เหงา...จนแอบเช็ดน้ำตา
...เหงา...ความรู้สึกแสนทรมาน ของคนไม่มีรัก...ช่วงนี้ความรู้สึกที่เกิดขึ้นแปลกแปลกจัง...เมื่อวานยังหัวเราะ คิดถึงเรื่องรักรักแบบสดใส แต่วันนี้พอเลิกงานค่ำ ค่ำ เลยเย็นย่ำ มาพอประมาณ กลับมาถึง...คอนโด เปิดประตูห้อง ความรู้สึกว่างเปล่า ไม่เคยมีใครรออยู่ไม่ต้องรอใครกลับมา ไม่ต้องถามว่าอยากทานอะไร ฉันค่อยค่อย ปิดประตูห้องลงเบาเบา ยืนพิงประตูมองรอบรอบห้อง อยู่พักใหญ่ ก่อนถอดหายใจบอกกับตัวเองว่า...เหงาจัง...ค่อยค่อยเดินจากที่วางรองเท้า วางกระเป๋าสะพายและ notebook ที่หนักอึ้งลงบนโต๊ะกลาง แล้วทรุดตัวลงนั่งบนโซฟา ก่อนเอนตัวลงบนหมอนอิงใบใหญ่ ค่อยค่อยหลับตา ก้มหน้าลงกับหมอนอิง...ร้องไห้...การใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ ตัวคนเดียว ห่างบ้านแบบนี้ มันไม่คุ้นเคยและอุ่นใจเอาซะเลย ถึงแม่จะผ่านมาปีกว่าแล้วก็ตาม สงสัยความเป็นสาวบ้านนอกของฉันนี่มันคงมีอยู่เยอะจริงจริง เยอะจนฉันเองรู้สึกแปลกแยกอยู่บ่อย บ่อย ยังดีที่งานที่ทำอยู่ ทำให้มีโอกาสได้มอง ฟ้ากว้างกว่ากว้าง นาผืนสีเขียวสุดลูกหูลูกตา ในช่วงชุ่มช่ำหน้าฝนแบบนี้ ให้ชื่นใจได้บ้างแถมครอบครัวเอย เพื่อนเพื่อนเอย ไม่ได้เจอกันบ่อยเหมือนเดิมอีกแล้วเวลาที่เหนื่อยเหนื่อย เวลากลับจากทำงาน ไม่มีอ้อมกอดอุ่นอุ่น ของแม่ พ่อ น้า ยาย ให้คลายความเหนื่อยล้า ไม่มีปาร์ตี้ หรือแค่กาแฟหอมหอม ขนมสักชิ้น ให้ได้สนุก ให้พอได้ระบายเรื่องราวเหนื่อยเหนื่อย ให้เพื่อนเพื่อนเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะได้เหมือนเคย ...คิดถึง...ที่เหงาที่สุด....คงเป็นเรื่องความรักนี่แหละ เวลาเรามีความรัก มันเหมือนเรามีใครสักคน ให้ห่วงใย ให้รัก ให้ดูแลเอาใจใส่ และเค้าคนนั้นก็ทำให้เรารู้สึกเป็นคนถูกรัก...อบอุ่นใจ ในอ้อมกอดที่ใครคนนั้นไม่มีความรักมานานเท่าไหร่แล้วนะ จำไม่ได้ ไม่อยากจำแค่อยากเป็นคนถูกรัก....แค่อีกสักครั้ง....น้ำตา...บอกความรู้สึกเหงา ที่มันกำลังทำหน้าที่ของความเหงา ได้อย่างเจ็บปวดที่สุดที่จะทำได้กับใครคนหนึ่ง ทำหน้าที่ของความเหงาได้ดีจริงจริงก่อนความเหงาจะกลายเป็นฟูมฟาย ฉันลุกขึ้นนั่ง เช็ดน้ำตาจากแก้มเบาเบายิ้มให้กับตัวเอง....เหงาซะให้พอนะ....พอแล้วหายแล้วมาอยู่เป็นเพื่อนกันเงียบเงียบ อยู่ตรงไหนซักมุมหนึ่ง ก็แล้วกันนะ เพื่อน...เจ้าความเหงา...เปิดเพลงฟังกล่อมความเหงาเบาเบา...ทำอะไรจานเล็กเล็ก ให้ตัวเองทานรักตัวเอง...กอดตัวเองให้อุ่น...ดูแลตัวเองกันไปก็แล้วกันนะ...ยิ้มและร้องไห้...ให้กับความเหงาของตัวเอง