่ใจระดับหนึ่งกับหนุ่มตาสีน้ำเงินที่นั่งอยู่ตรงหน้า “เรารักกัน...วันหนึ่งผมทำกีต้าร์ของเธอไหม้จนเกินจะซ่อม ก็เลยเก็บไว้เตือนความทรงจำของเราสองคน”

“อ้อ..หรือครับ..” คำพูดไม่มีความหมาย ตรงข้ามกับความรู้สึกน้อยใจออกจากปากของสโตน เขาเริ่มเข้าใจแต่ไม่มั่นใจนัก...เขาน้อยใจเพราะอะไร.. เขามีสิทธิ์น้อยใจกับเรื่องนี้หรือ!..สโตนเสมองกีต้าร์..น้ำตาคลอ

ครามสังเกตเห็นแววความผิดหวังปรากฏในดวงตาสีน้ำเงินคู่นั้น จึงเสริมต่อ “แต่..มีหลายอย่างในกีต้าร์ตัวนี้ที่ไม่มีใครรู้ นอกจากผม..”

“จะได้ไหมครับ ถ้าผมอยากรู้เรื่องมากกว่านี้?” สโตนกลั้นใจถาม เสี่ยงต่อการถูกปฎิเสธ

“ได้สิครับ!” ครามดีใจออกนอกหน้า

“ที่เขียนไว้บนกีตาร์ว่า วารุณี นอข่อ หินล่อ คืออย่างไรครับ?” สโตนอยากแน่ใจว่าใช่นอข่อ และหินล่อในใจเขาหรือไม่ ทั้งๆ ที่มันน่าจะเป็นเรื่องเดียวกัน..แต่ยังมีบางอย่างที่บ่งว่าไม่ใช่เรื่องเดียวกัน

“นอข่อคือชื่อของผม..หินล่อคือเพื่อนคนหนึ่งครับ” ครามตอบได้เท่านั้น..เขาจะขยายความลึกลงไปอีกได้อย่างไร

“อ้อ..หรือครับ” อีกครั้งที่สโตนพูดโง่ๆ ออกมา...คำตอบของครามไม่ได้ให้ความกระจ่างกับเขาเลย

“ครับ?..” ครามก็ว้าวุ่นใจพอกับสโตน..เขาอยากให้สโตนถามลึกลงไปกว่านั้น..ถามต่อซิ..ถามซิ..ครามร้องในใจ

“นอข่อ..” สโตนเอ่ยขึ้นเหมือนรู้ความในใจของคราม “นอข่อคือ..” สโตนอยากให้ครามยอมรับว่าคือลายนอข่อของเขา ทั้งที่ความเป็นไปได้มีน้อยเหลือเกิน..สโตนอยากได้ยิน อยากพบลายนอข่อตัวจริงที่จับต้องได้ ไม่ใช่ในห้วงคำนึง..กาลเวลาลี้ลับที่ไม่มีวันเป็นจริง

“นอข่อคือ..” ครามสุดทนห้ามใจ..แม้ว่าชายหนุ่มอ่อนวัยตาสีน้ำเงินคนนี้ไม่มีทางใช่หินล่อของเขา แต่เขาก็อยากลองเสี่ยง...ผลลัพธ์ที่ได้มีค่ามากมายนัก ถ้าคือความจริง..ครามตัดสินใจ “นอข่อคือ...”


“นอข่อเป็นภาษากะเหรี่ยงค่ะ..แปลว่าคราม ต้นคราม” คุณหมอวารุณีเข้ามาพอดี

“ครูนี!..” ครามสะดุ้ง เผลออุทานออกมา..เบาแทบไม่มีใครได้ยิน

“ดึกมากแล้วเราแยกย้ายกันไปพักผ่อนดีกว่านะคะ...ลูกลายหลับอยู่ข้างหลังคุณสโตนได้ยังไง!..” หมอวารุณีตรงเข้าเขย่าตัวลายลักษณ์ “ไปอาบน้ำเข้านอนดีกว่านะลูก”

“ไม่ครับ!..ผมจะอยู่กับโตน” ลายลักษณ์งัวเงียปัดมือหมอวารุณี..หลับตานอนต่อ

“ไม่เป็นไรครับ..เดี๋ยวผมจัดการให้เอง” สโตนอาสา

“ไปค่ะคราม อย่าไปกวนคุณสโตนแกเลย ดึกมากแล้ว..เดี๋ยวเขาคงจัดการกันได้” หมอวารุณีเดินนำ..ครามลังเล อิดออด ตามออกไป


สโตนนั่งคิด..หาวิธีที่จะทำให้คืนนี้ลุล่วงไปด้วยดีอย่างไม่ต้องเดือดร้อนตัวเอง...ถ้าลายแห่งบ้านอุ้มผางคียังอยู่ คงไม่ปล่อยให้เขาพบสถานการณ์เช่นนี้แน่นอน...สโตนรู้ดีว่าเขาคงไม่มีโอกาสได้กลิ่นดอกสายหยุดอีกแล้ว

“อือออ...” ลายลักษณ์คราง กระชับแขนแน่นเมื่อสโตนขยับตัวจะลุกขึ้น...สโตนก้มมองลายลักษณ์ที่นอนหลับอย่างไร้พิษสง..ลายลักษณ์เป็นอีกคนที่ผูกใจไว้กับเขานอกจากลายนอข่อ ลายครามนอข่อ และชายสูงอายุที่ยิ้มให้ริมรั้วปีกไม้ในจอพลาสม่าเมื่อหัวค่ำนี้.. “ศักดิ์”

สโตนย้อนคิดถึงหัวใจหลายดวงที่ฝากไว้กับเขาทั้งในอดีตและปัจจุบัน...ศักดิ์..คนที่ทำให้ชีวิตหินกลายเป็นสโตนในทุกวันนี้..ถ้าไม่ชวนไปรับเรือที่แสมสารเขาก็คงคือนายหินที่ไม่รู้จักพ่อแม่ของตัวเอง ไม่รู้จักชีวิต ความรัก และความเสียสละของชายคนหนึ่ง

คิดอีกที..ป่านนี้ศักดิ์คงเลือนความรู้สึกที่มีต่อหินบ้างแล้ว..สโตนไม่ได้ดูถูกน้ำใจศักดิ์ที่ดูเหมือนจะเป็นคนที่รักเขามากกว่าใคร..ความจริงของโลกเป็นเช่นนั้น ดูแต่เขาสิยังจางความรู้สึกทั้งหลายที่มีต่อศักดิ์ไปได้เลย..แต่ชายที่มีจิตใจดีคนนี้ยังอยู่ลึกในใจเขาไม่เปลี่ยนแปลง ไม่เช่นนั้นเขาจะน้ำตาไหลทำไมเพียงแค่เห็นรอยยิ้มที่เหนื่อยล้ากับชีวิตนั้น..นี่ยังไง..มันไหลออกมาอีกแล้ว

สโตนเช็ดน้ำตา หวนคิดถึงลายครามนอข่อ..ลายครามคือใครกันแน่..ลายครามจะใช่เด็กชายลายหรือไม่..ลายที่เคยช่วยเหลือเมื่อครั้งเขาตามองไม่เห็นที่บ้านนครสวรรค์ และพาเขาหนีคนร้ายไปช่องเย็นจนตัวเองต้องพลัดหายไปกับน้ำป่า...ลายคือคนที่เขายังสำนึกบุญคุณ และซาบซึ้งในความรักที่ได้มอบให้เขาด้วยชีวิตของตัวเอง

หรือขณะนี้...เด็กน้อยลายคนนั้นกลายเป็นลายครามตามเวลาและวิถีชีวิตที่ดำเนินต่อเนื่องมา...ลายครามมีรักใหม่ที่ถูกต้องตามธรรมชาติ มีเมียมีลูก มีฐานะเป็นปึกแผ่น..ความรักที่มีให้หินในอดีตคงเหลือเแค่ความทรงจำ แม้ว่าการได้พบสโตนจะสะกิดความรู้สึกครั้งเก่าขึ้นมาบ้าง แต่ก็คงไม่มีผลอะไรกับใคร

ลายครามจะใช่ลายคนนั้นของหินละหรือ!..ถ้าใช่ ก็คงไม่ใช่ลายคนเดียวกับลายนอข่อแห่งบ้านอุ้มผางคี เพราะลายครามมีลูกถึงสองคนแต่ลายนอข่อพิการไม่สามารถมีลูกได้


แล้วลายไหนคือลายไหนกันละนี่!..สโตนสับสนขึ้นมาดื้อๆ...






 

Create Date : 25 มิถุนายน 2551
4 comments
Last Update : 13 พฤษภาคม 2552 10:59:57 น.
Counter : 635 Pageviews.

 

ขอยาอย่างนายโตนสักเม็ดสิ...อยากกลับบ้าน..เอ้ย อยากลดอายุอ่ะ...เหมือนนายลายงัย...เดี๋ยวหนุ่ม เดี๋ยวแก่ อิๆๆ อยาก 14 อีกครั้งงั๊ย

 

โดย: ป้าลี IP: 61.7.172.157 26 มิถุนายน 2551 13:52:33 น.  

 

ป้าลีครับ...
ขอช้าไปหน่อย...
เสก โลโซ ขอไปหมดแล้วครับ...
14 อีกครั้ง...
แต่ขอกระซิบ...
นั่นน่ะยาปลอม...
ของจริงอยู่กับผมครับ...

ดีน ครับ.....

 

โดย: ดาเรน IP: 124.121.175.78 27 มิถุนายน 2551 9:46:55 น.  

 

555...

งั้นพี่แซนด์มาขอยาของจริงบ้าง

อยากลดริ้วรอยบ้างอะคะ

นะๆๆ ซักเม็ด สองเม็ด ก็ยังดี จะได้ไปแบ่งกับป้าลี แล้วพากันแอ๊บสาววัยรุ่น 14 ....

^__^

 

โดย: sandhurst IP: 124.121.239.149 29 มิถุนายน 2551 15:07:54 น.  

 

พี่แซนด์ครับ...

ผมมีเหตุผลที่ไม่ให้ยาของจริงกับคุณเสก...
ยานี้มีผลกับคนเป็นโรค ฮัทจิสันฯ อย่างหนึ่ง...
มีผลกับตัวโคลนนิ่งอย่างหนึ่ง...
และมีผลกับกนธรรมดาอีกอย่างหนึ่ง...
เคยมีเพื่อนจากห้องนักเขียนลองเข้าไปหนึ่งคน...
จุ๊ๆๆๆ อย่าบอกใครว่าเป็นผลงานยาของนายสโตนนะครับ...
อย่างนี้พี่แซนด์และป้าลียังอยากจะลองอีกไหมครับ?...
คอยติดตามผลของยาที่มีต่อคนธรรมดาได้ในตอนต่อๆไปนะครับ...

ดีน ดาเรน ครับ.....

 

โดย: ดาเรน IP: 124.121.174.201 29 มิถุนายน 2551 17:08:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ดาเรน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดาเรน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.