|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
The Stand Inner (The Wind of Angel) ตอนที่ 8. จิตราตรี
จิตราตรี
.ที่กำลังจะเริ่มขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้รับอนุมัติจากสภากีฬาสากลแห่งเอเชี่ยนให้ไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้ ภายใต้ชื่อ เอเชี่ยน ลิมปิกเกมส์ ซึ่งคาดว่าในงานนี้คงมีจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเป็นจำนวนมาก... เสียงจากโทรทัศน์ที่ดังขึ้น เขาอยู่ในสภาพที่พร้อมเข้านอน ด้วยชุดเสื้อยืดคอกลมหลวม ๆ สีขาวกับกางเกงขาสั้นที่ยาวถึงเข่าตัว อารยะผ่อนคลายตัวเองสบายสักครู่อยู่บนชุดรับแขกชุดเล็ก ๆ หน้าโทรทัศน์เพื่อรับชมข่าว ต่อไปเป็นข่าวจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ แจ้งเข้ามาให้ทราบว่า วันนี้เมื่อเวลาประมาณ 8 นาฬิกา 47 นาทีจนถึง เวลา 9 นาฬิกา 14 นาที ทางศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติสามารถวัดความสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวได้ สูงสุดที่ 2.7 ริกเตอร์ เป็นเวลา 27 นาที โดยมีจุดศูนย์กลางการสะเทือนอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี แรงสั่นสะเทือนนี้สามารถวัดได้ถึงจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งมหานครกรุงเทพด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ได้มีรายงานความเสียหายเข้ามาให้ทราบในขณะนี้ ที่องค์พระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม มีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติที่ไปกราบนมัสการ ได้พบเห็นรอยแตกร้าวบริเวณฐานขององค์พระปฐมเจดีย์อยู่หลายแห่ง ทางจังหวัดจึงได้เร่งประสานงานไปที่กรมอนุรักษ์โบราณศิลป์และวัฒนธรรมแห่งชาติ อารยะปิดโทรทัศน์ก่อนที่จะได้ชมเรื่องราวทั้งหมดจบลง
หมายความว่า ที่เรารู้สึกได้เมื่อเช้านี้ที่รถไฟฟ้า มันก็เป็นเรื่องจริงนะสิ เขาพูดออกมาด้วยเสียงเรียบและเบา ในขณะที่นั่งอยู่หน้าโทรทัศน์ที่ปิดเงียบไปแล้ว เรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับเราทั้งหมด มันคงไม่ใช่เรื่องเหลือเชื่ออีกต่อไป มันต้องเป็นเรื่องจริงอย่างแน่นอน ทำให้อารยะนั่งนิ่งนึกถึงสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ย้อนคิดถึงในสิ่งที่บ๊วยเคยได้พูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ ตามด้วยสิ่งที่หลวงตาชี้แนะให้อารยะได้ลองปฏิบัติเพื่อหนทางแห่งการรวมจิต เขาลุกขึ้นไปปิดไฟที่อยู่ข้างประตูห้อง แล้วเดินหาทำเลที่เป็นพื้นที่ว่างที่สุดเท่าที่จะมีได้ในห้องของเขา และนั่งลงในท่านั่งขัดสมาธิเท้าขวาทับขึ้นบนเท้าซ้าย มือวางบนตักด้วยท่ามือขวาทับบนมือซ้าย มันคือท่าพื้นฐานเพียงท่าเดียวที่อารยะรู้จักเท่านั้น ที่ใดมีลมหายใจ ให้กำหนดไว้ที่นั่น อารยะทบทวนคำพูดของหลวงตาด้วยเสียงที่เบามาก ๆ จนฟังดูเหมือนเสียงบ่นพึมพำเสียมากกว่า เขาเริ่มทำตัวให้สบาย ๆ หายใจเข้าออกลึก ๆ เพื่อให้ผ่อนคลายสักครั้งสองครั้ง แล้วก็เริ่มหายใจในภาวะปกติธรรมดาไม่ใส่ใจว่าหายใจจะสั้นไปหรือว่ายาวไป ปล่อยมันไปตามธรรมชาติ แล้วกำหนดรู้เท่าสภาวการณ์ของลมแห่งการเข้าออกนั้น อารยะนั่งอยู่เช่นนี้เป็นเวลานานพอสมควรจนกระทั่งได้เข้าถึงสภาวะแห่งจิตที่เป็นหนึ่ง ไม่รู้สึกว่ามีตัวตนของตน เบาหวิวร่องลอย เกิดปิติความยินดี เปี่ยมไปด้วยความสุขแห่งจิตที่ไม่มีสุขทางกายใดจะเทียบเท่าได้ เขายังคงนั่งสมาธิต่อไปเรื่อย ๆ จนเวลาค่อย ๆ ผ่านไป ๆ
เช้าของอีกวันใหม่
.. เมื่อแสงแดดสาดส่องเข้ามาภายในห้อง ทำให้อารยะรู้สึกได้ว่าควรพอไว้เพียงเท่านี้ก่อน เขาค่อย ๆ ถอนกำลังสมาธิลงแล้วลืมตาขึ้น จึงได้หยุดการเจริญสมาธิไว้แต่เพียงเท่านั้น นี่มันเช้าแล้วรึนี่..เวลามันช่างผ่านไปรวดเร็วซะเหลือเกิน อารยะนึกอยู่ในใจ เขายังไม่รู้หรอกว่าการติดอยู่ในฌานสมาธินั้นย่อมอยู่เหนือกาลเวลาอยู่แล้ว เวลาของโลกมันเหมือนนานแต่ในฌานสมาธิมันช่างเป็นเวลาที่รู้สึกว่าน้อยนัก มันน้อยในความรู้สึกของผู้เข้าฌานสมาธิเท่านั้น ในโลกแห่งความจริงทุกอย่างยังคงเช่นเดิมและนี่คงเป็นผลมาจากบุญบารมีทางธรรมตั้งแต่เมื่อชาติภพหนหลังที่ได้บำเพ็ญเพียรมาก่อนที่จะมาเกิดในชาติที่เป็นอารยะนี้นั่นเอง
อารยะรู้สึกว่าเช้านี้ทุกอย่างมันสวยงามอิ่มเอมใจอย่างบอกไม่ถูก มันเป็นปิติแห่งอารมณ์ที่เหนือกว่าความสุขที่ได้จากความสำเร็จใดที่ทางโลกมี ความรู้สึกนึกคิดก็เปลี่ยนไป มันละเอียดอ่อนมากเหมือนว่าสัมผัสได้ถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่โดยรอบ แม้เพียงการก้าวย่างที่แผ่วเบาแหวกอากาศไปอย่างช้า ๆ ก็ยังให้รับรู้ได้ว่าลมผ่านไปทุกรูขุมขนทั่วพื้นผิวหนัง
เช้านี้เราไม่มีความง่วงเลย แล้วความรู้สึกสุขใจที่มีอยู่นี่ตอนนี้มันคืออะไรกัน อารยะเปล่งเสียงออกมาเป็นคำแรกของเช้าวันนี้ มันเป็นเช้าที่รู้สึกสบายปลอดโปร่งใจกายเป็นที่สุด รูปและเสียงที่ผ่านเข้ามาในสัมผัสประสาทนั้นไม่อาจไปรบกวนจิตใจของอารยะได้เลย เขานึกขึ้นได้ว่าหากสามารถรวมจิตได้แล้ว จะกำหนดรู้ได้ดุจดั่งชี้นิ้วไปยังสิ่งที่หมาย จึงได้ลองวิชาดูสักหน่อย เขานั่งลงในท่าขัดสมาธิ หลับตาลงแล้วเริ่มรวบรวมสมาธิเพ่งพินิจกระแสจิตไปที่ห้องข้าง ๆ เพื่อแสกนหาความรู้สึกนึกคิดของคนที่อยู่ข้างห้องพักของเขา เวลาเพียงไม่นานนักสมาธิก็ถูกรวมเป็นหนึ่งเพียงแต่ว่า.....เขาไม่สามารถที่จะรับรู้ความรู้สึกนึกคิดจากคนที่อยู่ข้างห้องได้เลย นั่นเป็นเพราะว่ามันเป็นห้องว่างเปล่าไม่มีใครอยู่เลยในตอนนี้นั่นเอง เขายังอยู่ในการสำรวมสมาธิอยู่จึงได้ทดลองแสกนไปที่ห้องข้าง ๆ อีกด้านหนึ่ง เพียงไม่นานอารยะก็รู้ได้ว่าห้องนี้ก็เป็นเพียงห้องที่ไม่มีใครอยู่ด้วยเหมือนกัน เขาจึงค่อย ๆ ลืมตา แล้วลุกขึ้นมองไปที่นาฬิกาซึ่งแขวนอยู่เหนือโทรทัศน์ 9 โมง 10 นาที มิน่าถึงไม่เจอใครเลย อารยะนึกขึ้นได้ว่าคนที่พักอยู่ห้องข้าง ๆ ทั้งสองห้อง ตอนนี้เขาออกไปทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนกันตั้งแต่เช้าแล้ว เขาคงต้องไปทดลองผลการฝึกครั้งนี้ที่อื่นเสียแล้ว
หลังจากทำกิจวัตรธุระในช่วงเช้าเสร็จแล้ว อารยะก็เตรียมตัวออกไปกองถ่ายทั้งที่วันนี้ไม่มีคิวถ่ายหนังของตัวเอง
บนขบวนรถไฟลอยฟ้า BTS
พระโขนง เสียงประกาศดังขึ้นบนรถไฟฟ้า รถไฟฟ้าโล่งมาก ปราศจากผู้คนเบียดเสียด การเดินทางสบายไม่วุ่นวาย เป็นจังหวะดีที่อารยะจะได้ลองวิชาอีกครั้งหรือใช้คำที่น่าฟังมากขึ้นกว่าว่า ฝึกภาคสนาม ก็ได้ ถึงแม้ว่าการฝึกของอารยะจะเป็นความผิดตามกฎหมายว่าด้วยเรื่องของสิทธิมนุษยชนก็ตาม แต่ผู้ที่ถูกละเมิดก็คงไม่รู้ตัวว่าขณะนี้กำลังถูกล้วงความลับอยู่ ทีนี้ใครละจะรู้ว่าอารยะทำผิดกฎหมายอยู่นอกจากตัวเขาเองเท่านั้น
ขอแอบดูนิดนึงนะ อารยะพูดออกมาเบา ๆ เหมือนว่าจะขออนุญาตเป้าหมายก่อน แต่ก็ขอแค่เบา ๆ ก็พอ เขาเริ่มสำรวมสมาธิเป็นเอกจิตอย่างรวดเร็วแล้วเพ่งไปยังผู้หญิงที่กำลังนั่งแต่งหน้าอยู่เยื้องกันไปอีกสามที่นั่งด้านขวามือของเขา จึงได้รับรู้สิ่งที่อยู่ในใจของเธอผู้นั้น ไม่น่าซื้อมาเลยลิปสติกแท่งนี้นี่ ไม่ถูกใจเลยจริง ๆ อารยะได้รับความรู้สึกนึกคิดของเธอในขณะนั้น จึงทำให้รู้ว่าเขาทำได้แล้ว แต่ก็อยากให้แน่ใจ ดังนั้นจึงขอแอบดูเธอคนนี้อีกครั้ง แหมวันนี้ไม่มั่นใจเลย ใส่ของปลอมมาเยอะแยะไปหมด อารยะยังติดตามชมต่อไปเหมือนกำลังนั่งดูหนังเพลิน ๆ ซึ่งจริงแล้วเขารู้สึกดีใจกับการที่สามารถโฟกัสไปได้เหมือนชี้นิ้วเลือกช่องรับชมรายการจากโทรทัศน์ พรุ่งนี้เราจะบอกพี่ติ๊กว่าเราจะต้องไปอเมริกาเดือนนึง กลัวพี่ติ๊กรู้จังเลย ว่าเราก็เหมือน ๆ กัน อารยะเริ่มรู้สึกแปลกกับข้อมูลที่ได้รับมาจากผู้หญิงที่กำลังแต่งหน้าด้วยความกังวลคนนี้ เราต้องแอบไปแปลงเพศ เพื่อรักษาความลับนี้ไว้ พี่ติ๊กจะได้ไม่ทิ้งเราไป ในที่สุดเขาก็ได้รู้ความลับที่ไม่ควรจะรู้ของผู้ชายคนนี้ อารยะต้องแก้ไขข้อมูลที่ได้รับจากสื่อเสียใหม่ที่คิดว่าเป็นผู้หญิงต้องเปลี่ยนใหม่เป็นผู้ชายในทันทีทันใด เขาถอนสมาธิออกอย่างรวดเร็วแล้วลืมตาขึ้นมองผู้ชายคนที่กำลังแต่งหน้าอยู่เยื้องกับเขานั่น ด้วยหน้าตาอึ้ง ๆ บทเรียนแรกของการฝึกภาคสนามจึงเป็นอุทาหรณ์สอนอารยะได้ว่า จงระมัดระวังเรื่องการปลอมแปลงของข้อมูลข่าวสารจากสื่อที่ได้รับเข้ามาในหัว เพราะสมัยนี้อะไรก็เลียนแบบกันได้ แถมยังปลอมได้สวยกว่าของแท้เสียอีก สิ่งสำคัญเขาทำสำเร็จแล้วในการที่จะกำหนดรู้เห็นได้เฉพาะสิ่งที่ต้องการ ถึงแม้ว่าการฝึกภาคปฏิบัติในครั้งแรกจะไม่ค่อยสวยนักก็ตาม แต่ก็จัดว่าเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีเลยทีเดียว....
Create Date : 26 มีนาคม 2551 |
Last Update : 26 พฤษภาคม 2551 17:16:57 น. |
|
0 comments
|
Counter : 490 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]
|
สวัสดีชาวโลก..... ยินดีอย่างยิ่งที่ท่านได้เข้ามาทักทาย เราคือผู้ที่จะร่วมเดินทางไปกับทุกท่าน บนโลกที่กำลังหมุนอยู่ใบนี้ เราเฝ้าดูและรายงาน...สรรค์สร้าง.. ..เพื่อโลก..เพื่อเรา.... ก้าวเดินไปด้วยกันสิ เราจะเล่าให้ฟัง...
ขอบคุณท่านผู้เจริญ.... bluesky_planet@hotmail.com
|
|
|
|
|
|
|
|