ทอดน่องท่อง "มะละกา" Part XIII : เดินหาศาลเจ้ากลางแดด
ความเดิมตอนที่แล้ว
เดินข้ามสะพานมายังฝั่งขวาของแม่น้ำมะละกา ก็เป็นย่านถนนสายวัฒนธรรม ชิโน-โปรตุกีส เขตเมืองเก่าของชาวจีนบ้าบ๋าและย่าหย่า (Baba & Noyonya) อาคารพาณิชย์อายุยืนยาวมาไม่ต่ำกว่า 100 ปีนี้ เรียงรายเป็นแถวเป็นแนว สวยงามมาก
มีถนนสายสำคัญๆ เป็นขึ้นชื่อในย่านนี้ 3 สาย คือ
- ถนนตันเชงล๊อก (Tun Tan Cheng Lock) หรือในอีกชื่อที่ไ้ด้มาสมัยชาวดัตช์ปกครองว่า Heeran Street หรือถนนผู้ดี
- ถนนฮังเจบัต (Hang Jebat) ชาวจีนในมะละกาเรียกว่า ถนนเล้าไก่ หรือในอีกชื่อที่ได้มาสมัยชาวดัตช์ปกครองว่า Jonker Street หรือถนนผู้รับใช้ ทุกวันนี้ได้รับการขนานนามอีกชื่อว่า Antique Street หรือถนนสายวัตถุโบราณไปแล้ว
- ถนนโตกง (Tokong หรือ Temple Street) ชาวจีนในมะละกาเรียกว่า ถนนเจ้าแม่กวนอิม เพราะเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าเช็งฮุนเต็ง ซึ่งเป็นที่ประทับขององค์เจ้าแม่กวนอิมอันเก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในคาบสมุทรมาลายู
พวกเรากางแผนที่เดินฝ่าแดดร้อนตอนบ่าย เพื่อเดินหาสถานทีท่องเีที่ยวต่างๆ ตามแผนที แต่คงเลี้ยวกันผิดทาง ก็เลยไม่เห็นซะที
ร้อนมากๆ ก็เลยแวะชมขนม เซนดอล (Cendol) ก็คือ แป้งเส้นๆ คล้ายลอดช่อง ใส่เม็ดบัว ถั่วแดง เฉาก๊วย ราดน้ำตาลทรายแดง และพิเศษทุเรียนกวน
หวาน เย็น ...ชื่นใจ
หายร้อนแล้วก็เดินท่อมๆ ชมตึกสวยๆ กันต่อไป
วนและเลี้ยวตามมุมตึก ก็ยังไม่เจอศาลเจ้า หรือวัดฮินดู ก็เลยต้องออกปากถามทาง ...จึงได้มาถึงศาลเจ้าเล็กๆ แห่งนึง ที่ไม่มีชื่อในคู่มือนำเที่ยว แต่มีคนดูแลที่ช่างคุย ...เล่าประวัติความเป็นมากว่า 200 ปีให้ฟัง ... จำได้บ้างไม่ได้บ้าง ...
คร่าวๆ เหมือนกับว่า เป็นวีรบุรุษจากเมืองจีนที่โดดสารเรือมา ..แต่เกิดพายุ ก็เลยเสียสละโดดน้ำเพื่อให้เรือเบาลงหรือไงเนี่ยแหละ คนที่รอดก็เป็นสร้างเป็นศาลเจ้ายกย่องให้... คนดูแลพาชมทั่วศาลเจ้าเลย ...
เขาชี้ให้ดูป้ายบรรพบุรุษที่ซุกแอบไว้ด้านหลัง บอกว่า ในสมัยก่อนนั้น รัฐบาลไม่ยอมให้คนจีนตั้งป้ายบูชาบรรพบุรุษ ก็เลยต้องหลบๆ ซ่อนๆ ป้ายวิญญาณ เอาไว้กราบไหว้ ไม่ให้ถูกจับได้
พอเจอที่นึงแล้ว ..อีกที่ก็หาไม่ยากแล้วล่ะ เราเดินถูกถนนซะที
ศาลเจ้าเช็งฮุนเต็ง :: Cheng Hoon Teng ถือเป็นศาลเจ้าอันเก่าแก่และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวจีนมลายูทั้งประเทศ โดยเฉพาะชาวจีนในมะละกาที่มาตั้งถิ่นฐานตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง พร้อมกับกองเรือของเจิ้งเหอและเจ้าหญิงฮังลิโป
ศาลเจ้าเช็งฮุนเต็งเริ่มสร้างในราวปีค.ศ.1600 หรือก่อนหน้านั้น ในระยะแรกยังเป็นศาลเจ้าขนาดเล็ก ต่อมาปีค.ศ.1655 กาปิตัน ลีเว่ยคิง ได้บริจาคและเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในการรวบรวมทุนจากชาวจีนฮกเกี้ยนจัดหาสถานที่เพื่อขยายศาลเจ้า
ตัวศาลได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ล่าสุดเมื่อปีค.ศ.2000 และได้รับรางวัลอนุรักษ์โบราณสถานดีเด่นจากองค์การยูเนสโกในปีค.ศ.2002
การตกแต่งศาลเจ้าสวยมาก..เราชอบมากเลยล่ะ ลวดลายเขียนสี ประดับกระเบื้อง หรือตุ๊กตากระเบื้อง ประดับหลังคา งามมาก
ก็เลยใช้เวลากันที่ศาลเจ้านี้ นานมากเป็นพิเศษ
แยกย้ายกันเดินชมตามอัธยาศัย เราก็เก็บภาพตุ๊กตาประดับมาเยอะแยะ แต่ขอ post ไว้เท่านี้ ... แค่นี้ ก็หนัก blog แล้วล่ะ
โปรดติดตามตอนต่อไป
Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2553 |
|
5 comments |
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2553 15:52:27 น. |
Counter : 2285 Pageviews. |
|
|
|
รออ่านต่อนะคร้า
ขอบคุณค่า