นักฝันผู้ชอบเขียนเล่าเรื่อง
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2561
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
15 ตุลาคม 2561
 
All Blogs
 

กลพยาบาท จันทร์ซ่อนเงา ตอนที่ ๒ การมาของเจ้าหนุ่มกะทิง



ตอนที่ ๒การมาของเจ้าหนุ่มกะทิง





เปรี้ยง!

เสียงก้องกัมปนาทของสายฟ้าฟาดทำให้หญิงสาวผวาตื่นเธอพรวดพราดลุกขึ้นนั่งหายใจหอบสั่น รีบกวาดมองออกไปนอกมุ้ง ก่อนประจักษ์แจ้งว่าเสียงลั่นสนั่นแผ่นดินนั้นเป็นเพียงความฝันที่แสนเสมือนจริง

มือบางยกขึ้นเช็ดเหงื่อที่ซึมไหลตามไรผมแล้วลดมือลงแนบที่หน้าอกซ้าย หลับตาผ่อนลมหายใจช้า ๆเพื่อปรับระดับการเต้นของหัวใจที่ถูกกระตุ้นให้เต้นถี่รัวเพราะภาพฝันแสนสะพรึงจนความตื่นกลัวทุเลาลงแล้ว จึงลืมตามองเข็มนาฬิกา แล้วเห็นว่ายังไม่ถึงเวลาที่ต้องตื่นมาทำกิจวัตรประจำวัน

แต่เพราะไม่อาจหลับตาลงต่อด้วยเกรงว่าจะกลับไปพบกับดวงตาถลนโปนน่ากลัวคู่นั้นในฝันจึงมุดออกจากมุ้งแล้วจุดตะเกียงให้ห้องนอนสี่เหลี่ยมเล็กของเรือนไม้ยกใต้ถุนสว่างพอก่อนจัดเก็บที่หนอนหมอนมุ้งเข้าที่ กางโต๊ะพับขนาดเล็ก แล้วเปิดสมุดเล่มหนากับหยิบจับดินสอเพื่อทำงานที่คั่งค้างต่อ

เธอเติมเต็มหน้ากระดาษเปล่าด้วยรูปวาดพันธุ์สมุนไพรเลียนแบบจากต้นฉบับจริงที่ชาวบ้านเก็บมาขายและเขียนคำอธิบายสรรพคุณทางการรักษาโรคไว้อย่างละเอียดตั้งใจใช้สมาธิทั้งหมดกับงานเพื่อดึงตัวเองให้หลุดพ้นจากความทรงจำในอดีต กระทั่งได้ยินเสียงเท้าย่ำขึ้นบันได

“ไหมแก้วเอ๊ยตื่นแล้วใช่ไหม ข้าเห็นแสงไฟตะเกียงวับ ๆ แวม ๆ อยู่”

ยายก่าพอ เรียกหาเธอจากนอกบานประตู หญิงสาวจึงลุกขึ้นจากโต๊ะเขียนหนังสือเดินไปเลื่อนสลักไม้ประตูต้อนรับหญิงชราชาวชนเผ่าให้ก้าวเท้าเข้ามาในเรือน

“ครั้งต่อไป ฉันจะหาอะไรบังแสงตะเกียงไว้ยายจะได้ไม่พะวงมาคอยดูฉัน” เจ้าของเรือนสาวว่าพลางเลื่อนสลักปิดประตูตามเดิม

“พูดอย่างกับรำคาญที่ข้ามาคอยดูเอ็งเสียอย่างนั้น”หญิงชราว่าเสียงขุ่น ย่อเข่าลงนั่งขัดสมาธิ วางเชี่ยนหมากบนพื้นกระดาน

“ใครจะไปรำคาญยายกันฉันอุ่นใจเสียอีกที่มียายคอยเป็นห่วง” คนอ่อนวัยรีบออดอ้อนเสียงหวาน“แล้วทำไมวันนี้ยายตื่นเช้าจังล่ะจ๊ะ”

“ก็พวกที่พักอยู่เพิงสังกะสีมาเคาะเรียกขอยืมผ้าห่มเขาบอกว่าฝาผนังของเพิงเริ่มมีรูรั่วแล้ว พอเช้ามืดอากาศเย็น เลยกลัวลูกหลานจะเป็นไข้เอา”

คนฟังถอนหายใจนึกสภาพของเพิงพักอาศัยที่ชาวบ้านปลูกอยู่กันเองชั่วคราวที่เริ่มชำรุดทรุดโทรมตามเวลาและสภาพอากาศ

“แล้วไอ้เจ้าคนที่จะมาสร้างเรือนใหม่ให้พวกเขานั่นน่ะตกลงว่ามันจะมาหรือจริงเปล่าวะหรือว่ามันจะไม่รับผิดชอบอะไรเลยที่หมู่บ้านเสียหายเพราะน้องสาวของมัน”

“เราก็ต้องคอยดูกันจ้ะยายแต่ถ้าเพิงชั่วคราวทรุดโทรมไปมากกว่านี้ ฉันจะเข้าไปคุยกับผู้ใหญ่ในเมืองขอให้เขาส่งคนมาช่วย”

“ช่วงนี้มันเป็นฤดูเลือกตั้งจะมีใครมาใส่ใจปัญหาของเรา” หญิงอาวุโสบ่นกะปอดกะแปด แล้วป้อนหมากคำใหม่เข้าปากเคี้ยวหนุบหนับ“ไม่งั้นก็ต้องให้ไปนอนตามเรือนที่ยังพอมีที่ว่าง ช่วย ๆ กันไปก่อน”

ก็เพราะเรือนไม้ที่สมบูรณ์อย่างเรือนของเธอและเรือนผู้ใหญ่บ้านนั้นเหลือไม่กี่เรือนนอกนั้นถูกไฟเผาทำลายในตอนที่นายพนาหัวหน้าโจรป่าส่งลูกน้องชั่วของมันมาลักพาหญิงสาวชาวเมืองที่เดินทางมาพร้อมกับค่ายอาสาของมหาวิทยาลัยหลายเดือนก่อนซึ่งก็คือน้องสาวของ ‘คน’ ที่ยายก่าพอกำลังกล่าวถึง

ยายก่าพอบ้วนน้ำหมากทิ้งลงกระโถนหันมาพูดเสียงขึงขังราวกับกำลังถกเรื่องปัญหาสังคม “จริง ๆก็ไม่ได้อยากให้คนนอกมาช่วยเหลืออะไรหรอกนะแต่จะให้รอทางการส่งความช่วยเหลือมาก็ช้าเกินไปลำพังผู้ใหญ่บ้านของเราคงไม่มีปากไม่มีเสียงไปเร่งรัดกับใครเขา”

ไหมแก้วเห็นด้วยทีเดียวในเรื่องที่ไม่ได้ต้องการให้พวกเขามารับผิดชอบฟื้นฟูหมู่บ้านช้างโดยไม่เรียกเก็บค่าใช่จ่ายใดๆ ยิ่งคิดถึงแบบแปลนที่เขียนขึ้นโดยไม่ศึกษาพื้นเพความเป็นอยู่ของชาวบ้านก็เกิดอาการขุ่นใจขึ้นมาในบัดดล แต่หากคิดถึงความลำบากของชาวบ้านแล้ว ก็ต้องลดอคติที่มีต่อ‘คน’คนนั้นที่เป็นถึงผู้ดำรงตำเหน่งรองประธานบริษัทชลธารคอนสตรัคชั่น

เสียงโซ่ตรวนช้างดังแกร๊งกร๊างจากด้านนอกบอกให้เธอรู้ว่าเช้าวันใหม่ของหมู่บ้านช้างได้เริ่มต้นขึ้นอีกวันแล้ว และถึงเวลาที่เรือนคุณหมอแห่งนี้จะต้องเปิดให้การรักษาชาวบ้านที่เจ็บไข้ได้ป่วยแต่ไม่สามารถเดินทางไปหาหมอได้ถึงตัวจังหวัดเช่นกัน

ซึ่งในทันทีเธอเปิดบานประตูเรือนคนไข้หลายคนก็มานั่งต่อแถวรอกันบนขั้นบันไดกันแล้วเหตุเพราะบางคนอยู่ไกลจึงต้องเดินทางมาแต่เช้ามืดเพื่อรับการรักษา

ไหมแก้วเคยเสนอความคิดเรื่องโครงการแปลงเพาะพันธุ์สมุนไพรกินเองกับนายกอ.บ.จ ท่านปัจจุบัน ทว่าเมื่อเข้าสู่ช่วงการเลือกตั้งเปลี่ยนสมัยโครงการของของเธอจึงถูกชะลอไว้ เพื่อรอให้รู้ว่าใครจะเข้ามารับตำแหน่งนายก อ.บ.จคนใหม่ ซึ่งคนที่ดูจะมีคะแนนเสียงไล่เลี่ยกันมากับคนปัจจุบันก็คือ เอกรัตน์อดีตชายคนรักที่เธอยกเลิกความสัมพันธ์ก่อนเข้าพิธีวิวาห์ก่อนไม่กี่วัน

เหตุการณ์ช้ำรักในอดีตทำให้ไหมแก้วคิดได้ว่าอย่าได้คาดหวังกับหัวใจคนเธอจึงทุ่มเทเวลาไปกับงานดูแลรักษาผู้ป่วยและสะสมความรู้เพื่อบันทึกใส่ตำราสมุนไพรพื้นบ้านฉะนั้นการที่มีคนไข้มารอตั้งแต่เช้าจรดหัวค่ำจึงเป็นเรื่องน่ายินดี แต่สำหรับยายก่าพอนั้นไม่ได้ยินดีไปด้วยถ้าต้องเห็นเธอเปิดเรือนรับคนไข้จนดึกจนดื่น

“ทายาหลอดนี้หลังอาบน้ำทุกครั้งนะตาแล้วก็ต่อไปนี้ หลังฉีดยาฆ่าแมลงเสร็จ ตาต้องอาบน้ำล้างตัวให้สะอาดรู้ไหม ถ้าไม่ทำอาการแบบนี้ก็จะกลับมาพอถึงตอนนั้นฉันคงต้องดุตาแน่นอน”

เสียงเข้มงวดขัดกับใบหน้าหวานของคุณหมอสาวแห่งหมู่บ้านช้างคงพอทำให้ชายชราที่เข้ามาขอรับการรักษาผื่นแพ้จากสารเคมีในยาฆ่าแมลงเข็ดขยาดไปได้บ้างแต่ไหมแก้วก็มิได้คาดว่าชายชราผู้นี้จะทำตามเธอได้อย่างที่กำชับเหตุเพราะชาวบ้านถิ่นนี้ยังไม่รู้จักการดูแลรักษาอนามัยของตัวเองเท่าที่ควร

“ปิดเรือนพักผ่อนได้แล้วมั้งวะไหมแก้วนี่มันก็ใกล้อาทิตย์ตกดินแล้ว” ยายก่าพอร้องบอกพลางจัดเก็บตะกร้าหมากจนเรียบร้อย

“ฉันว่าจะออกไปเก็บสมุนไพรในป่าสักหน่อยอยากได้เถาย่านางสักมัดสองมัด” ไหมแก้วบอกกับยาก่าพอแบบนั้น แต่ความจริงแล้วเถาหญ้านางยังมีพอให้เธอต้มน้ำไปได้อีกหลายแกลอนทว่าการหยิบยกเรื่องเก็บสมุนไพรจะช่วยให้เธอเข้าไปในเขตป่าชายหมู่บ้านเซ็งดูได้โดยไม่ต้องหาเหตุผลอื่นมากล่าวอ้าง

“ใกล้มืดใกล้ค่ำก็อย่าออกไปไหนไกลนักเลยพักนี้มันมีไอ้พวกนักเลงเพ่นพ่านเยอะ ถึงพวกมันจะรู้จักเอ็ง ก็อย่าไว้ใจเชียวถ้าเกิดอะไรขึ้นมันจะไม่คุ้มเสีย”

“ฉันจะระวังจ้ะ”พูดแล้วก็รีบก้าวขาออกจากเรือน ลงบันไดไปสตาร์ทเครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์คู่ชีพ

คำว่า ‘จะระวัง’ ของเธอทำให้ยายก่อพอส่ายหน้าก็ถ้าเป็นเรื่องของคนป่วยล่ะก็ คุณหมอไหมแก้วคนนี้จะเข้มงวดนักแต่ลงเรื่องของตัวเองล่ะ มักไม่คิดอะไรมากมายสักเท่าไหร่

แต่เธอก็ต้องระวังตัวตามคำเตือนด้วยเช่นกันเพราะในดินแดนตะวันตกนั้นเป็นถิ่นที่ผู้ร้ายชุกชุมเป็นทุนเดิมและดูเหมือนจะหนักขึ้นหลังจากหมดอำนาจของนายพนา ที่ฝากผลงานความเลวร้ายให้ผู้คนสาปแช่งไม่เว้นวันอย่างเช่นชาวบ้านหมู่บ้านช้างที่เดือดร้อนเพราะเรือนพักอาศัยถูกไฟเผาวอดวายเพียงแค่นายพนาต้องการชีวิตของธิดาคนเดียว

ดังนั้น ‘ชลธารคอนสตรักชั่น’ จึงต้องการบรรเทากรรมที่ชาวบ้านกล่าวว่ามีต้นเหตุจากธิดา นายรองประธานคนนั้นจึงได้เริ่มทำความรู้จักเธอด้วยการส่งแปลนเรือนมาให้เธอพิจารณาก่อนดำเนินการ

แต่พอเธอดูแปลนแล้วก็ต้องรีบโทรศัพท์สายด่วนไปฝากข้อความให้เลขานุการของรองประธานว่าขอให้เขาเปลี่ยนแปลงแก้ไขแต่คำตอบที่ได้นั้นเป็นแค่คำพูดง่าย ๆ ว่าจะพิจารณา ซึ่งเธอก็ประกาศชัดแล้วว่าขอยืนกระต่ายขาเดียวจนกว่าเขาจะทำตามความต้องการของเธอก่อนหน้ามรสุมมาเยือน

ไหมแก้วคิดเรื่องในหัวพลางขับเจ้าแก่เข้าเขตหมู่บ้านชนเผ่าแวะเด็ดช่อดอกราตรีสองสามช่อจากเรือนไม้ร้างหลังที่ปลูกอยู่ท้ายสุดของหมู่บ้านจากนั้นขับตาไปจนถึงลานดินกว้างกลางป่าอันเป็นที่ตั้งอนุสรณ์สถานที่มีร่างไร้วิญญาณของหญิงชนเผ่าสองคนหลับไหลใต้ผืนปฐพี

ไหมแก้วแบ่งช่อดอกราตรีออกเป็นสองช่อช่อหนึ่งวางใกล้ป้ายไม้สลักชื่อว่า นางลาโพ ทะหมุคูส่วนอีกช่อวางใกล้กับป้ายสลักชื่อว่า ดวงแข ทะหมุคูจากนั้นก็นั่งคุกเข่าประนมมือไหว้ก่อนลุกขึ้นเพื่อเดินเข้าป่าเก็บใบย่านางกลับไปเป็นหลักฐานให้ยายก่อพอดู

โครม!!!

แต่ในขณะที่ก้าวเดินไปตามทางมืดสลัวของป่ายามค่ำเธอก็ต้องหยุดขาชะงักเพราะมีเสียงโครมครามดังสนั่นจนเหล่านกป่าตกใจกระพือปีกออกจากที่ซ่อนตัว

ซวบ!!!

แล้วหัวใจของคุณหมอสาวก็แทบกระโจนออกจากอกเมื่อมีบางอย่างโผล่พรวดออกจากพุ่มไม้

อี๊ด อี๊ดอี๊ด!

แต่ด้วยรูปร่างและเสียงร้องของมันทำให้มั่นใจว่าน่าจะเป็นลูกหมูป่าแต่พวกมันวิ่งหนีอะไรกันมา ทำให้ไหมแก้วนึกหวั่นใจ

แกรก แกรก แกรก!

เธอละความสนใจจากสัตว์ตัวน้อยกลับไปมองทางต้นเสียงประหลาดคิ้วเรียวงามขมวดเข้าหากัน จับจ้องไปยังพงต้นไม้เบื้องหน้า

ตึก ตึก ตึกเคร้ง!

มือบางเคลื่อนย้ายล้วงหามีดพกเตรียมพร้อมหากต้องใช้ในยามคับขัน เพราะฟังเสียงคล้ายโลหะกระทบกับผืนดินนั้นแล้วไม่น่าเกิดจากสัตว์ขนาดเล็กเธอยกมีดหันไปทางทิศของเสียง แล้วตั้งสติให้นิ่ง เฝ้ามองสิ่งที่กำลังเผยตัวออกมา

ฟึ่บ!!!

ฉับพลันนั้นร่างสูงใหญ่ของชายในชุดหนังสีดำก็ปรากฏกายออกจากพุ่มไม้หนา ทั่วทั้งใบหน้าและตามเนื้อตามตัวเต็มไปด้วยดินโคลนผมเผ้าสีดำสนิทยุ่งเหยิง มีรอยเลือดซึมออกจากแผลถลอกที่หน้าขมับ ดวงตาของเขาเลื่อนลอยหายใจหอบจนหน้าอกกระเพื่อมชัดเจน

เพราะไม่แน่ใจว่าในจุดประสงค์ของอีกฝ่ายแขนบางจึงกระตุกมีดขึ้นในระดับเดิมอีกครั้งเมื่อเขาผู้นั้นก้าวขาเข้ามาทว่าดวงตาคมคู่นั้นอ่อนแสงแล้วทิ้งตัวล้มลงหน้าคว่ำไปต่อหน้าต่อตา

“คุณ...คุณคะ!”

ไหมแก้วรีบรุดเข้าไปพลิกร่างใหญ่ให้หงายแล้วตบแก้มเบาเรียกสติของชายหนุ่มแปลกหน้าตามจรรยาบรรณของแพทย์แต่เสียงที่ตอบกลับมาเป็นเพียงเสียงครางแสนเบา

เธอจึงปัดเส้นผมให้พ้นกรอบหน้าสำรวจอาการบาดเจ็บก็เห็นรอยฟกช้ำกับแผลสดที่มีเลือดซึมเพียงเล็กน้อย จึงรีบไปหยิบไฟฉายแล้วส่องหาอาการบาดเจ็บอื่นตามร่างกายจนเจอต้นเหตุที่ทำให้คนตัวใหญ่ล้มทั้งยืน

เขาเหยียบแร้วดักสัตว์!

เลือดสีแดงสดไหลอาบจากคมเขี้ยวของเครื่องทรมานชีวิตที่ฝังลึกลงตรงข้อเท้าเสียงครางต่ำของผู้บาดเจ็บบอกให้เธอรู้ว่าเขาเจ็บปวดมากแค่ไหนใบหน้าซีดเผือดของเขาก็ทำให้ไหมแก้ววิตกกังวล คุณหมอสาวจึงยกแขนของชายหนุ่มขึ้นพาดกับบ่าตัวเองแล้วพยายามพยุงร่างใหญ่ของเขาลุกขึ้น แต่ก็ไม่อาจต้านทานน้ำหนักตัวของเขาได้จึงทำให้ทั้งเธอและเขาล้มลงครืนไปพร้อมกัน

ไหมแก้วดันร่างหมดสติของคนตัวใหญ่ที่ทาบทับบนตัวขึ้นแล้วให้เขาเอนพึงกับตัวเองก่อนเพื่อตั้งหลักคิดหาหนทางใหม่ นึกได้ว่าที่จากจุดนี้ห่างจากน้ำตกที่ควาญช้างพาช้างไปอาบน้ำไม่ไกล

แต่ในยามฟ้าพลบค่ำแบบนี้ขอให้ยังเหลือควาญช้างอยู่สักคนช่วยหามเขากลับหมู่บ้าน แล้วคำขอของเธออาจถึงหูเจ้าป่าเจ้าเขาเพราะที่ตรงปลายสายตานั้น มีแสงตะเกียงอีกดวงลอยเด่นในความมืด

“ช่วยด้วยค่ะช่วยด้วย”

เธอจึงรีบตะโกนออกไปแล้วเฝ้ารอจนเปลวไฟตะเกียงส่องสว่างเห็นใบหน้าของควาญช้างกับลูกช้างตัวอ้วนกลมเยื้องย่างเข้ามาแล้วความวิตกทั้งหมดก็หายไปสิ้น ไหมแก้วเป่าด้วยความโล่งใจ เอ่ยบอกกับชายหนุ่มที่หมดสติไปแล้วด้วยความยินดี

“ดูเหมือนเจ้าป่าเจ้าเขาไม่อยากให้คุณเป็นอะไรไป”

“นอกจากผู้เสียชีวิตรายนั้นแล้วก็ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บคนอื่นครับสารวัตร”

อัชวินนิ่วหน้าฟังรายงานจากผู้ใต้บังคับบัญชาถึงเรื่องเหตุปั่นป่วนที่เกิดในงานแสดงซุปเปอร์ไบค์จนส่งผลให้ภารกิจของเขาไม่สัมฤทธิ์ผล แต่ที่ไม่มีผู้บาดเจ็บมากไปกว่านี้ก็ต้องมอบความดีความชอบให้ระพีพัฒน์ที่รายงานข่าวได้ทันท่วงที

“ผู้ตายคือป๋องบุตรชายของหนึ่งในสมุนโจรที่เสียชีวิตตอนบุกค่ายโจร และเราพบยาเสพติดจำนวนหนึ่งในศพนายป๋องซึ่งก็สอดคล้องกับแหล่งข่าวที่ให้ข้อมูลว่านายป๋องพัวพันการค้ายา”ผู้ใต้บังคับบัญชายังคงรายงานต่อไป “แต่พอนายป๋องตาย ก็เท่ากับเราเสียเส้นทางนำจับสมุนโจรที่เหลือ”

สารวัตรใหญ่พ่นลมหายใจก่อนหย่อนตัวนั่งบนเก้าอี้ประจำตำแหน่ง“ยังเหลือเพลงพิณกับแม่โคโยตี้นั่นอีกคน”

“จากข้อมูลที่สายเราได้มาประวัติเพลงพิณใสสะอาด นอกจากการวิวาทกันตามประสาวัยรุ่นก็ไม่เคยถูกจับข้อหาอะไรครับ” ผู้ใต้บังคับบัญชาให้ข้อมูลเพิ่มเติม

“ถ้าสืบจากเพลงพิณไม่ได้ก็สืบจากแม่เอื้อยนั่น” สารวัตรอัชวินยังไม่ถอดใจ “แต่ดูเหมือรว่าเราต้องเปลี่ยนแผน”อัชวินเอ่ยกับลูกน้องหลังจากครุ่นคิดในหัว

รูปถ่ายใบหนึ่งถูกหยิบออกจากซองเอกสารลับผู้ถูกถ่ายนั้นเป็นหญิงสาวรุ่นรูปร่างดีใบหน้าสะสวยเพราะการแต่งแต้มสีสันบนร่างของเธอมีแขนอวบอูมของเสี่ยเกียงโอบล้อมข้ามบ่าดูอย่างไรก็คล้ายกับชายแก่ตัณหากลับที่คิดหาความสุขทางกามารมณ์กับเมียเด็ก

“เราจะให้แม่เอื้อยนี่มาเป็นสายให้เรา”สารวัตรว่าพลางเอนหลังลงกับพนักเก้าอี้ตัวใหญ่

“หล่อนบุตรสาวนายอำพันนะครับ”ผู้ใต้บังคับบัญชาจ้องมองรูปถ่ายหญิงสาวก่อนเงยหน้ามองรอยยิ้มของสารวัตรคนเก่ง “เป็นลูกโจรแถมยังทำงานอย่างนั้น จะยอมให้ความร่วมมือกับเราหรือ”

อัชวินแย้มยิ้มใช้สองมือประสานกันที่ปลายจมูก “เราจะไม่เข้าหาหล่อน แต่จะให้คนอื่นเข้าหาแทน”

“สารวัตรหมายถึง...”

“ระพีพัฒน์”คำตอบนั้นมาจากความมั่นใจล้นเหลือ

อยู่ ๆตาขวาก็ขยิบยิบ ๆ หากจะเชื่อคำกล่าวโบร่ำโบราณว่าขวาร้ายซ้ายดีก็เดี๋ยวจะหาว่าคนรุ่นใหม่อย่างเขางมงายอะไรไม่เข้าเรื่องยิ่งหน้าที่การงานที่ได้รับมอบหมายจากเจ้านายหนุ่มคือการวางแผนการลงทุนฉะนั้นถ้าพูดว่าตาขวาขยิบแบบนี้เห็นทีหุ้นของบริษัทที่เจ้านายของเขากำลังตัดสินใจซื้อคงไปไม่รอดอาจทำให้เขาถูกตำหนิจนลิดรอนตำเหน่งผู้ช่วยฝึกหัด

“กลางเป็นอะไร ทำไมเงียบไป”

“เอ่อ...คือ... ผมกำลังคิดว่าตอนนี้ ธุรกิจค้าปลีกน่าจะปรับตัวดีขึ้นแต่ต้องรอดูนโยบายสนับสนับการลงทุนภาคอุตสาหกรรมในปีนี้ว่าจะอัดงบประมาณเท่าไหร่”

“ถ้าอย่างนั้นเราควรชะลอการซื้อหุ้นตัวนี้ใช่ไหม” เจ้านายหนุ่มถามหาคำตอบสุดท้าย

“ใช่ครับ”

“ตกลงตามนั้น”

เมื่อได้ฟังคำตอบชัดเจนปราณนารายณ์จึงหมุนเก้าอี้หันไปทางเลขานุการคนเก่งเพื่อบอกให้หล่อนส่งคำตัดสินต่อไปยังฝ่ายวางแผนการลงทุนที่ได้ขึ้นว่าแกร่งที่สุดในประเทศระพีพัฒน์ก็เป่าปากด้วยความโล่งใจที่หาเหตุผลหน่วงการตัดสินใจได้

“เย็นนี้ฉันมีนัดกินข้าวกับธิดาจะไปด้วยกันไหม”

“ไม่ดีกว่าครับนาน ๆ พี่จะได้มีเวลากับธิดาสองต่อสอง ผมไม่กล้าไปนั่งเป็นก้างหรอก”

“ไม่ได้ไปกันแค่สองคนตฤณก็ไปด้วย มันเป็นร้านเบียร์เยอรมันที่ธิดาเขาอยากไปดูการตกแต่งของร้านไปกันหลายคนนั่นแหละดี ไม่งั้นก้องปฐพีมันจะหาว่าฉันพาน้องสาวของมันไปมอมเหล้าเมายาไปเถอะ ฉันเลี้ยงอยู่แล้ว”

“เอางั้นก็ได้ฮะเรื่องกินฟรี ไม่มีเกี่ยง”

ระพีพัฒน์ยิ้มกว้างแล้วค้อมศีรษะขอตัวแต่ยังดีใจไม่ทันได้ถึงนาทีเรื่องจะมีคนเลี้ยงเบียร์คืนนี้เสียงสายเรียกที่ดังจากสมาร์ทโฟนก็ทำให้เขาย่นคิ้วถอนหายใจเหนื่อยอ่อนหนึ่งทีก่อนกดปุ่มรับสายที่ไม่เคยคิดอยากได้ยินเสียง

“คิดถึงกันมั้ย”เป็นคำทักทายแรกของปลายสายที่ดังเข้าหู

“ไม่เลย”ชายหนุ่มจึงเอ่ยบอกเสียงละเหี่ย

“อะไรกันนี่ข้าคิดถึงเอ็งนะถึงได้โทรมาหา” ปลายสายเอ่ยน้ำเสียงหยอกให้ดูน่าฟัง

ระพีพัฒน์กระตุกยิ้มที่มุมปาก“จะหลอกใช้งานผมหรือเปล่าครับสารวัตร”

“ข้ามั่นใจว่างานนี้เอ็งต้องชอบข้าจะส่งเนื้อหางานไปทางโทรศัพท์ ถ้าเองรับก็ติดต่อกลับมาหาข้าอีกที”ปลายสายหัวเราะครื้น แล้วตัดสายทันที

“ก็หวังอย่างนั้น”

ระพีพัฒน์เปรยด้วยความหงุดหงิดแต่ไม่ทันถึงนาทีดี เนื้อหางานก็เด้งเข้าสู่เครื่องรับโทรศัพท์ ปรากฏเป็นภาพหญิงสาวดวงตาหม่นเศร้า

“เธอชื่อเอื้อยนี่เอง”ปากหยักคลี่ยิ้ม เปรยชื่อของหญิงสาวในรูปถ่าย แล้วกดหมายเลขของสารวัตรใหญ่ทันที

เสียงสัญญาณโทรศัพท์ปลายทางดังนานเกินไปจนทำให้ผู้ถือสายรอเกิดความสงสัยหญิงสาวเจ้าของดวงตากลมสีนิลสวยจึงกดปุ่มตัดสายแล้วกดหมายเลขเดิมอีกครั้งแต่ครั้งนี้ขอตรวจสอบตัวเลขที่ปรากฏบนหน้าจอให้แน่ใจว่าไม่ผิดหากแต่เมื่อแนบหูฟังสัญญาณโทรศัพท์นานสอนนาน ปลายทางก็ยังคงปล่อยให้ฟังเสียงสัญญาณนานเช่นเดิม

“ธิดาครับ ถ้าพี่นับไม่ผิด นั่นก็รอบที่สิบแล้วนะครับ”

เจ้าของชื่อเงยหน้าจากโทรศัพท์มองชายคนรักที่ส่งยิ้มละมุนมาให้“ขอรอบที่สิบเอ็ดอีกสักรอบนะคะพี่ปราณ ถ้าครั้งนี้ติดต่อพี่ก้องไม่ได้จริง ๆธิดาคงต้องขอไปหาพี่ก้องที่หมู่บ้านช้าง”

แต่รอบที่สิบเอ็ดของเธอก็ให้ผลเหมือนเดิมจึงเป็นเหตุให้ธิดาถอนหายใจเสียงยาว เหตุเพราะว่าพี่ชายของเธอไม่เคยไม่รับสายน้องสาวแม้กระทั่งระหว่างการประชุม สายเรียกเข้าของเธอก็สำคัญเสมอฉะนั้นการที่เธอพยายามติดต่อเขาเป็นรอบที่สิบเอ็ดแล้วยังไม่รับก็ทำให้เกิดความกังวลใจเป็นธรรมดา

“ทานอาหารก่อนเถอะครับของโปรดธิดาไม่ใช่หรือ เดี๋ยวมันจะเย็นเสียก่อนนะ”

รอยยิ้มอ่อนโยนของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวเริ่มรู้สึกผิดแล้วคิดได้ว่าในตอนนี้ เธอควรสนใจเขามากว่าตามหาตัวพี่ชายที่ขาดการติดต่อไปแค่คืนเดียวธิดาจึงเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าส่งยิ้มให้แล้วหยิบช้อนส้อมขึ้นเตรียมพร้อมที่จะชิมรสชาติของเมนูโปรด

“ชักอยากเปลี่ยนใจไม่มานั่งเป็นก้างแล้วสิ”

เสียงของใครบางคนดังแทรกการประสานสายตาหวานของทั้งคู่และเป็นใครอื่นไม่ได้นอกจากตฤณ ผู้ที่ชื่นชอบการเย้าแหย่คู่รัก

“นั่งเถอะ ขอร้อง”ผู้พูดคือปราณนารายณ์ซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่ชาย

“ทำไมครับพี่ กลัวเมาเบียร์แล้วจะลากธิดาเข้าถ้ำเลยต้องหาคนมาห้ามใช่ไหม เอ... หรือว่าอยากได้คนยุมากกว่า”

คนถูกแซวไม่ตอบโต้แต่ไสเบียร์แก้วใหญ่ไปให้เผื่อว่ามีอะไรเข้าปากแล้วจะได้ช่วยหยุดวาจาไว้ได้สักสองสามนาที

“แล้วกลางล่ะไม่ได้มาพร้อมกันกับเธอหรือ” หญิงสาวคนเดียวของโต๊ะชวนสนทนาบ้างเมื่อเห็นว่าตฤณฉายเดี่ยวผิดวิสัยของคู่หูคู่ซี้

“มันเบี้ยว เห็นว่ามีงานเข้า”คนตอบหย่อนตัวนั่ง มีสีหน้าขุ่นมัวขึ้นทันทีเมื่อถูกถามถึงเพื่อนสนิท

“ถูกสารวัตรเรียกใช้งานอีกแล้วหรือ” ปราณนารายณ์ถามต่อ

“น่าจะใช่ แต่ดูท่าทางกระตือรือร้นผิดปกติทั้งที่รู้ว่ามีนัดกับพี่ปราณ”ตฤณระบายความโกรธแล้วเรียกบริกรของร้านให้มาเสิร์ฟเบียร์อีกแก้วใหญ่จากนั้นยกกระดกจนชุ่มคอ แล้วค่อยเอ่ยต่อ “เห็นว่าต้องไปติดต่อผู้หญิงคนที่เกี่ยวข้องกับเพลงพิณ”

พอได้ยินชื่อเพลงพิณ ธิดาก็ถอนหายใจ“ถ้าไม่เกิดเรื่องยิงกันตาย ธิดาคงได้เจอแล้วก็คุยกับเพลงพิณเรื่องทุนเร็วกว่านี้”

ปราณนารายณ์หันไปยิ้มปลอบใจ“ธิดาจะได้พบเขาเร็ว ๆ นี้แน่นอนพี่คิดตอนนี้เด็กคนนั้นคงกำลังยุ่งกับการถูกสารวัตรสอบสวน”

“อย่างน้อยเขาก็น่าจะตอบกลับจดหมายว่ายินดีรับทุนการศึกษาของชลธารคอนสตรักชันหรือเปล่า”แต่หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงห่อเหี่ยว

“เอาน่ายายธิดาจะช้าหรือเร็วเธอก็ได้ตอบแทนคุณนายกำธรแน่นอน แต่ตอนนี้กินกันเถอะฉันหิวจนจะกินทุกอย่างในร้านได้แล้ว”

ตฤณขยี้หัวเพื่อนสาวต้องการแหย่ให้หายเศร้าพอดีกับที่สปาเก็ตตี้จานใหม่ถูกวางตรงหน้า ส่งกลิ่นหอมฉุยเรียกน้ำย่อยธิดาจึงคลี่ยิ้มยกแก้วเบียร์ของเธอขึ้นเพื่อชนกับชายหนุ่มทั้งสอง เป็นการฉลองเล็กๆ หลังผ่านความเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน

แต่แม้นว่าธิดาพูดคุยกับทั้งสองอย่างสนุกสนานแต่ในใจเธอนั้นยังพะวงห่วงถึงพี่ชายคนเดียวในชีวิต ป่านนี้แล้วทำไมเขายังไม่ติดต่อกลับมา




--------------------------------
ฝากผลงานด้วยค่ะ
รัก
ฤดีวัลย์  




 

Create Date : 15 ตุลาคม 2561
0 comments
Last Update : 15 ตุลาคม 2561 19:38:00 น.
Counter : 330 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ชลบุรีมามี่คลับ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 13 คน [?]




เป็นนัก(หัด)เขียนนิยายพาร์ทไทม์ เป็นคุณแม่ทำงานที่ชอบฝันกลางวันแบบฟูลไทม์ด้วย

บล็อกนี้มีเรื่องเล่ามากมาย เข้ามาค้นหาสิ่งที่อยากรู้ได้ตามสบาย


ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมนะคะ
สำหรับนักอ่านที่ติดตามนิยายของ จขบ
สามารถอานได้ทั้งทางเวบ

Hongsamut : https://hongsamut.com/writerdetail.php?writerid=3992

และทางเว็บ Dek D ค่ะ
https://my.dek-d.com/redapplels/


เนื้อหา ภาพถ่าย ในบล็อกนี้
ได้รับความคุ้มครอง
ตามกฏหมายพ.ร.บ.
สิขสิทธิ์พ.ศ. 2537 ห้าม
นำไปใช้ คัดลอก ดัดแปลง
แก้ไขส่วนหนึ่งส่วนใดโดย
เด็ดขาดนะจ๊ะ

คนดี...


New Comments
Friends' blogs
[Add ชลบุรีมามี่คลับ's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.