จักรวาลอันเวิ้งว้างกว้างใหญ่ ยังมีดาวเคราะห์สีฟ้าสวยที่สุด ภายใต้ผืนแผ่นฟ้า ยังมีน้ำใสสีครามและพื้นแผ่นดิน ชีวิตได้ถือกำเนิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้..."โลกใบสุดท้าย"
Group Blog
 
<<
เมษายน 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
16 เมษายน 2551
 
All Blogs
 
The Stand Inner (The Wind of Angel) ตอนที่ 11.ร้อยคนร้อยวิญญาณ

ร้อยคนร้อยวิญญาณ

เช้าอีกวันหนึ่ง-ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ
ณ ห้องรวมผู้บาดเจ็บฉุกเฉินจากอุบัติภัยแผ่นดินไหว
“ตื่นได้แล้วพวก จะนอนกินอิฐ หิน ดิน ทราย ของประเทศชาติไปถึงไหนกัน”
อารยะถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยน้ำเสียงแกมประชดประชันของนักวิชาการท่านหนึ่ง
แขนของอารยะถูกดึงขึ้นมาข้างหนึ่งแล้วปล่อยลง
“ใช่!~ ตื่นได้แล้ว ฉันดูคุณนอนหลับมานานมากพอแล้วนะ”
เสียงที่ค่อนข้างดุของผู้หญิงที่อยู่ในอาชีพที่เกี่ยวกับตัวเลขในตลาดหุ้น
กำลังอยู่ในอารมณ์เบื่อ พร้อมกับผลักให้ตัวอารยะขยับไปมา
“Yes! Weak up” อ้าว..ว.แล้วนี่เสียงฝรั่งที่ไหนใครกันละ เขาเป็นนักท่องเที่ยวหนุ่มชาวอเมริกัน
“พูดดี ๆ คุณไม่ลุกใช่มั๊ย งั้นพวกเราช่วยกันฉุดเขาขึ้นมาดีกว่า”
เมื่อเสียงของทหารนายหนึ่งจบลงก็เริ่มใช้วิธียกพวกรุมอุ้มกันทันที
ข้อมือทั้งสองของอารยะยกขึ้นอย่างแรงจนหัวไหล่ยกขึ้นแต่ศีรษะเหมือนจะยังนอนติดหมอนอยู่อย่างนั้น
“งั้นผมช่วยอีกแรงดีกว่า ผมยิ่งต้องรีบทำเวลาหาเงินอยู่ด้วย”
นักบริหารหนุ่มจากบริษัทมีชื่อเสียงคนหนึ่งเข้าตะลุมบอนอารยะอีกแรง
คราวนี้ขาทั้งสองข้างถูกดึงจนยกขึ้นด้วย แต่ก้นยังคงติดกับเตียงอยู่
พวกเขายังไม่สามารถจะเอาชนะร่างของอารยะที่กำลังหลับอยู่ได้
“เอาละเราช่วยกันดึงขึ้นพร้อมกันนะ” เสียงของนายแพทย์คนหนึ่งที่เข้ามาช่วยด้วยอีกหนึ่งแรง

หนักยิ่งกว่าเดิมขึ้นอีก...
เมื่อทั้งแขนและขายกขึ้น
บ้างก็ถ่างขาอ้า หุบเข้าหุบออก
พับขาพับแขนบ้าง
ยืดหดขาและแขนบ้าง
ร่างของเขาตอนนี้ขยับไปมาเหมือนเต้นระบำในท่านอน

“นั่น ไอ้หนุ่มนี่มันละเมอได้เก่งสุดยอดไปเลยนะ”
“พี่เค้าฝันว่ากำลังบินขึ้นสวรรค์อยู่มั้งครับลุง”
ผู้บาดเจ็บเตียงข้าง ๆ มองกันเป็นเรื่องขำขัน
พอดีกับที่พยาบาลก็กำลังเดินเข้ามาเปิดโทรทัศน์ให้ชม
มันดึงดูดความสนใจจากทุกเตียงไปจากสิ่งที่แต่ละคนกำลังทำอยู่
ทุกคนจึงหยุดชะงักแล้วทิ้งอวัยวะทุกส่วนของอารยะให้ตกลงบนเตียงเหมือนเดิม
ทุกคนบนเตียงในห้องกว้าง ๆ จ้องดูรายการข่าวจากโทรทัศน์ด้วยหัวเรื่อง ‘หายนะภัยแผ่นดินไหว’
ต่างคนต่างก็หันมาดูเรื่องจริงที่ตนเองและทุกคนในห้องนี้ประสบพบวิบากกันมา
ร่างของอารยะสงบนิ่งลง ไม่วุ่นวายอยู่กับอาการละเมออย่างที่เตียงข้าง ๆ กำลังเข้าใจ
ในห้องผู้ป่วยรวมเงียบลงทันทีที่โทรทัศน์ถูกเปิดขึ้น
ไม่มีเสียงเอะอะพูดคุยรบกวนรายการข่าวนี้เลย
มันเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนย่อมจะสนใจใคร่รู้ในข่าวที่เกี่ยวข้องกับตัวเองไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม
อารยะเริ่มรู้สึกตัวตื่นขึ้นและมองเห็นบาดแผลเล็ก ๆ น้อย ๆ บนร่างกายของตน
เขาไม่ทันได้คิดทบทวนเรื่องราวเมื่อคืนวานว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนที่เขาจะหมดสติลง
ไม่รู้เรื่องเลยแม้กระทั่งเมื่อครู่นี้เกิดอะไรขึ้นกับตัวเขา
ทันทีที่ตื่นขึ้นมองไปที่ไหนก็เห็นว่าทุกคนกำลังจ้องมองไปที่โทรทัศน์กันอยู่
ทำให้เขาต้องหันไปติดตามชมรายการข่าวนี้ด้วยอีกคน

“เรามาฟังข้อมูลความคิดเห็นทางวิชาการจากท่านศาสตราจารย์ดอกเตอร์สงัด สงบดี”
“ผู้เชี่ยวชาญเรื่องแผ่นดินไหวจากศูนย์เตือนภัยพิบัติธรรมชาติกันนะครับ”
บทเสียงสัมภาษณ์ของผู้จัดรายการข่าวด่วน
“ก็เป็นที่ทราบแล้วนะครับว่าเมื่อวานนี้เราได้พบกับหายนะที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของไทย
ก่อนอื่นผมต้องขอย้อนไปในอดีต ทุกท่านคงจำเหตุการณ์เมื่อครั้งที่เกิดแผ่นดินไหวจากบริเวณเหนือของ
เกาะสุมาตรา ซึ่งข้อมูลที่วัดได้จากเครื่องวัดความไหวสะเทือนนั้นอยู่ที่ 9.5 ริกเตอร์ ก็เนื่องมาจากการเกยกันของแผ่นเปลือกโลกขนาดใหญ่ 2 แผ่น ทำให้เกิดปรากฏการณ์อาฟเตอร์ช็อคมาถึงเมืองไทยด้วย”
ศาสตราจารย์ดอกเตอร์สงัด สงบดีกล่าวเท้าความไปถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดคลื่นซึนามิ
“แล้วเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดที่เกิดขึ้นกับเมืองไทยนี่ละครับ เนื่องมาจากสาเหตุที่เกี่ยวข้องกันหรือไม่ครับ”
”แน่นอนที่สุดมันย่อมเกี่ยวข้องกันอยู่หากเราคิดว่ามันเกี่ยวข้องกันก็ได้ ทั้งนี้ก็เพราะว่าจุดที่เกิดขึ้นที่บริเวณเหนือเกาะสุมาตรานั้นเป็นรอยแยกใหญ่มาก ๆ ส่วนของเราเป็นแขนงของรอยแยกเล็ก ถ้าเปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายขึ้น นั่นก็คือตรงสุมาตรานั้นเป็นรากแก้วใหญ่ส่วนเรานั้นเป็นรากฝอยที่แยกออกมาจากรากแก้วเท่านั้น แต่ถึงกระนั้นก็เถอะนะ หากรอยใหญ่เคลื่อนตัวส่วนที่เล็กกว่าก็ย่อมเกิดผลตามไปด้วยเช่นกันเพียงแต่จะมากหรือน้อยเท่านั้น”
“เมื่อวานนี้เราวัดความสั่นไหวที่เกิดขึ้นได้เท่าไรครับ”
“สำหรับเมื่อวานนี้เราวัดความสั่นไหวได้ที่ 9 ริกเตอร์ ครับ ซึ่งก็รุนแรงพอที่จะทำให้สิ่งปลูกสร้างพังได้ โดยเฉพาะแผ่นดินในเมืองไทยยังเป็นแผ่นดินที่ยังไม่แน่นพอจึงทำให้ถูกเขย่าได้ง่าย”
“แล้วมีความเป็นไปได้หรือไม่ครับที่เหตุการณ์ในครั้งนี้จะเกิดขึ้นอีก”
“ครับความเป็นไปได้หรือไม่ยังอยู่ในความน่าวิตกอย่างยิ่ง เนื่องจากเรายังไม่รู้ว่าแนวการเคลื่อนตัวนั้นสงบลงหรือยัง แต่อย่างไรก็ดีเราก็ควรเตรียมตัวเฝ้าระวังภัยไว้ให้ดี เพราะความเป็นไปได้ก็ยังมีอยู่อย่างแน่นอน
สำคัญที่เมื่อไร ที่ไหน เท่านั้น”
“ท่านศาสตราจารย์ดอกเตอร์สงัดครับ หากเกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงขึ้นอีกท่านมีข้อแนะนำให้กับประชาชนอย่างไรบ้างครับ”
“ก็ให้ออกมาอยู่ในที่โล่งโปร่งซะ อย่าไปอยู่ภายในหรือภายใต้สิ่งปลูกสร้างใด ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการถล่มพังของสิ่งก่อสร้างนั้นครับ โดยเฉพาะในมหานครกรุงเทพนั้นมีอาคารสูง ๆ อยู่จำนวนมากซึ่งไม่ได้มาตรฐานในการป้องกันการสั่นไหวของแผ่นดินทำให้อยู่ในอาการที่น่าเป็นห่วงมากครับ ขอบคุณครับ”
ศาสตราจารย์กล่าวจบก่อนที่จะถูกตัดภาพมาที่หน้าของผู้จัดรายการเพียงคนเดียว
“ครับต่อไปผมขอแจ้งรายชื่อผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ สำหรับญาติของผู้เสียชีวิตที่ประสบภัยแผ่นดินไหวในครั้งนี้ หากพบรายชื่อตามประกาศนี้ สามารถติดต่อเข้ามาเพื่อแจ้งความประสงค์ขอรับศพไปบำเพ็ญกุศลได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 0--3002-2995 ถึง 99 ครับ เริ่มด้วยรายชื่อของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์รถไฟลอยฟ้าตกรางนะครับ ซึ่งทั้งหมดที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 387 ราย ดังรายชื่อต่อไปนี้ครับ นาย....” ผู้จัดรายการอ่านรายชื่อตั้งแต่คนแรก ไปเรื่อย ๆ ก็เริ่มมีเสียงร้องไห้เข้ามาในหัวของอารยะ
“นี่เรา..เราตายแล้วหรือนี่”
ยิ่งผู้ประกาศข่าวอ่านไปเรื่อย ๆ ก็เริ่มมีเสียงร้องไห้เพิ่มมากขึ้น
“มันไม่จริง ชั้นไม่เชื่อ ชั้นยังรู้สึกว่าหายใจอยู่เลย”
“ผมยังไม่ตาย ผมตายไม่ได้ ผมยังมีอะไรต้องทำอีกเยอะ”
“ชั้นยังไม่ได้สั่งเสีย บอกลาคนที่บ้านเลย แล้วนี่เค้าจะรู้หรือเปล่าว่าชั้นหายไปไหน”
“แล้วนี่ผมจะทำไงดี ลูกผมตั้งสามคนยังเล็กอยู่เลยนะ เมียผมก็เป็นแค่แม่บ้าน โห่..โห..ฮือ..อ..อ”

อารยะมองเตียงรอบ ๆ กวาดสายตามองหาสิ่งปกติที่เกิดขึ้นไปทั่วทั้งห้องกว้าง ๆ
แต่ยังไม่พบว่าใครที่กำลังร้องไห้อยู่ เขาเริ่มเกิดความสงสัยแล้วว่าเสียงที่เกิดขึ้นนั้นมาจากที่ไหนกันแน่
มันดังขึ้นมาเหมือนมันอยู่ไม่ไกล มันน่าจะอยู่ใกล้ ๆ ที่ใดที่หนึ่ง
หรือไม่ก็แค่ในหัวของเขาเอง.....

อารยะนึกถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้มามากมายจากการเดินทางผ่านกาลเวลาท่องไปในอดีตเมื่อสมัยกรุงศรีอยุธยา
“เจ้าสามารถหลับตาลงทำสมาธิได้ เจ้าก็ลืมตาทำเช่นนั้นได้ฉันใด
เมื่อเจ้าสามารถรับสัมผัสใจผู้อื่นได้ เจ้าก็สามารถส่งสารให้เขารู้ได้เช่นกัน“
คำของหลวงตาที่ได้ชี้แนวทางไว้ให้ครั้งหนึ่งในภพชาติก่อนหน้าภพชาตินี้ ไปอีกสองร้อยกว่าปีล่วงมาแล้ว
อารยะนึกได้เช่นนั้น จึงได้ใช้สมาธิเพ่งจิตหาที่มา
และได้ทำการส่งสารเข้าไปสนทนากับผู้ที่กำลังโศกเศร้าจำนวนมากมาย
ซึ่งตอนนี้เขารู้ที่มาแล้วว่าเสียงทั้งหมดที่ได้ยินอยู่นั้นมาจากที่ใด
“ผมพอเข้าใจถึงการสูญเสียนี้อย่างที่ไม่เตรียมใจไว้ล่วงหน้า ไม่ได้บอกล่ำลาให้ครอบครัว
หรือ คนที่เรารักได้รับรู้ แต่ทุกคนต้องมีหน้าที่ ที่ต้องเดินทางต่อไป
ไม่ว่าเราจะแปลงรูปไปอยู่ในรูปใดก็ตาม หน้าที่ตรงนั้นก็จะต้องเริ่มใหม่ในรูปแบบใหม่รูปนั้นต่อไป
เศร้าเสียใจก็ไม่เกิดประโยชน์อันใดขึ้นมา”
“คุณไม่เข้าใจผมหรอกครับ คุณอย่ามายุ่งดีกว่า”
ดวงวิญญาณดวงหนึ่งในขณะที่เขากำลังรู้สึกหงุดหงิดและเพิ่งจะรู้สึกห่วงหาคนที่บ้าน
เขาใช้ชื่ออาทิตย์ ในขณะที่มีชีวิตอยู่เขาคือศัลยแพทย์อันดับหนึ่ง
ปัญหาของเขาคือความไม่พร้อมที่จะรับใช้ผู้เจ็บป่วยด้วยความบริสุทธิ์
ไม่พร้อมที่จะอยู่กับครอบครัวให้มากนอกจากการกอบโกยเงินทองที่ได้มาอย่างรวดเร็วพร้อมกับชื่อเสียง
เขาสร้างรังเกินตัว เกินพอดีพออยู่ จนน่ากลัวและวันนี้มันก็มาถึง

“ใช่! คุณจะเข้าใจอะไร คุณไม่มีสิทธิ์กักขังพวกเราในร่างคุณด้วยซ้ำ”
คำพูดที่อยู่ในอารมณ์โกรธของวิญญาณอีกดวงหนึ่งในชื่อขณะที่มีชีวิตเขาคือ สมศรี
เธอเป็นนักบัญชีจอมตระหนี่และไม่มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีกับผู้ใดเลยแม้แต่คนในบ้าน
เม็ดเงินของเธอไม่เคยรั่วไหลไม่เคยให้ทานใครแม้แต่คนในตระกูลเดียวกันที่คลานตามกันมา

“มันก็ถูกนะครับ แต่ผมก็ไม่ได้ต้องการให้เป็นแบบนี้เลย และคงไม่มีใครอยากให้เป็นด้วย”
“ผมเองก็เป็นผู้ประสบกับอุบัติภัยในครั้งนี้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นผมก็ยังไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้ยังไง
ผมเองก็ยังไม่สามารถรับได้เหมือนกันที่มีดวงวิญญาณจำนวนมากเข้ามาเบียดเสียดอยู่ในร่างเดียวกันของผม และผมก็ต้องขอโทษทุกคนด้วยนะครับ ผมว่าเรามาหาวิธีแก้ไขทำให้ทุกคนได้เป็นอิสระกันจะดีกว่านะครับ”
อารยะรู้สึกว่าทุกคนยังอยู่ในอาการที่ไม่เหมาะจะสนทนาได้ด้วยเลย
เขาจึงเงียบไว้ก่อนเพื่อรอจนกว่าดวงวิญญาณทั้งหมดจะสงบลง
ยอมรับกับความจริงที่ได้เกิดขึ้นและเข้าใจได้ว่ามันไม่สามารถทำอะไรได้อีกต่อไปแล้ว

“ในส่วนของเหตุการณ์ตึกถล่มอีกจำนวนหลายแห่งทั่วมหานครกรุงเทพ ในขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการค้นหาผู้เสียชีวิตจากเศษซากหักพัง เบื้องต้นจะประกาศรายชื่อเท่าที่ได้พบผู้เสียชีวิตแล้วจำนวน...”
เสียงจากผู้ประกาศข่าวยังคงดำเนินรายการต่อไป...



Create Date : 16 เมษายน 2551
Last Update : 26 พฤษภาคม 2551 20:03:46 น. 0 comments
Counter : 346 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

boonblue
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




สวัสดีชาวโลก.....
ยินดีอย่างยิ่งที่ท่านได้เข้ามาทักทาย
เราคือผู้ที่จะร่วมเดินทางไปกับทุกท่าน
บนโลกที่กำลังหมุนอยู่ใบนี้
เราเฝ้าดูและรายงาน...สรรค์สร้าง..
..เพื่อโลก..เพื่อเรา....
ก้าวเดินไปด้วยกันสิ เราจะเล่าให้ฟัง...

ขอบคุณท่านผู้เจริญ....
bluesky_planet@hotmail.com
Friends' blogs
[Add boonblue's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.