1 2 3 4 5
6 7 8 9 10 11 12
13 14 15 16 17 18 19
20 21 22 23 24 25 26
27 28 29 30 31
เดินเที่ยวหามุมเงียบในย่านบางลำพูสู่สามเสน - Part 2 ช่วงบ่าย
มาเดินเที่ยวกันต่อนะ ใครเพิ่งตามมาก็แวะอ่าน Part 1 ช่วงเช้า ก่อนนะ Anna and the king - หลังจากแยกย้ายกันหารับประทานมื้อกลางวัน เราเดินออกจากวัดบวรนิเวศ ตั้งใจจะเลือกหาร้านในละแวกบางลำพู เดินผ่านร้านอาคารหลายร้าน จะมาถึงพื้นที่ห้าง New World เดิมก็ยังไม่ได้ร้านถูกใจ ก็เลยเดินมาตามถนนสามเสนเรื่อยๆ มองไปมองมา เออ ...ตึกริมถนนก็สวยดี เก่าดี เลยถ่ายรูปเก็บไว้ คณะเดินทางนัดหมายกันที่วัดเทวราชกุญชร ราวๆ บ่ายโมง 45 นาที แต่เราได้แวะร้านอาหารเล็กๆ ร้านนึง ตอนบ่ายโมง รออาหารนานมาก เพราะมีลุกค้าโต๊ะใหญ่อยู่ก่อนแล้ว (ตอนแรกคิดว่าจะไม่นานอ่ะ) กว่าจะได้กิน ก็บ่ายโมงเกือบ 45 แล้วล่ะ ...รีบเคี้ยว รีบกลืน แล้วออกมา มีโทรศัพท์จากที่ทำงานเข้ามาอีก ....ก็รับฟังไปอ่ะนะ แต่จะให้เราวิ่งเข้าที่ทำงาน ก็คงช่วยอะไรไม่ได้หรอก จบเรื่อง รถเมล์มาพอดี ....นั่งสาย 32 ไปลงหน้าหอสมุดแห่งชาติ แล้วก็เดินย้อนเข้าซอยมาถึงวัดเทวราชกุญชร วัดเทวราชกุญชร (วัดสมอแครง) เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามวัด เพื่อเป็นเกียรติแก่ขุนนางสกุล กุญชร ณ อยุธยา ผู้ทำนุบำรุงวัดนี้ พระประธานในพระอุโบสถ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงสันนิษฐานว่า อัญเชิญมาจากทางเหนือ แต่ไม่ทรงยืนยันว่าจริงเท็จอย่างไร เพราะไม่พบหลักฐาน ผนังพระอุโบสถเป็นจิตรกรรมรูปเทพชุมนุม ฝีมือสมัยใหม่ วิทยากรแนะนำให้สังเกตดูว่า เทวดายุคนี้ "ขี่เมฆ" ด้วย ไม่ได้เหาะเอง หน้าต่างพระอุโบสถเป็นจิตรกรรมรูปแจกันแบบจีน ช่องระหว่างหน้าต่างเป็นภาพพระภิกษุชักผ้าบังสุกุลจากศพ ภายในบริเวณวัดมีอาคารรุปแบบเก่าคงอยู่ เจ้าหน้าที่บอกว่าตอนนี้เป็นกุฏิเจ้าอาวาส และกำลังมีการก่อสร้างอาคารใหม่ด้วย ที่วัดแห่งนี้ พวกเรานั่งฟังวิทยากรเล่าถึงเหตุการณ์ช่วงสมัยรัชกาลที่ 4 ทรงดำเนินกุศโลบายในการยับยั่งการรุกราน (ผ่านการฑูต) ของบรรดาประเทศทางตะวันตก ฟังกันเพลินเลยล่ะ ฟังมากๆ แล้วก็อยากรู้ต่อ ...ต่อหาหนังสือมาอ่านเพิ่มเติมกันต่อไป ออกจากวัดเทวราชกุญชร ก็เดินเท้ากันออกมาหยุดฟังเรื่อง หอสมุดแห่งชาติ กันก่อน หอสมุดแห่งชาติวันนี้ ปรับปรุงใหม่และดูทันสมัยกว่าเมื่อสมัยเรามาใช้บริการเยอะเลยล่ะ เวลามีน้อย แล้วค่อยกลับมาเยี่ยมใหม่ละกัน เดินต่อไปยังวัดราชาธิวาสกันได้แล้ว ....ระหว่างทางก็หยุดฟังประวัติสถานที่สำคัญรายทางไปบ้าง เมื่อก้าวเข้าสู่เขตวัดราชาธิวาส เริ่มสัมผัสได้ถึงความเงียบ ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ คงเป็นเพราะวัดนี้ ไม่ใช่วัดท่องเที่ยวอ่ะนะ ก็เลยสงบเงียบผิดจากวัดที่เยี่ยมชมในช่วงเช้า วัดราชาธิวาส (วัดสมอราย) เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดราชวรวิหาร พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานนามให้ศาลาการเปรียญสร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง ออกแบบโดยกรมพระยานริศ พระอุโบสถ สร้างแบบรูปทรงขอม โดยกรมพระยานริศ ...มองเผินๆ ไม่เหมือนพระอุโบสถ จิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถ เขียนเรื่องเวสสันดรชาดก ซึ่งลักษณะการเขียนนั้น เป็นเทคนิคแบบตะวันตก กล่าวกันว่า ผู้เขียนภาพเป็นศิลปินชาวอิตาลี เขียนตามการออกแบบของกรมพระยานริศฯ พระพุทธรูปประธานนั้น ประดิษฐานอยู่ในซุ้มติดผนัง สังเกตดูว่าซุ้มนั้น ออกแบบได้วิจิตรบรรจงและแฝงความสำคัญไว้หมด มีตราพระราชลัญจกรทั้ง 5 รัชกาลอยู่ด้วย นพปฎลมหาเศวตรฉัตร (ฉัตร 9 ชั้น) ที่อยู่เหนือพระประธานนั้น แสดงให้เห็นว่า ฐานพระพุทธรูปบรรจุพระบรมสรีรางคารของพระมหากษัตริย์ไว้ (ที่วัดนี้ คือ อัฐของร.4 นั่นเอง) วัดนี้มีความสำคัญตรงที่เคยเป็นที่ประทับของพระบวรวงศานุวงศ์ที่ทรงผนวชตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 เป็นต้นมา และเมื่อรัชกาลที่ 4 ทรงผนวช ได้ทรงตั้งธรรมยุติกนิกาย ก็ประทับที่วัดนี้ ก่อนเสด็จไปประทับที่วัดบวรฯ การเดินเที่ยวในวันนี้ ทำให้เราได้รู้เรื่องเกี่ยวกับรัชกาลที่ 4 และอัจริยะภาพในด้านต่างๆ มากมาย เราก็เลยเลือกใช้เพลงจากภาพยนตร์เพลง เรื่อง The King and I มาประกอบ Blog ทั้ง 2 ช่วง ขอบคุณวิทยากร และขอบคุณผู้จัดกิจกรรม อำลาจากความเงียบกันที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา รอติดตามข่าวสารเพื่อร่วมเดินทางกันในครั้งต่อไป
Create Date : 27 กรกฎาคม 2551
Last Update : 27 กรกฎาคม 2551 21:18:22 น.
9 comments
Counter : 2738 Pageviews.
โดย: Jevanni วันที่: 27 กรกฎาคม 2551 เวลา:21:45:14 น.
โดย: Why England วันที่: 27 กรกฎาคม 2551 เวลา:22:35:01 น.
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 27 กรกฎาคม 2551 เวลา:23:08:55 น.
โดย: ธรรม (ห่วงใย ) วันที่: 28 กรกฎาคม 2551 เวลา:3:54:51 น.
โดย: นัทธ์ วันที่: 28 กรกฎาคม 2551 เวลา:20:33:51 น.
โดย: nikanda วันที่: 29 กรกฎาคม 2551 เวลา:21:24:12 น.
โดย: นัทธ์ วันที่: 29 กรกฎาคม 2551 เวลา:23:02:19 น.
นัทธ์
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [? ]
รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้ สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิด โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้ และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร
แต่ไม่เคยได้ไปชมสถานที่เหล่านี้เลย
ขอบคุณที่ถ่ายรูปสวยๆมาให้ชมนะคะ