จักรวาลอันเวิ้งว้างกว้างใหญ่ ยังมีดาวเคราะห์สีฟ้าสวยที่สุด ภายใต้ผืนแผ่นฟ้า ยังมีน้ำใสสีครามและพื้นแผ่นดิน ชีวิตได้ถือกำเนิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้..."โลกใบสุดท้าย"
Group Blog
 
 
สิงหาคม 2550
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
23 สิงหาคม 2550
 
All Blogs
 
The Stand Inner (The Wind of Angel) ตอนที่ 2.เศษเสี้ยวเข็มกระจก

เศษเสี้ยวเข็มกระจก

ที่ห้อง LAB. ของโรงพยาบาล...
“คนเจ็บที่ห้อง 307 เป็นยังไงบ้างครับหมอ” ผู้กำกับหนังคุณภาพไฟแรง ภายใต้กรอบแว่นตาสีน้ำตาลกระจกกลมใส รูปร่างผอม สูง 175 เซนติเมตร ผิวขาว หน้าตี๋ ตาตี่ ผมรากไทร กับหนังที่ไม่ค่อยสร้างชื่อ เพราะเขาตั้งหน้าตั้งตาตี่ ๆ ทำแต่หนังคุณภาพคับจอ ไม่เคยได้สนใจตลาด และ ไม่ได้สนใจว่าคนดูหนังจะชอบหรือไม่ หนังส่วนใหญ่ไม่ได้ทำกำไรแต่ไปได้รางวัลดี ๆ จากต่างประเทศกลับมาเป็นการันตีที่ไม่มีราคาค่างวดสักเท่าใดนัก ใคร ๆ ในกองถ่ายต่างก็เรียกเขาว่า ผู้กำกับบ๊วยหวาน เพราะความที่ว่าหนังที่ไม่ค่อยจะทำรายได้ จึงน่าจะเหมาะสมกับชื่อเขามาก แต่สิ่งที่เขาทำอยู่นี้คือสิ่งที่เขาภูมิใจเป็นที่สุด...เพราะมันคืออุดมการณ์ไส้แห้งที่เขาตั้งใจทำฝากเอาไว้ เพื่อวันหนึ่งจะมีคนได้หันมาสนใจศึกษาการทำหนังดี ๆ ของเขา

บ๊วยกำลังยืนสนทนาอยู่กับหมอ ถามถึงอาการของอารยะ ด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
ซึ่งก็เป็นปกติวิสัยของบ๊วยที่แสดงต่อนักแสดงทุกคน ยกเว้นคนนี้เป็นพิเศษ
“คุณเป็นอะไรกับผู้ป่วยครับ” หมอสอบถามกลับไปให้บ๊วยได้ตอบคำถามของหมอก่อน
“ผมเป็นเพื่อนสนิทกับเค้าครับ” บ๊วยชักรำคาญนิด ๆ ที่ยังไม่ได้คำตอบจากหมอ ด้วยสีหน้าที่ร้อนรนเพราะความที่เป็นห่วงเพื่อน
“แล้วญาติพี่น้องหรือภรรยาของเขาละมีไหม” หมอถามกลับไปอีกครั้ง
“พ่อแม่ของเค้าอยู่ต่างจังหวัดครับ ส่วนภรรยาก็เพิ่งจะแยกทางกันไปครับ ทีนี้ผมขอให้หมอตอบคำตอบให้กับคำถามของผมบ้างนะครับว่า เพื่อนผมมันเป็นไงบ้างครับ”
เพราะเหตุนี้นี่เองที่อารยะจึงไม่มีใครมาเยี่ยมนอกจากบ๊วยและก็คงไม่อยากให้พ่อแม่ที่อยู่ไกลถึงจังหวัดเชียงใหม่ต้องเป็นห่วงซึ่งบ๊วยรู้นิสัยอารยะดี

หมอพาบ๊วยเดินไปดูที่ฟิล์มเอ็กซ์เรย์ที่อยู่บนบอร์ดไฟใกล้ ๆ กันนั้น ซึ่งหมอได้ดูไปแล้วก่อนหน้านี้เมื่อไม่นาน
“เท่าที่หมอได้ดูภาพถ่ายเอ็กซ์เรย์นี้ หมอได้พบกับวัตถุบางสิ่งบางอย่างที่ไม่น่าห่วงแต่ก็น่าเป็นห่วง” หมอตอบเหมือนเล่นลิ้น หรือก็ไม่มั่นใจอะไรบางอย่าง แต่มันก็คือข้อมูลความจริงที่ยังสงสัยอยู่
“อะไรหรือครับหมอ อารยะจะเป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
บ๊วยสงสัยในคำพูดของหมอ น้ำเสียงบ่งบอกอาการถึงความวิตกกังวลยิ่งนัก
“อืม..ม.. เรื่องที่น่าห่วงก็คือ หมอได้พบกับวัตถุบางอย่างเล็ก ๆ ยาวแหลมเหมือนเข็มมันฝังอยู่ในศีรษะของเขา”
หมอตอบคำถามที่ยิ่งทวีความงงสงสัยให้กับบ๊วยมากขึ้น แล้วอาการแบบนี้มันเรียกว่าน่าเป็นห่วงหรือไม่ เหมือนไม่เข้าใจคำตอบ บ๊วยทำหน้างง ๆ ไม่ต่างจากเด็กอนุบาลที่ต้องมานั่งฟังโจทย์การบ้านของเด็กมัธยม
“แล้วควรจะผ่าตัดเอามันออกหรือจะทำอะไรกับไอ้สิ่งที่มันอยู่ในหัวเพื่อนของผมดีครับหมอ”
บ๊วยยังคงสับสนกับคำตอบของหมอ ทำได้ดีที่สุดด้วยการยิงคำถามกลับไปอีก เผื่อว่าจะทำให้สมองของตนเองฉลาดขึ้นได้
“หมอขอถามนิดนึงเถอะนะ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา”
บ๊วยจึงเริ่มเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างสั้น ๆ ชัดเจน..
“.......……………………………………”
“ถ้าเช่นนั้นสิ่งที่ติดอยู่ในหัวของเพื่อนคุณ น่าจะเป็นเศษแก้ว ที่มีขนาดเล็ก ยาว และ แหลมมาก”
หมอเริ่มใช้วิธีควานหาสาเหตุเริ่มต้นเป็นเหตุผลที่มาของสิ่งแปลกปลอมในศีรษะของอารยะ
“ส่วนเรื่องที่ว่าจะต้องผ่าตัดเอาออกหรือไม่นั้น เท่าที่ดูจากตำแหน่งที่อยู่ของเศษแก้วนี้ มันอยู่ในตำแหน่งที่ไม่มีปัญหา แต่....”
หมอเว้นช่วงไว้สักระยะ เหมือนรอให้บ๊วยยิงคำถามขึ้นมาอีกครั้ง และแน่นอน....
“แต่อะไรครับหมอ ถ้าไม่มีปัญหาอะไร ก็น่าจะผ่าเอามันออกได้สิครับ”
บ๊วยรู้สึกเบาใจขึ้นที่ทราบจากหมอว่ามันไม่มีปัญหา
“มันจะมีปัญหาตรงที่มันยากต่อการผ่าตัดนะสิ การผ่าตัดอาจจะส่งผลให้เกิดความผิดพลาดต่อระบบของสมองในส่วนอื่น ๆ ที่อยู่โดยรอบเข็มแก้วซึ่งได้เข้าไปสัมผัสยึดจับอยู่กับที่เนื้อสมอง ดังนั้นถึงแม้เข็มแก้วที่ฝังอยู่ไม่ส่งผลใด ๆ กับสมอง แต่การผ่าตัดเอาออกก็เป็นเรื่องที่เสี่ยงมาก”
“นั่นก็หมายความว่า เพื่อนผมต้องเก็บมันไว้เป็นของที่ระลึก อย่างนั้นใช่ไหมครับหมอ” บ๊วยชักงงแบบแปลก ๆ กับเหตุการณ์นี้ซะแล้ว เพราะยังสับสนว่ามันจะมีปัญหาหรือไม่มีปัญหากันแน่
“นอกจากนี้ก็ยังมีแค่ที่ข้อเท้าข้างซ้ายเท่านั้นที่ บาดเจ็บเพียงเล็กน้อย เนื่องจากถูกมัดไว้ด้วยสายเคเบิ้ลแล้วตกลงมาจากที่สูง คงต้องเดินกระเผลกไปอีกสักระยะหนึ่ง แต่ก็ต้องอยู่โรงพยาบาลต่ออีกวันสองวันก็ได้กลับบ้านแล้ว ขอให้หมอรอดูอาการทางสมองอีกครั้งก่อน ว่ามีความกระทบกระเทือนอื่น ๆ แทรกซ้อนหรือไม่”

บ๊วยยังคงงงต่อไปแต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เขาสบายใจขึ้นได้ก็ตรงที่เพื่อนของเขาปลอดภัย
ที่เหลือก็แค่รอให้เขาฟื้นขึ้นมาเท่านั้น...



Create Date : 23 สิงหาคม 2550
Last Update : 26 พฤษภาคม 2551 17:13:02 น. 0 comments
Counter : 342 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

boonblue
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




สวัสดีชาวโลก.....
ยินดีอย่างยิ่งที่ท่านได้เข้ามาทักทาย
เราคือผู้ที่จะร่วมเดินทางไปกับทุกท่าน
บนโลกที่กำลังหมุนอยู่ใบนี้
เราเฝ้าดูและรายงาน...สรรค์สร้าง..
..เพื่อโลก..เพื่อเรา....
ก้าวเดินไปด้วยกันสิ เราจะเล่าให้ฟัง...

ขอบคุณท่านผู้เจริญ....
bluesky_planet@hotmail.com
Friends' blogs
[Add boonblue's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.