จักรวาลอันเวิ้งว้างกว้างใหญ่ ยังมีดาวเคราะห์สีฟ้าสวยที่สุด ภายใต้ผืนแผ่นฟ้า ยังมีน้ำใสสีครามและพื้นแผ่นดิน ชีวิตได้ถือกำเนิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้..."โลกใบสุดท้าย"
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2551
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
31 พฤษภาคม 2551
 
All Blogs
 
The Stand Inner (The Wind of Angel) ตอนที่.25 รมควันในรูหนอน

รมควันในรูหนอนเหล็ก

“คุณทำเอาพวกเรากลัวกันหัวหดเลยนะครับ” บุญเพิ่มกล่าว
“ใช่ ตอนที่คุณเสียสติไป ดวงวิญญาณของคุณดูเหมือนดวงไฟสีดำหรือไม่ก็สีแดง
มันเหมือนช้ำเลือดช้ำหนองยังไงอย่างงั้นเลย” มีนากล่าว
“คุณอาจจะไม่รู้แต่มันอยู่กับพวกเรา เบียดเราจนชิดติดขอบเลยละ” อานนท์กล่าวเสริม
“ขอโทษด้วยครับทุกท่าน มันจะไม่เกิดขึ้นกับผมอีกอย่างแน่นอน” อารยะพูดอย่างมั่นใจในตนเองมาก
“วันนี้วันที่เท่าไหร่แล้วครับ”
อารยะล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาดู แต่แบตเตอรี่หมดแล้ว พอดีเห็นร้านหนังสือ พิมพ์ริมทางอารยะจึงเดินเข้าไปดู
“เรามีงานด่วนให้ทำกันอีกแล้วละครับ”
อารยะรู้ว่าได้เวลาต้องทำอะไรแผลง ๆ อีกแล้วแต่คราวนี้มันคงเป็นอะไรที่ง่ายขึ้นกว่าเมื่อก่อน หากว่าเขาไม่เหมือนเดิมจริง ๆ
“งานอะไรอีกละยะ เนี่ย! เพิ่งจะดีขึ้นนะเธอ จะซ่าอีกแล้วเหรอ อะ อะ ล้อเล่นน่า” สมชายยังไม่ทิ้งนิสัยเดิม
“งานอะไรครับพี่” สาธิตถามด้วยความอยากรู้
“พวกมันจะจัดการกับรถไฟฟ้าใต้ดินช่วงหัวค่ำวันนี้ เราต้องประชุมกันเพื่อวางแผนอีกครั้ง”
“มันจะทำอะไรกับรถไฟฟ้าใต้ดินครับ” สาธิตถามต่ออีก
“แก๊สพิษ มันจะใช้ปฏิบัติภารกิจในคืนนี้”
นั่นคือสิ่งที่อารยะได้รู้มาจากการเข้าฌานจนสามารถติดต่อกับจิตของผู้รักษา
“หา! แก๊สพิษ แล้วเราจะทำยังไงดีละ” สาธิตไม่เชื่อหู
“ตามความสามารถที่ทุกคนมี ผมคิดว่าเราทั้งหมดมีคุณค่าด้วยกันทั้งนั้น
ผมหมายถึงว่าเราทุกคนดึงความสามารถพิเศษเฉพาะตัวของแต่ละคนออกมา
อุปสรรคใดก็ผ่านไปได้ทั้งนั้นหากเรารวมใจให้เป็นหนึ่งเดียว” อารยะให้กำลังใจ
“และหลังจากนี้มันจะก่อการร้ายขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง เพราะมันได้เตรียมการไว้ล่วงหน้านานแล้ว
เราคงต้องเหนื่อยหนักกว่าที่ผ่านมาอีกหลายเท่า ขอให้ทุกท่านเตรียมตัวเตรียมใจสำหรับงานหนัก
ที่ไม่มีโอที งานนี้ได้ใจกันล้วน ๆ ไม่มีค่าแรง ไม่มีได้อะไร มีแต่เป็นผู้ให้กับเสี่ยงตายเท่านั้น”
“หากใครจะถอนตัวขอให้บอกก่อนตั้งแต่ตอนนี้ซะจะได้เอ่อ..อ ก็อยู่เฉย ๆ ไม่ต้องไปไหนอยู่ในร่างเฉย ๆ ก็แล้วกัน” อารยะก็ไม่รู้จะให้ออกไปไหนได้เหมือนกัน
“ไม่เป็นไรอารยะ เราไม่มีอะไรที่ต้องเป็นห่วงแล้ว ไม่มีหน้าไม่หลังให้กังวล เราจะช่วยคุณเต็มที่” อานนท์พร้อมลุย
“บางทีเราอาจจะต้องมีทุนพอที่จะทำอะไรให้มันง่ายขึ้นบ้าง” บุญเพิ่มเสนอขึ้น
“ผมเห็นด้วยนะ ศัตรูของเราไม่ได้มามือเปล่า มีเงินทุนมีเทคโนโลยี
แล้วยังมีแผนการที่รัดกุมทำงานกันเป็นทีมอีก” มีนาสนับสนุน
“บางทีเราก็ควรจะใช้เทคนิคหรือเครื่องมืออะไรบางอย่างที่ช่วยทุ่นแรงในการรับมือกับพวกผู้ก่อการร้ายบ้างนะ เพราะยังไงพวกเราทุกคนก็ยังอยู่ในร่างกายที่ยังมีเลือดเนื้ออยู่” อดิศักดิ์เสริมอย่างหนักแน่น
“แต่ว่าตอนนี้ผมไม่มีเงินมากพอที่จะทำอะไรอย่างที่ว่าได้ นอกจากสติปัญญาของทุกคนแล้วก็กำลังแรงจากร่างหนึ่งร่างนี้” อารยะบอกกับเพื่อนทุกคนในที่ประชุมข้างถนน
“เอาอย่างนี้ละกัน ผมว่าทางบ้านผมคงยังไม่ได้อายัติบัตรเครดิตของผมเป็นแน่” สาธิตคาดเดาเอาไว้อย่างนั้น
“บัตรเครดิตของผมสามารถทำธุรกรรมผ่านทางอินเตอร์เน็ทได้” สาธิตนักท่องอินเตอร์เน็ทตัวยง
“ผมจะให้พี่อารยะเข้าไปในร้านอินเตอร์เน็ทนั่นแล้ว เข้าไปในบัญชีบัตรเครดิตของผมให้พี่ทำเรื่องโอนเงินเข้าบัญชีของพี่แล้วค่อยไปกดตู้ ATM ถอนเงินออกมา” สาธิตเสนอความคิดเห็น
“แล้วหนี้ที่เกิดขึ้นในบัตรเครดิตละ” อารยะถาม
“ผมคิดว่าทางบ้านผมคงเอาใบแจ้งหนี้เผาส่งตามมาให้ทีหลัง” สาธิตเอามุขกวน ๆ มาใช้
“ส่วนผมไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย อยู่แล้วละ” สาธิตยืมสโลแกนของคนไม่มีเงินแต่ไม่เบี้ยวมาใช้
“ถ้าเขาอยากได้ก็จุดธูปเอาละกัน หรือไม่ก็คงต้องให้ฝ่ายทวงนี้ตายตามผมมาแล้วผมจะจ่ายให้โดยดีครับ” สาธิตแค่ต้องการเรียกเสียงขำเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศของเพื่อน ๆ
อารยะคิดว่าเราต้องทำงานใหญ่เป็นสำคัญก่อนเอาเป็นว่าเดินเข้าไปในร้านอินเตอร์เน็ท แล้วปล่อยให้สาธิตจัดการทำในสิ่งที่เขาถนัดเมื่อยังมีชีวิตอยู่ก็เท่านั้นเอง
อารยะเข้าไปหน้าเว็บตามที่สาธิตแนะนำด้วยการนั่งกดแป้นคีย์บอร์ดทีละตัวเหมือนคนพิมพ์ดีดไม่เป็น
คงต้องเรียกวิธีนี้ว่า ’จิ้มดีด’ เสียมากกว่า ‘พิมพ์ดีด’
“เออ เอาอย่างนี้นะ น้องสาธิตจัดการแทนพี่เลยดีกว่า” อารยะถอนตัวออกมาเป็นผู้เฝ้าดูแทน
“กล็อค กล็อค กล็อค กล็อค กล็อค”
บุคลิกของอารยะเปลี่ยนไปอีกแล้ว การหักนิ้วมือดังกล็อคแล้วสะบัดมือ สะบัดคอตนเองให้เกิดเสียงดังแบบนี้ เพื่อให้หายปวดเมื่อยนั้นไม่ใช่ลักษณะของอารยะเลย
“เอาละครับ ตอนนี้เราเข้ามาหน้าเว็บของบัตรเครดิตแล้ว”
สาธิตเข้าใช้ร่างของอารยะทำให้เขาดูมาดมั่นใจมาก ทำหน้าตาทะเล้นออกมาให้เห็นถึงอาการลิงโลดที่กำลังบันเทิงใจอย่างสุด ๆ
อารยะเปลี่ยนไปแล้วนิ้วของเขาเคลื่อนไหวโลดแล่นไปบนแป้นคีย์บอร์ดอย่างรวดเร็วเหมือนนิ้วเต้นระบำเท้าไฟ
“ดีจัง ตอนนี้มีรายการโปรโมชั่นทำรายการโอนเงินช่วงนี้ได้สิทธิ์ชิงรางวัลบ้านพร้อมที่ดินอีกด้วย
แหมเข้าทางการตลาดของพี่อำนวยเลยนะครับ ยิ่งใช้ยิ่งเป็นหนี้เนี่ย”
สาธิตสนุกกับการเล่นอินเตอร์เน็ทจนเผลอแซวเพื่อนร่วมร่างเดียวกันโดยไม่รู้ตัว
“โธ่ !~ ไอ้น้องนั่นมันอดีต ตอนนี้พี่อำนวยคนใหม่แล้ว เรียกใหม่ได้นะว่า อำนวยพอเพียง”
“น่าจะมีรายการแจกศาลพระภูมิบ้างเนอะพี่ เราจะได้ไปอยู่กันคนละหลัง ผมว่าดีกว่ามาอยู่กับพี่อารยะซะอีก” สาธิตอารมณ์ดีมีมุขตลกร้ายเรียกเสียงฮาได้จากเพื่อนทุกคน ซึ่งก็แน่นอนนี่มันเป็นเวลานานแล้วที่สาธิตไม่ได้เล่นคอมพิวเตอร์เลย ย่อมเป็นธรรมดาที่คนรักการเสพอินเตอร์เน็ทอย่างสาธิตจะคันมือเป็นที่สุด
“ถึงหน้าบัญชีของผมแล้ว ต่อไปก็ใส่รหัสผ่านของผมลงไปนะ sat123go”
สาธิตพูดรหัสลับส่วนตัวของตัวเองออกมาเบา ๆ
“อะ! สำเร็จแล้ว ทีนี้ใส่จำนวนเงินเข้าไป ยังมียอดเงินคงเหลืออยู่ในบัตรอีกสี่หมื่นกว่าบาท น่าจะเพียงพอสำหรับทำอะไรได้บ้างน่า” สาธิตคีย์ตัวเลขจำนวนเงินทั้งหมดที่มีอยู่โอนเข้าไปในหมายเลขบัญชีของอารยะ
“ถ้าไม่พอบอกได้นะพี่ สาธิตจัดให้ได้” สาธิตมั่นใจตัวเองมากเมื่ออยู่หน้าคอมพิวเตอร์
“เราก็ยังสามารถระดมเงินจาก เพื่อนทุกคนโดยวิธีเดียวกันนี้ได้อีก หากว่าไม่ลืมตัวเลขที่สำคัญบนบัตรและข้อมูลส่วนตัวอีกนิดหน่อย” สาธิตเสนอข้อมูลเพิ่มเติมเผื่อว่าจะได้ใช้บริการของเขาอีกในอนาคต
“เอาละเท่านี้ก็มีเงินพอใช้ไปได้อีกระยะหนึ่งแล้ว เราไปกันได้แล้ว” อารยะกล่าว
“โธ่พี่ !?.. ผมว่าจะโหลดเกมส์มันส์ ๆ มาเล่นสักเกมส์ พี่ไม่สนบ้างเลยเหรอ แก้เครียดไง แก้เครียด..”
สาธิตอดเสียดายไม่ได้ที่ต้องหมดสนุกเสียก่อน
………………………………………….

สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ขณะนี้เวลา 18:30 นาฬิกา
สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเปิดบริการเป็นบางเส้นทางเท่านั้นเนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงครั้งนั้น ทำให้มีอุโมงค์บางแห่งแตกร้าว จึงต้องทำการปิดปรับปรุงการให้บริการเป็นบางจุดบางสถานีเท่านั้น

“จังหวะดี ๆ อย่างนี้ไม่มีอีกแล้ว คนเยอะแยะไปหมด ช่างเหมาะเสียจริงที่จะสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน” บุญเพิ่มพูดได้เหมือนพวกผู้ก่อการร้ายมาก
“ขอตรวจสิ่งของก่อนนะครับ” ยามรักษาความปลอดภัยยืนประจำจุดตรวจผู้โดยสารอยู่หน้าบันไดเลื่อนก่อนลงไปที่สถานีใต้ดินอย่างเข้มงวด มันคือมาตรการรักษาความปลอดภัยของทางสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินที่เกิดขึ้นตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ระเบิดฉลองคืนวันปีใหม่ในครั้งนั้น ทำให้ได้มีการตรวจตรากันทั่วมหานครกรุงเทพทุกจุดเพื่อความปลอดภัยในสถานที่ล่อแหลมเสี่ยงต่อการก่อวินาศกรรม
อารยะเปิดกระเป๋าเป้ให้ยามดูอย่างไม่สะทกสะท้านกลัวในสิ่งที่พกมาด้วย
เพราะของทั้งหมดไม่ได้อยู่ในกระเป๋าเป้ที่ดูน่าสงสัยใบนี้ แต่มันเป็นถุงพลาสติกก๊อปแก๊ปที่สกรีนข้างถุงเป็นโลโก้ดังของซุปเปอร์มาเก็ตแห่งหนึ่งเท่านั้น และ เขาก็ปกปิดยัดไส้ไว้อย่างดีพร้อมที่จะให้ตรวจด้วยเช่นกัน ยามที่เหมือนดูจะเข้มงวดแต่ไม่จริงอย่างที่เห็น อารยะผ่านมาได้อย่างง่ายดาย เขาปนไปกับฝูงชนที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาจะกลับบ้าน
อารยะรู้แล้วว่ามันเตรียมการกันได้อย่างไร
“มันฉลาดมาก แล้วก็ยังรู้จักการรอคอย”
เขามองเห็นผู้ก่อการร้ายทั้งหมดผ่านเข้ามาในหัวของเขารวมทั้งแผนการของพวกมันด้วย
“มันหมายความว่ายังไงเหรอ อารยะ” บุญเพิ่มสนใจ
“ตอนนี้พวกมันเป็นทั้งช่าง ทั้งยาม พวกมันมาเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทรถไฟฟ้าใต้ดินนี้ได้ประมาณเกือบ 4 เดือนจนเป็นที่ไว้ใจของคนใน นับว่ามันแน่จริงที่ยอมลงทุนเฝ้ารอคอยเพื่อใบสั่งงานวันนี้” อารยะกล่าวชมในความพยายามทำชั่วของพวกมัน
“มันกำลังจะจัดการกับรถไฟฟ้าใต้ดินที่เดินทางอยู่ในอุโมงค์” อารยะรู้ว่ามันเริ่มแผนชั่วกันแล้ว
…………………………………………………

“ยู เริ่มแผนการได้” เลาะห์ออกคำสั่งผ่านวิทยุติดต่อสื่อสารคลื่นสั้นภายในอาคาร
“โอเค” ยูตอบกลับแล้วก็เริ่มงานทันที
ยู ก็คือยามที่จะทำการระเบิดภายในอุโมงค์เพื่อให้เป็นอุปสรรคขวางเส้นทางเดินรถไฟฟ้าใต้ดิน
“ทุกจุดเริ่มปิดท่อแล้วลมควันได้เลย” เลาะห์เป็นเจ้าหน้าที่ซี่งอยู่ภายในห้องควบคุมของสถานีจึงรู้ว่าขณะนี้หนอนเหล็กตัวใหญ่กำลังชอนไชไปอยู่ ณ ที่ใดในรูท่อใบนี้
“ได้! รับทราบ” ชาตอบรับคำสั่ง เขาเป็นช่างไฟฟ้ารู้เรื่องงานช่างไฟฟ้าดีทั้งระบบในสถานีแห่งนี้
“พร้อมปฏิบัติครับ” ดุลรออยู่นานแล้ว จะได้เริ่มงานสักที เขาคือมือรมแก๊ส เป็นคนที่จะทำให้สถานีแห่งนี้มีแต่ควันที่ไม่มีไฟ
ในขณะที่เจ้าหน้าที่ของสถานีคนอื่นยังงง ๆ กับการสนทนาของเลาะห์, ยู, ชา และดุล ผ่านเข้ามาในวิทยุสื่อสารคลื่นสั้นภายในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินแห่งนั้น
การทำงานของทีมก่อการร้ายทั้งหมดผ่านไปด้วยดี จะมีบ้างที่เลาะห์ได้จัดการไปบางส่วนสำหรับเจ้าหน้าที่ที่ขัดขวางการทำงานของพวกเขาก็จะถูกจับมัดไว้
หรือไม่ก็ฆ่าให้ตายเสีย
…………………………………………………..

มีเพียงอารยะเท่านั้นที่รู้ความหมายในสิ่งที่พวกผู้ก่อการร้ายสนทนากันอยู่
เขาจึงกระโดดลงบนทางของรถไฟฟ้า แล้ววิ่งหายเข้าไปในอุโมงค์
ทั้งยามและผู้คนที่กำลังรอรถไฟฟ้าใต้ดินพากันตกใจส่งเสียงฮือกันเพียงสั้น ๆ ต่างก็มองเข้าไปในความมืดของช่องอุโมงค์นั้น
ยามสองคนรีบกระโดดลงไปบนทางรถไฟฟ้าแล้ววิ่งตามหายเข้าไปในอุโมงค์ด้วยเช่นกัน
เพียงชั่วครู่เสียงระเบิดก็ดังขึ้นสองครั้งตามกันมา ด้วยเสียงเบาในครั้งแรกแล้วตามติดด้วยเสียงระเบิดอันดังอีกครั้ง พร้อมกับเสียงของการถล่มลงมาของก้อนอิฐหินดินทราย
ผู้คนตามสถานีตกใจหนีตายกันยกใหญ่ ต่างรีบพากันวิ่งกลับขึ้นไปบนพื้นดินทันที
……………………………………………………

รถที่ติดอยู่บนถนนต่างพากันสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อพบเห็นผู้คนรีบวิ่งแทบเหยียบกันตาย
ออกมาจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินอย่างหน้าตาตื่นตกใจเหมือนเจอผีหลอกในอุโมงค์นั่น
……………………………………………………

รถไฟฟ้าวิ่งมาโดยไม่รู้เลยว่ามีอุปสรรคปิดทางข้างหน้าเอาไว้จนไม่สามารถผ่านไปได้
ไม่มีการรายงานจากทางสถานีควบคุมเลย แสงจากรถไฟฟ้าส่องทางและแสงไฟที่ติดไว้บางจุดภายในท่ออุโมงค์นี้เท่านั้นที่จะทำให้พอเห็นได้แต่ไกล ๆ
“นั่นมัน.....”
เจ้าหน้าที่ควบคุมรถไฟฟ้ารีบเบรครถอย่างทันทีทันใด เสียงล้อเหล็กเสียดสีกับรางจนเสียงแหลมดังกรีดแทงแก้วหู แรงเสียดสีทำให้เกิดเป็นสะเก็ดไฟกระเด็นมาเป็นประกาย
…………………………………………………..

อารยะหยุดยืนอยู่ที่กองดินที่ขวางทางเอาไว้ ในขณะที่ยามทั้งสองคนก็หยุดยืนดูอยู่ข้างหลังด้วยเช่นกัน
อารยะเหมือนมองเห็นเหตุการณ์ที่อยู่หลังกองดินที่ขวางทางอยู่นี้
ตอนนี้ยามที่ตามอารยะมาสองคนก็ไม่ได้สนใจจะจับตัวอารยะเลย
นอกจากจะอึ้งอยู่กับกองอิฐหินดินที่ขวางปิดทางอยู่
อารยะหยิบอุปกรณ์ทั้งหมดที่หิ้วมาในถุงพลาสติกใส่เข้าไปในเป้ยกเว้นหน้ากากกันแก๊สพิษ
เขาหยิบมันขึ้นสวมใส่มันไว้บนใบหน้า จนมองเหมือนว่าอารยะเป็นไอ้หน้ากากแมลงวัน
ยามมองไปที่ทุกการกระทำของเขา
ทันใดนั้นยามก็ต้องขนลุกซู่ชูชัน
เมื่ออารยะค่อย ๆ จางหายไป
ยามทั้งสองถึงกับอึ้งยิ่งกว่าครั้งแรกที่เห็นกองดินขวางทางอยู่
ยามทั้งคู่หน้าตาตื่นรีบวิ่งกลับออกไปทันที
ทั้งคู่คงเป็นยามที่ควรจะตกใจมากกว่าใครบนสถานีแห่งนี้
และสสารไม่ได้หายไปไหนจริง ๆ
อารยะค่อย ๆ ปรากฏร่างขึ้นอยู่อีกด้านในของอุโมงค์ที่ถูกปิดไว้ด้วยกองดินนั่น
………………………………………………

“เราได้รับรายงานการก่อการร้ายที่รถไฟฟ้าใต้ดิน ขอให้ทุกคนเตรียมตัวอย่างเร่งด่วนที่สุด”
การก่อการร้ายรู้ถึงหูของผู้พันพรชัยแล้ว เขากำลังนำทีมพร้อมกองกำลังเข้ามายังที่เกิดเหตุนี้ทันที
……………………………………………..

รถไฟฟ้ากำลังพุ่งมาถึงตัวอารยะแล้ว
“นั่นใครน่ะ รถเบรคไม่อยู่แล้ว”
เจ้าหน้าที่บนรถไฟฟ้าทำท่าทางโบกมือเตือนให้หลบไปพ้นทางก่อนที่รถไฟฟ้าจะพุ่งชนจนร่างของเขาจนเละ
อารยะก้มหยิบเศษดินขึ้นพอดีมือกำได้มั่น นำมันมาจ้องมองเพียงชั่วครู่แล้วปามันเข้าไปที่ตัวรถอย่างรวดเร็ว
ก้อนดินกระจายเป็นผงละเอียดแผ่ออกเป็นอณูละอองเล็ก ๆ มันกระจายแผ่ออกพุ่งไปตามแรงที่ขว้างออกไป เพียงเท่านั้นก็เกิดลมต้านอย่างแรงเกิดขึ้นภายในอุโมงค์ มันพอที่จะช่วยเป็นแอร์เบรกให้กับรถไฟฟ้าได้ก่อนที่จะถึงกองดิน
อันที่จริงมันหยุดอยู่ตรงหน้าอารยะเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น

อารยะรีบวิ่งเข้าไปที่ห้องควบคุมรถไฟฟ้าส่วนหน้าโบกี้
“อย่าเพิ่งเปิดประตูรถนะ ประกาศให้ผู้โดยสารรู้ด้วยก่อนที่จะมีใครผลีผลามเปิดแบบฉุกเฉินเข้า”
อารยะเตือนเจ้าหน้าที่ควบคุมรถโดยสารด้วยเสียงอู้ ๆ ที่อยู่ในหน้ากาก
“คุณเป็นใคร? แล้วมันเกิดอะไรขึ้น”
เจ้าหน้าที่ควบคุมรถถามขึ้นด้วยอาการตกใจและประหลาดใจที่อารยะใส่หน้ากากกันแก๊สพิษแบบนี้
“มีผู้ก่อการร้ายจะปล่อยแก๊สพิษเข้ามาในอุโมงค์นี้ หากคุณเปิดประตูให้ผู้โดยสารออกมา
จะทำให้แก๊สพิษเข้าสู่ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว”
“ถ้างั้นเราขับรถย้อนกลับไปได้หรือเปล่า” เจ้าหน้าที่ถามความเห็น
“พวกมันก็ระเบิดปิดทางด้านนั้นไว้เหมือนกัน อีกอย่างตอนนี้เชื่อเลยว่าบนรางไม่มีไฟฟ้าส่งมาแล้วเพราะพวกมันควบคุมสถานีไว้ทั้งหมดแล้ว”
เจ้าหน้าที่ก็ได้ยินเสียงระเบิดเช่นกันแต่นึกไม่ถึงว่าจะโดนปิดทางทั้งสองด้าน เขาจึงรีบประกาศเตือนให้ผู้โดยสารเข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทันที
ในขณะที่ควันพิษเริ่มกระจายเข้ามาจากช่องระบายอากาศในอุโมงค์ ผู้โดยสารจำนวนมากอยู่ในอาการตกใจกลัวเหลือบมองผ่านกระจกออกไปรอบ ๆ กลุ่มควันเริ่มกระจายครอบคลุมไปทั่วบริเวณรถไฟฟ้าใต้ดินขบวนนี้แล้ว
อารยะเดินกลับไปทางกองดินที่ขวางอยู่ หยุดยืนครู่เดียวเท่านั้นก่อนจะค่อย ๆ หายไปอีกครั้งหนึ่ง
ต่อหน้าต่อตาของเจ้าหน้าที่ควบคุมรถโดยสารที่กำลังตะลึงงันอย่างไม่เชื่อสายตา
………………………………………………….

อารยะหยุดยืนอยู่ที่ช่องระบายอากาศ ซึ่งมีพัดลมขนาดใหญ่สองตัวคอยดูดอากาศเข้าไปภายในท่อใต้ดินมันเป็นตัวส่งอากาศขนาดใหญ่ไปจนถึงอุโมงค์ที่รถไฟฟ้าใต้ดินขบวนนั้นอยู่
“นี่ไงสิ่งที่จะช่วยพวกเขาได้ในตอนนี้” อดิศักดิ์ผู้มีความรู้เรื่องระบบไฟฟ้าเป็นอย่างดี
“มันจะช่วยเราได้ยังไงกัน” ภาวิณีงงด้วยความไม่เข้าใจ
“ให้วิศวกรไฟฟ้าเขาอธิบายดีกว่าครับ” อารยะไม่มีเวลาอธิบาย
นั่นหมายถึงว่ามันเป็นหน้าที่ของอดิศักดิ์ที่จะต้องเล่าให้ฟังแทน อารยะก้มลงมองใบพัดที่กำลังหมุนอยู่จนรู้จังหวะหมุนของมัน เขามองมันจนรู้สึกว่ามันช่างหมุนช้าเสียเหลือเกิน
อารยะเอื้อมมือเข้าไปจับที่ใบพัดให้หยุดแต่ก็ต้องผ่อนแรงตามใบพัดนั้นไปบ้างเหมือนกัน
เขาปั่นมันหมุนกลับไปในทิศทางตรงกันข้ามกับที่มันเคยหมุนดูดอากาศเข้าไป
เขาปั่นมันหมุนอย่างแรงจนมันหมุนย้อนกลับด้วยความเร็วสูง
อารยะยังไม่ยอมหยุด เขายังคงเอามือปัดไปที่ใบพัดที่กำลังหมุนด้วยความเร็วสูงนั่น
เพื่อส่งกำลังให้มันหมุนเร็วยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม มือของเขาสัมผัสไปบนใบพัดอย่างเร็วจนมองไม่ทัน
ควันสีขาวที่เคยอยู่ในอุโมงค์กำลังถูกดูดออกมาจากปล่องพัดลมนี้
ส่วนพัดลมที่อยู่ข้าง ๆ ยังคงดูดอากาศดีเข้าไปด้วยเป็นปกติของมัน

เสียงหวอดังมาหยุดอยู่ทีสถานีแห่งนี้ รถดับเพลิง รถพยาบาล และ รถตำรวจของผู้พันพรชัย
เขามาในจังหวะที่ไม่ทันการก้าวเดินของกลุ่มผู้ก่อการร้ายเลยสักครั้ง
ได้เวลาที่อารยะจะต้องออกมาจากสถานีแห่งนี้แล้ว
…………………………………………………

“เดิมพวกมันใช้ช่องทางนี้ในการปล่อยแก๊สพิษเข้าไป หากเราหมุนพัดลมสวนทางกันจากเดิม มันก็จะเป็นดูดอากาศเสียกลับออกมา ยิ่งหมุนเร็วก็ยิ่งเพิ่มการทำงานให้มันดูดแก๊สออกมาได้มาก
ส่วนพัดลมอีกตัวปล่อยให้มันดูดอากาศเข้าไปอย่างเดิม เพื่อให้ภายในมีอากาศถ่ายเทให้คนข้างในได้หายใจ”
“พัดลมเมื่อสลับขั้วไฟกลับกันแล้วมันจะหมุนไปในทางตรงกันข้าม
นึกถึงพัดลมที่บ้านละกันนะ
ลมที่เคยพัดออกมาจากด้านหน้าให้เราได้เย็นสบาย
จะเปลี่ยนเป็นพัดลมออกไปทางด้านหลังเครื่อง
และดูดอากาศจากข้างหน้าไป
มันเป็นเพราะลักษณะรูปทรงของใบพัด
ว่ามันหมุนไปทางซ้ายหรือหมุนไปทางขวา” อดิศักดิ์อธิบายขยายความ ………………………………………………….

อารยะเดินทางไปขออาศัยนอนที่วัดเก่าแห่งหนึ่งในย่านฝั่งธนบุรี จังหวัดกรุงเทพฯ
เขาบำเพ็ญสมาธิฝึกปฏิบัติจิตวิปัสสนาต่อเนื่องไปจนดึกดื่นค่ำคืน
หรือมันอาจจะเป็นวิธีพักผ่อนที่เขาค้นพบแล้วว่าดีจริง
เสียงจิ้งหรีด ตุ๊กแก จิ้งจก รวมทั้งเสียงหมาเห่า ดังขึ้น
เหมือนร้องประสานเป็นเพลงธรรมชาติตลอดค่ำคืนเช่นกัน
ลมพัดโกรกเย็นสบายจนเกิดเห็นเป็นภาพนิมิตของวานรเผือกจ้าวแห่งลม
อารยะเหมือนได้ชมเรื่องราวในตำนานรามเกียรติ์โดยละเอียด
มากกว่าที่มีผู้ขีดเขียนบันทึกไว้เป็นตัวหนังสือเสียอีก...
……………………………………………………..

ในวันพรุ่งนี้ยังมีเรื่องราวรอคอยเขาอีกมาก
รวมทั้งเรื่องของเขาที่ต้องตกเป็นภาพข่าว
ภาพของเขาถูกบันทึกไว้ด้วยกล้องวงจรปิดที่อยู่ในสถานีรถไฟฟ้าจำนวนมากมาย
แต่กระนั้นหน้าตาของเขาที่บันทึกได้ก็จะถูกบิดเบือนไปจนไม่รู้ว่าเป็นใคร
รวมทั้งเรื่องราวเหลือเชื่อที่ฟังดูแล้วไม่มีเหตุผลจากคำให้การของยามและเจ้าหน้าที่ขับรถไฟฟ้าใต้ดิน
ยังมีการตามควานหาตัวเขาของผู้พันพรชัยที่ยังช้ากว่าหนึ่งก้าวเสมอ
แต่อย่างไรก็ดีตอนนี้มีทั้งข่าวที่น่ายินดีและข่าวร้ายของผู้พันพรชัย
ที่น่ายินดีกับผู้พันพรชัยนั่นก็คือเรื่องที่เขาได้ตามล่าจับกุมตัวกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่ปล้นธนาคารย่านบางนามาได้จากการให้การที่เป็นประโยชน์ของหรั่งและเบิ้ม
น่าเสียดายที่ข่าวร้ายมักจะปนอยู่ตรงข้ามกับข่าวดีเสมอเมื่อกลุ่มผู้ก่อการร้ายทั้งกลุ่มที่ควบคุมตัวมาได้ทั้งหมดไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่ทำการลอบสังหารท่านทูตของประเทศสหรัฐอเมริกาเลย
พวกมันคือผู้ก่อการร้ายแอบแฝงที่คอยจ้องทำลายชาติเพื่อผลประโยชน์ของคนบางกลุ่มที่เป็นเหมือนเห็บหมัด
โดยแอบอ้างให้เกิดความขัดแย้งทางศาสนา และในขณะนี้ก็ยังไม่สามารถสืบไปจนถึงตัวการใหญ่ได้
เนื่องจากการฆ่าตัดตอนกันเองอย่างต่อเนื่องของพวกผู้ก่อการร้ายแอบแฝงกลุ่มนี้
หรั่งและเบิ้มหลังจากให้การที่เป็นประโยชน์เรียบร้อยแล้วก็ยังถูกคุมตัวไว้ในห้องมึนและห้องมืดต่อไปจนเป็นบ้า ขณะนี้ทั้งสองคนถูกนำตัวส่งเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลประสาทแห่งหนึ่ง


Create Date : 31 พฤษภาคม 2551
Last Update : 31 พฤษภาคม 2551 16:09:09 น. 1 comments
Counter : 534 Pageviews.

 
ศรีนวล โตสุริยกุล


โดย: ศรีนวล โตสุริยกุล IP: 124.121.49.136 วันที่: 6 ตุลาคม 2551 เวลา:12:27:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

boonblue
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




สวัสดีชาวโลก.....
ยินดีอย่างยิ่งที่ท่านได้เข้ามาทักทาย
เราคือผู้ที่จะร่วมเดินทางไปกับทุกท่าน
บนโลกที่กำลังหมุนอยู่ใบนี้
เราเฝ้าดูและรายงาน...สรรค์สร้าง..
..เพื่อโลก..เพื่อเรา....
ก้าวเดินไปด้วยกันสิ เราจะเล่าให้ฟัง...

ขอบคุณท่านผู้เจริญ....
bluesky_planet@hotmail.com
Friends' blogs
[Add boonblue's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.