:: ฺBingo 8 :: ภูแสนดาว : ดวงตะวัน
หนังสือเล่มนี้ดองอยู่บนชั้นหนังสือนานมาก ซื้อมาตอนแรก เพราะอ่านคำนำแล้วกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็น
คำนำสำนักพิมพ์
"นวนิยายและสารคดี ดูเหมือนจะอยู่คนละปลายเส้นสายเดียวกัน ในขณะที่เรามักมองสารคดีเป็นเรื่องข้อเท็จริง ความเป็นจริง และชีวิตจริง เราก็มักมองว่านวนิยยเป็นเรื่องราวของการสร้างสรรค์ตกแต่ง และเป็น เพียงความสมจริง เราจึงมักกล่าวแยกกันว่านี่คือโลกของสารคดี นั่นเป็นโลกของนวนนิยาย
หากจะปรับมุมมองสักนิด เราอาจพบว่าโลกของสารคดีหรือโลกของ นวนิยายก็โลกที่ซ้อนทับกันอยู่ แม้มิใช่บนระนาบของความจริงทาง ภูมิศาสตร์ ก็อาจะป็นระนาบของชีวิตและปรัชญา มีทัศนะต่อโลกและชีวิต เป็นประดุจแกนหลักที่ทำให้โลกทั้งสองนี้หมุนเวียนไปด้วยกันในระบบ ของกาลเวลา..."
นี่คือนิยายเรื่องแรกของนักเชียนสารดคี ที่อยู่บนโลกของสารคดีมากว่า 10 ปี
ภูแสนดาว : ดวงตะวัน
สำนักพิมพ์เพื่อนดี พิมพ์ครั้งแรก : มกราคม 2543 จำนวน 596 หน้า / ราคา 280 บาท ซื้อเมื่อ : 12 พฤศจิกายน 2543 อ่านจบ : 10 กรกฎาคม 2558
:: โปรยปกหลัง ::
ภายหลังการประชุมสุดยอดครั้งสำคัญเสร็จสิ้น การบรรลุข้อตกลงบางประการ สันติภาพที่จะบังเกิด... ผู้นำประเทศต่างๆ ยืนเรียงกันเป็นแถว มือจับมือกระชับมั่น แย้มยิ้มเบิกบาน เบื้องหลังภาพนัน มีอะไรซุกซ่อนแฝงอยู่บ้าง?
ไกลสุดแสนไกล เกินกว่าทั้งคน ผี และเทวาจะนึกถึง คือที่สุดปลายสายลมแห่งชีวิตและโชคชะตา ที่ลำแสงสุดท้ายแห่งแสงตะวันจะสาดส่อง แสงจันทร์จะทาบทาครอบคลุม
บนภูผาสูงลิบลิ่ว ลึกลงไปในหุบเหวดิ่งชัน ณ ที่นั่นคือดินแดนแห่งความตายอันเป็นนิรันดร์
..........ภูแสนดาว..........
นิยายเรื่องนี้มีกลิ่นอายการเมืองแฝงอยู่ในเรื่อง
"เมืองเมือน" เป็นเมืองของชนกลุ่มน้อยที่อยู่ในเขตปกครองพิเศษทางตอนเหนือของเวียดนาม ซองลีล่าย ผู้ท้าวเมืองเมือนวางแผนปลดแอกออกจากเวียดนามมาเป็นรัฐอิสระ โดยเกมการเมืองนี้ ได้รับการสนับสนุนกำลังอาวุธจาก "ช้างเผือก" แลกกับอัญมณีที่ท่านผู้ท้ายใข้ "หมายตราแห่งแสงตะวัน" ควบคุมให้พวก "ข่อย" ที่อยู่บน "ภูแสนดาว" ช่วยทำเหมือง ขุดอัญมณีมาให้
พวกข่อยนั้นไม่ถือว่าตนเป็นเมือนหรือเวียดนาม แต่ยึดมั่นสัญญาณโบร่ำโบราณ ที่กล่าวไว้ว่า "ผู้ใดครอบครองเหรียญตราแห่งแสงตะวัน ผู้นั้นครอบครองภูแสนดาว" ข่อยรอเวลที่เหรียญตรานั้น จะกลับคืนมาสู่พวกตนในวาระต่อไป
ธิทันมายหรืออาจารย์ไมค์ หนุ่มลูกครึ่งเวียด-อเมริกัน ถือกำเนิดในช่วงเวลาแห่งสงคราม เขาไม่คิดว่าตนเป็นเวียด และไม่เป็นอเมริกัน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเป็นเผาพันธ์ใด แต่เขาก็ใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า เรียนจบจากอเมริกา มาเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยที่ไซ่ง่อน และเขารับหน้าที่นำพาคณะนักวิจัยชาวตะวันตกเข้าไปเก็บข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องชาวเมือน ในช่วงเวลาที่แผนการของเมือนงวดเขามาทุกที ท่านผู้ท้าวจึงต้องให้ ซองลีลิว ลูกสาวมาเป็นคนรับรองคณะนักวิจัย และคอยระแวดระวังกลุ่มนักวิจัยให้ดี เธอจึงรับหน้าที่ล่ามร่วมกับทันมาย
การเก็บข้อมูลของนักวิจัยก็มีเรื่องราวของความเชื่อเก่าแก่ที่เมือนและข่อยเชื่อร่วมกัน ทำให้บางคนในขณะวิจัยพยายามขุดคุ้ย แสวงหาคำตอบ แต่เหตุการณ์ผลิกพันเมื่อข่าวการปลดแอกรั่ว เมืองเมือนถูกโจมตี ทันมายกับลิลิว ต้องหนีการไล่ล่า และสงครามย่อม ๆ ที่ระเบิดขึ้นมา ลีลิว ได้ตระหนักถึงโหดร้ายและหายนะจากสงคราม เธอกลายเป็นคนสำคัญที่ทั้งเวียดนามและเมือนต้องไล่ล่า ฝ่ายหนึ่งต้องการจับตัวมาเป็นตัวประกันต่อรอง อีกฝ่ายไล่ตามหา เพราะเธอคือหัวใจของผู้ท้าวและหัวใจของหัวหน้ากองกำลังปลดแอก
การผจญภัยของทันมายและลีลิวไล่เรื่อยลงมาจากเมืองตอนเหนือ มุ่งลงมาถึงเมืองทางใต้ ผ่านความเป็นความตายร่วมกันหลายต่อหลาครั้ง ความรักจึงเพิ่มพูนขึ้นในใจของทั้งสองคนทุกขณะจิต สุดท้ายแล้ว ...เหตุการณ์ปิดล้อมเมืองเมือนจะทำให้เวียดนามมีภาพลักษณ์อย่างไรบนเวทีอาเซียน ก็คงต่องหยิบหนังสือมาอ่านกันเองนะ
แม้จะเป็นนิยายเรื่องแรก แต่ก็ผสมผสาน "ข้อเท็จจริง" แบบสารคดีดลงไปในนวนิยายได้อย่างนี้ การดำเนินเรื่องเหมือนกับพาคนอานท่องเที่ยวเวียดนามไปด้วยในตัว อ่านหนังสือจบ ....เราก็อยากไปเที่ยวเวียดนามซะแล้ว ....
ตอบโจทย์ : ชื่อเรื่อง "อยู่บนฟ้า"
Create Date : 14 กรกฎาคม 2558 |
Last Update : 15 กรกฎาคม 2558 20:12:14 น. |
|
1 comments
|
Counter : 2566 Pageviews. |
|
|
|
ที่จะมีโอกาสเห็นคนรีวิวเรื่องนี้
ดูเหมือนว่า หลายคนจะลืมเลือนไปแล้ว
เราอ่านนานแล้วเหมือนกัน ...
เคยเห็นละครผ่านๆ เลยติดภาพพระเอก
ทันมาย นึกเห็นเป็นชาคริตทุกทีไปสิน่า..55+