|
|
|
|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
เที่ยวเมืองพระนครแห่งอาณาจักรขอม : ปราสาทหินสีชมพู
หลังจากเดินทางสู่เสียมราฐ ผ่านไปแล้ว...
เช้าวันเสาร์ ก็ตื่นเช้ากันตามเวลานัดหมาย...เตรียมตัวตะลุยปราสาทหินกันได้ เราหยิบเอาหนังสือ "คู่มือนำเที่ยวนครวัด-นครธม" ของสนพ.สารคดี ติดกระเป๋าไปด้วย... แต่ก็ไม่ค่อยได้ใช้หรอก ...ไกด์เราช่างเล่า..ช่างคุยอยู่แล้ว
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง...เช้าแรกที่เมืองเสียมเรียบ...ก็เริ่มต้นกันที่ร้านอาหาร เป็นร้านอาหารเช้าสำหรับคณะทัวร์...ให้เราได้ลิ้มลองทั้งบาเกตและข้าวต้ม ปิดท้ายด้วยกาแฟอีกแก้ว...
ก่อนไปชมปราสาท...ขอยกเรื่องเล่าจากหนังสือคู่มือมาแปะไว้เป็นความรู้ก่อน
เมืองพระนครหรือเมืองพระนครหลวง หมายถึงเมืองหลวงของอาณาจักรขอมโบราณ ซึ่งมีทั้งหมด 4 เมืองซ้อนกันอยู่ในบริเวณนี้ตามลำดับการสร้างอาณาจักร คือ
- เมืองพระนครหลวงแห่งแรก มีศูนย์กลางอยู่บริเวณพนมบาเค็ง เรียกว่า "ยโศธรปุระ"
- เมืองพระนครหลวงแห่งที่ 2 อยู่บริเวณปราสาทแม่บุญตะวันออก มีศูนย์กลางคือ ปราสาทแปรรูป
- เมืองพระนครหลวงแห่งที่ 3 เชื่อว่าอยู่แถวปราสาทบาปวน
- สุดท้ายย้ายมาสร้างนครธม ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่ปราสาทบายอนนับเป็นเมืองสุดท้าย
ดังนั้น เมืองพระนคร ในปัจจุบันจึงหมายถึงปราสาทน้อยใหญ่ทุกปราสาทที่อยู่ในอาณาบริเวณตั้งแต่บารายตะวันตกถึงบารายตะวันออก และเหนือปราสาทพระขรรค์ลงมาจนถึงแนวป่าด้านใต้ของนครวัด ซึ่งก็คือ "อุทยานประวัติศาสตร์เมืองพระนคร" ที่ได้รับเลือกเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปีพ.ศ.2535
การเข้าชมปราสาทหินทุกหลังในเมืองพระนคร ก็ต้องซื้อบัตรเข้าชม ซึ่งมีทั้งบัตรวันเดียว บัตร 3 วัน และบัตร 7 วัน ซึ่งที่ขายบัตรจะมีที่ด้านใหญ่ทางเข้าอุทยาน หน้าปราสาทนครวัด และหน้าปราสาทบันทายสรี
บริเวณด่านจะมี "ละเมาะโมโต" ให้เช่าด้วย....
พวกเรามากับทัวร์ ทุกอย่างจัดการไว้ล่วงหน้าแล้ว เมื่อรถตู้มาถึงด่าน ไกด์ก็ลงไปติดต่อ...แล้วเราก็มุ่งหน้าไปตามทางลาดยางอย่างดี
ผ่านทุ่งนา...
ผ่านหมู่บ้าน
จนกระทั่งมาถึงปราสาทแรก....แต่...แวะห้องน้ำกันก่อน...นั่งรถมานาน... ต้องมาจัดการกับเรื่องส่วนตัวกันก่อน.... บริเวณที่จัดทำเป็นห้องน้ำ...สะอาดสะอ้าน...เรียบร้อย และมีวิวโดยรอบสวยดีด้วยล่ะ
เรียบร้อยดีแล้ว...ก็เข้าปราสาทกันดีกว่า....
ปราสาทบันทายสรี หรือที่ออกเสียงแบบเขมรว่า "บ็อนเตียชเร็ย" หมายถึงเทวลัยแห่งสตรี มีชื่อตามจารึกว่า "ตรีภูวนมเหศวร" สร้างโดยคุรุยัชญวราหะ พราหมณ์ใหญ่ในรัชสมัยพระเจ้าราเชนทรวรมัน พ.ศ. 1510 เพื่ออุทิศถวายพระอิศวร
ปราสาทแห่งนี้มีทับหลังที่สมบูรณ์ที่สุด สร้างขึ้นด้วยหินทรายสีชมพูเนื้อละเอียด การจำหลักลายบนหินทรายชัดเจน สวยงาม อ่อนช้อย และประณีตเป็นพิเศษ
ปราสาทหินในเมืองพระนครส่วนใหญ่จะเป็นปราสาทที่สร้างไม่เสร็จ แต่ปราสาทหินหลังนี้ สร้างเสร็จสมบูรณ์ ไม่เหลือที่ว่างให้คนรุ่นต่อมาทำอะไรเพิ่มเติมเลย
บันทายสรี เก่าแก่กว่ายุคนครวัด แต่มีความงดงามที่สุดในบรรดาปราสาทหินในอาณาจักรขอมโบราณ ฝรั่งเศสมาพบปราสาทหินนี้ในปีพ.ศ. 2457 และมีการบูรณะตามวิธี anastylosis คือการรื้อชิ้นส่วนต่างๆ ของปราสาทหินลงมาทั้งหมด และทำหมายเลขที่หินทุกก้อนตามตำแหน่งที่พบอย่างเป็นระบบ จากนั้นนำไปทำความสะอาดและซ่อมเสริมโครงสร้างรากฐานให้มั่นคง แล้วจึงนำชิ้นส่วนเหล่านั้นประกอบขึ้นใหม่
เรื่องราวที่สลักหน้าบันประตูจะเป็นเรื่องรามเกียรติ์ เรื่องเล่าเกี่ยวกับพระอิศวร พระอุมา
เราจะเห็นป้ายความร่วมระหว่างประเทศในการดูแลรักษาซ่อมแซมปราสาทหินต่างๆ นี้ทุกปราสาทเลยล่ะ
พวกเราฟังไกด์บรรยายพลาง...ก็กดชัตเตอร์ไปพลาง...ใช้เวลาอยู่ที่ปราสาทหินสีชมพูนี้เกือบชั่วโมง นักท่องเที่ยวที่แวะมามีคนไทย คนเอเซีย และยุโรป ได้ยินเสียงไกด์ท้องถิ่นอธิบายเป็นภาษาต่างๆ อยู่รอบตัว
ออกมาจากปราสาทแล้ว...ก็มีเด็กๆ และพ่อค้าแม่ขาย เอาของที่ระลึกมาเร่ขายถึงตัวกันเลยล่ะ พวกเราไม่ค่อยสนใจซื้อของกันนัก ก็เลยเดินเลี่ยงๆ พากันขึ้นรถ....เพื่อเดินทางต่อไปยังปราสาทหินหลังต่อไป
สาวๆ เจ้าหน้าที่ประจำปราสาท
Create Date : 01 มีนาคม 2552 |
Last Update : 1 มีนาคม 2552 23:03:59 น. |
|
6 comments
|
Counter : 2837 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: Kitsunegari วันที่: 1 มีนาคม 2552 เวลา:22:41:10 น. |
|
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 2 มีนาคม 2552 เวลา:2:48:45 น. |
|
โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 2 มีนาคม 2552 เวลา:8:41:07 น. |
|
โดย: lalabel วันที่: 4 มีนาคม 2552 เวลา:15:49:13 น. |
|
โดย: กวาง IP: 114.128.80.236 วันที่: 9 สิงหาคม 2552 เวลา:11:14:14 น. |
|
| |
|
นัทธ์ |
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]
|
รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้
สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิด โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้ และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร
|
|
|
|
|
|