|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
The Stand Inner (The Wind of Angel) ตอนที่ 26. ลอบสังหาร
ลอบสังหาร
อารยะต้องรีบเดินทางไปยังที่อีกแห่งหนึ่งพร้อมกับของวิเศษที่สุดแสนจะธรรมดา เขาเตรียมเอาไว้ในกระเป๋าเป้เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าจะยิงนกได้ทั้งฝูงหรือไม่ เพราะยังมีกลุ่มผู้ก่อการร้ายอีกกลุ่มที่กำลังคิดว่าตัวเองเป็นนกจ้าวเวหาอยู่
.. ขณะที่ผู้นำประเทศกำลังกล่าวแถลงการณ์สำคัญเพื่อปลุกขวัญปวงประชาชาวไทยให้รู้รักสามัคคี ในงาน คนไทยเพื่อคนไทยรักชาติ กลางท้องสนามหลวง มันเป็นงานที่จัดขึ้นปลอบขวัญคนไทยไม่ให้ตื่นตระหนก ต่อความเกรงกลัวภัยของกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่กระหายทำลายชาติ การกระทำของผู้นำประเทศในครั้งนี้จึงเกิดขึ้นเพื่อประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจให้คนไทยร่วมมือกัน เป็นพลังสำคัญที่จะช่วยให้ประเทศอยู่รอดได้ ผับ ผับ ผับ ผับ
.. เสียงของใบพัดอะไรบางอย่างดังขึ้นเหมือนเสียงใบพัดของเฮลิคอปเตอร์ ทุกคนที่มาร่วมงานทั้งหมดไม่ว่าจะอยู่บนเวทีหรือข้างล่างเวทีเงยหน้าขึ้นไปมองรอบ ๆ บนท้องฟ้า เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ขนาดเล็กบังคับด้วยคลื่นวิทยุบินปรากฏตัวขึ้น มันหยุดนิ่งอยู่กลางอากาศหันหน้าเข้าสู่เวทีปราศรัยเหนือผู้ชมงาน เช่นเดียวกับการแถลงการณ์ของผู้นำประเทศที่เพิ่งเริ่มก็ต้องหยุดลงด้วยเช่นกัน
ขณะที่ผู้นำประเทศยังยืนอึ้งอยู่บนเวที มันดูน่าสนุกดีหากว่ามันไม่ได้เอาจรวดติดใต้ท้องเครื่องมาด้วย เดาไม่ผิดว่ามันต้องเป็นเทคนิคใหม่ของกลุ่มผู้ก่อการร้ายอย่างแน่นอน มันมีความคิดสร้างสรรค์ หาของเล่นแบบใหม่เพื่อใช้ในทางชั่วร้ายนี้อยู่เสมอ เมื่อทุกคนยังอยู่ในอาการประหลาดใจสงสัยอยู่นั้น หัวจรวดได้พุ่งออกมาจากเฮลิคอปเตอร์มุ่งตรงไปบนเวทีปราศรัยทัน กลุ่มควันสีดำเทาพวยพุ่งออกมาจากส่วนท้ายหางของจรวด ผู้อารักขาพิทักษ์นายที่กำลังวิ่งแข่งกันอยู่ระหว่างหัวจรวดที่พุ่งเข้ามาว่าใครจะถึงก่อนกัน อารยะแฝงตัวเข้ามาเป็นเด็กขนของอยู่หลังเวทีตั้งแต่เมื่อเช้ามืดแล้ว เขาโผล่ขึ้นมายืนอยู่บนหลังคาเวทีแล้วกระโดดลงไปที่พื้นด้านหน้าของเวที ทุกคนมองมาที่อารยะอย่างตะลึงงันในความว่องไวรวดเร็วอย่างสายลม การกระโดดลงมาของเขาไม่ใช่การกระทำที่ไร้ความหมาย ในมือของอารยะคว้าหัวจรวดลูกนั้นมาไว้ในมือด้วยแล้ว จรวดยังมีแรงที่จะพยายามดิ้นรนให้หลุดจากมือของอารยะ เขาหันมันกลับไปทางเฮลิคอปเตอร์ แล้วปล่อยมันออกไป หัวจรวดมุ่งหน้าตรงกลับเข้าไปหาที่ ๆ มันเคยถูกปล่อยออกมาทันที กล้องจับภาพที่ติดอยู่หน้าเฮลิคอปเตอร์เห็นการกระทำทั้งหมดของอารยะ จึงสามารถหลบได้ทันท่วงทีก่อนที่จรวดจะพุ่งเฉียดไปเพียงนิดเดียว มันพุ่งเลยไปตกที่หน้าศาลฎีกาเสียงระเบิดดังสนั่น เคราะห์ดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
ผู้ก่อการร้ายเปลี่ยนไปใช้แผนสองทันที มันบังคับเครื่องเฮลิคอปเตอร์กดหัวลงต่ำหางเชิดขึ้น ทำให้ใบพัดของมันเป็นส่วนที่พุ่งไปข้างหน้า ใบพัดของเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ถูกดัดแปลงเป็นเหมือนใบมีด ประกายแสงสะท้อนแวววับ มันบินโฉบไปโฉบมาอยู่ที่หน้าเวที ผู้อารักขาหันปืนเล็งไปมาตามเฮลิคอปเตอร์ลั่นไกยิงขึ้นไปหลายนัดไม่มีใครแม่นเลย มันบินไล่ไปบนเวที เพื่อประหารบั่นคอทุกคนที่อยู่บนนั้น อารยะกระโดดขึ้นไปบนเวทีอีกครั้งอย่างรวดเร็ว เขาดึงฉากด้านหลังเวที ซึ่งเป็นผ้าขนาดใหญ่ให้ล่วงพลิ้วหล่นลงมาคลุมเฮลิคอปเตอร์เอาไว้ ในที่สุด มันก็สิ้นฤทธิ์ลงจนได้
ผู้นำประเทศพร้อมคณะกลุ่มผู้อารักขาเดินทางออกจากสถานที่แห่งนั้นอย่างเร่งด่วน โดยเดินทางกลับไปบ้านพิษณุโลกอันเป็นที่พักรับรองของท่านทันที อารยะรีบวิ่งออกมาจากบริเวณงานที่ผู้คนยังแตกตื่นวิ่งไปมาอย่างไม่รู้ทิศทาง เขาพยายามติดตามรถของผู้นำประเทศไป แต่ไม่ทันเสียแล้ว อารยะต้องเดินทางไปดักให้ทันก่อนที่ผู้นำประเทศจะโดนลอบสังหารทางอากาศอีกครั้ง ................................................................................
ลมกำลังพัดมา อารยะกำหนดจิตขึ้นเพียงช่วงลมหายใจออกเท่านั้นร่างของเขาก็หายไปเป็นริ้ว ๆ ตามลายเส้นของสายลม จนร่างกายหายไปหมดเหมือนภาพเขียนที่ถูกลบออกด้วยปลายยางลบ
..
..
รถของกลุ่มผู้อารักขาและผู้นำประเทศแล่นผ่านออกมาทางถนนราชดำเนินอย่างสะดวก เนื่องจากได้ทำการปิดถนนเป็นบางส่วนเพื่ออารักขาผู้นำประเทศ โดยหารู้ไม่ว่าบนฟากฟ้านั่นกำลังมีบางสิ่งบางอย่างที่พวกเขาคาดไม่ถึง ระเบิดลูกแรกหล่นลงจากฟากฟ้าตกลงสู่พื้นถนนเป็นการบอกเตือน ก่อนที่รถยนต์นำขบวนคันแรกจะวิ่งไปถึงอีกเพียงนิดเดียวเท่านั้น แรงระเบิดทำให้ยกหน้ารถลอยตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย และทำความเสียหายให้เครื่องยนต์จนเสียหลักพุ่งชนเสาไฟแสดงสัญญาณจราจร คนอารักขาบนรถทุกคันต่างสงสัยแหงนหน้ามองขึ้นข้างบน เห็นกลุ่มฝูงบินจำนวน 5 ลำ บินผ่านไป มันเป็นฝูงบินที่เรียกว่า ร่มบิน * * ร่มบิน หรือชื่อภาษาอังกฤษคือ Para Motor เป็นเครื่องร่อนที่ใช้มอเตอร์หมุนใบพัดขนาดใหญ่ซึ่งติดอยู่กับด้านหลังที่นั่งคนขับและมีร่มชูชีพขนาดใหญ่เป็นตัวช่วยพยุงให้ลอยตัวร่อนไปมาในอากาศได้ โดยที่มันสามารถจะรับน้ำหนักบรรทุกสำหรับคนจำนวนสองคนได้เลยทีเดียว
รถทุกคันจึงต้องเร่งความเร็วเพื่อหนีให้พ้นการไล่ล่าของฝูงบินซึ่งกำลังกลับลำย้อนกลับมาข้างหน้าอีกครั้ง อารยะปรากฏตัวขึ้นในห้องโดยสารของรถคันหนึ่งในขบวน ขอโทษทีนะ อยู่ ๆ คุณก็เร่งความเร็วขึ้น จนผมพลาดตำแหน่งไปคันหนึ่ง อารยะกล่าวเรียบ ๆ เขาพูดขึ้นในขณะที่กำลังนั่งทับอยู่บนตักของชายคนหนึ่งบนรถนั่น แล้วค่อย ๆ สลายหายไปอีกครั้ง ต่อหน้าตาคนบนรถ ทิ้งไว้เพียงความทรงจำประหลาดให้คบคิด อารยะไม่พลาด เขาปรากฏตัวอีกครั้งในรถของท่านผู้นำประเทศ และนั่งอยู่ข้าง ๆ ผู้นำประเทศ ทำเอาทุกคนบนรถตกใจอย่างที่สุด ขออภัยครับท่านที่ทำให้ตกใจ ผมมาช่วยท่านครับ อารยะกล่าวเพียงเท่านี้และคำสั้น ๆ อีกคำหนึ่ง ขับรถดี ๆ นะ อารยะกล่าวเป็นคำสุดท้ายแล้วหายไป เขาหายไปปรากฏตัวอีกครั้งก็ยืนอยู่บนหลังคารถแล้ว ฝูงร่มบินกำลังจะผ่านมาถึงแล้ว มันเรียงตัวต่อกันเป็นแถวตอนเดียวเหมือนเข้าแถวกันมา ด้วยความเร็วของรถที่พุ่งเข้าหาและพวกมันก็บินเข้ามาแบบนี้มันคงต้องทิ้งลูกระเบิดมาเป็นสายยาวเป็นแน่ อารยะคาดเดาเอาไว้ ระเบิดปูพรมจำนวนมากหลายสิบลูกกำลังถูกโปรยลงมาเพียงครั้งเดียว มันล่วงลงมาเหมือนหยาดฝนลูกสีดำเม็ดใหญ่ อารยะเริ่มสำแดงอิทธิฤทธิ์ให้ประจักษ์อีกครั้ง มวลพลังอากาศถูกปั้นขึ้นบนมือทั้งสองของอารยะที่กำลังกางแขนกว้างออกไปทั้งสองข้าง อารยะสามารถปั้นลมให้เป็นตัวได้ มันเป็นก้อนอากาศที่ถูกอัดกันจนสามารถขว้างปาออกไปได้ หากใช้ความแรงคูณด้วยความเร็วมันก็ไม่ต่างจากก้อนหินเลย อารยะขว้างลมเข้าใส่ไปที่ระเบิดที่กำลังร่วงลงมาอย่างแม่นยำ ก่อนที่ระเบิดแต่ละลูกจะล่วงหล่นมาบนรถ เขากระหน่ำอัดพลังลมไปที่ลูกระเบิดอย่างรวดเร็วแต่มันไม่ทันที่จะทำได้ทั้งหมด เขาจึงต้องใช้วิธีใหม่ แต่ยังไม่ทันไร อารยะก็ล้มลง เกือบเกาะรถเอาไว้ไม่ทัน ลูกระเบิดหล่นลงที่ข้างรถทำเอารถเกือบเสียหลัก เขานอนหมอบคว่ำหน้าอยู่บนหลังคารถ ก้มหน้ามองเข้าไปที่หน้ากระจกคนขับรถ มองลอดผ่านแว่นดำเข้าไปที่สายตาของคนขับเพื่อสื่อสารเข้าไปในประสาทของคนขับให้รู้ว่า ขับตรงไปตามเส้นทาง ไม่ต้องหลบลูกระเบิด มันเป็นเสียงของอารยะที่เข้าไปก้องอยู่ในหัวของคนขับรถเหมือนถูกโปรแกรมเข้าไปแล้วตามคำสั่ง อารยะลุกขึ้นยืนบนหลังคาอีกครั้งในท่าตั้งมั่น ครั้งนี้อารยะะไม่ได้สร้างมวลพลังบนมือทั้งสองข้าง เขากำลังสร้างเกราะกำบังเป็นกำแพงต้านด้วยพลังแห่งลมขนาดใหญ่ล้อมรอบและเคลื่อนตัวไปพร้อมกลับรถ มันเป็นกำแพงลมที่ไม่ระคายต่อแรงระเบิดเลย ระเบิดลูกแล้วลูกเล่าที่ตกลงตรงเป้าหมายที่รถคันนี้ก็ให้ช้าลงแล้วล่วงไหลหล่นลงพื้นไปทั้งหมด ด้วยแรงต้านของลมที่ทรงอานุภาพทำให้ผู้นำประเทศปลอดภัยอย่างที่ท่านคงไม่กล้าเล่าให้ใครฟังเช่นกัน เครื่องร่อนผ่านสวนทางกับรถยนต์ของผู้นำประเทศไปจนหมดแล้ว แต่มันไม่อาจพ้นจากอารยะไปได้ เขาปล่อยตัวลงจากรถเหมือนหายตัวไปเป็นสายลม ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นเรื่องระหว่างฝูงร่มบินกับตัวเขาเท่านั้น อารยะหยิบพลุไฟขึ้นมาจากกระเป๋าเป้ ในที่สุดก็ได้ใช้เสียที พลุหลายอันถูกจับมัดรวมกันเป็นกำใหญ่หนึ่งกำ อารยะจุดไฟขึ้นที่ตรงส่วนปลายแล้วเล็งไปที่ฝูงร่มบินนั่น จนฝูงร่มบินเริ่มแปรปรวน บางลำถูกยิงจนร่มจนติดไฟต้องหาที่ลงฉุกเฉินบนถนน บางลำต้องบินหนีไปตั้งหลักก่อน และบางลำต้องร่วงหล่นชนกับต้นไม้ริมถนน หมดหน้าที่ของอารยะแล้ว ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ อารยะหลบไปพ้นจากบริเวณนั้นทันทีเมื่อลมพัดมาอีกครั้ง เหมือนเรื่องจบแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ แล้วปล่อยให้พระเอกมาตอนจบ ส่วนฮีโร่ก็จากไป.......
................................
โอกาสดีของผู้พันพรชัยที่ได้ควบคุมตัวผู้ก่อการร้ายร่มบินเหล่านี้ มาสอบสวนขยายผลหาตัวผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังโดยที่ไม่ต้องเหนื่อยแรงไล่จับ เขาต้องติดหนี้ขอบคุณอารยะที่ช่วยทำให้เขาไม่ต้องถูกปลดลดขั้น เพราะลักษณะเทคโนโลยีเครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้ในการปฏิบัติการของผู้ก่อการร้ายกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มเดียวกับที่ถล่มสถานทูตอเมริกาอย่างแน่นอน......
Create Date : 04 มิถุนายน 2551 |
Last Update : 4 มิถุนายน 2551 21:05:25 น. |
|
0 comments
|
Counter : 391 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]
|
สวัสดีชาวโลก..... ยินดีอย่างยิ่งที่ท่านได้เข้ามาทักทาย เราคือผู้ที่จะร่วมเดินทางไปกับทุกท่าน บนโลกที่กำลังหมุนอยู่ใบนี้ เราเฝ้าดูและรายงาน...สรรค์สร้าง.. ..เพื่อโลก..เพื่อเรา.... ก้าวเดินไปด้วยกันสิ เราจะเล่าให้ฟัง...
ขอบคุณท่านผู้เจริญ.... bluesky_planet@hotmail.com
|
|
|
|
|
|
|
|