มึงสบายดีนะ
ก็สบายดีมีสุขมาตลอดจนมึงมาถึงนี่แหละ
นั่นเป็นคำทักทายปราศรัยของเราครั้งแรกนับตั้งแต่ไม่ได้เจอหน้ากันมาเกือบสามปีผมกับเห่าดงสนิทกันมาก เราเคยผ่านความเหตุการณ์เฉียดตายมาด้วยกันและทุกครั้งจะเป็นเห่าดงคนนี้แหละที่ดึงผมให้รอดพ้นจากกรอบประตูของยมทูตนับว่าผมโชคดีที่มีเพื่อนคุ้มครอง แต่ในทางกลับกันเห่าดงก็ประณามผมอยู่เรื่อยไปว่า...
มึงนี่มันพาความซวยมาจริงๆแค่รู้ว่ามึงมา กูรู้ได้เลยว่าชีวิตที่เคยสงบของกูมีอันต้องอันฉิบหาย
ผมไม่เคยถือสาคำพูดคำจาของเห่าดงเลยสักนิดเพราะผมรู้ว่าที่มันพูดไปนั้นก็เป็นเพียงแค่การด่ากระทบกระทั่งตามประสาเพื่อนสนิทเพียงแต่น้องสาวของผมคงไม่คุ้นเคยกับความสนิทชิดเชื้อของเรา
พี่ว่าเขาจะยอมช่วยเหลือเราแน่เหรอเนี่ยเธอจึงกระซิบถามผม
ผมได้แต่ยิ้มแห้งๆให้ หันไปทางเพื่อนเกลอที่ยังหลงเหลือความเหี้ยมบนใบหน้าไม่ต่างกับตอนที่จัดการกับพ่อค้าร้านชำ เพื่อนที่กูมั่นใจว่าพึ่งพาได้ก็มีแต่มึง
เฉพาะเวลาที่มึงเดือดร้อนมึงถึงมาหากูรึ ไอ้มั่น! เห่าดงตะเบ็งเสียง ทำเอาน้องสาวของผมสะดุ้งโหยงแล้วดูเหมือนมันกำลังจะอ้าปากต่อว่าผม ก็มีหญิงสาวรูปร่างอิ่ม ใบหน้ากลมพูดแทรกการสนทนาแสนสนิทสนมของพวกเรา นี่น่ะหรือมั่น เพื่อนที่พี่เห่าเคยเล่าให้ฉันฟัง
เห็นไหมล่ะว่ายังไงเสีย เพื่อนก็ไม่เคยลืมกัน ผมยิ้มอย่างอิ่มเอม
เออไอ้เวรนี่แหละ ไอ้คนที่ไปอยู่กองไหน เป็นวอดวายทั้งกองวันที่ทางรัฐปราณตกลงสงบศึกกับไทบุรี พี่ว่าพี่จะได้ใช้ชีวิตสงบหลังผ่านศึกกลับมารายงานตัวที่กระทรวงไม่กี่วันนายอัศวินเขาก็ย้ายมันมาอยู่กองหน่วยข่าวกรองกับพี่ เท่านั้นล่ะไม่กี่อาทิตย์ต่อมา นายอัศวินถูกบุกจับพร้อมกับยัดข้อหาทรราชคิดก่อการกบฏ !
สุขใจที่มันยังจำเรื่องเก่าๆได้ดี เล่าถึงความหลังระหว่างกันได้ไม่มีตกหล่นผมรู้สึกกลายเป็นคนพิเศษเล็กน้อยในสายตาหญิงสาวที่ผมคิดว่าคงเป็นเมียเห่าดง
พี่มั่น ที่พี่เคยเล่าฉันว่าเป็นที่รักของเพื่อนนี่จริงรึฉันว่าเขาไม่อยากช่วยเรานักหรอก เรากลับไปภูผายาดีกว่า ที่นั่นมีแต่พี่น้องยังไงเสียเขาคงให้ที่พักที่หลบภัย
มิ่ง...ที่ใดที่ปลอดภัย ที่นั่นจะเป็นที่อันตรายที่สุด พวกมันรู้ว่าพี่มาจากภูผายาถ้าเรากลับไป จะกลายเป็นพาความวินาศไปสู่พี่น้องของเรา
โถ ไอ้มั่น มึงก็เลยพาความวินาศมาแหลมทองแทนนี่ไง!
เห่าดงออกความเห็นจนทำให้มิ่งน้องสาวของผมถึงกับเลือดขึ้นหน้า ก็ไม่ได้อยากอยู่เว้ย พี่มั่นเราไปจากที่นี่เถอะ เดี๋ยวอยู่นาน ชีวิตเขาจะยิ่งวินาศไปกว่านี้ !
เดี๋ยวสิอยู่กินข้าวเย็นกันก่อนเถอะ ฉันทำเผื่อไว้แล้วถ้าไปเสียก่อนก็เหลือทิ้งเหลือขว้างนะ แล้งแบบนี้จะไปหาอะไรกินก็ยากหญิงสาวข้างกายเห่าดงบอก
ไม่เป็นไรแค่ผัวพี่ช่วยชีวิตพวกฉันไว้ บุญคุณก็ล้นเหลือแล้ว ฉันไปเลยดีกว่ายังไม่มืดเท่าไหร่ ไปตอนนี้ยังปลอดภัย ถ้าฉันกับพี่มั่นตาย ก็ตายนอกบ้านนี้ไม่ลำบากใครอ้อ แล้วไม่ต้องตามไปเก็บศพนะ เกรงใจ
มิ่งพูดเน้นชัดทุกถ้อยคำมันจะทิ้งเพื่อนก็คราวนี้กระมัง มิ่ง แกพูดเกินไปแล้ว ผมจึงต้องปรามน้องและโทษตัวเองที่คิดไม่ถี่ถ้วนพูดอะไรที่มันทำให้เห่าดงเสียความรู้สึกเอง
อีเท่อ ทำเป็นเก่งทำไมอีตอนที่กำลังถูกไอ้เจ้านั่นมันจับตัว ข้าไม่เห็นหน้าไหนปากดีอย่างนี้เห็นแต่พวกลูกไก่ยืนแข้งขาสั่นงันงก เห่าดงก็ฉกกลับได้ไวสมชื่อของมัน
ผมเองเริ่มหายใจไม่คล่องสักเท่าไหร่ที่เห็นคนทั้งสองกำลังแยกเขี้ยวใส่กันใครจะว่าผมเป็นตัวซวย หรือตัวอะไรก็ช่าง แต่สำหรับผมแล้วไม่ชอบที่สุดคือการเห็นพวกพ้องแตกคอกันหากว่าเห่าดงเล่าเหตุการณ์ต่อหลังนายอัศวินถูกจับขังคุกผมคงได้ถูกวิพากษ์ต่อถึงขอสงสัยที่หลายคนคิดว่า ผมคือหนอนบ่อนไส้
งั้นไอ้น้ำใจที่คุณเห่าดงพลีชีพไปช่วยนั่นสนนราคาเท่าไหร่ก็บอกมาฉันไม่อยากติดหนี้บุญคุณใครให้มาถูกตามทวงทีหลัง
มิ่งมีนิสัยจริงใจตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม แตกต่างกับผมที่มักเก็บความคิดของตัวเองไว้แต่การที่มิ่งพูดไปแบบนั้นมันคงทำให้เห่าดงพิโรธขึ้นไปอีกหลายเท่านั่นหมายความว่าเป็นยากขึ้นไปอีกหากผมจะขอพักค้างคืนสักคืนเพื่อให้เห่าดงแนะนำหมอชาวบ้านให้สักคนที่ต้องเป็นหมอชาวบ้านนั่นก็เพราะผมไม่อาจไว้ใจใครได้หลังจากรับน้ำใจแสนจอมปลอมจากคนแปลกหน้าแล้วมิ่งก็เข้าใจผิดอย่างมากว่าฟ้าสว่างอยู่จะปลอดภัย ในทางตรงข้ามมันจะทำให้ศัตรูเห็นเราชัดเจนต่างหาก
เฮอะ มีตังค์จ่ายจริงเรอะบอกไว้ก่อนนะว่า ปัจจุบัน ข้าเป็นทหารรับจ้างที่ค่าตัวแพงที่สุดในถิ่นตะวันออกหากว่าเอ็งอยากจะจ่ายค่าน้ำใจด้วยน้ำเงินล่ะก็ เก็บเงินของเอ็งและพี่ของเอ็งไว้รักษาตัวให้รอดเถอะ!
ผมพ่นลมหายใจกลอกตามองเพดานหนีภาพความขัดแย้งแต่ไม่วายเจอจิ้งจกไล่กัดกันบนขื่อไม้นี่แหละหนาชีวิต แม้เกิดในเผ่าพงศ์เดียวกันก็มิวายมีเรื่องขัดแย้งกัน และผมมักโทษต้นเหตุแห่งความขัดแย้งแบบนี้ว่าทิฐิ
แต่เดี๋ยวก่อนเมื่อครู่เห่าดงบอกว่าเขาทำอาชีพอะไรนะ มึงเป็นทหารรับจ้าง... ให้ใคร ? ผมถามเสียงเครียดแต่คำตอบกลับเป็นความเงียบ เห่าดงลุกขึ้นยืน ปลายตามองผมหายใจเสียงยาวแล้วเดินออกจากวงสนทนาที่กำลังเดือดออกไป
เห่าดงต้องกลายเป็นทหารปลดประจำการเพราะถูกป้อนความผิดฐานละทิ้งวินัยและหน้าที่หลังจากที่นายอัศวินถูกจับไม่นานเห่าดงกลายเป็นทหารไร้นายทหารรับจ้าง และอาชีพที่ทหารปลดประจำการส่วนมากหันไปทำกันก็คือทหารรับจ้างเขาว่ากันว่ารายได้ดียิ่งกว่าทหารประจำการในกรมในกองเสียอีก หากแต่ในความคิดของผมการเป็นทหารรับจ้างมันไร้ศักดิ์ศรีมากสำหรับเห่าดง แต่เมื่อไม่มีนายอัศวินทหารชั้นสูงผู้เป็นนายคนเดียวที่เห่าดงยอมเป็นข้าบาทรับใช้ในวันนี้เขาจึงไม่ต่างกับบุคคลที่ชนชาติซามูไรขนานนามว่า โรนิน
ผมถอดใจลุกขึ้นหยิบกระเป๋าสะพายมิ่ง ไปกันเถอะ ฉันผิดเองที่พาแกมาที่นี่ ผมพูดอย่างหมดหวังหันไปบอกกับหญิงสาวที่ยังไม่ได้แม้จะถามชื่อฉันขอบใจมากนะเรื่องกับข้าวกับปลาที่ทำเผื่อ แต่ฉันไปเลยจะดีกว่าฉันเองก็ไม่อยากให้ใครเดือดร้อน ฉัน...
ผมหยุดชะงักคำพูดไปชั่วครู่เมื่อจู่ๆภาพสุดท้ายของหมอก็เข้ามาในหัว ฉันเสียเพื่อนไปคนหนึ่งแล้ว ไม่อยากเสียใครไปอีก
มึงมันก็เป็นแบบไม่เคยเปลี่ยนขี้ขลาด ตาขาว เอาแต่หนีไปตลอด เสียงเห่าดงดังมาจากประตูเขาเดินเข้ามาพร้อมกับหนังสือพิมพ์ที่คงหยิบฉวยมาจากร้านชำ แล้วโยนมันลงบนพื้นกูจะไม่เชื่ออ้ายข่าวพวกนี้จนกว่ากูจะได้เห็นกับตากูเองว่าหมอตายแล้วจริงๆ
ผมมองภาพเป็นข่าวเพียงชั่วแวบแล้วต้องหันหน้าหนีไปทางอื่นใช่ นอกจากตัวซวยประจำกอง ผมยังได้รับตำเหน่งขี้ขลาดที่สุดมันช่างน่าภูมิใจเสียจริงในฐานะทหารพลเรือนคนหนึ่งก็ผมมันไม่ได้เก่งกล้าสามารถเหมือนใครเขาเวลาออกศึกก็ทำได้เพียงแค่รับหน้าที่เป็นม้าเร็วส่งข่าว อาจเป็นเพราะนิสัยชอบหนีของผมกระมังนายเขาจึงเห็นสมควรให้เป็นผู้ส่งข่าวเพราะผมจะไม่มีทางเอาตัวเองไปสู่ความตายก่อนได้ทำหน้าที่สมบูรณ์แน่ๆ
กูไม่มีหัวอะไรที่จะคิดอ่านได้อีกไอ้เห่า กูมันตาขาว กูทิ้งหมอให้อยู่ในอันตรายด้านหลัง กูมันแย่ไม่สมควรที่จะเป็นเพื่อนพวกมึง เมื่อความอัดอั้นถูกเก็บมาจนถึงขีดสุดผมจึงปล่อยความรู้สึกออกมาเต็มที่พร้อมกับน้ำตาของผู้ชายขี้ขลาดคนหนึ่ง
เรื่องที่จะมาพร่ำพรรณนานั่นมึงเก็บเอาไว้ก่อน แต่มึงไม่สงสัยหรือว่าทำไมพวกมันถึงตามหาตัวมึงเจอได้อีกเห่าดงพูดในสิ่งที่ผมเองก็ไม่ได้รู้สึกมาก่อน
นั่นก็ใช่แล้วมึงรู้ได้ยังไงว่ากูอยู่ที่ร้านชำนั่นผมรีบถามกลับทันทีในเรื่องที่เกี่ยวพันกัน
ก็กูบอกไปแล้วว่ากูเป็นทหารรับจ้าง มีคนจ้างให้กูช่วยชายหญิงคู่หนึ่งที่เดินทางมาที่นี่ แล้วกูก็ได้รู้ว่าเป็นมึงตอนที่มึงหย่อนเท้าลงจากรถนั่นแหละบอกตามตรงกูก็ประหลาดใจเหมือนกัน
ประหลาดใจที่มีตัวซวยมาเยือนงั้นสิมิ่งไม่วายหยอดใส่จนเห่าดงมองกลับด้วยตาขุ่น
แล้วคนที่มึงจ้างรู้ได้ยังไงว่ากูจะมาที่นี่ผมถามเห่าดงอย่างสงสัย
กูไม่รู้หรอกว่าเขารู้ได้ยังไงแต่กูจะบอกอะไรมึงสักอย่าง ไอ้คนที่จ้างกูบอกแต่ว่าจะมีผู้ชายรูปร่างผอมแกรนๆกับเด็กผู้หญิงหน้าตาคล้ายกันนั่งรถโดยสารมาลงที่นี่ให้กูไปช่วยคุ้มกันจากพวกชาวบ้านฝั่งต้นน้ำก็แค่นั้น แต่ว่ามึงคงคิดว่าที่กูไปช่วยมึงเพราะเงินอย่างที่น้องสาวมึงพูดสินะถ้ามึงคิดแบบนั้น มึงก็ดูถูกน้ำใจกูเกินไปนะไอ้มั่น ส่วนค่าจ้าง...
นี่ก็ช่วยแล้วไงพวกฉันรอดตายแล้ว ก็ไปรับเงินได้แล้วสิ
มิ่ง ! ผมเอ็ดน้องสาวเสียงดัง แกคิดดูสิว่าที่แกได้ยืนพูดปากกล้าแบบนี้เป็นเพราะอะไรถึงพี่จะเป็นคนขี้ขลาด ไร้ความกล้า แต่พี่ก็ไม่ได้เป็นคนลืมคุณใครถึงเขาจะช่วยเราด้วยน้ำเงินหรือน้ำใจก็แล้วแต่ มันก็ยังทำให้เรามีชีวิตรอด
มิ่งถึงได้หยุดปากเงียบดูเหมือนจะสำนึกผิดอยู่ลึกๆ ผมหันไปทางเห่าดงอีกครั้ง เห่า หากว่ากูยังไม่ตายกูจะกลับมาตอบแทนที่มึงช่วยกูไว้ ก็จะคิดว่ามันเป็นน้ำใจจากมึง น้ำใจจากเพื่อนที่ยังหลงเหลือให้กูรบกวนมึงแค่นี้แหละ
เดี๋ยวมึงยังไปไม่ได้ เห่าดงหยุดผมไว้ด้วยประโยคชวนฉงน
งานของกูยังไม่จบแค่นั้นกูยังต้องคุ้มครองมึงไปจนกว่ากูจะพามึงไปพบคนที่จ้างกู
ผมยิ้มเจื่อนๆค่าจ้างของเขาคงจะแพงมาก มึงเลยต้องลำบาก...
หึ แพงมากแพงเท่ากับชีวิตของคนๆ หนึ่ง คนที่กูรักเทิดทูนเทียบเท่าพ่อแม่ ฉะนั้น หน้าที่กูคือปกป้องชีวิตมึงส่วนหน้าที่มึงก็คือห้ามตายจนกว่ามึงจะได้พบกับเขาคนนั้นเพราะค่าจ้างของเขาคือการทำให้นายอัศวินของกูและของมึงพ้นผิด ให้นายอัศวินไร้มลทินกลับมาเป็นนายทหารที่ขาวสะอาดของรัฐคนเดิม
เห่า...ผมบรรยายความรู้สึกตอนนี้ไม่ถูก มันก้ำกึ่งระหว่างยินดีและชื่นชม เห่าดงไม่เคยแปรเปลี่ยนความภักดีแต่ผมยังคิดที่จะหนีเรื่องราวในอดีต ทำเหมือนมันไม่เคยเกิดขึ้น ทั้งๆที่อยากลืมแต่ก็ไม่เคยลืม กูก็ตายไม่ได้ แต่การห้ามตายไม่ใช่หน้าที่กู หน้าที่ของกูคือผู้ส่งข่าว
ผมหนีบกระเป๋าสัมภาระแน่นมากขึ้นความรู้สึกที่สูญหายไปมันฟื้นคืนชีพอีกครั้งหากว่านักข่าวคนนั้นอยากให้ผมทำหน้าที่ โดยที่เธอยอมแลกด้วยค่าจ้างแสนแพงนั่นก็คือชีวิตของเธอ ผมก็ต้องทำมันให้สำเร็จสมค่าจ้างที่ไม่อาจทอนได้ด้วยเงินกูจะไปกับมึง เราจะไปช่วยนายอัศวินด้วยกัน
แดกข้าวก่อนเถอะมึง กองทัพต้องเดินด้วยท้องน้องกูรอแดกจนไส้กิ่วแล้ว
แม้จะมีแค่ผักนึ่งกับปลาย่างแต่มื้อมื้อนั้นเป็นอาหารมื้อที่อร่อยที่สุดหลังจากที่ผมไม่ได้ลิ้มรสความสุขของการกินข้าวร่วมวงมานานน้ำดื่มก็เช่นกัน แม้จะเป็นน้ำในขันโลหะบุบบี้ใบเล็กที่ต้องแบ่งกันดื่มแต่มันชุ่มคอชื่นใจแบบที่น้ำดื่มราคาแพงในเมืองหลวงเทียบไม่ได้เลยสักนิด เห่าดงยิ้มรับผมและทำให้ใบหน้าของมันดูอ่อนลงขึ้นมากคนเราจะเหี้ยมเกรียมมากเท่าไหนก็ยังมีรอยยิ้มให้กับมิตรภาพได้เสมอเพื่อนกันจริงไม่เคยแล้งน้ำใจต่อกัน และผมยังนึกถึงหมอเสมอในอาหารทุกคำที่กิน น้ำทุกหยดที่ดื่มเพราะมันมาจากน้ำใจหมอที่ช่วยให้ผมได้มีชีวิต ผมจะไม่ลืมแม้สักหยดเดียว
ตอนที่ผ่านมา
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
ฟ้าใสวันใหม่ Home & Garden Blog ดู Blog
AppleWi Health Blog ดู Blog
**mp5** Dharma Blog ดู Blog
ชลบุรีมามี่คลับ Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
_______________________________
"อยากดูหนังโดยไม่ต้องอ่านมากๆ ตอนนี้เรียนด้วยตัวเองโดยการฟังยูทูปเวลาขับรถ เผื่อว่าหูจะค่อยๆ รับไปได้บ้าง"
ทุกวันนี้เกดก็ยังต้องอ่านซํบอยู่นะคะถ้าเป็นหนังที่ใช้ศัพย์ยากๆ แต่การฟังภาษาอังกฤษบ่อยๆตอนขับรถ จากยูทูปหรือวิทยุคลื่นฝรั่งเป็นการฆ่าเวลาที่เยี่ยมมากเลยค่ะ ไหนๆก็ต้องนั่งอยู่ในรถแล้ว ฝึกหูให้คุ้นอังกฤษไว้ไม่เสียหลาย