จักรวาลอันเวิ้งว้างกว้างใหญ่ ยังมีดาวเคราะห์สีฟ้าสวยที่สุด ภายใต้ผืนแผ่นฟ้า ยังมีน้ำใสสีครามและพื้นแผ่นดิน ชีวิตได้ถือกำเนิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้..."โลกใบสุดท้าย"
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
4 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
The Stand Inner (The Wind of Angel) ตอนที่ 26. ลอบสังหาร

ลอบสังหาร

อารยะต้องรีบเดินทางไปยังที่อีกแห่งหนึ่งพร้อมกับของวิเศษที่สุดแสนจะธรรมดา
เขาเตรียมเอาไว้ในกระเป๋าเป้เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าจะยิงนกได้ทั้งฝูงหรือไม่
เพราะยังมีกลุ่มผู้ก่อการร้ายอีกกลุ่มที่กำลังคิดว่าตัวเองเป็นนกจ้าวเวหาอยู่
………………………………………..

ขณะที่ผู้นำประเทศกำลังกล่าวแถลงการณ์สำคัญเพื่อปลุกขวัญปวงประชาชาวไทยให้รู้รักสามัคคี
ในงาน ’คนไทยเพื่อคนไทยรักชาติ’ กลางท้องสนามหลวง
มันเป็นงานที่จัดขึ้นปลอบขวัญคนไทยไม่ให้ตื่นตระหนก ต่อความเกรงกลัวภัยของกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่กระหายทำลายชาติ การกระทำของผู้นำประเทศในครั้งนี้จึงเกิดขึ้นเพื่อประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจให้คนไทยร่วมมือกัน เป็นพลังสำคัญที่จะช่วยให้ประเทศอยู่รอดได้

“ผับ ผับ ผับ ผับ…..”
เสียงของใบพัดอะไรบางอย่างดังขึ้นเหมือนเสียงใบพัดของเฮลิคอปเตอร์
ทุกคนที่มาร่วมงานทั้งหมดไม่ว่าจะอยู่บนเวทีหรือข้างล่างเวทีเงยหน้าขึ้นไปมองรอบ ๆ บนท้องฟ้า
เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ขนาดเล็กบังคับด้วยคลื่นวิทยุบินปรากฏตัวขึ้น
มันหยุดนิ่งอยู่กลางอากาศหันหน้าเข้าสู่เวทีปราศรัยเหนือผู้ชมงาน
เช่นเดียวกับการแถลงการณ์ของผู้นำประเทศที่เพิ่งเริ่มก็ต้องหยุดลงด้วยเช่นกัน

ขณะที่ผู้นำประเทศยังยืนอึ้งอยู่บนเวที
มันดูน่าสนุกดีหากว่ามันไม่ได้เอาจรวดติดใต้ท้องเครื่องมาด้วย
เดาไม่ผิดว่ามันต้องเป็นเทคนิคใหม่ของกลุ่มผู้ก่อการร้ายอย่างแน่นอน
มันมีความคิดสร้างสรรค์ หาของเล่นแบบใหม่เพื่อใช้ในทางชั่วร้ายนี้อยู่เสมอ
เมื่อทุกคนยังอยู่ในอาการประหลาดใจสงสัยอยู่นั้น
หัวจรวดได้พุ่งออกมาจากเฮลิคอปเตอร์มุ่งตรงไปบนเวทีปราศรัยทัน
กลุ่มควันสีดำเทาพวยพุ่งออกมาจากส่วนท้ายหางของจรวด
ผู้อารักขาพิทักษ์นายที่กำลังวิ่งแข่งกันอยู่ระหว่างหัวจรวดที่พุ่งเข้ามาว่าใครจะถึงก่อนกัน
อารยะแฝงตัวเข้ามาเป็นเด็กขนของอยู่หลังเวทีตั้งแต่เมื่อเช้ามืดแล้ว
เขาโผล่ขึ้นมายืนอยู่บนหลังคาเวทีแล้วกระโดดลงไปที่พื้นด้านหน้าของเวที
ทุกคนมองมาที่อารยะอย่างตะลึงงันในความว่องไวรวดเร็วอย่างสายลม
การกระโดดลงมาของเขาไม่ใช่การกระทำที่ไร้ความหมาย
ในมือของอารยะคว้าหัวจรวดลูกนั้นมาไว้ในมือด้วยแล้ว
จรวดยังมีแรงที่จะพยายามดิ้นรนให้หลุดจากมือของอารยะ
เขาหันมันกลับไปทางเฮลิคอปเตอร์ แล้วปล่อยมันออกไป
หัวจรวดมุ่งหน้าตรงกลับเข้าไปหาที่ ๆ มันเคยถูกปล่อยออกมาทันที
กล้องจับภาพที่ติดอยู่หน้าเฮลิคอปเตอร์เห็นการกระทำทั้งหมดของอารยะ
จึงสามารถหลบได้ทันท่วงทีก่อนที่จรวดจะพุ่งเฉียดไปเพียงนิดเดียว
มันพุ่งเลยไปตกที่หน้าศาลฎีกาเสียงระเบิดดังสนั่น เคราะห์ดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

ผู้ก่อการร้ายเปลี่ยนไปใช้แผนสองทันที
มันบังคับเครื่องเฮลิคอปเตอร์กดหัวลงต่ำหางเชิดขึ้น ทำให้ใบพัดของมันเป็นส่วนที่พุ่งไปข้างหน้า
ใบพัดของเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ถูกดัดแปลงเป็นเหมือนใบมีด ประกายแสงสะท้อนแวววับ
มันบินโฉบไปโฉบมาอยู่ที่หน้าเวที
ผู้อารักขาหันปืนเล็งไปมาตามเฮลิคอปเตอร์ลั่นไกยิงขึ้นไปหลายนัดไม่มีใครแม่นเลย
มันบินไล่ไปบนเวที เพื่อประหารบั่นคอทุกคนที่อยู่บนนั้น
อารยะกระโดดขึ้นไปบนเวทีอีกครั้งอย่างรวดเร็ว เขาดึงฉากด้านหลังเวที
ซึ่งเป็นผ้าขนาดใหญ่ให้ล่วงพลิ้วหล่นลงมาคลุมเฮลิคอปเตอร์เอาไว้
ในที่สุด มันก็สิ้นฤทธิ์ลงจนได้

ผู้นำประเทศพร้อมคณะกลุ่มผู้อารักขาเดินทางออกจากสถานที่แห่งนั้นอย่างเร่งด่วน
โดยเดินทางกลับไปบ้านพิษณุโลกอันเป็นที่พักรับรองของท่านทันที
อารยะรีบวิ่งออกมาจากบริเวณงานที่ผู้คนยังแตกตื่นวิ่งไปมาอย่างไม่รู้ทิศทาง
เขาพยายามติดตามรถของผู้นำประเทศไป แต่ไม่ทันเสียแล้ว
อารยะต้องเดินทางไปดักให้ทันก่อนที่ผู้นำประเทศจะโดนลอบสังหารทางอากาศอีกครั้ง
................................................................................

“ลมกำลังพัดมา” อารยะกำหนดจิตขึ้นเพียงช่วงลมหายใจออกเท่านั้นร่างของเขาก็หายไปเป็นริ้ว ๆ
ตามลายเส้นของสายลม จนร่างกายหายไปหมดเหมือนภาพเขียนที่ถูกลบออกด้วยปลายยางลบ
…………………………………..……………………..

รถของกลุ่มผู้อารักขาและผู้นำประเทศแล่นผ่านออกมาทางถนนราชดำเนินอย่างสะดวก
เนื่องจากได้ทำการปิดถนนเป็นบางส่วนเพื่ออารักขาผู้นำประเทศ
โดยหารู้ไม่ว่าบนฟากฟ้านั่นกำลังมีบางสิ่งบางอย่างที่พวกเขาคาดไม่ถึง
ระเบิดลูกแรกหล่นลงจากฟากฟ้าตกลงสู่พื้นถนนเป็นการบอกเตือน
ก่อนที่รถยนต์นำขบวนคันแรกจะวิ่งไปถึงอีกเพียงนิดเดียวเท่านั้น แรงระเบิดทำให้ยกหน้ารถลอยตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย และทำความเสียหายให้เครื่องยนต์จนเสียหลักพุ่งชนเสาไฟแสดงสัญญาณจราจร
คนอารักขาบนรถทุกคันต่างสงสัยแหงนหน้ามองขึ้นข้างบน เห็นกลุ่มฝูงบินจำนวน 5 ลำ บินผ่านไป
มันเป็นฝูงบินที่เรียกว่า “ร่มบิน” *
* “ร่มบิน” หรือชื่อภาษาอังกฤษคือ “Para Motor” เป็นเครื่องร่อนที่ใช้มอเตอร์หมุนใบพัดขนาดใหญ่ซึ่งติดอยู่กับด้านหลังที่นั่งคนขับและมีร่มชูชีพขนาดใหญ่เป็นตัวช่วยพยุงให้ลอยตัวร่อนไปมาในอากาศได้ โดยที่มันสามารถจะรับน้ำหนักบรรทุกสำหรับคนจำนวนสองคนได้เลยทีเดียว

รถทุกคันจึงต้องเร่งความเร็วเพื่อหนีให้พ้นการไล่ล่าของฝูงบินซึ่งกำลังกลับลำย้อนกลับมาข้างหน้าอีกครั้ง
อารยะปรากฏตัวขึ้นในห้องโดยสารของรถคันหนึ่งในขบวน
“ขอโทษทีนะ อยู่ ๆ คุณก็เร่งความเร็วขึ้น จนผมพลาดตำแหน่งไปคันหนึ่ง” อารยะกล่าวเรียบ ๆ
เขาพูดขึ้นในขณะที่กำลังนั่งทับอยู่บนตักของชายคนหนึ่งบนรถนั่น แล้วค่อย ๆ สลายหายไปอีกครั้ง
ต่อหน้าตาคนบนรถ ทิ้งไว้เพียงความทรงจำประหลาดให้คบคิด
อารยะไม่พลาด เขาปรากฏตัวอีกครั้งในรถของท่านผู้นำประเทศ
และนั่งอยู่ข้าง ๆ ผู้นำประเทศ ทำเอาทุกคนบนรถตกใจอย่างที่สุด
“ขออภัยครับท่านที่ทำให้ตกใจ ผมมาช่วยท่านครับ” อารยะกล่าวเพียงเท่านี้และคำสั้น ๆ อีกคำหนึ่ง
“ขับรถดี ๆ นะ” อารยะกล่าวเป็นคำสุดท้ายแล้วหายไป
เขาหายไปปรากฏตัวอีกครั้งก็ยืนอยู่บนหลังคารถแล้ว
ฝูงร่มบินกำลังจะผ่านมาถึงแล้ว มันเรียงตัวต่อกันเป็นแถวตอนเดียวเหมือนเข้าแถวกันมา
“ด้วยความเร็วของรถที่พุ่งเข้าหาและพวกมันก็บินเข้ามาแบบนี้มันคงต้องทิ้งลูกระเบิดมาเป็นสายยาวเป็นแน่” อารยะคาดเดาเอาไว้
ระเบิดปูพรมจำนวนมากหลายสิบลูกกำลังถูกโปรยลงมาเพียงครั้งเดียว มันล่วงลงมาเหมือนหยาดฝนลูกสีดำเม็ดใหญ่
อารยะเริ่มสำแดงอิทธิฤทธิ์ให้ประจักษ์อีกครั้ง
มวลพลังอากาศถูกปั้นขึ้นบนมือทั้งสองของอารยะที่กำลังกางแขนกว้างออกไปทั้งสองข้าง
อารยะสามารถปั้นลมให้เป็นตัวได้ มันเป็นก้อนอากาศที่ถูกอัดกันจนสามารถขว้างปาออกไปได้
หากใช้ความแรงคูณด้วยความเร็วมันก็ไม่ต่างจากก้อนหินเลย อารยะขว้างลมเข้าใส่ไปที่ระเบิดที่กำลังร่วงลงมาอย่างแม่นยำ ก่อนที่ระเบิดแต่ละลูกจะล่วงหล่นมาบนรถ
เขากระหน่ำอัดพลังลมไปที่ลูกระเบิดอย่างรวดเร็วแต่มันไม่ทันที่จะทำได้ทั้งหมด
เขาจึงต้องใช้วิธีใหม่ แต่ยังไม่ทันไร อารยะก็ล้มลง เกือบเกาะรถเอาไว้ไม่ทัน ลูกระเบิดหล่นลงที่ข้างรถทำเอารถเกือบเสียหลัก เขานอนหมอบคว่ำหน้าอยู่บนหลังคารถ ก้มหน้ามองเข้าไปที่หน้ากระจกคนขับรถ
มองลอดผ่านแว่นดำเข้าไปที่สายตาของคนขับเพื่อสื่อสารเข้าไปในประสาทของคนขับให้รู้ว่า
“ขับตรงไปตามเส้นทาง ไม่ต้องหลบลูกระเบิด” มันเป็นเสียงของอารยะที่เข้าไปก้องอยู่ในหัวของคนขับรถเหมือนถูกโปรแกรมเข้าไปแล้วตามคำสั่ง
อารยะลุกขึ้นยืนบนหลังคาอีกครั้งในท่าตั้งมั่น ครั้งนี้อารยะะไม่ได้สร้างมวลพลังบนมือทั้งสองข้าง
เขากำลังสร้างเกราะกำบังเป็นกำแพงต้านด้วยพลังแห่งลมขนาดใหญ่ล้อมรอบและเคลื่อนตัวไปพร้อมกลับรถ
มันเป็นกำแพงลมที่ไม่ระคายต่อแรงระเบิดเลย
ระเบิดลูกแล้วลูกเล่าที่ตกลงตรงเป้าหมายที่รถคันนี้ก็ให้ช้าลงแล้วล่วงไหลหล่นลงพื้นไปทั้งหมด
ด้วยแรงต้านของลมที่ทรงอานุภาพทำให้ผู้นำประเทศปลอดภัยอย่างที่ท่านคงไม่กล้าเล่าให้ใครฟังเช่นกัน
เครื่องร่อนผ่านสวนทางกับรถยนต์ของผู้นำประเทศไปจนหมดแล้ว แต่มันไม่อาจพ้นจากอารยะไปได้
เขาปล่อยตัวลงจากรถเหมือนหายตัวไปเป็นสายลม ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นเรื่องระหว่างฝูงร่มบินกับตัวเขาเท่านั้น
อารยะหยิบพลุไฟขึ้นมาจากกระเป๋าเป้ “ในที่สุดก็ได้ใช้เสียที”
พลุหลายอันถูกจับมัดรวมกันเป็นกำใหญ่หนึ่งกำ อารยะจุดไฟขึ้นที่ตรงส่วนปลายแล้วเล็งไปที่ฝูงร่มบินนั่น จนฝูงร่มบินเริ่มแปรปรวน บางลำถูกยิงจนร่มจนติดไฟต้องหาที่ลงฉุกเฉินบนถนน
บางลำต้องบินหนีไปตั้งหลักก่อน และบางลำต้องร่วงหล่นชนกับต้นไม้ริมถนน
หมดหน้าที่ของอารยะแล้ว ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ
อารยะหลบไปพ้นจากบริเวณนั้นทันทีเมื่อลมพัดมาอีกครั้ง
เหมือนเรื่องจบแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ แล้วปล่อยให้พระเอกมาตอนจบ
ส่วนฮีโร่ก็จากไป.......
………………………………………………................................…

โอกาสดีของผู้พันพรชัยที่ได้ควบคุมตัวผู้ก่อการร้ายร่มบินเหล่านี้
มาสอบสวนขยายผลหาตัวผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังโดยที่ไม่ต้องเหนื่อยแรงไล่จับ
เขาต้องติดหนี้ขอบคุณอารยะที่ช่วยทำให้เขาไม่ต้องถูกปลดลดขั้น
เพราะลักษณะเทคโนโลยีเครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้ในการปฏิบัติการของผู้ก่อการร้ายกลุ่มนี้
เป็นกลุ่มเดียวกับที่ถล่มสถานทูตอเมริกาอย่างแน่นอน......


Create Date : 04 มิถุนายน 2551
Last Update : 4 มิถุนายน 2551 21:05:25 น. 0 comments
Counter : 391 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

boonblue
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




สวัสดีชาวโลก.....
ยินดีอย่างยิ่งที่ท่านได้เข้ามาทักทาย
เราคือผู้ที่จะร่วมเดินทางไปกับทุกท่าน
บนโลกที่กำลังหมุนอยู่ใบนี้
เราเฝ้าดูและรายงาน...สรรค์สร้าง..
..เพื่อโลก..เพื่อเรา....
ก้าวเดินไปด้วยกันสิ เราจะเล่าให้ฟัง...

ขอบคุณท่านผู้เจริญ....
bluesky_planet@hotmail.com
Friends' blogs
[Add boonblue's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.