<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
16 ธันวาคม 2551
 

เส้นทางสู่หลวงพระบาง Part II



ระหว่างเส้นทางจากเวียงจันทน์เข้าสู่วังเวียงนั้น
ไกด์เตือนว่า
....ความโค้ง คด เคี้ยว ของถนนที่เราผ่านนั้น เป็นเพียง ออเดิฟ เรียกน้ำย่อยในกระเพาะเท่านั้นเอง
จากวังเวียงข้ามเขาสู่หลวงพระบางต่างหาก คือของจริง
และความโค้ง คด เคี้ยว ที่ว่านั้น เคยมีลูกทัวร์บางกลุ่ม อาเจียนทั้งคันรถมาแล้วด้วย
แต่ไม่ต้องกังวลให้มากไป อย่างน้อยถนนก็เรียบกว่าที่ผ่านมา
แล้ววิวที่พวกเราจะได้เห็น ก็สวยมากเลยทีเดียวล่ะ

เอาล่ะซิ ฟังกันมาแบบนี้ ก่อนถึงร้านอาหาร....
เห็นความโค้งและนั่งสะเทือนมาหลายชั่วโมงแล้ว ก็คงจริงอย่างที่ไกด์ว่านั่นแหละ
เพราะฉะนั้น มื้อกลางวันที่เห็นอาหารเต็มโต๊ะ ทั้งไก่ทอด ส้มตำ ต้มยำ น้ำพริก ใน Part I
พวกเราก็พากันกินแบบขยักท้องไว้หน่อยๆ กลัวจะอาเจียนให้ขายหน้า
แต่เราถือคติว่า ...กินไปก่อน เกิดว่าต้องคายออกมาจริงๆ อย่างน้อยมันก็ได้มีเหลือติดท้องบ้างละน่า....
ถึงงั้นก็ตาม อาหารโต๊ะนี้ ก็พร่องลงไปมาก
....แหมเขย่ามาตลอดทาง ไม่เติมพลังซะหน่อยก็แย่แล้ว ...เสียดายอาหารอีกตะหาก

อิ่มแล้วก็ขึ้นรถเดินทางต่อ....
ทางโค้งเยอะจริงๆ ซะด้วย บางโค้งก็หักศอก
แต่ถึงงั้นก็ไม่เท่าเส้นทางพันโค้งทางเหนือของบ้านเราหรอก
เพราะเป็นการขับรถขึ้นเขา ในเส้นทางที่พี่ติ๊กเพิ่งมาครั้งแรก
รถก็เลยไปแบบช้า (เมื่อเทียบกับการเหยียบคันเร่งที่ฝั่งไทย) แต่ก็ราบเรียบดี



ลาวดวงเดือน-เดี่ยวแคน -


ขณะที่พวกเราสนุกสนานกับคอนเสิร์ทชุดต่อมา....
จู่ๆ พี่ติ๊กก็เข้าจอดข้างทาง....ลงไปเดินก้มๆ เงยๆ วนรอบรถ
แล้วก็เปิดประตูรถมาบอกว่า "ยางแตกครับ ...."
ต้องเปลี่ยนยางกลางทางจนได้ ...แผลที่เห็นคือ ยางนอกฉีกเลยล่ะ
คงโดนหินบาดมาตลอดทางที่ผ่านมาเลยล่ะ
พวกเราทำอะไรไม่ได้ นอกจากลงจากรถมานั่งพักข้างทาง
ให้พี่เค้าทำงานได้สะดวก


ไม่ต้องหงุดหงิด
....ยังไงซะ ช้าหรือเร็ว ก็ต้องไปจนถึงหลวงพระบางจนได้แหละน่า
ระหว่างนั้น ก็ฆ่าเวลาด้วยการ "ถ่ายรูป" สนุกสนานกันไป





บริเวณที่เรานั่งพักรอกันนั้น ห่างหมู่บ้านออกมามิใช่น้อย
เลยโรงเรียนมาอีกหน่อย


ใกล้เวลาเลิกเรียนแล้วล่ะ เด็กๆ เห็นมีรถนักท่องเที่ยวก็เลยวิ่งออกมาโบกมือทักทาย
เพื่อนเราอาศัยวิญญาณครู เดินไปเยี่ยมเยียนทักทายถึงโรงเรียน
โรงเรียนแห่งนี้ มีคุณครูคนเดียว ดูแลนักเรียนทุกระดับชั้น
เด็กๆ ไม่ค่อยได้พบ "ชาวต่างชาติ" ก็เลยตื่นเต้น
โบกมือให้ ตั้งแต่ต้นจนพวกเราได้ขึ้นรถเลยล่ะ ได้ยินเสียงตะโกน "สะบายดี สะบายดี" ดังข้ามถนนมาเลย

รถที่แล่นผ่านไปมา มีทั้งรถบัสประจำทาง รถตู้ท้องถิ่นที่รับนักท่องเที่ยวจากด่านเข้ามา
ส่วนรถตู้ที่ข้ามมาจากฝั่งไทยด้วยกัน....น้อยคันมาก ....เข้าใจว่า คงแวะพักนอนค้างกันที่วังเวียง

ชาวบ้านขับรถจักร (จักรยานยนต์) และรถถึบ (จักรยาน) ผ่านมาก็เลี้ยวมอง
นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ตั้งหน้าตั้งตากดชัตเตอร์กันใหญ่....


ไม่เคยเห็น "ควาย" กันรึไง ....
เคยเห็นจ้า ....แต่นานมาแล้วล่ะ
แล้วก็ไม่ได้เห็นใกล้ๆ แบบนี้ ดีนะที่มันกำลังสนุกสนานกับปลัก ไม่สนใจคนแปลกหน้าเลย



รถที่ผ่านมาชะลอดูเหตุการณ์ เห็นว่าคนขับรถกำลังเปลี่ยนล้อแล้ว ก็ขับเลยไป
เราเอง ก็หัดถ่ายมาโครด้วยกล้องตัวใหม่นี้ไปพลางๆ






เมฆลดตัวลงต่ำ เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง...ในที่สุดพี่ติ๊ก ก็เปลี่ยนล้อหน้าซ้ายเป็นที่เรียบร้อย
พวกเรากุลีกุจอขึ้นรถ....แล้วก็ดูคอนเสิร์ตกันต่อ....


เส้นทางคดโค้งขึ้นเขาไปเรื่อย ...คุณบุญ หันมาบอกให้สังเกตเขานมสาว ทางขวามือ
ถ้าเห็นเมื่อไหร่ ก็แสดงว่า เรากำลังเดินทางข้ามเขากันจริงๆ แล้ว
อ้าว...ที่โค้งไป โค้งมาเป็นชั่วโมงเนี่ย ...เรายังไม่ถึงเส้นทางหฤโหดจริงๆ เหรอเนี่ย

เสียงคอนเสิร์ตแผ่นล่าสุดยังขับกล่อม....บางคนใช้วิธีหลับเอาแรง
ป้องกันการเมารถ....และเรา....ก็ตะแคงตัว "ถ่ายรูป" ต่อไป






ข้อมูลจากคู่มือนำเที่ยวหลวงพระบาง "นายรอบรู้" อธิบายไว้ว่า
จากเมืองวังเวียงเส้นทางจะผ่าน "ผาตั้ง" และ "ผาฮ้อม"
มีภูมิประเทศเป็นผาหินปูนที่กว้างใหญ่และมีทุ่งนาเขียวขจี



หมู่บ้านแถบนี้จะเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ของชาวเขา
ชาวบ้านพวกนี้เป็นลาวสูงและลาวเทิงที่รัฐบาลลาวให้อพยพจากหมู่บ้านห่างไกลลึกเข้าไปในเขตภูเขา
มาตั้งหมู่บ้านใหม่อยู่ริมถนน เพื่อให้สองข้างทางมีความเจริญขึ้น และไม่เปลี่ยวน่ากลัวจนเกินไป


ผู้คนแถวนี้คงชินกับเสียงรถราแล้วล่ะ เพราะมีรถประจำทางและรถนักท่องเที่ยววิ่งผ่านทั้งวันทั้งคืน
ทิวเขาสลับซับซ้อน ทั้งเมฆและหมอก สวยมากจนเราอยากขอให้จอดรถถ่ายรูป....
แต่เกรงว่าจะไปเข้าเมืองกันดึกไป....ตอนนี้อาหารเที่ยงก็เริ่มย่อยแล้วซะด้วย
วิ่งทางโค้งและหักศอก ไต่สูง สลับลงต่ำ ไปเรื่อยๆ
จนมาถึงทางแยกจุดนึง


พักให้ชาวคณะได้เข้าห้องน้ำกันซะหน่อย....
ค่าบริการห้องน้ำจุดนี้ 20 บาท ....ต้องเข้า 4 คน เพราะพวกเรายังถือเงินบาทกันอยู่
ลืมไปแล้วว่า ตอนนั้นไกด์บอกว่า กี่กีบ กันแน่.....




อ่านจากคู่มือท่องเที่ยวพวกเราคงผ่านเมืองกาสีมาถึงเมืองภูคูนแล้วล่ะ
จุดนี้เป็นจุดที่สูงที่สุด สูงกว่าระดับน้ำทะเลราว 1,000 เมตร
มีทางแยกไปแขวงเชียงขวางและหลวงพระบาง
ที่นี่มีหมอกลงตลอด
อากาศเย็นมากเลย ....

จากนั้นก็มุ่งหน้าลดระดับลงเรื่อย จนถึงเมืองเชียงเงิน


คุณบุญหันมาบอกว่า พวกเราผ่านเส้นทางหฤโหดเกือบ 400 กิโลเมตรแล้ว
เหลือระยะทางเข้าเมืองหลวงพระบางอีกแค่ 25 กิโลเมตรเอง
ไม่น่าเชื่อเลย ไม่มีใครเมารถ หรืออาเจียนเลยซักคน
อาศัยคอนเสิร์ตช่วยบ้าง ปากไม่ว่างเพราะขนมที่ติดรถมา แล้วก็นอนพักหลับตาเป็นช่วงๆ
รอดกันมาได้ .....

อันที่จริง ต้องยกเครดิตความดีความชอบให้พี่ติ๊ก น่าจะถูกต้องกว่านะ
พี่เค้าขับรถได้นิ่ม และนิ่งดีมาก
....แต่ละโค้งที่ผ่านไป ทำให้เราได้เห็นวิวสวยๆ แทนที่จะสะดุดกึกเพราะเหยียบเบรคบ่อยๆ อ่ะนะ
ถนนเส้นนี้ ก็แสนจะดี เรียบ ...เป็นช่วงๆ แต่เป็นช่วงยาวๆ ค่ะ
ผ่านจุดร่องรอยดินถล่มมาด้วยล่ะ....

ถึงพื้นราบแล้ว พี่ติ๊กก็เหยียบคันเร่งได้เต็มที่ คงหิวแล้วล่ะ
ลูกทัวร์ก็หิวเหมือนกัน
ก็เลยตกลงว่า เข้าร้านอาหาร กินกันซะก่อน


อาหารไทยอีกแล้วครับท่าน .....
เนื่องจากเป็นกลุ่มเล็ก และจ่ายน้อย จึงไม่มีบายศรีสู่ขวัญ ...
อาหารพื้นบ้านบนโต๊ะมื้อนี้ แกงจืดผักน้ำ
แล้วก็จะมีปลาทอดราดน้ำยำ (มั๊ง) รสชาติดี และหมูผัดพริกแกง
คล้ายๆ จะเป็นพะแนงนะ แต่มีพริกหวานและข้าวโพดอ่อนด้วย

อิ่มแล้วก็เข้าที่พักกันดีกว่า.....นั่งรถมาทั้งคืนทั้งวัน ....ก็เหนื่อยเต็มที
แต่คงไม่มากเท่าคนขับรถ เลยไม่อยากให้พี่เค้าต้องพาพวกเราตระเวนราตรีในคืนนี้
แยกย้ายกัน อาบน้ำนอนดีกว่า
พรุ่งนี้จะได้เที่ยวหลวงพระบางจริงๆ กันซะที



Create Date : 16 ธันวาคม 2551
Last Update : 16 ธันวาคม 2551 23:20:23 น. 14 comments
Counter : 1765 Pageviews.  
 
 
 
 
น่าสนุกดีนะ

อยากไปโรงแรมบ้านท้องทราย สมุยง่ะ ตอนนี้
 
 

โดย: คนขับช้า วันที่: 16 ธันวาคม 2551 เวลา:23:39:51 น.  

 
 
 
แง้วววว อยากไป อยากไป
 
 

โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 16 ธันวาคม 2551 เวลา:23:41:27 น.  

 
 
 
เอ๊ะ .. นี่เราเดินทางมาเส้นทางเดียวกันรึเปล่านี่ ไฉนเราจึงพลาดภาพเหตุการณ์บางตอนไปได้

ภาพประกอบเรื่องสวยจังค่ะ เนื้อเรื่องเล่าก็สนุก

รอติดตามตอนต่อไปอยู่จ๊ะ



 
 

โดย: นู๋เมี่ยง IP: 58.9.83.83 วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:0:11:00 น.  

 
 
 
อยากไปบ้างจัง หลวงพระบาง
 
 

โดย: OFFBASS วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:7:45:06 น.  

 
 
 
ตามติดอย่างจดจ่อ

อยากไปหลวงพระบาง

ลาวเที่ยวทั้งกลางและใต้แล้ว เหลือก็แต่เหนือนี่แหละ
 
 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:9:16:14 น.  

 
 
 
สวยๆๆดี ชอบ ปีหน้ามีพักร้อนแล้วจะหนีไปมั่ง
 
 

โดย: nikond80 by nuch IP: 58.136.176.228 วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:9:22:49 น.  

 
 
 
หวัดดีค่ะ
เก็บภาพได้เยอะมากๆ แถบจะทุกจุดที่ผ่านเลยนะค่ะ

ดิฉันเคยไปตอนปี 2006 ไปกันเอง 2 คนกับเพื่อน เข้าลาวทางหนองคาย นั่งรถประจำทางจากเวียงจันทร์ไปหลวงพระบางค่ะ เลยไม่มีรูประหว่างเส้นทางเลย แล้วนั่งเรือ 2 วันจากหลวงพระบางมาที่ปากแบง เข้าไทยที่เชียงของ

ไปถึงหลวงพระบาง ได้แวะไปกินกาแฟร้านที่ตั้งอยู่ใต้ต้นมะม่วงหรือเปล่า(ไม่แน่ใจว่ามะม่วงหรือเปล่าน่ะ) รอชมรูปตอนเที่ยวในหลวงพระบางนะค่ะ

ปล. ทบทวนภาษาเยอรมันไปถึงไหนแล้ว หากแบกเป้มาเที่ยวยุโรปอย่าลืมแวะเยอรมันนะค่ะ
 
 

โดย: Be Happy ja วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:17:16:30 น.  

 
 
 


พุ ธ สุ ข สั น ต์ วั น ส บ า ย ส บ า ย


มีรถยนต์หลากสไตล์ ให้เลือก ที่บ้าน ….ร่มไม้เย็น

ป้ากุ๊กไก่มีแค่รถเก่าที่แก่พอๆกับตัวป้า
แต่วันนี้หาญกล้าเอารถสวยๆมาโชว์

เพื่อเตือนว่า ร ะ วั ง ………

ตามมาซึมซับรับความสบายตาสบายใจจากสองฝั่งทางด้วยจ๊ะ

อากาศยังเย็นๆอยู่ ดูแลสุขภาพตัวเองและคนใกล้ตัวด้วยนะจ๊ะ


 
 

โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:20:02:03 น.  

 
 
 
เพื่อนเราอาศัยวิญญาณครู เดินไปเยี่ยมเยียนทักทายถึงโรงเรียน

อ่านแล้วขนลุกเลย...



เป็นครูที่น่าชื่นชมมากเลยค่ะ

 
 

โดย: January Friend วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:20:42:51 น.  

 
 
 
เมื่อกี้แวะไปอ่านภาคแรกมาค่ะชักเริ่มสนุกแล้วสิ พออ่านภาคสองยิ่งลุ้นตามด้วยเลยว่าจะผ่านด่านหฤโหดได้มั้ย ถึงจะมีอุปสรรคบ้างแต่ก็น่าประทับใจนะคะ

กล้องตัวใหม่ถ่ายรูปออกมาแล้วโอเคเลยค่ะ
 
 

โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:21:10:13 น.  

 
 
 
รอชมตอนต่อไป...
 
 

โดย: GoE Online วันที่: 18 ธันวาคม 2551 เวลา:0:06:59 น.  

 
 
 
รอชมต่อค่ะ ไตรภาค รึป่าวเนี้ย
 
 

โดย: ทราย (mancyber) IP: 124.121.100.146 วันที่: 18 ธันวาคม 2551 เวลา:14:32:20 น.  

 
 
 
ฟังเรื่องเส้นทางคดเคี้ยวแล้วพาลเมารถแทน -*-
ผมเป็นพวกเมารถง่ายด้วย แบบนี้คงจะไม่เหมาะจะไปหลวงพระบางแหง่ๆ

ผมว่างานนี้ดีนะครับ ที่ยางรถแตก
เพราะนั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้คณะของคุณนัทธ์ไม่เมารถ
เพราะมีเวลาได้พักลงมาเดินระหว่างทางบ้าง
แถมยังช่วยทำให้เราได้แวะมองดูข้างทางในแบบที่ไม่ใช่แค่นั่งรถผ่าน

ลองคิดดูว่าถ้ายางไม่แตกเราคงจะผ่านจุดนั้นไปอย่างรวดเร็ว
และอาจจะไม่ได้มีโอกาสแวะกลับถ่ายรูปอะไรอีกเลย
 
 

โดย: ขอรบกวนทั้งชุดนอน วันที่: 19 ธันวาคม 2551 เวลา:15:19:44 น.  

 
 
 

จะรอดไหมยังไม่รู้มาอ่านไว้ก่อน
 
 

โดย: นุช IP: 110.171.26.130 วันที่: 24 กันยายน 2555 เวลา:14:55:00 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

นัทธ์
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]





รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้



สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539

ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

New Comments
[Add นัทธ์'s blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com