|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
The Stand Inner (The Wind of Angel) ตอนที่29. กลับบ้านวันรัก
กลับบ้านวันรัก อารยะเดินทางจนมาถึง บ้านวันรัก อันอบอุ่น บ้านวันรัก คือป้ายชื่อบ้านที่อารยะทำด้วยฝีมือตัวเองในช่วงยังเป็นนักศึกษาอยู่ เพราะอารยะเห็นว่าชื่อนี้เหมาะสมที่สุดกับครอบครัวของเขาและจะมีความรักแบบนี้อยู่ทุก ๆ วัน เขาเห็นพ่อแม่กำลังนั่งเล่นกันอยู่นอกชานบ้าน พ่ออ่านหนังสือพิมพ์ แม่ก็อ่านนิตยสารรายปักษ์ ตามภาษาคนแก่ที่ทำทุกอย่างร่วมกันเสมอด้วยความรัก ลูกชายเห็นภาพน่ารักเสมอ ๆ จากการดูแลซึ่งกันและกันของชายชราและหญิงชราที่เขารักที่สุด อารยะหยุดยืนมองอยู่ที่หน้าบ้าน ก่อนที่จะเดินเข้าไปให้พ่อและแม่ให้ท่านได้ดีใจ เขานั่งลงที่พื้นบ้านกราบไปที่ตักของพ่อและแม่อย่างงดงามน่าประทับใจ การสนทนาภายในครอบครัวจึงเริ่มขึ้นอย่างสนุกสนาน ในขณะที่แม่รีบเข้าครัวไปหุงหาอาหารมาให้ลูกทาน ซึ่งแม่ก็จะทำแบบนี้ทุกครั้งที่อารยะกลับมาบ้าน อารยะนั่งทานข้าวอย่างเอร็ดอร่อยถูกปากกับรสชาดที่คุ้นเคยแต่ไม่ได้ทานมานานมากแล้ว อยู่ ๆ ความเงียบสงบก็เกิดขึ้นเพียงชั่วครู่ แล้วพ่อก็เริ่มเอ่ยปากสอบถามถึงเรื่องที่หนังสือพิมพ์ลงรูปที่ดูไม่ชัดนักจนไม่รู้ว่าในรูปนั่นคือใคร แต่ชื่อที่ลงไว้ทำให้พ่อแม่รู้ว่าเป็นลูกชายของตัวเอง ซึ่งน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลที่ผู้พันพรชัยเปิดเผยให้กับหนังสือพิมพ์ทราบ เพราะผู้พันเป็นคนที่ติดตามอารยะมาโดยตลอด ลูกไปทำอะไรมา ทำไมตำรวจเขาถึงตามตัวให้ไปช่วยราชการด้วย พ่อถามอารยะด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง อารยะไม่อยากให้พ่อแม่เป็นกังวล จึงได้เล่าทุกอย่างให้พ่อและแม่ฟังทั้งหมดเพื่อให้พ่อแม่หมดห่วงและหายสงสัย ผมจะมาบอกลาพ่อกับแม่ครับเพราะว่าโลกกำลังตกอยู่ในอันตราย ผมต้องช่วยเหลือทุกคนบนโลกนี้ และนั่นก็หมายถึงคนที่ผมรักด้วย อารยะนั่งเงียบน้ำตาซึม พ่อและแม่ก็ยังคงมองลูกเป็นลูกตัวเล็ก ๆ เสมอ อารยะอบอุ่นใจที่ได้อยู่ในอ้อมกอดที่อบอุ่นของพ่อแม่อีกครั้ง โถลูกแม่ ไม่เป็นไรหรอกนะ พ่อกับแม่น่ะเข้าใจในสิ่งที่ลูกทำ เรารู้ว่าลูกเป็นคนดีแม้แต่สัตว์เล็กสัตว์น้อยลูกก็ไม่รังแก แม่ปลอบลูกด้วยความสงสารและเป็นห่วงกับภาระหน้าที่อันหนักอึ้ง เมื่อมันเป็นทางที่ลูกเลือก ก็ขอให้ลูกทำได้สำเร็จ จงอยู่ในสติและปัญญานะลูก พ่อให้พรอารยะเพื่อเตือนสติ ลาก่อนครับพ่อ ลาก่อนครับแม่ อารยะก้มลงกราบเท้าของพ่อ ตามด้วยกราบเท้าแม่ ก่อนที่จะจากมา ..................................................................................................................
อารยะออกเดินทางไปที่วัดเก่าแก่นอกเมืองเชียงใหม่ทันทีเพื่อขอคำแนะนำจากหลวงตาอีกเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่โลกจะต้องกลายเป็นฝุ่นละอองลอยฟุ้งอยู่ในห้วงจักรวาล ขณะเดียวกันหลวงตาธุดงค์อยู่ในป่าได้ล่วงรู้ความจากกระแสแห่งจิต และอารยะก็ล่วงรู้ด้วยเช่นนั้น หลวงตาจึงได้สำแดงอิทธิฤทธิ์ก้าวเดินย่อแผ่นดิน ด้วยการเดินแบบก้าวย่ำเท้าลงที่พื้นทุกครั้งก็ย่นระยะทางไปเป็นครึ่งกิโล หลวงตาไม่ได้หายตัวแต่เป็นการปรากฏตัวขึ้นเหมือนดั่งว่าฉากจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ทุกก้าวที่ย่างเหยียบลงไปบนพื้น เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลวงตาก็คงจะไม่ทำให้อารยะรอนานเกินไป ดังนั้นวัดแห่งนี้จะเป็นจุดนัดพบของคนทั้งคู่ เพื่อบำเพ็ญเพียรโปรดสรรพสัตว์ทั้งปวงที่เป็นเพื่อนร่วมอยู่ในกฎธรรมชาติแห่งการเวียนว่ายตายเกิด
..
.
ความโกลาหลกำลังเกิดขึ้นทั่วโลก ข่าวไฮแจ๊คเครื่องบินดังไปทั่วเมืองเชียงใหม่ แต่เชื่อหรือไม่ว่า มันกลายเป็นเรื่องเล็ก ๆ ที่ไม่มีใครสนใจจะพูดถึง เมื่อข่าวหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ รายการโทรทัศน์และวิทยุทุกสถานี พูดถึงแต่เรื่องอุกาบาตซึ่งถูกเปิดเผยออกมาอย่างเป็นทางการจากองค์การอวกาศการบินนาซ่า แห่งสหรัฐอเมริกา โดยกระจายข่าวนี้ไปทั่วโลก แปลเป็นภาษาต่าง ๆ 50 กว่าภาษาทั่วโลก และบัดนี้ทั่วโลกได้รับรู้แล้วว่า เราทุกคนกำลังเผชิญหน้ากับหายนะภัยเดียวกัน............ ผู้พันพรชัยทราบข่าวจากสื่อแล้วว่าอารยะอยู่ที่เชียงใหม่และได้ช่วยกู้สถานการณ์สลัดอากาศเอาไว้ แต่ตอนนี้ผู้พันพรชัยไม่ได้สนใจตามตัวอารยะอีก เขาได้เลื่อนขั้นอีกสองลำดับชั้น พร้อมกับได้รับมอบหมายงานใหม่ให้ดูแลความสงบอันเกิดจากความวุ่นวายของข่าวเรื่องอุกาบาตขนาดใหญ่กำลังจะพุ่งชนโลก งานนี้มันเป็นงานหนักมากกว่าเล่นซ่อนหากับอารยะหรือตามล่าผู้ก่อการร้ายเสียอีก วัน ๆ หนึ่งไม่ต้องทำอะไรเลย เดินบนท้องถนนไม่กี่ก้าวก็มีเรื่องให้ต้องจับโจรขึ้นโรงพักแล้ว ซุปเปอร์มาเก็ตเป็นจุดตรวจสำคัญที่ตำรวจวิ่งเข้าออกอยู่เสมอ ที่น่าแปลกคือธนาคารไม่ใช่ปัญหาที่น่ากลัวเลย เศษกระดาษไม่มีค่าอีกแล้ว ผู้คนเริ่มกักตุนอาหารและน้ำมัน ก็ยังมีให้เห็นอยู่ กับงานฉลองไม่รู้จบตามผับบาร์ กินกันอย่างดุเดือดเมามันกันถึงที่สุด แบบไม่คิดเงิน
..แต่ประโยชน์อะไรเล่าในเมื่ออีกไม่นานอุกาบาตรก็ถึงโลกแล้ว สิ่งที่ทุกคนทำไว้บนโลกนี้จะสำคัญแค่ไหนกันล่ะ เมื่อทุกอย่างถือว่ามันเป็นโมฆะ.......
Create Date : 18 มิถุนายน 2551 |
Last Update : 18 มิถุนายน 2551 16:13:50 น. |
|
0 comments
|
Counter : 395 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]
|
สวัสดีชาวโลก..... ยินดีอย่างยิ่งที่ท่านได้เข้ามาทักทาย เราคือผู้ที่จะร่วมเดินทางไปกับทุกท่าน บนโลกที่กำลังหมุนอยู่ใบนี้ เราเฝ้าดูและรายงาน...สรรค์สร้าง.. ..เพื่อโลก..เพื่อเรา.... ก้าวเดินไปด้วยกันสิ เราจะเล่าให้ฟัง...
ขอบคุณท่านผู้เจริญ.... bluesky_planet@hotmail.com
|
|
|
|
|
|
|
|