...เมื่อเราเอาหัวใจไปวางไว้ที่ใครอีกคน...
เมื่อเราเอาหัวใจ....ของเรา ไปวางไว้ที่ใครอีกคนโดยไม่รู้ว่าคำตอบจะเป็นเช่นไร....เสียงสะอื้นเล็กเล็ก...ที่มาตามสาย ของคนที่เป็นทั้งเพื่อนรัก...คนที่เป็นทั้งน้องสาวตัวเล็กของเรา...ที่คอยอยู่เคียงข้างกันเสมอ ไม่ว่าเมื่อใด... ทำเอาหัวใจของฉันสั่นหวั่นไหวได้ไม่น้อย...เสียงสะอื้นยังไม่ขาดสาย ฉันได้แค่เพียงปลอบโยนเธอ ผ่านโทรศัพท์มือถือเครื่องเล็กเล็ก ถ้าหากตอนนี้ เดี๋ยวนี้ ฉันสามารถไปอยู่ใกล้ใกล้เธอได้ก็คงจะดี เราสองคนคงจะกอดกันแน่น ร้องไห้ไปด้วยกัน จับมือกันไว้ ปลอบโยนอย่างที่เพื่อนรักสองคนจะคอยดูแลซึ่งกันและกันได้ น้องสาวจ๋า...คนดี ถ้าร้องไห้จนพอแล้ว เช็ดน้ำตานะคะ เพราะน้องต้องไปเจอกับคนสองคนที่เค้ารักและห่วงใยน้องที่สุด เสียงน้องสาวตัวเล็กเงียบไปพักใหญ่ ฉันยังคงบอกสิ่งที่ฉันพอจะดูแลน้องได้ในเวลานี้...โดยไม่ถาม โดยไม่ตัดสิน เพียงทำให้น้องสาวตัวเล็กได้ทบทวนสิ่งที่อยู่ในใจตัวเองตอนนี้ ด้วยคำไม่กี่คำ เรารับฟังกันเสมอ...น้องสาวตัวเล็กส่งเสียงขอบคุณและบอกว่าเช็ดน้ำตาจนแห้งแล้ว แล้วบอกเล่าความรู้สึกในหัวใจตอนนี้...ให้ฉันได้รับรู้.....ฉันวางหูจากน้องสาวไปแล้วพักใหญ่ แต่ความรู้สึกของฉัน ยังคงไม่คลายความหวั่นไหว เรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดให้ใจฉันรู้สึกมาถึงตอนนี้ คงไม่พ้นเรื่องความรัก....ความรู้สึกพิเศษ ที่ใครต่อใคร เฝ้ามองหา เฝ้าตามหา โดยที่ฉันเองมองว่า หากไม่ใช่เป็นการตั้งหน้าตั้งตา หรือทำทุกทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อให้ได้มา จนต้องสูญเสียคุณค่าของความเป็นตัวเอง ความเป็นคน มันก็คงไม่ผิดนักที่ใครคนหนึ่งจะเฝ้าคอยมองหา ความรัก...ความรู้สึกพิเศษ เช่นเดียวกัน...เรื่องราวความรักที่ฉันได้รับรู้ รับฟังมาตลอด และที่คงไม่ต่างกันในความรู้สึกของฉันเองด้วย ในบางขณะ...ความรักที่อยู่บนความไม่แน่ใจ ความรักที่ไม่เคยอยากคาดหวัง บอกตัวเองทุกครั้งว่า...รักเถอะ ชอบเถอะ ไม่เห็นเป็นไรเลย ไม่ได้คาดหวังอะไรนี่นา แค่อยากมีอะไรให้กระชุ่มกระชวยหัวใจเท่านั้นเอง ถ้าเขาคนนั้นคิดตรงกันคงเป็นความพิเศษจริงจริง ที่ฉันจะได้รับจากการที่รัก เป็นคนที่ถูกรักบ้าง...แต่มันไม่จริงเลย...หัวใจเจ้ากรรม หัวใจตัวดี มักจะแอบคิด แอบหวัง แอบฝัน อยู่ตลอดเวลา โดยที่ตัวเราเองก็รู้ว่า บางครั้งแทบจะคาดหวังอะไรไม่ได้จากอีกฝ่ายหนึ่ง มีแต่เราเท่านั้นที่คอยเจ็บปวดจากความคาดหวังของตัวเองแบบไม่เลิกไม่ลาอยู่ตรงนี้....แต่เราก็ยังไม่เลิกรักแบบคาดหวังอยู่นั้นเอง มีข้ออ้างกับตัวเองอย่างนั้น อย่างนี้ เราไม่ได้ต้องการอะไรมากมายนี่นา แค่โทรหากันสักครั้ง แค่บอกเราสักนิด แค่นั้นพอ...แค่นั้น แค่นี้ นี่เรียกว่าคาดหวังใช่ไหมนะ.....บางครั้งบางที ที่เราคาดหวัง แล้วเราได้บางสิ่งบางอย่างจากเขากลับคืนมา หัวใจเราก็พองโต ใจเต้นตึ๊กตั้ก ยิ้มได้ทั้งวี่ทั้งวัน แล้วแอบไปคิด แอบไปฝันเอาเองว่า ...บางทีนะ บางที...เขาคงรับรู้ความรู้สึกของเรา และคิดแบบเดียวกับเราบ้างเหมือนกันสินะ....แค่คิดก็เป็นสุข จนไม่อยากถอย ไม่อยากถอนตัวออกจากความรู้สึกนั้นเลยแต่เมื่อหากไม่ได้เป็นอย่างที่เราคาดหวัง....บ่อยครั้งเข้า เราก็มักจะบอก จะถามกับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ว่าไม่เหนื่อยเหรอที่เป็นแบบนี้ คอยวิ่งไปตามความรู้สึกของคนอื่น ถ้าหากเขาดีใจ ให้ความรู้สึก ทำบางอย่างให้ คำพูดบางคำพูด แบบที่เราเองแอบคิดแอบคาดหวัง เราดีใจจนอยากกระโดด หากเราไม่ได้รับอะไรเลย แม้แต่การอธิบายหรือคำตอบเล็กเล้กน้อยน้อย จากสิ่งที่เราคาดหวัง เราเองก็ได้แค่เพียงเสียใจร้องไห้ กับมันไปเพียงลำพังเหมือนกับเราเอาหัวใจเราไปวางไว้ให้ใครสักคน...โดยที่เราเองเป็นไปวางไว้ตรงนั้นเอง เขาอาจเห็น อาจเพียงชำเลืองมอง เมื่อหัวใจส่งเสียงเรียกเขาอาจหันมามองแค่สักครั้งสองครั้ง หัวใจพองโต...แต่บางครั้งส่งเสียงเรียกครั้งแล้วครั้งเล่า เขาก็ไม่ แม้แต่จะเพียงชำเลืองตามามอง...หัวใจก็เหนื่อย เหนื่อย แสนเหนื่อย ทำได้เพียงร้องไห้ไม่หวังให้เขาหันมาเห็น...แค่เพียงสงสารกันบ้างก็ยังดี แค่นี้ได้ไหม....ลงท้าย จบลงด้วยความคาดหวัง แค่นั้น แค่นี้ แค่ไหน มองเห็นหัวใจที่วางไว้ตรงนี้บ้างไหมเธอ...ถ้าเหนื่อย...อยากให้พักหัวใจตัวเองบ้าง แล้วทบทวน ถ้ายังรักถ้ายังไหว คงต้องกลับไปวางหัวใจไว้ที่ตรงนั้นอีกครั้ง...และอีกไม่รู้กี่ครั้ง ถ้าหากเหนื่อยจนเกินจะกลับไป อยากให้ค่อยค่อยถอยออกมาทีละก้าว ที่ละก้าว ไม่รีบไม่ร้อน เพื่อเรียนรู้กับสิ่งที่เรียกว่าความรัก...ให้ชัดเจนบอกตัวเองในวันที่มีความรัก...หากแต่ว่าวันนี้ ความรักของฉันยังมาไม่ถึง หรืออาจไม่มี ก็ไม่อาจรู้ได้เลย.....
จะมันมักจะลำบากเมื่อรู้ว่าการทุ่มเทนั้นขาดทุน
แต่ก็นั้นแหละสิ่งที่ทำให้เรามีชีวิต....